ถ้าพูดถึงชื่อแบรนด์ vivo หลายๆ ท่านอาจจะไม่คุ้นเคยกันเท่าไรนัก เนื่องด้วยเป็นแบรนด์จากจีนที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างจริงจังได้ไม่นาน แม้จะเป็นแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มเข้ามา แต่ก็คัดรุ่นมาวางจำหน่ายได้แบบสร้างกระแสได้เป็นอย่างดี อย่างตัวแรกคือ vivo Xplay 3S ที่มาพร้อมจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K ที่สร้างความฮือฮาได้ไม่ใช่น้อย แต่ในครั้งนี้ ทางทีมงาน SpecPhone เราได้รับเครื่องอีกรุ่นมาจากทาง vivo?ครับ ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่จอ 2K แต่ก็มีลูกเล่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน กับตัวของ vivo X3S?สมาร์ทโฟนที่มีจุดเด่นในเรื่องของความบางเบาและพลังเสียงระดับคุณภาพ จะน่าสนใจขนาดไหน มารับชมรีวิว vivo X3S กันได้เลยครับ
สเปค vivo X3S
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6592 octa-core (8 คอร์) ความเร็วสูงสุด 1.7 GHz มาพร้อมชิปกราฟิก Mali-450 MP4
- แรม 1 GB
- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720
- รอม 16 GB ไม่รองรับ MicroSD
- Android 4.2 ครอบทับมาด้วย Funtouch OS
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มีแฟลช?รูรับแสง f/1.8
- รองรับ 3G ความถี่ 900/2100 MHz ไม่รองรับ 4G LTE
- แบตเตอรี่ 2000 mAh
- น้ำหนัก 153 กรัม บางแค่ 5.95 มิลลิเมตร
- รองรับ USB-OTG
- มีชิป DAC ES9018 MK2 ให้เสียงระดับ Hi-Fi ติดตั้งมาในตัว ให้เสียงได้สูงสุด 127 dB S/N และต่ำสุด 120 dB
- ราคา 12,990 บาท
- สเปค vivo X3S
ถ้ามองถึงสเปคโดยรวมแล้ว vivo X3S กับราคา 12,990 บาทอาจจะดูสูงกว่าคู่แข่งในตลาดที่สเปคใกล้เคียงกันซักเล็กน้อย แต่ด้วยองค์ประกอบโดยรวมแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องความบาง งานประกอบ และที่สำคัญคือระบบเสียงระดับ Hi-Fi ที่หาได้ไม่ง่ายนักในสมาร์ทโฟน vivo X3S จึงอาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักฟังเพลง แต่ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องการฟังเพลง เรามาดูตัวเครื่องโดยรวมกันก่อนครับ
Design
เมื่อจับ vivo X3S ครั้งแรก ความรู้สึกที่สัมผัสได้ก็คือตัวเครื่องนั้นบางและเบามากๆ งานประกอบก็ดูแน่นหนาดี เรียกว่าเป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับตอนที่ได้สัมผัสเครื่องระดับไฮเอนด์หลายๆ ตัวเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ ส่วนเรื่องความเบานั้น ให้ความรู้สึกเดียวกับตอนที่ได้จับ iPhone 5 ครั้งแรกเลยทีเดียว จัดว่า vivo X3S เป็นมือถือจากจีนอีกหนึ่งแบรนด์ที่สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับคำว่า “มือถือจีน” ได้อีกเยอะเลย
ถ้ามองจากหน้าตา ต้องบอกว่า vivo X3S ก็ไม่ได้ดูโดดเด่น หรือมีจุดสังเกตอะไรที่แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นในตลาดตอนนี้เท่าไรนัก แต่ถ้าเปิดหน้าจอขึ้นมาทีไร รับรองว่าเห็นความแตกต่างแน่นอนครับ ด้วยสีสัน รายละเอียดภาพที่ต้องบอกว่าสวยงามดูดีมาก และเมื่อลองไปค้นหาข้อมูลดู พบว่า vivo X3S เลือกใช้พาเนลแค่ TFT เท่านั้นเอง !! เพราะจากสายตา ต้องบอกว่าภาพดูสวย สีสันคมชัดในระดับเดียวกับจอ IPS ในหลายๆ เครื่อง (เผลอๆ สีสวยกว่าจอ IPS บางตัวด้วยซ้ำไป) มุมมองด้านกว้างก็จัดว่าออกมาดี นับว่าเป็นจุดหนึ่งที่ทำผมอึ้งไปเลย ส่วนเรื่องความละเอียดก็ให้มาในระดับ HD 720p ที่กำลังพอดีๆ กับการใช้งานจริงจัง เนื่องด้วยเป็นจอที่ให้ความคมชัดกำลังดี ไม่กินแบตมากนัก แถมเมื่อมาดูบนจอ vivo X3S ก็ยิ่งดูสวยงามเข้าไปใหญ่ เนื่องด้วยโทนสีของไอคอน วอลล์เปเปอร์ที่เลือกใช้ จัดว่าอยู่ในระดับที่พอดีๆ กำลังสวยงาม นับว่าฉลาดในการเลือกภาพและโทนสีเลยทีเดียว
ด้านความสว่างของจอ ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคครับ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ ตัวเครื่องก็มีระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติมาให้ในตัว ส่วนใหญ่ก็สามารถใช้งานได้ดี จะมีบางครั้งเท่านั้นที่ปรับออกมาเพี้ยน มืดกว่าที่ควรจะเป็นนิดหน่อย แต่ก็สามารถปรับจากแถบ quick settings ได้ไม่ยากนัก
ส่วนของปุ่มสั่งงานทั้งสามก็ให้มาในระยะที่พอดี ประกอบกับตัวเครื่องที่บาง ทำให้สามารถเอื้อมนิ้วหัวแม่มือมากดได้ไม่ยาก
ความไหลลื่นของการทำงานก็ทำได้ดี สามารถเปิดใช้งานแอพ สลับแอพ โหลดข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็วอย่างที่ Android ควรจะเป็น ส่วนหนึ่งน่าจะเนื่องมาจากการปรับแต่งระบบของ FuntouchOS ที่ทำออกมาได้ดี เท่าที่ผมใช้มาก็ไม่พบปัญหาแอพเด้ง แอพค้างนะ ใช้งานได้ลื่นๆ เลย รองรับการใช้งาน 2 ซิม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแยกเบอร์ติดต่อ หรือจะให้เบอร์หนึ่งเป็นเบอร์สำหรับโทรอย่างเดียว อีกเบอร์หนึ่งเป็นเบอร์สำหรับใช้เน็ตก็ได้สบายๆ เลย แต่จะรองรับ 3G เฉพาะความถี่ 900 และ 2100 MHz เท่านั้น
พลิกมาด้านหลังเครื่อง พบว่าดีไซน์อาจจะดูคุ้นๆ ตาเล็กน้อย วัสดุหลักจะเป็นพลาสติกที่ให้สัมผัสใกล้เคียงอะลูมิเนียม ทำให้ดูแข็งแรง ประกอบกับตัวเครื่องที่บาง แน่นหนา ทำให้ vivo X3S ดูเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมได้พอตัวเลยทีเดียว แต่ก็เนื่องด้วยตัวเครื่องที่บาง ทำให้โมดูลกล้องหลังนูนออกมาจากฝาหลังทั้งแผ่นซักหน่อย แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าใช้ๆ แล้วจะเผลอเอากล้องหลังไปฟาดอะไรเข้า เนื่องจากเคสที่แถมมาในกล่องของ vivo X3S จะมีขนาดที่พอดีกับตัวเครื่อง และมีการเว้นช่องสำหรับกล้องหลังไว้ให้โดยเฉพาะ ทำให้กล้องหลังไม่นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังอีกต่อไป แต่ตัวเคสอาจจะบางไปซักหน่อยนะครับ ตัวเคสจะสูงกว่าขอบเครื่องขึ้นมานิดเดียวเท่านั้น
ด้านของปุ่มกดและพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านข้างเครื่อง (ฝาหลังไม่สามารถแกะได้) โดยฝั่งซ้ายจะมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงและปุ่ม Power ส่วนฝั่งขวามีแค่ถาดใส่ซิมอยู่ภายใน โดยซิม 1 จะเป็นไมโครซิม ส่วนซิม 2 เป็นนาโนซิม สามารถตั้งค่าให้ซิมไหนเป็นซิมใช้งาน 3G ก็ได้ (ได้ทีละซิม) ด้านบนมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างมีพอร์ต Micro USB สำหรับชาร์จไฟ
ส่วนอุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องก็จะพบกับเหล่าอุปกรณ์พื้นฐานคืออะแดปเตอร์ชาร์จไฟ,?สาย Micro USB, หูฟังแบบ In-Ear, เอกสารคู่มือภาษาไทย, เข็มจิ้มถาดใส่ซิม นอกจากนี้ยังแถมเคสมาให้ในกล่องเลยด้วย ทำให้ไม่ต้องไปเดินหาซื้อในภายหลัง สำหรับใครที่สงสัยว่าถ้าเครื่องมีปัญหาจะติดต่อได้ที่ไหน ก็ตามนี้เลยครับ
บ้านเลขที่ 729/117-121 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. เบอร์ติดต่อ 02-2943111
ปิดท้ายด้วยแกลเลอรี่รวมภาพถ่ายตัวเครื่อง vivo X3S กันซักหน่อย
Software
หน้าตาของ FuntouchOS ก็จะมาในโทนสีสันสดใส ดูสว่างๆ แต่ก็ไม่สดจนปวดตาเกินไป ธีมรวมๆ ก็จะคล้าย กับกลุ่มของ MIUI ที่หลายท่านคงจะคุ้นเคยกันดี ลักษณะของการวางเมนู เรียกว่าค่อนข้างคล้ายคลึงกับ ColorOS ของ OPPO อยู่พอสมควร ส่วนตัวคอร์ระบบปฏิบัติการก็จะใช้เป็น Android 4.2.2 Jelly Bean ซึ่งถ้าดูจากสเปค ก็น่าจะได้รับการอัพเดตเวอร์ชันในอนาคตด้วย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทาง vivo ด้วยว่าจะปล่อยอัพเดตออกมาให้ตอนไหน ส่วนเนื้อที่เก็บข้อมูลจากทั้งหมด 16 GB จะเหลือให้ใช้งานได้จริงราวๆ 12 GB ด้วยกัน ซึ่งก็เพียงพอนะ สำหรับการลงแอพลงเกม แต่ถ้าใครจะเน้นถ่ายรูปหนักๆ รวมถึงลงเพลงความละเอียดสูงๆ ไฟล์คุณภาพดีหน่อย อันนี้คงต้องจัดสรรพื้นที่กันดีๆ หน่อยครับ เพราะ vivo X3S ไม่สามารเพิ่มหน่วยความจำด้วย MicroSD ได้ จุดนี้นับว่าน่าเสียดายมาก เพราะคอเพลงที่อยากฟังเพลงเพราะๆ บน vivo X3S น่าจะสะดวกกับการถ่ายโอนเพลงผ่านทาง MicroSD มากกว่า
ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ของ vivo X3S ที่น่าสนใจก็เช่น
Timing Task
ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งเวลาเปิด/ปิดเครื่องอัตโนมัติได้ รวมถึงการตั้งเวลาเพื่อเปิดการแจ้งเตอนในแบบสั่นแต่เพียงอย่างเดียว หรือถ้าอยากตัดความรำคาญ ก็สามารถตั้งเวลาเพื่อตัดการเชื่อมต่อได้ด้วย
Smart Motion
เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานเครื่องโดยไม่ต้องแตะหน้าจอได้ ที่เด่นๆ ก็คือสามารถสั่งงานด้วยการโบกมือเหนือหน้าจอคล้ายๆ กับฟีเจอร์ Air Gestures ของ Samsung ได้ด้วย เช่นสามารถโบกเปลี่ยนหน้าโฮม, โบกเพื่อเปลี่ยนเพลง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การวาดหน้าจอในระหว่างปิดหน้าจออยู่ เพื่อเปิดใช้งานแอพที่ต้องการได้ด้วย เช่นวาดเป็นตัว C เพื่อโทรออก, วาดตัว e เพื่อเปิดเว็บเบราเซอร์, วาดตัว M เพื่อเปิดแอพเพลง, ลากนิ้วขึ้นด้านบนเพื่อปลดล็อกจอได้โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
i Manager
ตัวนี้จะเป็นแอพศูนย์กลางช่วยจัดการระบบต่างๆ ในเครื่อง เช่นช่วยล้างไฟล์ขยะส่วนเกิน, ตรวจสอบการใช้งาน 3G, จัดการการใช้พลังงานแบตเตอรี่ รวมถึงสามารถใช้จัดการระบบรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้อีกด้วย เป็นแอพหนึ่งที่ครบเครื่องมากทีเดียว
โหมดประหยัดพลังงาน
อันนี้เรียกว่าเป็นเทรนด์ยอดนิยมของสมาร์ทโฟนในช่วงหลังมาเลยทีเดียว ที่มักจะมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้โดยเฉพาะ เพื่อทำให้สามารถใช้งานในนาทีฉุกเฉินได้นานขึ้น เช่นอาจจะต้องสแตนด์บายเครื่องรอไว้ เผื่อมีคนโทรศัพท์เข้ามา โดยโหมดประหยัดพลังงานของ vivo X3S จะตัดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทั้ง 3G และ WiFi ทั้งหมด เหลือให้ใช้งานแค่โทรศัพท์, รับส่งข้อความ, ดูเบอร์ติดต่อและดูนาฬิกาเท่านั้น เรียกว่าตัดส่วนที่กินพลังงานหนักๆ ออกไปทั้งหมด ช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
Feature
ฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นที่สุดของ vivo X3S คงหนีไม่พ้นด้านเสียง ที่มาพร้อมชิป DAC และระบบเสียง Hi-Fi ในตัว เราจึงคาดหวังว่าน่าจะได้เห็นฟังก์ชันด้านเสียงที่จัดเต็มกว่าในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ซึ่ง vivo ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังครับ
หน้าแอพฟังเพลงก็เรียกว่าไม่มีอะไรเด่นเท่าไร มีฟังก์ชันการเล่นเพลงแบบทั่วๆ ไป แต่ของดีมันซ่อนอยู่ในเมนูครับ นั่นคือส่วนของ Audio effect ที่สามารถเปิดใช้งาน effect และปรับแต่เสียงได้ตามต้องการ โดยจะมีการปรับแต่งอยู่ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ Hi-Fi และกลุ่มของ SRS/BBE ซึ่งถ้าเปิดใช้งาน Hi-Fi ก็จะทำให้เสียงโดยรวมออกมาใสขึ้น ขับออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วน SRS จะเน้นไปที่การจำลองเสียงรอบทิศทางและโทนเสียงอื่นๆ แบบที่ไม่ซับซ้อนมากนัก (ภาพที่ 3) แต่ถ้าหากใครต้องการปรับแต่งเสียงให้ได้ดั่งใจที่สุดก็ให้เลือกไปที่โหมด BBE กันไปเลย (โหมด SRS กับ BBE ไม่สามารถเปิดพร้อมกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) โดยตัวโหมด BBE ในภาพที่ 4 จะเห็นได้ว่าสามารถปรับแต่ง effect ได้หลากหลายมากๆ ทั้งเรื่องของสเตจ, เบส, เสียงโทน treble ทั้งหลาย ซึ่งใน vivo X3S ก็จะมีโปรไฟล์สำหรับหูฟังบางรุ่น ซึ่งผ่านการจูนมาให้เหมาะกับตัวหูฟังด้วย แต่จะมีแค่ไม่กี่รุ่นครับ เช่นหูฟัง vivo XE600 ที่แถมมากับเครื่อง, AKG K420, Sennheiser อีกสองรุ่น (ผมจำชื่อรุ่นไม่ได้) แต่ก็จะมีโปรไฟล์แบบกลางๆ ที่ผู้ใช้สามารถเลือกและปรับเสียงได้ตามใจชอบ ใครชอบโทนไหนก็แตะๆ หมุนๆ กันได้เลย ปิดท้ายด้วยภาพที่ 5 ซึ่งเป็นโหมดสำหรับทดสอบระบบจำลองเสียงรอบทิศทาง เท่าที่ลองฟังดู พบว่าระบบเสียงของ vivo X3S สามารถจำลองทิศทางออกมาได้ดีทีเดียว ขนาดหูฟังที่ซาวด์สเตจไม่กว้างมาก ยังสามารถแยกทิศทางได้ดีขึ้นมาก
ส่วนคุณภาพเสียง ต้องยกนิ้วให้ vivo X3S เลยทีเดียว เพราะเสียงธรรมดาที่ยังไม่ได้ปรับแต่งซอฟต์แวร์ ก็ออกมาดีอยู่แล้ว ยิ่งได้ปรับเสียงเป็นโทนที่ตนเองชอบ ก็ยิ่งยอดเยี่ยมเข้าไปอีก นับเป็นสมาร์ทโฟนที่ยืดหยุ่นในเรื่องการปรับแต่งเสียงมากจริงๆ ใครชอบเบสก็จัดได้สุด ใครชอบรายละเอียดเสียงก็ทำได้ดี คุณภาพเสียงโดยรวมเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ในปัจจุบันได้สบาย และถ้าเอาเรื่องระบบการปรับแต่งเข้าไปเทียบอีก ต้องเรียกว่าเหนือกว่ามือถือไฮเอนด์ได้อย่างสบายๆ
จะมีจุดบอดก็แค่เรื่องหน่วยความจำเท่านั้นเอง เพราะรอมในตัวเครื่องมีขนาดแค่ 16 GB เท่านั้น แถมยังไม่สามารถเพิ่มขนาดด้วย MicroSD ได้ด้วย ทำให้ทั้งเรื่องความจุจะค่อนข้างเป็นปัญหา อีกทั้งการโอนถ่ายเพลงก็ไม่ค่อยสะดวกซักเท่าไหร่ อันนี้ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดของ vivo X3S กันไปนะครับ
Camera
มาดูเรื่องกล้องถ่ายรูปกันบ้าง กล้องหลังของ vivo X3S มีความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD ซึ่งถือเป็นมาตรฐานการไปแล้วในสมาร์ทโฟน อินเตอร์เฟสก็ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือโหมด Pose ครับ โดยเมื่อเลือกใช้งานโหมดนี้ ตัวแอพก็จะมีเส้นร่างเพื่อให้ตัวแบบเราโพสตามเส้นร่าง ซึ่งภาพที่ออกมาก็จะได้สัดส่วนพอดี ดูสวยงาม มีทั้งท่าโพสแบบผู้ชาย, ผู้หญิง, รูปคู่ รวมไปถึงรูปหมู่ด้วย ใครที่ชอบถ่ายรูปเพื่อน แฟนคงจะชอบมากทีเดียว เพราะช่วยให้เราได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุดได้อย่างง่ายดาย
ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง vivo X3S นะครับ รับชมกันได้เลย
Performance
ส่วนเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน vivo X3S ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่โอเค ใช้งานได้สบายๆ ด้วยชิปประมวลผล 8 คอร์ รองรับการทำงานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเล่นเน็ต เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือจะเล่นเกมก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหา ชิปกราฟิกแรงเหลือเฟือสำหรับการเรนเดอร์ 3D ในเกม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมือถือที่ครบเครื่องในด้านการทำงานอีกรุ่นในปัจจุบันเลยทีเดียว
ส่วนระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ถ้าใช้งานทั่วไปก็เกินวันได้แบบสบายๆ (เปิด 3G ทั้งวัน) ส่วนการสแตนด์บาย ผมเคยเปิดเครื่องทิ้งไว้ติดต่อกันร่วม 4 วัน แบตยังเหลืออยู่นิดหน่อยเลย อึดใช้ได้ทีเดียวกับ vivo X3S ตัวนี้
Overall
ก็เรียบร้อยแล้วนะครับ กับรีวิว vivo X3S อีกหนึ่งมือถือที่น่าสนใจมากในช่วงราคาหมื่นต้นๆ เนื่องด้วยงานประกอบระดับคุณภาพ ตัวเครื่องที่บางเบา จับถือพกพาสะดวก ทั้งยังพ่วงมาด้วยหน้าจอที่สีสันสวยงามเกินหน้าเกินตาจอ IPS หลายๆ รุ่นในตลาด แถมติดตั้งชิป DAC และระบบเสียง Hi-Fi มาอีก ใครที่ต้องการมือถือมาเพื่อฟังเพลงแบบเน้นๆ vivo X3S ก็น่าสนใจเลยทีเดียว แต่ถ้าสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนมาใช้งานทั่วไป ก็อาจจะมองว่าราคา 12,990 บาทนี้ดูสูงเกินไปหน่อย เพราะราคาในระดับนี้สามารถซื้อเครื่องอินเตอร์แบรนด์ยอดนิยมได้หลายรุ่นเลยทีเดียว หรือจะเป็นแบรนด์จีนด้วยกัน ก็มีรุ่นที่สเปคสูงกว่าในราคาไม่แรงมากให้เลือกในตลาดด้วยเหมือนกัน (เช่น Xiaomi Mi3)
ส่วนถ้าใครอยากได้มือถือบางๆ เบาๆ พกพาง่าย เสียงแจ่ม รับรองว่า vivo X3S สามารถตอบสนองความต้องการได้แน่นอน แต่อาจจะยังหาร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยากซักหน่อย เนื่องจากเพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทยได้ไม่นาน เท่าที่ผมเจอก็ที่มาบุญครอง อันนี้มีแน่นอนครับ ลองไปเล่นไปชมไปซื้อหากันได้
ข้อดี
- จอสวย ภาพชัด มุมมองกว้างดี ทั้งๆ ที่เป็นแค่พาเนล TFT
- ตัวเครื่องบาง เบามาก งานประกอบดี
- มีชิปแปลงสัญญาณ ?(DAC) ในตัว รองรับระบบเสียง Hi-Fi ซึ่งเสียงก็ดีจริง
- ตัวเครื่องทำงานได้ไหลลื่น ไม่มีสะดุด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องไม่รองรับ MicroSD
- ช่วงแรกๆ อาจหาซื้อ หาลองเครื่องยาก