แนะนำแท็บเล็ตซัมซุง (Samsung) ทุกรุ่นที่ยังวางจำหน่ายอยู่ช่วงกลางปี 2021
แท็บเล็ตถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ ที่ช่วยให้เหล่าผู้ออกแบบงาน หรือต้องการใช้งานคอมฯ ในรูปแบบที่ย่อส่วนลงมา สามารถพกพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องคอยมาต่อสายอะไรให้ยุ่งยาก หรือถ้าพูดง่ายๆ ก็คือเหมือนเป็นมือถือที่ขยายหน้าจอ และเป็นคอมฯ ที่ย่อส่วนลงมาก็ได้ ซึ่งหลายๆ แบรนด์ใหญ่ๆ ที่ผลิต Smart Phone ออกมาก็มักจะมีการทำแท็บเล็ตออกมาด้วยเสมอ เพื่อรองรับผู้ใช้งานที่เป็นสาวกแท็บเล็ตทั้งหลาย ทั้งคนที่ซื้อมาเพื่อใช้งานด้านออกแบบ หรือนำไปใช้เพื่อการเรียนการสอน ไปจนถึงการทำงานในรูปแบบอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย แน่นอนว่าแท็บเล็ตซัมซุง (Samsung) ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำออกมาหลายรุ่น และทำออกมาได้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุดแบรนด์หนึ่งเลยก็ว่าได้ วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำแท็บเล็ตซัมซุง (Samsung) ทุกรุ่นที่ยังวางจำหน่ายอยู่ในช่วงกลางปี 2021 นี้ จะมีรุ่นไหน และมีสเปคการงานเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
4 แท็บเล็ตซัมซุง (Samsung) ที่ยังวางขายอยู่ในตอนนี้
สำหรับแท็บเล็ตซัมซุง (Samsung) ที่ยังวางขายอยู่นั้น เราจะอ้างอิงมาจากหน้าเว็บที่ยังเปิดวางขายอยู่เป็นหลัก ซึ่งความจริงแล้วหากไปที่ศูนย์บริการ อาจจะเจอรุ่นอื่นๆ ที่ยังวางขายนอกเหนือจากนี้ก็ได้ แต่ส่วนคิดว่าไม่น่ามีแล้ว เพราะหน้าเว็บนั้นจะอัพเดทเครื่องที่วางจำหน่ายตามศูนย์บริการทั่วประเทศไทยด้วย ดังนั้นข้อมูลในเว็บก็ค่อนข้างจะถูกต้องแม่นยำที่สุดแล้ว ส่วนใครที่อยากได้รุ่นอื่นนอกจากนี้จริงๆ ก็ยังสามารถไปหาซื้อแท็บเล็ตซัมซุงได้จากค่ายโอเปอร์เรเตอร์ หรือร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee, Lazada ได้อยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องดูให้ดีก่อนด้วยว่าเป็นของมือสอง หรือว่าเครื่อง Clearance หรือไม่ ส่วนใครที่ไม่อยากเสี่ยงก็ลองไปดูแท็บเล็ตซัมซุงรุ่นที่ยังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้กันได้เลย
1. Samsung Galaxy Tab A7 WiFi
มาเริ่มกันที่แท็บเล็ตซัมซุงตัวแรกกันเลย สำหรับรุ่น Tab A7 ที่วางขายอยู่ในตอนนี้ จะเหลือเพียงรุ่น WiFi เท่านั้น รุ่นอื่นๆ ได้ขายออกไปหมดแล้ว ซึ่งตัวนี้ได้เปิดตัวออกมาในช่วงปลายปีที่แล้ว และเป็นรุ่นประหยัดสำหรับคนที่ต้องการใช้งานแบบทั่วไป ที่อาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องของการออกแบบหนักๆ แต่ก็ยังมีสเปคที่ครบถ้วนต่อการใช้งาน ด้วยตัวเครื่องที่บางเบา ทำให้พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก และมีความกว้างหน้าจอถึง 10.4 นิ้ว ใช้ดูหนังหรือดู Youtube ได้สบายๆ ส่วนหน้าจอนั้นจะเป็นแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสันคมชัดสวยงาม ถึงแม้ว่าในรุ่นอื่นๆ ในซีรีย์จะใส่ซิมได้ แต่ตัวที่เป็นรุ่น WiFi นั้นไม่สามารถใส่ได้นะ
มาที่ตัวชิปเซ็ตกันบ้าง ในรุ่นนี้ที่ได้ใส่ชิป Snapdragon 662 และเสริมด้วย RAM 3GB/ ROM 64GB แต่ก็ยังสามารถใส่ความจุเพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุดถึง 1TB ในเรื่องของกล้องในรุ่นนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เน้นมากนัก เพราะมีกล้องหลังความละเอียดที่ 8MP กับกล้องหน้าความละเอียด 5MP ถ้าใช้งานแบบทั่วไปก็ยังไหวอยู่ แต่ถ้าจะเอาไปถ่ายเป็นหลักยังไม่แนะนำมากนัก สุดท้ายคือแบตที่มีความมาให้มากถึง 7,040 mAh รองรับ Fast Charging และชาร์จไร้สายได้ โดยรวมแล้วรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานเพื่อเอาดูหนัง หรือใช้แบบทั่วไป จะใช้เพื่อเรียนออนไลน์ก็ยังไหวอยู่แน่นอน ราคาตัวนี้เปิดตัวอยูที่ 8,490 บาทเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มที่นี่
2. Samsung Galaxy Tab S6 Lite LTE
มาต่อกันที่รุ่นต่อไปกันเลย กับแท็บเล็ตซัมซุงที่ยกระดับขึ้นมาในซีรีส์ S ที่ยังมีการวางขายอยู่แค่เพียงรุ่น Tab S6 Lite ที่เป็นตัว LTE ด้วย (รุ่น WiFi หมดแล้ว) ข้อดีก็คือแน่นอนว่ารุ่นนี้สามารถใส่ซิม และโทรเข้าโทรออกได้ แต่รุ่นนี้จะค่อนข้างมีน้ำหนักหน่อย เพราะขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่พอสมควร แต่ก็ยังพอเทียบๆ กับตัว A7 ได้ อย่างแรกคือหน้าจอของรุ่นนี้เป็นแบบ TFT ที่ให้สีสมจริงกับความกว้าง 10.4 นิ้วเท่ากับ A7 เลยเป๊ะๆ มาพร้อมกับชิปประมวลผล Exynos 9611 ที่ยังพอจะใช้งานหนักๆ อย่างเล่นเกมหรือใช้กับแอปฯ ตัดต่อได้ลื่นๆ ด้วย RAM 4GB/ ROM 64GB ใสเพิ่มด้วย microSD Card สูงสุด 1TB
สิ่งที่น่าสนใจของตัวซีรีส์ S ก็คือจะมีปากกา S PEN มาให้ใช้งานด้วย เพื่อให้เราได้จับและขีดเขียนบันทึก หรือว่าจะใช้เพื่อออกแบบผลงาน ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยปากกาตัวนี้ ส่วนกล้องหลังก็ยังคงไม่ได้เน้นมากนัก ด้วยความละเอียด 8MP และกล้องหน้า 5MP ที่ยังพอจะใช้เพื่อประชุมงาน หรือว่าใช้เรียนออนไลน์รุ่นนี้ก็ยังพอไหว แบตเตอรี่ของตัวนี้ก็จะมีขนาดเท่ากับตัว A7 เลยที่ความจุ 7,040 mAh รองรับ Fast Charging 15W ใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวัน รุ่นนี้ยังเหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป ที่งบไม่สูงมากแต่ได้ทั้งปากกา S Pen และ สเปคที่แรงพอใช้งานได้ดี ใช้เรียนออนไลน์ได้สบายๆ แน่นอน ราคารุ่นนี้มีราคาอยู่ที่ 12,990 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติม
3. Samsung Galaxy Tab S7
ขยับเข้าใกล้ความเป็นตัวเทพขึ้นมาอีกรุ่น กับแท็บเล็ตซัมซุงตัวซีรีส์ Tab S7 ที่ยังคงมีการวางขายอยู่ในรุ่น WiFI และ LTE เลย ซึ่งในตัวนี้จะได้ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ และสเปคที่ดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะใช้กับแอปฯ หนักๆ เล่นเกมหรือดูหนังก็ทำได้สบายๆ จะจดบันทึกหรือตัดต่อก็ทำได้ง่ายๆ ด้วย S Pen ที่หน่วงน้อยลงเยอะมาก แต่ก็แน่นอนว่าน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมาจากตัวเล็กๆ เยอะพอสมควร หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ LTPS LCD สีสันสดใสสมจริงแน่นอน กับความกว้างขนาด 11 นิ้ว ถือว่ากว้างมากๆ ที่สำคัญคือมีอัตรา Refresh Rate ถึง 120Hz กันเลยทีเดียว ส่วนใครจะใช้แบบ WiFi หรืออยากได้ซิมใส่โทรเข้า – ออกด้วยก็เลือกกันได้ตามสบาย
ตัวนี้ได้เพิ่มความเร็วแรงให้มากขึ้นด้วยชิป Snapdragon 865+ ก็คือไม่ต้องกลัวว่าจะใช้งานแล้วจะไม่ลื่นเลย แถมยังได้ RAM 6GB กับความจุที่มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 128GB และ 256GB ในรุ่น LTE อีกด้วย และยังใส่เพิ่มเข้าไปด้วย microSD Card สูงสุด 1TB ส่วนเรื่องของกล้องในรุ่นนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะมีมาให้ถึง 2 ตัวที่ความละเอียด 13MP + 5MP ใช้ถ่ายได้สวยๆ และถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8MP ใช้ประชุมหรือเรียนออนไลน์ได้สบายหายห่วงแน่นอน สุดท้ายคือแบตที่ไม่ธรรมดาเพราะมีความจุมากถึง 8,000 mAh และรองรับ Fast Charging มากถึง 45W ใช้กันได้ยาวๆ จะใช้ตัดต่อ รีทัช หรือเอาไว้จดบันทึกก็ทำได้ง่ายๆ ด้วย S Pen ใครที่มีงบและอยากได้สเปคพร้อมๆ ต้องรุ่นนี้เลย ส่วนราคาเปิดตัวรุ่นนี้จะอยู่ที่
- Samsung Galaxy Tab S7 WiFi รุ่นความจุ 128GB ราคา 22,900 บาท
- Samsung Galaxy Tab S7 LTE รุ่นความจุ 128GB ราคา 26,900 บาท
- Samsung Galaxy Tab S7 LTE รุ่นความจุ 256GB ราคา 30,900 บาท
4. Samsung Galaxy Tab S7+
มาถึงแท็บเล็ตซัมซุงตัวสุดท้ายที่วางขายอยู่ และเป็นตัวเทพที่สุดของทุกตัวแล้ว ซึ่งในรุ่นนี้จะมีวางขายและผลิตออกมาแค่รุ่น LTE และรุ่น 5G เท่านั้น ไม่มีรุ่น WiFi ออกมาวางขาย และก็แน่นอนว่ารุ่นนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ใครที่มีงบพอและอยากได้รุ่นเทพที่สุดพร้อมใช้งาน 5G ได้ต้องรุ่นนี้เท่านั้น หน้าจอของรุ่นนี้ก็มาเหนือใครด้วยความกว้างขนาด 12.4 นิ้ว กว้างมากๆ จะใช้ดูหนังหรือตัดต่อทำงานก็ทำได้สบายๆ และยังเป็นแบบ Super AMOLED ที่แสดงผลได้ถึงระดับ HDR 10+ เรียกได้ว่าคมชัดสีสันสมจริงมากๆ และในรุ่นนี้ก็ยังมีอัตรา Refresh Rate ถึง 120Hz เหมือนกับตัว S7 เลย ด้วยการดีไซน์แบบเหลี่ยมๆ จึงอาจทำให้บางตัวมีความคมตรงด้านข้างนิดหน่อย ถ้าซื้อเคสมาใส่ก็หายห่วงเรื่องนี้ไปเลย
มาที่เรื่องของชิปประมวลผลกันบ้าง ซึ่งในรุ่นนี้ก็จะใช้เป็นตัวเดียวกับ S7 ที่เป็น Snapdragon 865+ แต่ตัวนี้มีการรองรับการใช้งานแบบ 5G ได้แล้ว และยังมีความเร็วแรงให้เลือก 2 แบบคือ RAM 6GB/ 8GB และ ROM 128GB กับ 256GB ในรุ่น 5G ด้วย และรุ่นนี้ก็ยังมี S Pen มาให้ใช้งานด้วยความหน่วงระดับต่ำสุดๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนกล้องหลังยังคงเป็นเหมือนกับตัว S7 ที่ความละเอียด 13MP + 5MP และกล้องหน้าความละเอียด 8MP เหมือนกันทั้งหมด ใช้ทำงานประชุม หรือเรียนออนไลน์ได้ดีเยี่ยม สุดท้ายคือแบตมหาโหดที่ความจุ 10,090 mAh รองรับ Fast Charging 45W ใช้งานได้ทั้งวันแน่นอน ไม่ต้องกลัวหมดเลย ราคาของ Tab S7+ มีราคาเปิดตัวดังนี้
- Samsung Galaxy Tab S7+ LTE รุ่นความจุ 128GB ราคา 33,900 บาท
- Samsung Galaxy Tab S7+ 5G รุ่นความจุ 128GB ราคา 33,900 บาท
- Samsung Galaxy Tab S7+ 5G รุ่นความจุ 256GB ราคา 39,900 บาท
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นแท็บเล็ตซัมซุง (Samsung) ทุกรุ่นที่ยังวางขายอยู่บนหน้าเว็บทั้ง 4 รุ่นหลักๆ ซึ่งแต่ละรุ่นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และการใช้งานของแต่ละคนด้วย ว่าจะซื้อไปเพื่อใช้ทำงานในรูปแบบไหน ถ้าจะใช้แบบทั่วไป ดูหนัง ดู Youtube หรือเพื่อการเรียนแบบออนไลน์จะซื้อรุ่น Samsung Galaxy Tab A7 WiFi หรือตัว Samsung Galaxy Tab S6 Lite LTE มาใช้งานก็ยังพอไหวอยู่แน่นอน แต่ถ้าอยากสำผัสความเทพเหนือขึ้น และใช้งานที่เป็นความโปรมากขึ้น จะเลือกซื้อ Samsung Galaxy Tab S7 หรือรุ่น Samsung Galaxy Tab S7+ ที่มีให้เลือกหลายแบบ แต่แนะนำว่าถ้ามีงบมากพอ ให้ซื้อ Samsung Galaxy Tab S7+ ตัว 5G ไปเลยจะคุ้มค่าต่อการใช้งานมากที่สุด แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ