vivo Y3s รีวิวสมาร์ตโฟนรุ่นเล็ก ใช้งานพื้นฐานสบาย เน้นจอใหญ่ แบตอึด โทรศัพท์ vivo ราคาไม่เกิน 4,000 บาท
รีวิว vivo Y3s สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Y Series จัดอยู่ในกลุ่มสมาร์ตโฟนรุ่นเล็ก เปิดราคามาที่ 3,799 บาท โดยรวมถือว่ามีความน่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าจอขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว พาแนล IPS แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000mAh ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 รองรับ Wi-Fi 5 และระบบปฏิบัติการ FunTouch OS 11 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 11 Go Edition
สเปค vivo Y3s
- ขนาดตัวเครื่อง 164.41×76.32 × 8.41มม.
- น้ำหนัก 190 กรัม
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 octa-core
- RAM 3GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB รองรับ MicroSD ได้สูงสุด 1TB
- หน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว IPS ความละเอียดระดับ HD+ (1600 x 720 พิกเซล)
- กล้องหลัง 13MP f/2.2 พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้า 5MP f/1.8
- รองรับ 2 ซิม ถาดซิมแบบ 3 Slot
- ระบบปฏิบัติการ FunTouch OS 11 มีพื้นฐานมาจาก Android 11 Go Edition
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz
- Bluetooth 5.0
- ระบบนำทาง GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO
- ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า Face Access
- พอร์ตชาร์จแบบ Micro USB รองรับ USB OTG
- รองรับวิทยุ FM (ต้องใช้งานร่วมกับหูฟัง)
- วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ Pearl White และ Starry Blue
- สเปคเต็ม ๆ ของ vivo Y3s
- ราคาเปิดตัว 3,799 บาท
ดีไซน์ หน้าตาของ vivo Y3s
ในด้านการออกแบบ vivo Y3s มาในดีไซน์ฝาหลังแบบ 2.5D ส่งผลให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวก งานประกอบตัวเครื่องมีความแน่นหนา จับแล้วดูแข็งแรง ส่วนเรื่องวัสดุฝาหลัง ด้วยข้อจำกัดด้านราคา จึงใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด แต่ก็เป็นพลาสติกที่ให้สัมผัสที่ดีเยี่ยม โดยรวมถือว่าผ่านเมื่อเทียบกับโทรศัพท์แบรนด์อื่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน โดยเครื่องรีวิว vivo Y3s ที่ได้รับมา เป็นตัวเครื่องสี Pearl White ส่วนอีกสีที่วางจำหน่าย จะเป็นสี Starry Blue
ส่วนอุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่อง vivo Y3s ก็ได้แก่
- เคสใส TPU แบบนิ่ม
- ฟิล์มกันรอยติดตั้งมาให้ตั้งแต่ในกล่อง
- อะแดปเตอร์ชาร์จแบบ USB จ่ายไฟได้ 5V 2A (10W)
- สายชาร์จแบบ Micro USB
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- เอกสารคู่มือและการรับประกัน
และที่เหมือนเดิมก็คือไม่มีแถมหูฟังมาให้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กอยู่แล้ว แต่ก็สามารถใช้หูฟังทั่วไปได้เลย ตัวเครื่องรองรับพอร์ต 3.5 มิลลิเมตรครับ
ตัวเครื่อง vivo Y3s มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.51 นิ้วแบบ Halo FullView Display ที่เกือบเต็มจอ จึงทำให้ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป ด้านบนหน้าจอมีติ่งรูปหยดน้ำลงมาเล็กน้อย ไม่ได้เกะกะสายตาในระหว่างการใช้งานเท่าไหร่ ส่วนขอบจอด้านล่างก็จะหนากว่าอีก 3 ด้านที่เหลือเล็กน้อย
คุณภาพการแสดงผลบนหน้าจอของ vivo Y3s ที่ใช้จอความละเอียดระดับ HD+ นั้นก็จัดว่าอยู่ในระดับที่พอใช้งานได้ ภาพสวย เนียน สีสันอาจจะไม่จัดจ้านมากนัก แต่ก็ได้มุมมองภาพที่กว้างในแบบฉบับของจอ IPS อยู่เช่นเคย ระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติก็ทำหน้าที่ได้ดี
ส่วนเรื่องความละเอียดหน้าจอ HD+ หากไม่ได้เพ่งหน้าจอแบบจับผิด ความละเอียดระดับนี้สามารถใช้งานได้สบาย ๆ ครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมดถนอมสายตา ที่ปรับสีหน้าจอแสดงผลเพื่อลดแสงสีฟ้า ช่วยให้ใช้งานได้สบายตามากยิ่งขึ้น
ด้านหลังของ vivo Y3s โดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวเครื่องกับสีสันแบบ 2.5D Dazzling Colors โดยเครื่องรีวิว vivo Y3s ที่ได้รับมาจะเป็นสีขาว Pearl White สีฟ้าขาวเหมือนอัญมณีบริสุทธิ์จากมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เฉดสีที่แวววาวเปล่งประกาย สะท้อนให้เห็นถึงความสดใสของชีวิต ส่วนอีกสีที่วางจำหน่าย ได้แก่ Starry Blue สีน้ำเงินเข้มของเนบิวลา ในกาแลคซีที่สะท้อนแสง ให้ความรู้สึกเงียบสงบในยามค่ำคืน
โมดูลกล้องหลังของ vivo Y3s ถูกจัดวางไว้ที่แถบซ้ายบนของเครื่อง ถัดลงมาเล็กน้อยก็เป็นแฟลช LED ตัวโมดูลกล้องนูนขึ้นจากฝาหลังไม่มาก ใส่เคส TPU ที่ให้มาในกล่องก็ครอบคลุมส่วนของโมดูลกล้องได้พอดี ส่วนรายละเอียดอื่นบริเวณฝาหลังก็มีเพียงโลโก้ vivo และเนื่องจากไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เลยทำให้ฝาหลังของรุ่นนี้ดูคลีน ๆ ดีครับ
บริเวณด้านบนของ vivo Y3s นั้นไม่มีพอร์ตใด ๆ อยู่เลย ส่วนด้านล่างมีทั้งช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องรับเสียงของไมค์สนทนา ช่อง Micro USB และก็ลำโพงหลักของเครื่อง ฝั่งขวาก็จะมีแถบปุ่มเพิ่ม/ ลดเสียง และก็ปุ่ม power ส่วนฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิม
สำหรับถาดใส่ซิมของ vivo Y3s ก็จะเป็นแบบ 3 Slot คือมีช่องใส่นาโนซิม 2 ช่อง รองรับ 4G พร้อมกันทั้งสองช่อง แล้วก็ช่อง MicroSD สำหรับเพิ่มความจุ ได้สูงสุดถึง 1TB แต่ในการใช้งานจริง ผมมองว่าใส่ microSD สัก 64GB ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในระดับหนึ่งแล้ว เมื่อรวมกับความจุในตัวเครื่อง 32GB
ซอฟต์แวร์ของ vivo Y3s
vivo Y3s มาพร้อมกับ Android 11 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11 ที่ได้รับการปรับแต่งมาให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย รูปแบบของหน้า Home จะเป็นแบบ App Drawer ที่ผู้ใช้สามารถเลือกแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อย ๆ ไว้ยังหน้าแรกได้ ส่วนแอปที่เหลือก็จะถูกซ่อนไว้ใน App Drawer หรือลิ้นชักแอปพลิเคชั่น สามารถเรียกดูได้ด้วยการปัดหน้าจอจากกึ่งกลางขึ้นมา
สำหรับแอปติดเครื่อง vivo Y3s นอกเหนือจากแอปของ Google ก็มีให้มาพอสมควร เช่น แอปปฏิทิน แอปช่วยจัดการระบบ แอปจัดการไฟล์ แอปสำหรับการแชร์ไฟล์ระหว่างเครื่อง แอปจดบันทึก เป็นต้น
ความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ vivo Y3s คือด้วยสเปคที่เป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น RAM 3GB ความจุในตัวเครื่อง 32GB ระบบปฏิบัติการจึงเลือกใช้เป็น Android 11 Go Edition ที่เน้นเรื่องการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสเปคระดับเริ่มต้น เช่นเดียวกับแอปพลิเคชั่น Google ในตัวเครื่อง ที่เป็น Go Edition แม้จะตัดฟีเจอร์บางตัวออกไป แต่ก็แลกมากับขนาดของแอปที่เล็ก กินพื้นที่น้อย กินทรัพยากรตัวเครื่องน้อยกว่านั่นเอง
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ vivo Y3s
จุดเด่นแรกของ vivo Y3s ก็คือเรื่องความอึดของแบต 5000 mAh ที่บอกได้เลยว่าหายห่วง เมื่อรวมกับสเปคที่กินพลังงานน้อย ทำให้ใช้งานจนหมดวัน แบตยังเหลือข้ามไปใช้อีกวันได้สบาย ๆ สามารถรับชมภาพยนตร์ HD ออนไลน์ได้นานถึง 19.12 ชั่วโมง หรือเล่นเกมต่อเนื่องได้นานถึง 8.95 ชั่วโมง และยังสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น Powerbank ชาร์จไฟให้กับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นได้ (จ่ายไฟได้ 5V 1A หรือ 5W) ผ่านสาย USB OTG (ต้องซื้อเพิ่ม)
ส่วนการชาร์จไฟจะค่อนข้างใช้เวลาชาร์จนานในระดับหนึ่ง เนื่องจากอะแดปเตอร์ และตัวเครื่องรองรับไฟแค่ 10W เวลาในการชาร์จจาก 0 – 100% จะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
ส่วนใครที่กังวลเรื่อง Performance โดยรวมของเครื่องนี้ ว่าใช้งานไปนาน ๆ จะเกิดอาการหน่วงหรือไม่ เนื่องจากสเปคที่เป็นระดับเริ่มต้น vivo ก็ได้ใส่ตัวช่วยอย่าง iManager ตั้งค่าเพื่อดูแลงานต่าง ๆ เช่นการทำความสะอาดพื้นที่หรือการสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน iManager จะช่วยให้การใช้งานโดยรวมของ vivo Y3s มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แต่ผู้ใช้ก็ต้องหมั่นกดเข้าไปทำการ Optimise ในแอปพลิเคชั่น iManager เองด้วย
สำหรับการปลดล็อกตัวเครื่อง vivo Y3s แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่ได้ใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) มาให้ แต่นอกจากปลดล็อกด้วยการใส่รหัส, PIN หรือ Pattern รุ่นนี้ก็ยังสามารถใช้การปลดล็อกด้วยใบหน้า หรือ Face Access ที่ช่วยให้ปลดล็อกตัวเครื่อง ได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์อื่นที่น่าสนใจของ vivo Y3s แม้รุ่นนี้จะมีพื้นฐานบน Android 11 Go Edition แต่ก็ยังมีโหมดมืด หรือ Dark Mode ให้เลือกใช้งาน ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว เพื่อประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น โดยโหมดนี้จะเหมาะกับการใช้งานตอนกลางคืน หรือในที่แสงน้อย จะเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีเข้ม นอกจากนี้หน้าจอ vivo Y3s ก็มีโหมดลดแสงสีฟ้า ที่จะทำการปรับอุณหภูมิหน้าจอให้เป็นสีโทนอุ่น ทำให้ใช้งานหน้าจอต่อเนื่องได้สบายตามากขึ้น
กล้องถ่ายรูปของ vivo Y3s
vivo Y3s มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.2 มีโหมดให้ใช้งานจำกัด เนื่องจากเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในขั้นพื้นฐาน สามารถถ่าย Bokeh (ไม่สามารถปรับระดับความเบลอได้) รองรับการซูม 2 เท่าแบบ Digital Zoom ส่วนโหมดความงาม (Beauty) เลือกปรับได้แค่ผิวเนียน กับโทนสีภาพ
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5MP รูรับแสง f/1.8 มีโหมดความงาม (Beauty) ให้เลือกใช้งานเช่นกัน สามารถถ่าย Bokeh ได้เช่นเดียวกับกล้องหลัง แต่มีข้อสังเกตในเรื่องมุมมองกล้องหน้าที่ค่อนข้างแคบ เหมาะกับการเซลฟี่แบบไม่เน้นวิวเป็นหลัก และมีทีเด็ดอยู่ที่การใช้งานกล้องหน้าในการถ่าย IG Story จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสมาร์ตโฟนหลายรุ่นในช่วงราคาเดียวกัน
ภาพถ่ายทั่วไปที่ได้จากกล้องของ vivo Y3s ก็อยู่ในระดับมาตรฐานสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน สีสันไม่จัดจ้านเกินไป การตัดขอบเบลอพอใช้ได้ แต่ถ้าถ่ายภาพในที่แสงน้อย คุณภาพของรูปถ่ายจะดรอปลงไปพอสมควร สำหรับตัวอย่างภาพก็ชมได้จากด้านล่างนี้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า vivo Y3s
ประสิทธิภาพและการเล่นเกมบน vivo Y3s
vivo Y3s เลือกใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 ที่เป็นชิป 8 คอร์ระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยชิปเซ็ตรุ่นดังกล่าวถูกใช้ในสมาร์ตโฟนมาหลายต่อหลายรุ่น แล้วก็เป็นหนึ่งในชิปของ MediaTek ที่ผมมองว่าทำงานได้อย่างเสถียร ใช้งานพวกแอปพลิเคชั่นรัฐบาล เช่น เป๋าตัง, ถุงเงิน, หมอชนะ หรือจะใช้เล่น LINE, Facebook ก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหา
รวมถึงสามารถเล่นเกมยอดนิยมได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ROV และ PUBG Mobile แต่ต้องปรับตั้งค่ากราฟฟิกให้เหมาะสม โดยในการเล่นเกม PUBG Mobile บน vivo Y3s แนะนำการตั้งค่ากราฟิกให้อยู่ในระดับกลาง ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ส่วนเกม RoV ก็สามารถปรับกราฟิกระดับสูง + เฟรมเรตสูง 60fps ได้ด้วย แต่ถ้าจะเน้นเล่นเกมเสถียรหน่อย แนะนำให้ปรับเป็น 30fps การตั้งค่าระดับกลางน่าจะเหมาะสมกว่าครับ
สรุปภาพรวม รีวิว vivo Y3s กับราคา 3,799 บาท
ภาพรวมของ vivo Y3s จัดเป็นมือถือรุ่นเริ่มต้น ราคาไม่แรงที่มีจุดเด่นน่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว ด้วยราคาเปิดตัวเพียง 3,799 บาท ให้สเปคที่เหมาะสมกับการใช้งานขั้นพื้นฐาน รันแอปพลิเคชั่นอย่าง เป๋าตัง, ถุงเงิน, หมอชนะ ได้สบาย ๆ หรือจะเป็นการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, LINE, Instagram ไปจนถึงการเล่นเกม ที่รุ่นนี้ก็สามารถเล่นเกมได้ แต่ก็ต้องปรับตั้งค่ากราฟฟิกในเกมให้เหมาะสมด้วย
สเปคอื่น ๆ เช่นเรื่องหน้าจอ แม้จะเป็นหน้าจอความละเอียด HD+ แต่ก็ได้พาแนลที่เป็น IPS จึงทำให้มีมุมมองภาพที่กว้าง และให้สีสันที่ดีกว่าสมาร์ตโฟนหลายรุ่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ส่วนเรื่องความละเอียด HD+ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในด้านการใช้งาน ยังคงแสดงผลตัวอักษรได้ชัด ปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ได้ เมื่อรวมกับหน้าจอขนาด 6.51 นิ้ว จะซื้อให้ผู้สูงอายุที่บ้านใช้ก็ถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี
ด้วยสเปค และหน้าจอที่ไม่ได้กินพลังงานสูง เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ในตัวเครื่อง เลยทำให้ vivo Y3s เป็นสมาร์ตโฟนที่แบตเตอรี่อึดมาก ๆ ในตอนที่รีวิว vivo Y3s ผมชาร์จไฟเฉลี่ย 2 วันครั้ง แต่จะมีข้อสังเกตในเรื่องของเวลาในการชาร์จไฟ ที่ใช้เวลาเกือบ ๆ 3 ชั่วโมง อีกทั้งพอร์ตชาร์จไฟก็เป็น micro USB ยังไม่ได้เป็น USB Type-C ครับ
จุดเด่น
- หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+
- ชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 ใช้งานแอปพื้นฐานสบาย เล่นเกมได้บ้าง
- ระบบปฏิบัติการมีพื้นฐานจาก Android 11 Go Edition เหมาะสมกับสเปค ทำให้ใช้งานได้ลื่นกว่า
- มีระบบ Face Access ปลดล็อกด้วยใบหน้า
- เพิ่มความจุด้วย microSD Card ได้ถึง 1TB
- แบตเตอรี่อึด 5,000 mAh ใช้งานยาวนาน
- รองรับ Reverse Charge ผ่าน USB OTG
- รองรับ Wi-Fi 5 ทั้งความถี่ 2.4GHz และ 5GHz
- มีพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- รองรับวิทยุ FM (ใช้หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แทนเสาอากาศ)
ข้อสังเกต
- พอร์ตเชื่อมต่อยังเป็น micro USB
- รองรับชาร์จไฟ 10W ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มเกือบ 3 ชั่วโมง
- พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่อง 32GB ถ้าถ่ายรูปด้วย ต้องซื้อ microSD Card มาเพิ่มความจุ
vivo Y3s ราคา และช่องทางการจัดจำหน่าย
สำหรับใครที่สนใจ vivo Y3s สมาร์ตโฟนรุ่นเริ่มต้นจากทาง vivo และถือเป็นหนึ่งใน “โทรศัพท์ vivo ราคาไม่เกิน 4,000 บาท” ก็สามารถหาซื้อได้เฉพาะช่องทางออนไลน์ ได้แก่ LAZADA, Shopee, JD Central และ Thisshop