มือถือมือสองเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหามือถือดี ๆ มาใช้แต่ไม่ต้องการจ่ายเงินเยอะ อีกทั้งยังไม่อยากไปซื้อเครื่องแบบติดโปรรายเดือนด้วย ดังนั้นตัวเลือกที่เหลือนอกจากจะซื้อมือถือที่อยู่ในกลุ่มราคาที่รับได้แล้วก็มีแค่การซื้อมือถือมือสองเท่านั้น แต่การจะซื้อมือถือมือสองเองก็จำเป็นต้องเลือกให้ดี เพราะราคาที่ตั้งของแต่ละเครื่องนั้นต่างกันไปตามเหตุผลต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้มือถือระดับเรือธงนั้นค่อนข้างแพง ราคามือสองจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยวันนี้เราจะมาแนะนำมือถือระดับเรือธงที่เมื่อลงทุกไปแล้วสามารถใช้งานได้ยาว ๆ 3 – 5 ปี เป็นอย่างน้อยได้เลย แถมราคาที่จะต้องจ่ายก็ถูกกว่าการไปซื้อมือหนึ่งเป็นไหน ๆ สำหรับมือถือมือสองที่จะแนะนำให้เลือกดูเป็นพิเศษจะมีดังนี้
5 มือถือมือสองที่แนะนำให้เลือกดูเป็นพิเศษ
1. iPhone XR
iPhone ราคาประหยัดที่ได้สเปคแรงระดับเรือธงจากทาง Apple อย่าง iPhone XR ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2561 อีกทั้งยังมีขายอยู่ในปัจจุบันนี้ แต่ด้วยราคามือหนึ่งที่มีราคาเริ่มต้นถึง 18,400 บาท สำหรับใครหลาย ๆ คนมันก็ยังไม่ใช่ราคาที่จะจับต้องกันได้ง่าย ๆ แต่หากเป็นการซื้อแบบมือสองราคาก็จะลดลงมามากเลยทีเดียว ซึ่งจากที่ตัวผู้เขียนได้ไปลงหามาราคาต่ำสุดจะอยู่ที่ 11,500 บาท (นับเฉพาะรายที่ดูแล้วน่าจะไว้ใจได้เท่านั้น) และหากเป็นเครื่องที่ยังมีประกันเหลืออยู่ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 13,900 บาทซะส่วนมาก ถึงงั้นเมื่อวัดที่สเปคแล้วก็นับว่ายังแรงกว่ามือถือ Android มือหนึ่งในช่วงราคาเดียวกันหลายรุ่นนัก
ปีที่เปิดตัว : กันยายน 2561
ราคาต่ำสุดเท่าที่หาได้ : 11,500 บาท
2. iPhone XS Max
iPhone ระดับพรีเมี่ยมของปี 2651 ที่ Apple เปิดตัวมาอย่าง iPhone XS Max ที่ตอนนี้ Apple เลิกขายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่จะหาได้ตอนนี้คือเครื่องที่หมดประกันแล้วเท่านั้น แต่ด้วยสเปคระดับเรือธง ทำให้สามารถใช้งานต่อได้อีกหลายปี เพียงแต่ตอนเลือกซื้ออยากแนะนำให้ดูดี ๆ ก่อนเนื่องจากหลาย ๆ เครื่องที่ผู้เขียนเห็นจะเป็นรุ่น 64GB ซะมาก อีกทั้งบางเครื่องยังมีปัญหาหลาย ๆ อย่างด้วย ดังนั้นจึงอยากให้เลือกเครื่องที่ไม่มีปัญหามาจะดีกว่า สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมถึงมาแนะนำ XS Max แต่ไม่มีการพูดถึง XS เลย ก็เนื่องมาจาก XS และ XS Max นั้นมีสเปคแบบเดียวกัน แต่ด้วยหน้าจอ 5.8 นิ้วนั้นนับว่าเล็กมากสำหรับยุคสมัยนี้ (ยกเว้นคนที่ต้องการมือถือพกง่าย ๆ อะนะ) ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจแนะนำรุ่น XS Max ที่มีหน้าจอ 6.5 นิ้วไปเลยจะดีกว่า สำหรับราคาเท่าที่หาเจอถูกสุดจะอย่ที่ 13,500 บาท ซึ่งราคานี้นั้นแทบจะเท่ากับ XR ที่ยังมีประกันเหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงอยากให้พิจารณาให้ดีหากอยากได้มือถือเรทราคาประมาณนี้
ปีที่เปิดตัว : กันยายน 2561
ราคาต่ำสุดเท่าที่หาได้ : 13,500 บาท
สเปคเต็ม / รีวิว
3. iPhone 11
iPhone อีกรุ่นที่อยากแนะนำคือ iPhone 11 ที่เป็นตัวขายดีของ Apple เมื่อปี 62 – 63 ด้วยราคาที่ไม่แรงจนเกินไปทำให้กลายเป็นเครื่องยอดนิยม อีกทั้งในปัจจุบันนี้ Apple ก็ยังขาย iPhone 11 รุ่นนี้อยู่ด้วย ถึงแม้ราคาจะลดลงมาจากตอนแรกนิดหน่อย (นิดหน่อยจริง ๆ) ทำให้เป็นราคาที่ค่อนข้างตัดสินใจยากพอควร แต่หากเป็นราคามือสองของกลุ่มที่หมดประกันไปแล้วราคาจะเริ่มต้นที่เพียง 14,900 บาทเท่านั้น และหากยังมีประกันอยู่ถูกสุดที่เจอคือ 17,900 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่ช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นมาหน่อย หากมีงบอยู่ในช่วง 15,000 – 20,000 บาท iPhone 11 นี้ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีพอควร (ดีกว่า XR ด้วยเพราะสามารถใช้ได้นานกว่านั่นเอง)
ปีที่เปิดตัว : กันยายน 2562
ราคาต่ำสุดเท่าที่หาได้ : 14,900 บาท
4. Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G
Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G มือถือซีรี่ส์เรือธงของ Samsung รุ่นหนึ่งที่มีจุดเด่นคือปากกา S Pen ทำให้เป็นมือถือที่เหมาะกับกลุ่มคนที่ใช้มือถือทำงานเป็นอย่างมาก แต่ด้วยราคามือหนึ่งที่ค่อนข้างโหด ทำให้เข้าถึงได้ยากพอควร แต่ทว่าหากหาราคามือสองดี ๆ ราคาที่จะหาได้ก็จะหลายไปเป็นหมื่นเลย ซึ่งราคาที่ทางผู้เขียนหาเจอนั้นดีที่สุดจะอยู่ที่ 24,900 บาท ในสภาพที่ยังมีประกันเครื่องเหลืออีกด้วย ซึ่งราคาประมาณนี้ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในระดับหนึ่ง
ปีที่เปิดตัว : สิงหาคม 2563
ราคาต่ำสุดเท่าที่หาได้ : 24,900 บาท
5. Samsung Galaxy S21 Ultra 5G
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung ที่พึ่งเปิดตัวมาเมื่อต้นปีนี้ เป็ฯมือถือระดับเรือธงที่สเปคแรงที่สุดของ Samsung แต่ก็มีราคาที่ลดลงเร็วที่สุดอีกด้วย ซึ่ง S21 Ultra 5G นี้เป็นหนึ่งในมือถือที่น่าซื้อเป็นอย่างมาก แต่ด้วยราคาที่แพงเอาเรื่อง แต่ก็มีวิธีซื้อให้ถูกลงได้หลายวิธีเช่นกัน และเมื่อผ่านไประยะหนึ่งทางผู้เขียนก็ได้ไปเจอบนโลกออนไลน์วว่ามีคนประกาศขาย S21 Ultra 5G ในราคาเริ่มต้นแค่ 27,900 บาท ซึ่งล่าสุดตอนนี้เท่าที่เจอเหลือแค่ประมาณ 24,900 บาทแล้ว (จากราคาเปิดตัวที่ 39,900 บาท) ด้วยส่วนต่างนี้ทำให้ราคาเครื่องลงมาอยู่ในระดับที่พอจะซื้อกันได้ง่ายขึ้นพอควร (ลดมากกว่าการซื้อแบบติดโปรอีกนะเออ)
ปีที่เปิดตัว : มกราคม 2564
ราคาต่ำสุดเท่าที่หาได้ : 24,990 บาท
สรุปสเปคมือถือมือสองที่น่าซื้อ
iPhone XR | iPhone XS MAX | iPhone 11 | Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G | Samsung Galaxy S21 Ultra 5G | |
---|---|---|---|---|---|
ปีที่เปิดตัว | 2561 | 2561 | 2562 | 2563 | 2564 |
ขนาด | 150.90 x 75.70 x 8.30 มม. | 157.50 x 77.40 x 7.70 มม. | 150.90 x 75.70 x 8.30 มม. | 164.80 x 77.20 x 8.10 มม. | 165.10 x 75.60 x 8.90 มม. |
น้ำหนัก | 194 กรัม | 208 กรัม | 194 กรัม | 208 กรัม | 227 กรัม |
หน้าจอ | Liquid Retina HD ขนาด 6.1 นิ้ว 1792 x 828 พิกเซล True Tone | Liquid Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว 2688 x 1242 พิกเซล True Tone HDR Dolby Vision 3D Touch | Liquid Retina HD ขนาด 6.1 นิ้ว 1792 x 828 พิกเซล True Tone | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว 3088 x 1440 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว 3200 x 1440 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ |
ชิปประมวลผล | Apple A12 Bionic | Apple A12 Bionic | Apple A13 Bionic | Samsung Exynos 990 | Samsung Exynos 2100 |
แรม | 3GB | 4GB | 4GB | 12GB | 12GB / 16GB |
หน่วยความจำ | 64GB / 128GB / 256GB | 64GB / 256GB / 512GB | 64GB / 128GB / 256GB | 128GB / 256GB / 512GB | 128GB / 256GB / 512GB |
กล้องหลัง | 12 MP f/1.8 | 12 MP f/1.8 (wide) 12 MP f/2.4 (telephoto) | 12 MP f/1.8 (wide) 12 MP f/2.4 (ultrawide) | 108 MP f/1.8 (wide) 12 MP f/3.0 (periscope telephoto) 12 MP f/2.2 (ultrawide) | 108 MP f/1.8 (wide) 10 MP f/2.4 (telephoto) 10 MP f/4.9 (periscope telephoto) 12 MP f/2.2 (ultrawide) |
กล้องหน้า | 7 MP f/2.2 | 7 MP f/2.2 | 12 MP f/2.2 (wide) | 10 MP f/2.2 (wide) | 40 MP f/2.2 (wide) |
แบตเตอรี่ | 2,942 mAh ชาร์จเร็ว 15W | 3,174 mAh ชาร์จเร็ว 15W | 3,110 mAh ชาร์จเร็ว 18W | 4,500 mAh ชาร์จเร็ว 25W | 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 25W |
ราคาต่ำสุด | 11,500 บาท | 13,500 บาท | 14,900 บาท | 24,900 บาท | 24,990 บาท |
สำหรับราคามือถือมือสองที่บอกเอาไว้ในบทความนี้เป็นราคาที่ทางผู้เขียนสำการสำรวจในช่วงเวลาจำกัด ดังนั้นราคาขายอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนทำการตัดสินใจซื้อเครื่องนะครับ และหากสงสัยว่าทำไมถึงมีแต่ iPhone และ Samsung ก็เนื่องมาจาก iPhone นั้นเป็นมือถือที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้อย่างน้อย ๆ 5 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้นเมื่อนับตั้งแต่เปิดตัวทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่อยากเปลี่ยนมือถือบ่อย ๆ ส่วนมือถือของ Samsung นั้นในรุ่นหลัง ๆ ระยะการใช้งานโดยที่เครื่องไม่อืดนั้นเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก อย่างน้อย ๆ ก็ 3 – 4 ปี และยิ่งหากเป้นรุ่นเรือธงด้วยแล้วก็จะยิ่งใช้ได้นานจึงได้ทำการเลือกพวกรุ่นใหม่ ๆ มา อีกทั้งหลัง ๆ มานี้ราคามือสองของ Samsung นั้นลดลงจากมือหนึ่งเยอะมาก ทำให้หากต้องการมือถือ Samsung ระดับเรือธง แต่งบประมาณไม่เยอะก็สามารถหันมามองกลุ่มมือสองได้เช่นกัน