Samsung Galaxy Tab S7 Series แท็บเล็ตระดับเรือธงรุ่นใหม่ของ Samsung ที่มาพร้อมสเปคสุดแรง ด้วยจุดเด่นคือหน้าจอ 120Hz และชิป Snapdragon 865+ ซึ่งในซีรี่ส์ Tab S7 นั้น Samsung เปิดตัวออกมาพร้อมกัน 2 รุ่นคือ Tab S7 ที่มีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว และ Tab S7+ ที่มีขนาดหน้าจอ 12.4 นิ้ว ซึ่งทาง Specphone เราได้ Samsung Galaxy Tab S7 รุ่น Wi-Fi ที่มีหน้าจอขนาด 11 นิ้วมา ซึ่งหลังจากที่ได้เอาไปลองมาใช้งานแล้วจะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกัน
น่าเสียดายที่ Samsung Galaxy Tab S7 ที่ทางเราได้มานั้นได้มาแค่ตัวเครื่อง อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ได้มาด้วย แม้กระทั่ง S-Pen เองก็ไม่ได้มา ทำให้ไม่สามารถทดสอบเรื่องการเขียนได้ อีกทั้งยังไม่ได้เคสคีย์บอร์ดมารีวิวด้วย ก็เลยไม่สามารถบอกได้ว่าเพียงพอจะเอามาแทนโน้ตบุ๊ค Windows ได้รึเปล่า
ข้อดี
- หน้าจอใหญ่ ที่มี Refresh Rate 120Hz มีความคมชัดสูง และมีความเที่ยงตรงของสีที่สูงเช่นกัน
- ใช้ชิปประมวลผลสุดแรง Snapdragon 865+
- รองรับ Wi-Fi 6
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8,000 mAh(Tab S7) พร้อมรองรับชาร์จไว 45W
- มี S-Pen และเคสคีย์บอร์ด
- ลำโพง 4 ตัว ได้รับการจูนเสียงจาก AKG
- รองรับ Samsung Dex
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก
- ขอบตัวเครื่องค่อนข้างคม
- ในรุ่น Galaxy Tab S7 มีหน้าจอเป็น LTPS LCD ไม่ใช่ Super AMOLED
- กล้องเซลฟี่แนวนอนทำให้เซลฟี่ยากขึ้น
- การมีจอ 120Hz ทำให้แบตเตอรี่ลดเร็วขึ้น
- ราคาค่อนข้างสูง
สเปค Samsung Galaxy Tab S7
- หน้าจอ : LTPS LCD ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2K, 1600 x 2560 พิกเซล) รองรับ HDR10+ มีขอบเขตสี DCI-P3 Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 865+
- แรม : 6GB
- หน่วยความจำ : 128GB
- กล้องหลัง : พร้อม LED Flash รองรับการบันทึกวีดีโอสูงสุด 4K 30fps
- Wide 13MP f/2.0 มี Auto Focus
- Ultrawide 5MP f/2.2
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0 รองรับการบันทึกวีดีโอสูงสุด 1080p 30fps
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0
- เซ็นเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
- แบตเตอรี่ : 8,000 mAh รองรับชาร์จไว 45W
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 ครอบด้วย One UI 2.5
- ขนาด : 253.8 x 165.3 x 6.3 มม.
- น้ำหนัก : 498 กรัม
สเปค Samsung Galaxy Tab S7 Wi-Fi
สเปค Samsung Galaxy Tab S7 LTE
ราคา
Samsung Galaxy Tab S7 มีการแยกย่อยออกมาถึง 2 โมเดลทั้งแบบ Wi-Fi และ LTE ซึ่งจะมีราคาค่าตัวดังนี้
- Galaxy Tab S7 (WiFi) ความจุ 6GB + 128GB = 22,900 บาท
- Galaxy Tab S7 (LTE) ความจุ 6GB + 128GB = 26,900 บาท
นอกจากจะมีให้เลือกถึง 2 โมเดลแล้วยังมีตัวเลือกของสีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ Mystic Black และ Mystic Bronze
ดีไซน์
Galaxy Tab S7 นั้นตัววัสุนั้นเป็นโลหะเช่นเดียวกับรุ่นก่อน ซึ่งช่วยให้มีความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์จากรุ่นก่อนอยู่หลายจุดเลย ทั้งขอบที่มีความเป็นเหลี่ยมมากขึ้น หน้าจอมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น แถมมีการเปลี่ยนตำแหน่งของกล้องหน้าอีกด้วย
มาดูที่รอบตัวเครื่องกันบ้าง Galaxy Tab S7 มีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ที่มีอัตราส่วนอยู่ที่ 16:10 ซึ่งอัตราส่วนนี้ช่วยให้สามารถดูหนังหรือเล่นเกมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ขอบจอที่น้อย ทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่มากจนเกินไป นอกจากนี้ยังย้ายกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่มาไว้ในแนวนอนอีกด้วย (รุ่นก่อน ๆ จะวางในแนวตั้งทั้งหมด)
ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง Galaxy Tab S7 มาพร้อมลำโพง 4 ตัว โดยแบ่งเป็นด้านซ้าย 2 ตัว และด้านขวา 2 ตัว ซึ่งด้านซ้ายนั้นจะมีรูไมโครโฟนอยู่ด้วย ส่วนด้านขวานั้นจะมีพอร์ต USB Type-C วางอยู่ตรงกลางเกือบชิดขอบ (แอบขัดใจตรงนี้ ทำไมไม่วางให้กลางไปเลย)
ที่ด้านบนจะประกอบไปด้วย ปุ่ม Power ที่ทำหน้าที่เป็นตัวสแกนลายนิ้วมือด้วย (ใน Galaxy Tab S7+ เป็นสแกนนิ้วใต้จอ) และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านล่างนั้นจะมีแค่ POGO Pin และตัวล็อคสำหรับเสียบกับเคสคีย์บอร์ด
ในส่วนของด้านหลังตัวเครื่องจะมีกล้องหลัง 2 ตัวพร้อม LED Flash นอกจากนี้ยังมีแถบดำ ๆ ที่ลากยาวติดกับโมดูลกล้องอยู่ บริเวณนี้ก็คือที่เก็บและชาร์จปากกา S-Pen ที่อาศัยแม่เหล็กในการยึดติดเช่นเดิม ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวแถบนี้ไม่ได้เป็นร่องลงไปในตัวเครื่องแล้ว แต่เรียบเสมอตัวเครื่องเลย ทำให้เวลาสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกเรียบเสมอสุด ๆ
กล้องถ่ายภาพ
Galaxy Tab S7 มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัว วึ่งประกอบไปด้วยกล้องมุมกว้างความละเอียด 13MP f/2.0 ที่มีระบบ Auto Focus มาให้ และกล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 5MP f/2.2 ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องเดี่ยวความละเอียด 8MP f/2.0 ซึ่งตัวก้องนี้มาพร้อมโหมดการถ่ายภาพมากมาย ทั้ง Live Focus ในโหมดถ่ายภาพและอัดวีดีโอ, โหมด Pro Video และโหมด Single Take
ซึ่งจากที่ได้ไปลองถ่ายมาแล้ว ในส่วนของการถ่ายภาพในตอนกลางวันหรือมีแสงเพียงพอแล้วเรียกได้ว่าดีใช้ได้เลยสำหรับกล้องของแท็บเล็ต แต่พอเป็นตอนกลางคืนแล้ว กล้องหลังนับว่าทำได้ดี ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการประมวลผลหลายวินาทีก็ตาม แต่สำหรับกล้องหน้าแล้วเป็นอะไรที่งงอยู่หน่อย ๆ คือในการถ่ายแบบปกติ ภาพที่ได้ค่อนข้างจะเป็นวุ้นเลย แต่ทว่าพอเปลี่ยนไปถ่ายแบบมุมกว้างแล้ว วุ้นกลับหายไปแถมยังคมมากขึ้นด้วย
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
สำหรับความสามารถในการอัดวีดีโอนั้น Galaxy Tab S7 นั้นสามารถอัดวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps ในกล้องหลัง ส่วนกล้องหน้านั้นสามารถอัดวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุดที่ 1080p 30fps เท่านั้น ซึ่งความเร็วในการโฟกัสของกล้องนั้นไม่ได้เร็วอะไรมากมาย ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วินาที ถึงจะปรับโฟกัสให้
ระบบปฏิบัติการ
Galaxy Tab S7 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย OneUI 2.5 ที่ซึ่งทาง Samsung ได้มีการปรับปรุงให้มีความสามารถมากขึ้นและใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
ประสิทธิภาพและการเล่นเกม
Galaxy Tab S7 นั้นในด้านประสิทธิภาพการใช้งานแล้วต้องบอกเลยว่าไร้ปัญหา ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 865+ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป ทำงาน ตัดต่อ หรือแม้แต่เล่นเกมก็สามารถใช้ได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่งจากที่ได้ลองเล่นมาไม่ว่าจะเป็น PUBG Mobile, V4, Asphalt 9 และ RoV ก็ไม่พบปัญหาใด ๆ เล่นได้แบบลื่น ๆ เลย
นอกจากชิป Snapdragon 865+ แล้ว Galaxy Tab S7 ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 8,000 mAh และรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 45W ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาว ๆ โดยไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ (ถ้าเปิดให้เป็นหน้าจอ 120Hz แล้วแบตเตอรี่จะลดเร็วกว่าปกติ)
สรุป
Galaxy Tab S7 เป็นแท็บเล็ตที่ได้รับการออกแบบมาให้ดูหรู มีความแข็งแรง และด้วยการอัดสเปคที่แรงสุด ๆ ทำให้เป็นเครื่องที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร การจดโน๊ต/วาดรูป ตัดต่อวีดีโอ แต่งรูป เล่นเกม หรือแม้กระทั่งใช้เป็น Desktop ด้วย DeX Mode ก็สามารถทำได้ ทำให้ Galaxy Tab S7 เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ต Android แรง ๆ จอใหญ่ ๆ สำหรับเอามาใช้ทำงานที่ต้องการชิปประมวลผลแรง ๆ และต้องมีหน้าจอสีตรงตามมาตราฐาน เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่สามารถเอามาใช้หาเงินได้เช่นเดียวกับ iPad เหมาะกับหลาย ๆ อาชีพ ทั้งยังมีความเรียบหรูในตัวเอง ทำให้เป็นสุดยอดแท็บเล็ตมากความสามารถที่สุดในฝั่ง Android
โดยส่วนตัวแล้ว Galaxy Tab S7 เป็นตัวที่น่าโดนมาก แต่ขอแนะนำให้ซื้อแค่รุ่น Wi-Fi ก็เพียงพอแล้ว แล้วเอาส่วนต่างค่า LTE ไปเพิ่มความจุจะดีกว่า แต่หากจะเอามาใช้ทำงานจริงจัง แนะนำให้เพิ่มเงินแล้วขยับขึ้นไปเป็น Galaxy Tab S7+ ความจุ 256GB เลย เพราะจะได้หน้าจอที่ดีกว่า ใหญ่กว่า แถมแบตเตอรี่ยังเยอะกว่าด้วย