รีวิว Vivo Y20s สมาร์ตโฟน Y Series รุ่นอัพเกรดของ Vivo เปิดราคาที่ 6,599 บาท สเปคเป็น RAM 8GB + 128GB ROM พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 18W และกล้องหลังที่มีด้วยกันถึง 3 กล้อง ถือเป็นการอัพเกรดสเปค ในราคาส่วนต่าง 1,300 บาท ที่น่าสนใจทีเดียวครับ เพราะสเปคนี้ พอได้เป็น RAM 8GB ผมว่ามันใช้งานได้ดีขึ้นมากทีเดียว
สเปค Vivo Y20s
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 460 octa-core ความเร็ว 1.8GHz
- RAM 8GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB รองรับ MicroSD ได้สูงสุด 256 GB
- หน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600 x 720 pixel)
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 13MP f/2.2
- กล้องเลนส์ Bokeh 2MP f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro 2MP f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า 8MP f/1.8
- รองรับ 2 ซิม ถาดซิมแบบ 3 Slot
- Android 10 ครอบด้วย FunTouch OS 10.5
- Wi-Fi 5 (2.4 + 5GHz), Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ 5000 mAh พร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 18W
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- พอร์ตชาร์จแบบ micro USB (USB 2.0)
- สเปคเต็ม ๆ Vivo Y20s
- ราคาเปิดตัว 6,599 บาท
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของเครื่องรีวิว Vivo Y20s ประกอบไปด้วยฟิล์มกันรอยด้านหน้าที่ติดมาให้จากโรงงาน, เคส TPU แบบใส, สายชาร์จ USB to micro USB, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 18W และเหมือนเช่นเคยคือไม่แถมหูฟังมาให้ครับ
รีวิว Vivo Y20s แบบวิดีโอ
Design – การออกแบบ
ในด้านการออกแบบ Vivo Y20s ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่หน้าตาสวยงามรุ่นหนึ่ง โดยเฉพาะด้านหลังที่มาในดีไซน์แบบ 2.5D ส่งผลให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวก รวมถึงสีสันตัวเครื่องที่วางจำหน่าย อย่างเครื่องรีวิว Vivo Y20s ที่ผมได้รับมาเป็นสี Purist Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเลลึก สีที่สื่อถึงความแข็งแกร่งและบริสุทธิ์ มอบความรู้สึกที่สดชื่นเหมือนดั่งสายลมพัดผ่าน ผสานเข้ากับเทคโนโลยีชั้นสูง ให้ดูดีมีสไตล์ ส่วนอีกสีจะมีชื่อว่า Obsidian Black
งานประกอบตัวเครื่องรุ่นนี้ มีความแน่นหนา จับแล้วดูแข็งแรง เรียกได้ว่างานออกแบบทำมาได้ดีเกินราคาด้วยซ้ำไป ส่วนเรื่องวัสดุฝาหลัง ด้วยข้อจำกัดด้านราคา จึงใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด แต่ก็เป็นพลาสติกที่ให้สัมผัสที่ดีเยี่ยม รุ่นที่เป็นสี Purist Blue มีผิวสัมผัสด้านหลังเป็นแบบด้าน โดยรวมถือว่าผ่านเมื่อเทียบกับโทรศัพท์แบรนด์อื่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน
ส่วนด้านหน้าตัวเครื่อง Vivo Y20s มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว บรรจุกล้องหน้าความละเอียด 8MP อยู่บริเวณกึ่งกลางตรงด้านบนหน้าจอ (รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า) ตัวหน้าจอเป็นแบบ IPS ที่ให้มุมมองที่กว้าง อีกทั้งมาพร้อมเทคโนโลยี In-cell ที่ทำให้จอแสดงผลมีสีสัน ความคมชัด และรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ความหนาของตัวเครื่อง Vivo Y20s มีตัวเลขอยู่ที่ 8.41 มิลลิเมตร ซึ่งก็เป็นมาตรฐานของสมาร์ตโฟนทั่วไป แม้รุ่นนี้จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh ก็ตาม เผลอ ๆ จะมีความหนาใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟนที่แบตเตอรี่น้อยกว่าด้วยซ้ำไป
รายละเอียดต่าง ๆ บนตัวเครื่อง Vivo Y20s เริ่มจากด้านข้างขวา ประกอบไปด้วย ปุ่ม Power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มปรับระดับเสียง ด้านล่างเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ micro USB ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ถาดใส่ซิมของ Vivo Y20s อยู่บริเวณด้านซ้ายมือ เป็นถาดซิมแบบ Triple Slot รองรับซิมการ์ดแบบ nano SIM 2 ซิม และรองรับ micro SD Card
ด้านหลังตัวเครื่อง Vivo Y20s ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Macro Camera และแฟลช LED โดยบริเวณด้านหลังตัวเครื่องของรุ่นนี้จะเน้นโชว์สีสันได้เต็มที่ เนื่องจากเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ถูกจับไปใส่ไว้บริเวณด้านข้างตัวเครื่องนั่นเองครับ
หน้าจอ Vivo Y20s เป็นหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) มุมมองการแสดงผลกว้าง สีสันหน้าจอแม้จะไม่ได้สดจัดแบบจอ OLED แต่ด้วยเทคโนโลยีแบบ In-cell ก็ให้การแสดงสีสันหน้าจออยู่ในมาตรฐานที่เหมาะสมกับการดูรูปภาพ หรือรับชมวีดีโอ ส่วนเรื่องความละเอียดหน้าจอ HD+ หากไม่ได้เพ่งหน้าจอแบบ
จับผิด ความละเอียดระดับนี้สามารถใช้งานได้สบาย ๆ ครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมดถนอมสายตา ที่ปรับสีหน้าจอแสดงผลเพื่อลดแสงสีฟ้า ช่วยให้ใช้งานได้สบายตามากยิ่งขึ้น
ภาพรวมสำหรับ Vivo Y20s ในส่วนของการออกแบบ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ดีไซน์สวย งานประกอบมีความแน่นหนา การใช้งาน การจับถือตัวเครื่องทำได้สะดวก ที่สำคัญคือตัวเครื่องไม่ได้หนาจนเกินไป แม้จะใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh ก็ตาม
ส่วนเรื่องหน้าจอก็มีขนาดใหญ่ถึง 6.51 นิ้ว เหมาะกับการใช้งานในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
Software – ระบบปฏิบัติการ
Vivo Y20s มาพร้อมกับ Android 10 ครอบด้วย Funtouch OS 10.5 ที่ได้รับการปรับแต่งมาให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย แต่คราวนี้การใช้งานจะแตกต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ พอสมควร มีหน้า App Drawer แยกออกมาต่างหาก แต่ก็ปรับตัวให้ใช้งานได้ไม่ยากครับ ส่วนแอปติดเครื่องนอกเหนือจากแอปของ Google ก็มีให้มาพอสมควร เช่น แอปปฏิทิน แอปช่วยจัดการระบบ แอปจัดการไฟล์ แอปสำหรับการแชร์ไฟล์ระหว่างเครื่อง แอปจดบันทึก เป็นต้น
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาใน FunTouch OS 10.5 ก็คือ เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก ที่เพิ่มลูกเล่นบริเวณหน้าจอมากขึ้น ทั้งในการเปิดปิดหน้าจอ, การชาร์จไฟ, หรือถ้าใครที่เปลี่ยนโทรศัพท์มาใช้ Vivo Y20s ก็มีตัวช่วยในการถ่ายโอนข้อมูลด้วย EasyShare ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น หรือมานั่งเก็บรายชื่อผู้ติดต่อใหม่ และตัว EasyShare เองก็มีฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจอย่าง Web Share ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลจาก Vivo Y20s เข้าคอมพิวเตอร์แบบไร้สายได้โดยที่ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
วิธีการใช้งาน Web Share อันดับแรกต้องเชื่อมต่อ Vivo Y20s กับคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในวงเดียวกัน (Wi-Fi หรือ LAN เดียวกัน) ทำการเปิดแอปพลิเคชั่น EasyShare บน Vivo Y20s จากนั้นเลือกหัวข้อ Web Share แล้วเข้าไปที่เว็บไซต์ as.vivo.com จากในคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ แล้วทำการสแกน QR Code เป็นอันเรียบร้อย ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเลยครับ
I Manager อีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดการ ตั้งค่าการดูแลระบบต่าง ๆ ในตัวเครื่อง ไปจนถึงการทำความสะอาดไฟล์ขยะ และการตรวจสอบด้านความปลอดภัย รวมถึงการสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน ทำให้โทรศัพท์ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเป็นเครื่องใหม่ตลอดเวลา
Camera – กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังของ Vivo Y20s เป็นกล้องหลังแบบ AI Triple Macro Camera หรือกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก 13MP f/2.2
- กล้อง Bokeh 2MP f/2.4
- กล้อง Macro 2MP f/2.4
สำหรับ 2 กล้องที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกล้อง Bokeh 2MP ก็จะไว้ช่วยเสริมประสิทธิภาพในด้านการเบลอฉากหลังเมื่อถ่ายภาพด้วยโหมดภาพคน ส่วนกล้อง Macro 2MP ออกแบบมาให้ถ่ายของชิ้นเล็ก ๆ หรือถ่ายใกล้ได้ถึง 4 เซนติเมตร เหมาะกับการเก็บภาพรายละเอียดของดอกไม้ หรือจะเอาไว้ส่องพระเครื่องก็ได้เช่นกันครับ
เลนส์มาโครถ่ายใกล้ได้ถึง 4 เซนติเมตร ถ่ายรายละเอียดต้นไม้ได้ชัดเจน
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Portrait
โหมด Portrait ละลายฉากหลังได้ดีทีเดียว
ภาพถ่ายทั่วไปที่ได้จากกล้องของ Vivo Y20s ก็อยู่ในระดับมาตรฐานสมาร์ตโฟนในปัจจุบันที่ราคาไม่แพงครับ สีสันไม่จัดจ้านเกินไป การตัดขอบเบลอในโหมดภาพคน (Portrait) ก็ทำได้ค่อนข้างดี ส่วนการถ่ายภาพกลางคืน ต้องระวังเรื่องแสงไฟที่จะทำให้ภาพฟุ้ง อีกอย่างคือ Vivo Y20s ไม่มีโหมดกลางคืนนะครับ Auto ล้วน ๆ เลย แล้วก็มีอีกข้อสังเกตในเรื่องการโฟกัสภาพ ที่ส่วนตัวผมมองว่ารุ่นนี้ยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก ตอนถ่ายต้องใจเย็น ๆ ครับ
ส่วนเรื่องการซูมภาพ แม้จะไม่มีเลนส์เทเลโฟโต้มาให้ แต่รุ่นนี้ก็สามารถซูมภาพแบบ Digital Zoom ได้ จากตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่าง ผมเทียบให้ดูระหว่างรูปแรกที่ระยะ 1x และรูปถัดมาเป็นการซูมแบบ 2x Digital Zoom
ความน่าเสียดายของกล้อง Vivo Y20s คือรุ่นนี้ไม่มีเลนส์มุมกว้าง Ultra wide-angle มาให้ มีแค่เลนส์หลัก 13MP ที่รองรับการซูมแบบ Digital Zoom กับเลนส์มาโครสำหรับถ่ายใกล้เท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Vivo Y20s
กล้องหน้าของ Vivo Y20s มีความละเอียด 8MP มีโหมดถ่ายภาพแบบปกติ แล้วก็โหมดใบหน้าสวย พร้อมละลายฉากหลังเบลอ ทำให้ตัวแบบโดดเด่น เรื่องความสวยงามน่าจะเป็นความชอบส่วนบุคคลล่ะครับ หลัก ๆ จะเป็นการปรับให้ผิวกระจ่าง แล้วก็เพิ่มความคมชัดบริเวณดวงตาให้โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Vivo Y20s
Performance – ประสิทธิภาพ
ในส่วนของการประมวลผล Vivo Y20s ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 460 เหมือนกับ Vivo Y20 แต่มีการเพิ่มสเปคเป็น RAM 8GB และความจุที่สูงขึ้นเป็น 128GB เลยทำให้การใช้งานมีความลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่สลับแอปพลิเคชั่นไปมา เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี เล่นโซเชียล, เล่นอินเทอร์เน็ต หรือจะใช้รับชม Youtube, LINE TV, Netflix ก็สามารถทำได้
ส่วนการเล่นเกมด้วย Vivo Y20s กับชิปประมวลผล Snapdragon 460 + RAM 8GB และชิปกราฟฟิก Adreno 610 GPU ผมลองทดสอบกับเกมอย่าง ROV การตั้งค่าสามารถปรับทุกอย่างสูงได้ รุ่นเล็กอย่าง Vivo Y20s สามารถเล่นเกม ROV ปรับสุดได้ลื่นไหลในโหมด 60fps โดยทำเฟรมเรตระหว่างเล่นได้เฉลี่ยที่ประมาณ 59 – 60 fps การตอบสนองหน้าจอดีใช้ได้เลยทีเดียว
การเชื่อมต่อแบบไร้สายของ Vivo Y20s รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 และที่สำคัญคือรองรับ Wi-Fi 5 นั่นหมายความว่า รองรับทั้งการเชื่อมต่อแบบ 2.4GHz และ 5GHz ส่วนการเชื่อมต่อ 4G รองรับการใช้งาน 4G ทั้งสองซิม รองรับ VoLTE (ทดสอบกับซิม TrueMove H) แต่ไม่รองรับการรวมคลื่นแบบ CA ครับ
ด้านการจัดการพลังงานและการชาร์จไฟ ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh และสเปคที่มีอัตราการใช้พลังงานไม่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอความละเอียด HD+ หรือชิป Snapdragon 460 และตัว FunTouch OS 10.5 ที่มี AI ช่วยในการจัดการพลังงาน เมื่อรวมปัจจัยทั้งหมดที่ว่ามา จึงไม่แปลกที่ Vivo Y20s จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก แทบจะไม่จำเป็นต้องพกแบตเตอรี่สำรอง หรือ Powerbank เพื่อชาร์จไฟระหว่างวันเลย เพราะรุ่นนี้แบตเตอรี่อึดจริง ๆ
ในส่วนของระบบชาร์จไฟ รุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็ว 18W FlashCharge (9V : 2A) ที่ให้ความรวดเร็วในการชาร์จไฟกว่า Vivo Y20 พอสมควร สามารถชาร์จไฟจาก 0 – 70% ได้ในเวลาเพียง 69 นาที และยังรองรับระบบการชาร์จไฟแบบย้อนกลับ Reverse charging ผ่านสาย USB OTG สามารถจ่ายไฟให้กับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นได้อีกด้วย
สรุปภาพรวม รีวิว Vivo Y20s
Vivo Y20s ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นอัพเกรดที่มีความน่าสนใจ ด้วยราคา 6,599 บาท ได้สมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกับ RAM 8GB และความจุในตัวเครื่องที่สูงถึง 128GB สเปคที่พอจะเล่นเกมได้ในบางเกม และยังมาพร้อมระบบสแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง ที่ทำให้การใช้งานตัวเครื่องสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งแบตเตอรี่ความจุสูง 5,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว 18W FlashCharge
จุดเด่น
- มีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว Halo FullView Display เหมาะสมกับการรับชมคอนเทนต์ในยุคปัจจุบัน
- ดีไซน์สวยงาม จับถือตัวเครื่องสะดวกด้วยฝาหลังแบบ 2.5D
- กล้องหลัง 3 ตัว พร้อมเลนส์ Macro ถ่ายใกล้ได้ 4 เซนติเมตร
- ความจุในตัวเครื่อง 128GB + รองรับ micro SD 256GB
- แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh ใช้งานข้ามวันได้สบาย ๆ
- รองรับชาร์จเร็ว 18W FlashCharge
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และการปลดล็อคด้วยใบหน้า
ข้อสังเกต
- ไม่มีเลนส์มุมกว้าง
- ไม่มีโหมดกลางคืน
- พอร์ตเชื่อมต่อเป็น micro USB