ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร เดือนกันยายนที่จะถึงนี้ก็จะเป็นเดือนที่มีการเปิดตัว iPhone 16 ก่อนที่จะเริ่มขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านก็คงชะลอแผนการซื้อ iPhone หรือมือถือในช่วงราคาตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไปเพื่อรอดูตลาดอีกทีกันบ้าง แต่ก็อาจจะมีบางท่านที่จำเป็นต้องซื้อในช่วงนี้ก่อนจริง ๆ ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับ หากจำเป็นต้องซื้อ iPhone ซักเครื่องในเดือนนี้ จะมีรุ่นไหนที่อาจไม่รู้สึกเจ็บตัวเจ็บใจมากนักตอนที่เปิดตัว iPhone 16
ซื้อ iPhone รุ่นไหนดี?
iPhone 13 มือหนึ่ง
แม้ว่าจะเป็นรุ่นที่เปิดตัวมาเกือบสามปีแล้วก็ตาม แต่ขณะนี้ก็ยังเป็นรุ่นที่มีขายเป็นเครื่องใหม่มือหนึ่งบนหน้าเว็บไซต์ Apple อยู่ หน้าร้านก็ยังมีให้เลือกซื้อได้แบบสะดวก โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นความจุ 128, 256 และ 512GB ซึ่งสำหรับการใช้งานทั่วไป รุ่น 128GB ที่ราคา 24,900 บาทก็เพียงพอแล้ว แม้จะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในอีกไม่ถึงเดือนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าซื้อเครื่องใหม่ผ่านแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ในช่วงนี้ทั้ง Lazada และ Shopee ก็จะมีกลุ่มร้าน mall ของจากตัวแทน reseller อย่างเป็นทางการเองก็จัดโปรโมชันอยู่ที่ 20,x00 บาท แถมยังใส่โค้ดส่วนลดเข้าไปได้อีก ทำให้สามารถซื้อ iPhone 13 128GB เครื่องใหม่ได้ในราคาราวหมื่นปลาย ๆ เท่านั้น หรือถ้าใครมีโค้ดพิเศษ โค้ดบัตรที่ร่วมรายการก็อาจจะลดได้มากกว่านี้อีกด้วย
ส่วนถ้าถามว่า iPhone 13 ยังน่าใช้ขนาดไหน แน่นอนว่าเรื่องความลื่นไหล เรื่อง UI การอัปเดตเวอร์ชัน iOS พวกนี้เรียกว่าไม่ใช่ปัญหาแน่นอน สามารถใช้งานไปได้อีกหลายปี อาจจะมีเรื่องการเล่นเกมที่แม้ว่ายังเล่นได้ลื่นอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะทำในบางจุดได้ไม่เท่ากับพวกชิปรุ่นใหม่ ๆ ส่วนกล้องหลังก็ต้องบอกว่ายังทำได้ดีเช่นกัน แถมโทนภาพยังดูเป็นที่ถูกใจผู้ใช้มากกว่า iPhone รุ่นใหม่ ๆ ด้วย แต่กล้องหลังก็จะมีให้ใช้เพียงแค่เลนส์ไวด์ปกติและเลนส์อัลตร้าไวด์เท่านั้น รวมถึงยังไม่มีการซูมสองเท่าแบบที่ใช้เทคนิคการประมวลผลภาพจากเซ็นเซอร์เหมือนกับใน iPhone 15 จึงน่าจะเหมาะกับการใช้งานที่ใช้กล้องแบบปกติและการถ่ายมุมกว้างพิเศษมากกว่าการซูม
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
iPhone ทั้งสองรุ่นนี้ก็เป็นกลุ่มที่จะได้รับการแทนที่โดยรุ่นที่เปิดตัวในปีนี้เช่นกัน แต่ถ้าต้องการซื้อในช่วงนี้ก็จัดว่ายังโอเคอยู่ครับ ส่วนหนึ่งก็คือปกติแล้วเวลา Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ ก็มักจะนำรุ่นโปรตัวเก่าออกจากตลาดไปเลย โดยอาจจะเหลือแค่รุ่นธรรมดาเท่านั้นที่วางขายในราคาย่อมเยาลงมากว่าเดิม เหมือนกับที่ในปัจจุบันยังมี iPhone 13 กับ 14 ขายอยู่ ดังนั้นถ้าใครอยากเก็บ iPhone 15 Pro และ 15 Pro Max แบบเครื่องมือหนึ่ง ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสอันดีทีเดียว เพราะหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายเองก็มีจัดโปรโมชันอยู่พอสมควร
อย่างถ้าเป็น iPhone 15 Pro 128GB มือหนึ่งหน้าร้านตอนนี้ก็จะมีจัดโปรลดราคาเหลือ 36,900 บาท ในขณะที่รุ่น 256GB ก็อยู่ที่ 40,900 บาท ซึ่งจัดว่าได้ราคาคุ้มมาก เพราะปกติแล้วรุ่น 128GB จะมีราคาตั้งมาอยู่ที่ 41,900 บาท หรือถ้าเป็นในแพลตฟอร์มออนไลน์ก็จะมีราคาใกล้เคียงกัน และยังใส่โค้ดลดได้อีกนิดหน่อยด้วย ส่วนฝั่งของ iPhone 15 Pro Max ก็จะปรับราคามาเริ่มที่ 44,500 บาท จากราคาเต็ม 48,900 บาท
หรือถ้าต้องการเป็นเครื่องมือสอง ตอนนี้ก็จะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะพอตัวครับ เรื่องราคาก็จะลดหย่อนกันมาตามความจุ สภาพเครื่อง เปอร์เซ็นต์แบตและระยะการรับประกันที่เหลืออยู่ โดย iPhone 15 Pro มือสองมักจะมีวางขายกันตั้งแต่ 31,000 บาทขึ้นไป ส่วน iPhone 15 Pro Max มือสอง 256GB ก็จะเริ่มต้นกันที่ 36,000 บาท เรียกว่าเซฟจากเครื่องมือหนึ่งราว 8,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งทำให้น่าสนใจมาก ถ้าหากสามารถหาเครื่องมือสองสภาพดี ประกันยังเหลือติดมานิดหน่อยได้ พอได้เครื่องมาก็รีบไปซื้อ AppleCare+ ผ่านตัวแทนเช่น iCare ที่สามารถซื้อได้ภายใน 365 วันหลังจากซื้อเครื่องศูนย์มา ซึ่งจะช่วยขยายระยะเวลาการคุ้มครองไปอีก 2 ปี เท่านี้ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว ว่าอย่างน้อยถ้าเครื่องมีปัญหา ค่าซ่อมก็จะไม่สูงมากนัก ซึ่งราคาของแพ็คเกจก็จะมีราคาเต็มอยู่ที่ 7,790 บาท หรือบางช่วงก็มีจัดโปรโมชันลดราคาเหลือ 6,000 กว่า ๆ อีกด้วย
ด้านของสเปคเครื่อง ก็คือไม่ใช่ปัญหาเลย ทั้งความแรง ความสามารถ และยังรองรับ Apple Intelligence ด้วย แต่จะมีจุดอ่อนประจำซีรีส์ก็คือเรื่องความร้อนสะสมขณะใช้งานหนัก ๆ เช่นการเล่นเกมกราฟิกสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน การถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอในบริเวณที่มีอากาศร้อน ซึ่งอาจจะทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพลดลง หน้าจอมืดลงกว่าปกติ ไปจนถึงเครื่องไม่สามารถทำงานได้ อันเนื่องจากระบบปิดตัวเองลงเพื่อป้องกันความเสียหายกับฮาร์ดแวร์ แต่กับการใช้งานปกติ อันนี้ไม่มีปัญหาครับ สามารถใช้เป็นมือถือเครื่องหลักได้สบาย
iPhone 11
แต่ถ้าต้องการซื้อ iPhone ใหม่ในช่วงนี้โดยเน้นราคาเบาจริง ๆ ก็จะมี iPhone 11 ที่สามารถเลือกได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจหนัก ด้วยปัจจัยหลักเลยก็คือเรื่องราคา โดยรุ่นความจุ 64GB จะมีราคามือหนึ่งหน้าร้านอยู่ที่ 12,900 บาท ส่วนรุ่น 128GB จะอยู่ที่ 14,900 บาท ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกเป็นรุ่น 128GB ไว้ก่อน
เรื่องสเปคเครื่อง อันนี้ก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าอยู่ในระดับใช้งานทั่วไปได้แน่นอน เล่นเกมก็ยังได้ แต่อาจจะตึงมือหน่อยกับเกมที่กินกราฟิก กินสเปคสูง ๆ จึงอาจจะเหมาะกับการใช้เป็นมือถือเครื่องสำรอง มือถือสำหรับใช้งานด้านธุรกรรม รวมถึงเป็นมือถือให้บุตรหลานใช้งานได้ ซึ่งจะเหมาะมากในกรณีที่เป็นครอบครัวที่ใช้ iPhone กันอยู่แล้ว เพราะสามารถใช้งานหลาย ๆ ฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับด้านครอบครัวผ่านระบบของ Apple และ iCloud ได้เลย
ส่วนเรื่องการอัปเดต iOS ก็เป็นไปได้ว่าจะยังได้รับการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ไปอีกอย่างน้อย 2 ปีนับจากนี้ สังเกตจากที่ iPhone XS, XS Max และ XR ยังได้รับการอัปเดต iOS 18 อยู่
ควรเลี่ยง iPhone รุ่นไหนบ้าง?
iPhone 15
หากสังเกตวิธีจัดการสินค้าของ Apple ในช่วงหลัง ๆ จะเห็นว่าแม้มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่แล้ว แต่ Apple ก็จะยังขายรุ่นเริ่มต้นของรุ่นก่อนหน้าอยู่ โดยมีการปรับราคาลงมานิด แล้วลดรุ่นที่มีให้เลือกลงบ้าง อย่างในปัจจุบันที่เป็นยุคของ iPhone 15 แต่ก็จะยังมีรุ่นเหล่านี้อยู่
- iPhone 14 / 14 Plus ความจุ 128, 256 และ 512GB
- iPhone 13 ความจุ 128, 256 และ 512GB
ส่วนพวกรุ่นโปรจะถูกตัดออกหมด ทำให้ในช่วงที่ใกล้จะมีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ จึงเป็นช่วงที่ไม่ค่อยเหมาะนักสำหรับการซื้อเครื่องปัจจุบันในรุ่นเริ่มต้น เพราะเป็นไปได้สูงมากว่าเดี๋ยวก็ยังคงมีขายอยู่ดี พร้อมกับราคาที่ปรับลดลงมาเล็กน้อย หรืออย่างน้อย ๆ ก็จะมีเครื่องที่ค้างสต็อกหน้าร้านอยู่ ซึ่งแต่ละร้านก็จะนำมาจัดโปรเคลียร์สต็อกกันอยู่ดี ดังนั้นจึงแนะนำให้ชะลอการซื้อ iPhone 15 ออกไปก่อน ไว้หลังเปิดตัว iPhone 16 แล้วค่อยมาดูอีกทีจะคุ้มกว่า
อีกประเด็นก็คือ iPhone 15 จะไม่รองรับการใช้งาน Apple Intelligence ด้วย ทำให้ถ้าหากคุณเป็นคนชอบลองเล่นอะไรใหม่ ๆ หรืออยากใช้งานระบบ AI แบบที่รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับ iOS ก็คงจำเป็นต้องเลี่ยง iPhone 15 ไปก่อน แล้วไปรอดู iPhone 16 หรือซื้อ iPhone 15 Pro / Pro Max มาใช้แทน
iPhone 12
และ iPhone อีกรุ่นที่ไม่แนะนำให้ซื้อในช่วงนี้ก็คือ iPhone 12 ด้วยความที่เป็นรุ่นอยู่กึ่งกลางระหว่าง iPhone 13 ที่เป็นรุ่นแนะนำเพื่อการใช้งานที่ครอบคลุมในราคาโปรโมชันที่สามารถหาซื้อได้ในงบหมื่นปลาย ๆ และรุ่นแนะนำขั้นเริ่มต้นอย่าง iPhone 11 ที่ราคาหมื่นกลาง ๆ ในขณะที่ราคา iPhone 12 เครื่องใหม่ตอนนี้ก็เริ่มต้นที่ราว 18,000 บาทเข้าไปแล้ว แถมได้ความจุเพียง 64GB เท่านั้น หรืออย่างดีก็ได้ 128GB ในราคาแทบจะเท่ากับ iPhone 13 เลย ตรงนี้ส่วนตัวจึงมองว่าเพิ่มงบอีกนิดเดียว ขยับไป iPhone 13 ที่สดใหม่กว่า อนาคตการอัปเดตก็ยาวกว่าน่าจะคุ้มค่ากว่ามาก
ส่วนถ้าจะเล่น iPhone 12 มือสอง อันนี้ก็พอเล่นได้ครับ ราคาตลาดใน Facebook Marketplace ตั้งกันอยู่ที่ 8,000 – 13,000 บาท แล้วแต่ความจุและสภาพเครื่อง แต่ด้วยเรื่องระยะเวลา ส่วนใหญ่จึงจะเป็นเครื่องที่หมดประกันแล้ว และสุขภาพแบตก็อาจจะอยู่ในระดับ 70% กว่า ๆ หรือไม่ก็ผ่านการแกะเครื่องเปลี่ยนแบตมาแล้ว ถ้าหากไม่ค่อยมั่นใจกับจุดนี้ แนะนำว่าไปหา iPhone 11 หรือรุ่นใหม่กว่า 13 ขึ้นไปแบบมือสองอาจจะดีกว่า อย่างน้อยสุขภาพแบตควรจะมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่า และอาจจะได้เครื่องยังมีประกันศูนย์ด้วย เพราะปัจจุบัน iPhone 13 ก็ยังขายแบบมือหนึ่งอยู่ ราคาก็ไม่โดดออกมามากนัก