[Review] vivo V3 มือถือบอดี้โลหะสุดแกร่ง พร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในราคา 8,990 บาท

หากพูดถึงแบรนด์  vivo เชื่อว่าในตอนนี้คงน้อยคนที่จะไม่รู้จัก vivo ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เติบโตและเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น จุดเด่นของมือถือ vivo นั้นจะเป็นเรื่องของความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสเปคมือถือแล้ว ยังรวมถึงของแถมต่างๆ ที่ทางค่ายแถมให้อย่างจุใจอีกด้วย และนอกจากนี้สิ่งที่ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีนั่นคือบูธของ vivo ภายในงาน Thailand Mobile Expo ที่รู้สึกได้ว่ามีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการปรากฎตัวในภาพยนตร์ดังระดับโลกอย่าง Captain America : Civil War ก็เป็นเครื่องที่ช่วยชี้ให้เห็นถึงชื่อเสียงของ vivo ที่เพิ่มได้เป็นอย่างดี

ในวันนี้ผมจะมารีวิวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอีกหนึ่งรุ่นที่ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมือถือรุ่นที่ว่านี้ก็คือ vivo V3 มือถือที่มาพร้อมกับความพรีเมียมในด้านของดีไซน์การออกแบบ รวมถึงฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับการใช้งานในแต่ละวัน และจะมีอะไรบ้างที่น่าสนใจใน vivo V3  ไปติดตามกันได้เลยครับ

สเปคของ vivo V3

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5 นิ้วความละเอียดแบบ HD
  • ซีพียู Snapdragon 616 แบบ Octa core ความเร็ว 1.5 GHz
  • แรม 3 GB
  • หน่วยความจำภายใน 32 GB (รองรับการใช้งาน Micro SD สูงสุด 128 GB)
  • กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ 2,550 mAh
  • รองรับการใช้งาน 3G | 4G ทุกเครือข่าย
  • รองรับการใช้งานเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • ราคา 8,990 บาท
  • สเปคแบบเต็มของ vivo V3

กล่องของ vivo V3 จะมาในแบบเรียบง่าย เน้นสีขาวเหมือนเช่นเคย ตัวกล่องนั้นมีขนาดกระทัดรัตแข็งแรงดีทีเดียว เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับ vivo V3 ซึ่งเครื่องที่ทางทีมงานของเราได้มารีวิวนั้นจะเป็นรุ่นสีทอง และภายในกล่องจะมีอุปกรณ์พื้นฐานให้เราได้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ สาย Micro USB ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และที่น่าสนใจนั่นคือภายในกล่องยังมีเคส TPU กันรอยตัวเครื่องแบบใส และหูฟังขนาด 3.5 มม. แบบ Earbuds และเข็มจิ้มสำหรับใส่ซิมและ Micro SD ใส่มาให้อีกด้วย ก็ถือว่าแถมของที่จำเป็นในการใช้งานมาให้อย่างครบครันเหมือนเคย

จุดเด่น

– ดีไซน์พรีเมี่ยม วัสดุเป็นโลหะ
– มีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ครบครัน
– รองรับใช้งาน 3G/4G LTE
– มาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– มีระบบเสียง Hi-Fi
– กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซลถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ
– มีฟีเจอร์ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง

ข้อสังเกต

– ตัวเครื่องหนา
– หน้าจอคมชัดระดับ HD
– แบตเตอรี่ยังจัดว่าน้ออยเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ
– ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่เร็ว
– ยังมีมือถือสเปคสูงกว่าในราคาใกล้เคียง

บทสรุป

สรุปว่า vivo V3 เป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสความพรีเมี่ยมในช่วงราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท และอยากได้มือถือที่พกพาได้ง่าย และเน้นความแข็งแรงเป็นพิเศษ vivo V3 จัดว่าเป็นมือถือที่สามารถตอบโจทย์ในส่วนนั้นได้เป็นอย่างดีแต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อสังเกตที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเลย ซึ่งหนึ่งในข้อสังเกตที่ว่าก็คือความหนาของตัวเครื่องที่บางคนอาจจะมองว่าตัวเครื่องหนาเกินไป ทุกวันนี้มีมือถือบอดี้โลหะจากแบรนด์อื่นมากมายที่ออกแบบตัวเครื่องได้บางกว่า อีกทั้งหน้าจอก็ยังอยู่ในเกณฑ์ HD เท่านั้นซึ่งเมื่อเทียบกับแบรนด์มือถือเจ้าอื่นบางค่ายที่ให้หน้าจอ Full HD กับมือถือช่วงราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท อีกทั้งยังเรื่องของแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุเพียง 2,550 mAh และไม่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบเร็ว ทำให้การเพิ่มเงินเพื่อซื้อ vivo V3Max เป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าใช้งานแค่เล่นเกมนิดหน่อย เน้นเล่นแค่โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คธรรมดาทั่วไป กับการถ่ายภาพ vivo V3 ก็จดว่าเป็นมือถือที่ตอบโจทย์ได้ดีมากรุ่นหนึ่งเลย
Editor : Nookies
85
BEST PRICE

Design

Review-vivo-V3-SpecPhone-00013

“vivo V3 โดดเด่นด้วยดีไซน์บอดี้โลหะสุดพรีเมี่ยม หน้าจอคมชัด สีสันสดใส ไมแพ้พี่ใหญ่อย่าง vivo V3 Max “
Review-vivo-V3-SpecPhone-00005
Review-vivo-V3-SpecPhone-00011

และมาพูดถึงส่วนแรกนั่นคือเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องกันเลย vivo V3 มาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องที่ทำจากโลหะ เช่นเดียวกับ vivo V3Max ทุกประการ โดยรุ่นนี้ถ้าไม่นับในส่วนของตัวเครื่องด้านหน้าจะไม่มีพลาสติกเป็นส่วนประกอบเลย ต่างจากมือถือรุ่นก่อนๆ ที่ยังใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก ด้านหน้าตัวเครืองของ vivo v3 จะประกอบด้วยหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5 นิ้วความละเอียดระดับ HD เรื่องของการแสดงผลก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม

สีสันของหน้าจอนั้นสดใสตามแบบฉบับของหน้าจอ IPS ความคมชัดของหน้าจอนั้นก็คมชัดตามสไตล์ความละเอียดแบบ HD หน้าจอของ vivo V3 นั้นสู้แสงแดดได้ดีพอสมควรเมื่อปรับแสงสว่างสุงสุดก็พบว่าสามารถใช้งานกลางแดดได้อย่างไม่มีปัญหา ด้านบนของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายภาพความละเอียดขนาด 8 ล้านพิกเซลลำโพงสนทนาตัวเครื่อง และนอกจากนี้จะมีเซนเซอร์ที่ช่วยวัดสภาพแสงเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอให้พอเหมาะในการใช้งาน และที่สังเกตได้นั่นคือจะมีโลโก้ของ vivo อยู่ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องอีกด้วย

ด้านล่างของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของปุ่ม Navigation ที่ใช้ควบคุมการทำงานของตัวเครื่อง แต่ผมแอบสังเกตว่าไม่มีไฟ LED ใส่มาให้จึงอาจจะต้องอาศัยความเคยชินในกรณีที่ต้องใช้งานเวลากลางคืน สิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างนั่นคือถึงแม้ว่าตัวเครื่องด้านหน้าของ vivo V3 จะทำจากพลาสติกแต่ทาง vivo ได้ใส่กระจกแบบ 2.5D เข้ามาที่ด้านหน้าของตัวเครื่องเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับหน้าจอและยังทำให้ตัวเครื่องมีความพรีเมี่ยมมากขึ้นอีกด้วย

ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และตรงนี้เองที่ทาง vivo ได้ใส่ช่องใส่ Micro SD เข้ามาที่ส่วนนี้ ซึ่งตามปกติแล้วมาือถือในยุคปัจจุบันมักจะนำช่องใส่ Micro SD ไปรวมไว้กับถาดใสซิมทำให้เราต้องเลือกว่าจะใช้งานซิมการ์ดหรือจะใช้งาน Micro SD แต่ทาง vivo ได้พัฒนาข้อจำกัดที่มีในมือถือหลายๆ รุ่นให้หมดไปใน vivo V3 จนทำให้ vivo V3 เป็นมือถือที่สามารถใช้งานได้ 2 ซิมพร้อมๆ กับ Micro SD ได้ทันที

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของช่องใส่ซิมการ์ดที่สามารถใส่ได้ 2 ซิมด้วยกัน โดยซิมแรกจะเป็นซิมแบบ Micro SIM และซิมที่ 2 จะเป็นซิมแบบ Nano SIM และที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มควบคุมระดับเสียงและปุ่ม Power ที่ใช้ควบคุมการเปิด/ปิดเครื่อง

Review vivo V3 SpecPhone 00009

Review-vivo-V3-SpecPhone-00007
Review vivo V3 SpecPhone 00006

ด้านล่างตัวเครื่อง vivo V3 จะเป็นลำโพงของตัวเครื่อง ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องเสียบสาย Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งน่าเสียดายที่ vivo V3 นั้นไม่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไวซึ่งเป็นความสามารถที่มีอยู่ใน vivo V3Max มาถึงส่วนมชที่เป็นไฮไลท์ของ vivo V3 นั่นคือบริเวณด้านหลังตัวเครื่อง vivo V3 มาพร้อมฝาหลังแบบโลหะอย่างชัดเจน ผิวของโลหะนั้นมีการขัดและเคลือบสารพิเศษให้ความรู้สึกนุ่มมือเมื่อได้สัมผัส

ด้านบนของด้านหลังจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายภาพที่มาในความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมด้วยแฟลชแบบ LED  ถัดจากกล้องลงมาจะเห็นได้ว่ามีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใส่มาให้เราได้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดขายอักหนึ่งอย่างที่ทำให้ vivo V3 เป็นมือถือที่น่าสนใจ และที่ตรงกลางของด้านหลังจะเป็นโลโก้ vivo โดดเด่นเหมือนเช่นเคย

ในแง่ของการพกพา vivo V3 จัดว่าเป็นมือถือที่มีความหนาต่างจากมือถือรุ่นอื่นในยุคปัจจุบันนี้ที่เน้นในเรื่องของความบางเป็นส่วนใหญ่ และด้วยความหนาผสมผสานเข้ากับดีไซน์แบบโลหะ ทำให้รู้สึกได้ถึงความแข็งแรงอย่างชัดเจน และด้วยความที่หน้าจอของ vivo V3 นั้นมีขนาดเพียง 5 นิ้วจึงทำให้การจับถือนั้นทำได้อย่างถนัดมือ อีกทั้งยังสามารถใส่กระเป๋ากางเกงเดินไปตามที่ต่างๆ ได้อย่างสบาย จัดว่าเป็นมือถือที่พกพาง่ายอีกหนึ่งเครื่องเลย

เมื่อเทียบกับรุ่นใหญ่อย่าง vivo V3 Max แล้วถือว่าตัวเครื่องของ vivo V3 นั้นเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบายในการพกพาที่มากกว่า ในเรื่องของวัสดุที่ใช้ประกอบตัวเครื่องของทั้งสองรุ่นนั้นเป็นวัสดุชนิดเดียวกัน จึงส่งผลให้ถึงแม้ว่าสเปคตัวเครื่องของ vivo V3 จะต่ำกว่าแต่ความพรีเมี่ยมในแง่ของดีไซน์นั้นกลับเท่าเทียมอย่างลงตัว จนแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าสองรุ่นนี้มีราคาต่างกันถึง 4,000 บาท เรียกว่าออกแบบมาได้ดีมาก

Review-vivo-V3-SpecPhone-00010

Software

Review-vivo-V3-SpecPhone-00002

Screenshot_25590521_215435-horz

มาต่อกันที่เรื่องของซอฟท์แวร์บ้าง vivo V3 มาพร้อมกับ Funtouch OS ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฎิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งจุดเด่นของ Funtouch OS นั่นคือเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งาน พร้อมกับฟีเจอร์ในการจัดการส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องอย่างชาญฉลาด อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องยกนิ้วให้ทาง vivo นั่นคือเรื่องของแอพ Bloatware ที่แทบจะไม่มีติดเครื่องมาให้รู้สึกหงุดหงิดใจ หรือต้องมาเสียเวลาคอยนั่งลบแอพที่ไม่ได้ใช้งานออก โดยแอพที่ติดเครื่องจะก็จะมีแอพจาก Google  อย่างเช่น Google , Google Chrome , Google Drive , YouTube , Maps , Gmail เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีเพียงแอพ Facebook , Line , WeChat , Whatsapp และ WPS Office เท่านั้นที่ติดเครื่องมา หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 32 GB นั้นก็เหลือให้เราได้ใช้งานจริงราว 23 GB ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป และหากต้องการเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ vivo V3 ยังรองรับการใช้งาน Micro SD ได้สูงสุดถึง 128 GB อีกด้วย และเท่าที่ผมได้ลองทดสอบก็ไม่พบกับอาการรวนหรือซอฟท์แวร์เอ๋อแต่อย่างใด เรียกว่าในด้านของซอฟท์แวร์ระบบ vivo ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนเช่นเคย

Feature

Review-vivo-V3-SpecPhone-00008มาถึงเรื่องฟีเจอร์หรือลูกเล่นกันบ้าง vivo V3 มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นด้านซอฟท์แวร์หรือจะเป็นในด้านของฮาร์ดแวร์ทาง vivo ได้จับฟีเจอร์เด็ดๆ มาอัดลงใน vivo อย่างจุใจ ซึ่งฟีเจอร์แต่ละอย่างนั้นเรียกว่าน่าสนใจ และ เป็นประโยชน์ในการมือถือในแต่ละวันเป็นอย่างมาก และมาดูกันว่าฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน vivo V3 นั้นมีอะไรบ้าง

Hi-Fi 

 

Screenshot_25590521_132757-horz

ระบบเสียงแบบ Hi-Fi เป็นฟีเจอร์แรกที่ต้องพูดถึง vivo V3 มาพร้อมกับชิพประมวลด้านระบบเสียง AK4375 ซึ่งทาง Vivo ได้จับมือร่วมกับ Asahi Kasei Microdevices Corporation บริษัทชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของคุณภาพเสียงให้ดีกว่ามือถือทั่วไป โดยระบบเสียง Hi-Fi นั้นถือเป็นจุดขายของแบรนด์ vivo ซึ่งจะเห็นได้ว่ามือถือเกือบจะทุกรุ่นของ vivo ล้วนมาพร้อมกับระบบเสียงแบบ Hi-Fi ทั้งสิ้น และวิธีเปิดใช้งาน Hi-Fi นั้นก็ง่ายมากเลย เพียงแค่เราเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. เข้าไปกับตัวเครื่องเท่านั้นระบบก็จะเปิดใช้งาน Hi-Fi โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเปิดเพลง หรือดูวีดีโอจาก YouTube ซึ่งจุดเด่นของระบบเสียงแบบ Hi-Fi ที่นอกจากจะมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าแล้วยังสามารถปรับแต่งย่านต่างๆได้อย่างหลากหลาย และนอกจากนี้ยังมีโปรไฟล์เสียงของหูฟังยี่ห้อดังอย่าง BOSE , Beyerdynamic , Sennheiser , AKG ให้เราเลือกใช้งานอีกด้วย เสียงที่ออกมานั้นกังวาน สดใส และหนักแน่นกว่าการฟังเพลงในโหมดธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าเป็นจุดสนใจสำหรับคนที่ชอบเสียงเพลง vivo V3 เป็นมือถือที่ฟังเพลงเพราะอีกหนึ่งรุ่นเลยล่ะครับ

โหมดการใช้งานอัจฉริยะ

 

Screenshot_25590521_134127-horz

ฟีเจอร์ถัดมาได้แก่โหมดใช้งานอัจฉริยะที่จะทำให้การใช้งาน vivo V3 นั้นทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยหลักการทำงานในโหมดนี้จะเป็นการทำงานแบบ Touch Gesture เสียเป็นส่วนใหญ่ จุดเด่นก็คือเราสามารถสั่งการทำงานตัวเครื่องได้โดยที่เราไม่ต้องปลดล็อคตัวเครื่องให้วุ่นวาย ยกตัวอย่างเช่นตั้งค่าให้วาอนิ้วมือขึ้นเพื่อปลดล็อคตัวเครื่อง หรือวาด m เพื่อเปิดแอพเล่นเพลง วาด f เพื่อเปิดใช้งาน Facebook เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เปิด/ปิดหน้าจอโดยอัตโนมัติ โดยการตั้งค่าให้แตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิด/ปิดหน้าจอซึ่งจะเป็นการช่วยถนอมปุ่ม Home ให้ใช้งานได้อย่างยาวนานไปในตัว หรือจะเป็นตั้งค่าให้หน้าจอสว่างขึ้นทันทีเมื่อนำออกจากกระเป๋าก็เป็นฟีเจอร์ที่ถือว่ามีประโยชน์อีกเช่นกัน

 

 i-Manager

 

Screenshot_25590521_134416-horz

และก็มาถึงฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของมือถือจาก vivo นั่นคือฟีเจอร์ i-Manager ที่จะช่วยในเรื่องของการจัดกานสัวนต่างๆ ของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน่วยความจำ หรือจะเป็นการจัดการแอปพลิเคชั่น รวมไปถึงการจัดการในด้านพลังงาน รวมกันเอาไว้ใน i-Manager เพียงที่เดียว ซึ่งข้อดีก็คือเราจะไม่ต้องไปดาวน์โหลดแอพจัดการตัวเครื่องใดๆเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก ไมว่าจะย้ายแอปพลิเคชั่น ถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่น ปรับแต่งการทำงานของซีพียู ตรวจสอบการใช้ข้อมูล 3G |4G ก็สามารถทำได้ใน i-Manager เพียงที่เดียว

 

Fingerprint Scanner 

 

Screenshot_25590521_134243-horz

และฟีเจอร์สุดท้ายที่น่าสนใจใน vivo V3 นั้นก็ได้แก่ เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคตัวเครื่อง ซึ่งที่ด้านหลังตัวเครื่องจะเห็นได้ว่ามีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่สิ่งที่น่าสนใจนั่นคือเซนเซอร์สแกนลายบนิ้วมือของ vivo V3 นั้นสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แค่เพียงเราแตะนิ้วเบาๆ ลง ไปตัวเครื่อง vivo V3 ก็จะเปิดหน้าจอขึ้นมาและพร้อมให้เราใช้งานในทันที จัดว่าเป็นการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคตัวเครื่องที่ทำได้รวดเร็วมาก เมื่อเทียบกับราคาตัวเครื่องที่ไม่ถึง 10,000 บาทแล้วถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

Camera

Review-vivo-V3-SpecPhone-00014

และมาพูดถึงเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันบ้าง vivo V3 มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพความละเอียดขนาด 13 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับมือถือหลายๆ รุ่น ในยุคปัจจุบันนี้ UI ของกล้องถ่ายภาพนั้นทาง vivo ก็ดีไซน์มาให้ใช้วเลาไม่นานในการเรียนรู้โหมดถ่ายภาพแบบต่างๆ โดย vivo V3 มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพถึง 8 โหมดได้แก่  HDR , พาโนรามา , กลางคืน , PPT (โหมดถ่ายเอกสาร) , โหมดติดตามวัตถุ , มืออาชีพ , Slow Motion และ Timelapse และให้เราเลือกใช้งานกันอย่างครบครัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับลูกเล่นอย่างการใส่ฟิลเตอร์ และลายน้ำเข้าไปในภาพที่เราถ่ายออกมาได้อีกด้วย

ในส่วนของกล้องหน้าของ vivo V3 นั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กันด้วยความคมชัดขนาด 8 ล้านพิกเซลที่ถือได้ว่าเป็นความคมชัดที่กำลังพอเหมาะในการถ่ายภาพแบบ Selfie นั่นเองและกล้องหน้าของ vivo V3 ยังมาพร้อมกับโหมด Beauty ที่สามารถปรับระดับความเนียนของใบหน้าได้ตั้งแต่ 0-100 พร้อทกับความสามารถในการจำแนกเพศของผู้ถ่ายเพื่อปรับความฟรุ้งฟริ้งให้เหมาะกับเพศของผู้ใช้งานอีกด้วย และด้านล่างคือตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ vivo V3 ที่ผมได้ถ่ายมาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน

ภาพถ่ายจากกล้องของ vivo V3

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ vivo V3

Performance

Review-vivo-V3-SpecPhone-00012

และมาถึงเรื่องสุดท้ายนั่นคือเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของ vivo V3 ซึ่ง vivo V3 นั้นมาพร้อมกับชิพเซ็ท Snapdragon 616 แบบ Octa core ความเร็ว 1.5 GHz พร้อมด้วยแรมขนาด 3 GB ที่สามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล และเมื่อได้ทดสอบกับแอปทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่อง AnTuTu Benchmark ก็ต้องตกใจเล็กน้อยเนื่องจาก vivo V3  นั้นสามารถทำคะแนนได้เพียง 38,194 คะแนนเท่านั้นซึ่งถือว่าไม่สูงเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ทดสอบกับการเล่นเกมอย่างเช่น Marvel Future Fight ก็พบว่า vivo V3 นั้นสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลถึงแม้จะปรับระดับกราฟฟิคไว้ที่สูงสุดก็ยังสามารถเล่นได้ เกมธรรมดาอย่าง Subway Surfer ก็เล่นได้อย่างราบรื่นเช่นเดียวกัน เกมที่มีกราฟฟิคสูงกว่าอย่าง Unkilled ก็สามารถเล่นได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ผมได้ปรับโหมดประหยัดพลังงานของตัวเครื่องให้เน้นในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของซีพียูเป็นหลัก ซึ่งสามารถปรับได้ใน i-Manager

Screenshot_25590521_152007-vert-tile-vert

เมื่อพูดถึงเรื่องของประสิทธิภาพโดยรวมไปแล้วผมขอพูดถึงเรื่องที่น่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องนั่นคือเรื่องของหน่วยความจำภายใน vivo V3 มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB เหลือให้เราได้ใช้งานจริงราง 23 GB ซึ่งถ้าไม่ได้มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่น หรือ ไฟล์วีดีโอขนาดใหญ่ลงไปใฝนตัวเครื่องก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน แต่สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพก็อาจจะซื้อ Micro SD มาใช้งานเพิ่มเติมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำได้ แรมขนาด 3 GB ที่ให้มาก็เหลือให้ใช้งานจริงราว 2 GB  ถือว่าให้มาเยอะพอกับการใช่้งาน สรุปว่า vivo V3 เป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสความพรีเมี่ยมในช่วงราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท และอยากได้มือถือที่พกพาได้ง่าย และเน้นความแข็งแรงเป็นพิเศษ vivo V3 จัดว่าเป็นมือถือที่สามารถตอบโจทย์ในส่วนนั้นได้เป็นอย่างดี

Review-vivo-V3-SpecPhone-00004

แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อสังเกตที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเลย ซึ่งหนึ่งในข้อสังเกตที่ว่าก็คือความหนาของตัวเครื่องที่บางคนอาจจะมองว่าตัวเครื่องหนาเกินไป ทุกวันนี้มีมือถือบอดี้โลหะจากแบรนด์อื่นมากมายที่ออกแบบตัวเครื่องได้บางกว่า อีกทั้งหน้าจอก็ยังอยู่ในเกณฑ์ HD เท่านั้นซึ่งเมื่อเทียบกับแบรนด์มือถือเจ้าอื่นบางค่ายที่ให้หน้าจอ Full HD กับมือถือช่วงราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท อีกทั้งยังเรื่องของแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุเพียง 2,550 mAh และไม่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบเร็ว ทำให้การเพิ่มเงินเพื่อซื้อ vivo V3Max เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจาก vivo V3Max มาพร้อมกับซีพียู Snapdragon 652 ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับชิปเซ็ท Snapdragon 808 และแรงกว่าชิปเซ็ทที่ใช้งานใน vivo V3 อย่างเห็นได้ชัด แรมที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 GB บวกกับแบตเตอรี่ที่เพิ่มเป็นขนาด 3,000 mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่เร็ว พร้อมด้วยหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD โดยถ้านำจุดที่เหนือกว่าทั้งหมดนี้มารวมกันการเพิ่มเงินอีก 4,000 บาทเพื่อซื้อ vivo V3 Max จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก แต่ถ้าใช้งานแค่เล่นเกมนิดหน่อย เน้นเล่นแค่โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คธรรมดาทั่วไป กับการถ่ายภาพ vivo V3 ก็จัดว่าเป็นมือถือที่ตอบโจทย์ได้ดีมากรุ่นหนึ่งเลย

Gallery

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก