หากพูดถึงแท็บเล็ตแอนดรอย หลายท่านก็คงจะต้องนึกถึงแท็บเล็ตที่มีสเปคไม่แรงมาก ใช้งานได้แค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะส่วนมากอุปกรณ์พกพาระบบปฏิบัติการ Android นั้นจะเน้นไปที่มือถือมากกว่า แต่ก็มีแท็บเล็ตแอนดรอยที่สเปคแรงไม่แพ้มือถือ แถมยังดีไซน์ออกมาได้สวยงาม ตัวเครื่องบางเฉียบ และน้ำหนักเบามากจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว แถมยังใช้โทรออกได้อีกต่างหาก แท็บเล็ตที่ว่าก็คือ Sony Xperia Z2 Tablet แท็บเล็ตเรือธงจากค่ายอารยธรรม สำหรับตัวเครื่อง Sony Xperia Z2 Tablet จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 สีได้แก่สีขาว และสีดำ โดยเครื่องที่เรานำมารีวิวให้ชมกันนั้นเป็นเครื่องสีดำครับ และตามธรรมเนียมก่อนที่จะเข้าสู่การรีวิว Sony Xperia Z2 Tablet เรามาทำความรู้จักมันคร่าวๆ จากสเปคกันก่อนดีกว่า
สเปค Sony Xperia Z2 Tablet
- ชิปประมวลผล Snapdragon 801 (MSM8974AB) Quad-core ความเร็ว 2.3 GHz
- แรม?3 GB
- รอมในตัว 16 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 64 GB
- หน้าจอ IPS?Triluminos display?ขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1920 x 1080
- Android 4.4.2 KitKat
- กล้องหลังความละเอียด?8?ล้านพิกเซล?เซนเซอร์?Exmor RS?
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Exmor R
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน?IP58
- สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้
- รองรับ 4G LTE ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย
- แบตเตอรี่?Li-ion?ความจุ?6,000 mAh??
- น้ำหนัก 439 กรัม
- รองรับ NFC
- สเปค?Sony Xperia Z2?Tablet
- ราคา 23,990 บาท
ดูจากสเปคแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยนะครับสำหรับ Sony Xperia Z2 Tablet ทีนี้เรามาดูอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องกันบ้างดีกว่า สำหรับเครื่องรีวิว Sony Xperia Z2 Tablet เมื่อเปิดกล่องก็จะพบกับตัวเครื่อง, สาย USB และอแดปเตอร์ ส่วนพวกอุปกรณ์เสริมอื่นๆ คงต้องหาซื้อเพิ่มกันเอาเอง สำหรับความน่าใช้ ข้อดี ข้อเสียของเจ้า Sony Xperia Z2 Tablet สามารถรับชมได้ในรีวิวเลยครับ นอกจากนี้เรายังมีวีดีโอรีวิว ?Sony Xperia Z2 Tablet ให้รับชมด้วยครับ โดยวีดีโอรีวิว Sony Xperia Z2 Tablet นั้นจะเน้นที่การใช้งานในเรื่องของความบันเทิงเป็นหลัก เพื่อเสริมในบทความรีวิวครับ
Design
ดีไซน์ทำได้สมกับเป็น Sony
ดีไซน์ของ Sony Xperia Z2 Tablet ก็ยังคงปรัชญาการออกแบบในสไตล์ Omnibalance เหมือนอย่างใน Sony Xperia Z2 รวมถึงมือถือโซนี่ในช่วงหลังมานี้ด้วย โดย Omnibalance คือการออกแบบตัวเครื่องให้มีความสมมาตร เท่ากันในทุกๆ ด้านครับ จะเห็นได้ชัดเลยว่าด้านหน้า ? ด้านหลังของ Sony Xperia Z2 Tablet นั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย เช่นเดียวกับขอบเครื่องในฝั่งที่ตรงกันข้ามไม่ว่าจะเป็นซ้าย ? ขวา และบน ? ล่างก็จะมีลักษณะสมมาตรด้วยกันทั้งหมด การออกแบบเช่นนี้ในความรู้สึกของผู้เขียนคือดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา อีกทั้งแสดงถึงความมั่นคงแข็งแรงหากใครเคยอ่านรีวิว Sony Xperia Z2 มาก่อนคงจะคิดว่าในส่วนของการ Design คงจะต้องเหมือนกันอย่างแน่นอน ขอบอกว่าไม่ใช่ทั้งหมดครับ Sony Xperia Z2 Tablet จะเหมือนกับ Sony Xperia Z2 ก็แค่ปรัชญาการออกแบบภายใต้แนวคิด Omnibalance เท่านั้นแหละครับ ส่วนอื่นๆ อย่างวัสดุรวมถึงงานประกอบนี่จัดว่าอยู่คนละโลกกันเลย เอาเป็นว่าผมจะค่อยๆ ไล่รายละเอียดไปทีละส่วน แล้วจะสรุปในตอนท้ายให้ฟังนะครับว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ?
ด้านหน้าของ Sony Xperia Z2 Tablet จะมาแบบโล่งๆ เลย มีเพียงโลโก้ Sony, กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor R, ไฟแจ้งเตือนดวงเล็ก (มาก) และลำโพงคู่หน้า S-Force Front Surround เหมือนอย่าง Sony Xperia Z2 เหตุที่การออกแบบด้านหน้าสามารถทำได้โล่งขนาดนี้เป็นเพราะว่า Sony เลือกใช้ปุ่มควบคุมได้แก่ปุ่ม Back, ปุ่ม Home และปุ่ม Recent App เป็นแบบ Soft Key บนหน้าจอแทน ส่วนขอบจอไม่ได้บางเหมือนอย่าง iPad นะครับ ที่ออกแบบหนาเช่นนี้มีเหตุผล เพราะว่า Sony Xperia Z2 Tablet จะเน้นการถือในแนวนอน จึงต้องมีพื้นที่ให้มือจับ (ตรงพื้นที่ข้างจอก็จะมีเซนเซอร์คอยตรวจจับด้วยครับ ถ้าเราจับเครื่องในท่าทางที่เหมือนกำลังใช้งาน หน้าจอก็ไม่ปิดตัวลง) เอาเป็นว่ามองด้านหน้าของเจ้า Sony Xperia Z2 Tablet นี่รู้สึกว่ามันเหมือนกรอบรูปดิจิตอลเลยหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง, การดีไซน์ รวมถึงน้ำหนักเครื่อง
น้ำหนักเบามากจนไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็น Tablet หน้าจอ 10.1 นิ้ว
ส่วนปุ่มควบคุมอย่างปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวเครื่องครับ เป็นปุ่มกลมๆ เหมือนใน Sony Xperia Z2 เป๊ะเลย เช่นเดียวกับปุ่มปรับระดับเสียง ถึงแม้จะอยู่บนแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว แต่ก็ยังทำออกมาเล็กนิดเดียวเหมือนเดิม แน่นอนครับว่ามันกดยากเหมือนเดิมนั่นแหละ กลับกันทางด้านขวาของตัวเครื่องจะโล่งๆ ไม่มีอะไรเลย เพราะบรรดาช่องเสียบสาย USB, ช่องเสียบ Micro SD Card รวมถึงช่องใส่ซิมย้ายไปอยู่ด้านบนหมดเลย และตามสไตล์ของแท็บเล็ตกันน้ำได้ ย่อมมีฝาปิดที่ควรตรวจเช็คฝาปิดให้ดีทุกครั้งก่อนที่จะจับลงน้ำนะครับ ถ้าปิดฝาไม่สนิทนี่ตัวเครื่องก็ไม่กันน้ำนะจะบอกให้ ถัดไปหน่อยจะเจอกับช่องส่งสัญญาณอินฟาเรท แน่นอนว่า Sony Xperia Z2 Tablet สามารถใช้งานเป็นรีโมทสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้ด้วย ซึ่งเราจะไปพูดกันในส่วนการรีวิว Feature ครับ และสำหรับคนที่ไม่อยากจะเปิดฝาช่องเสียบ USB บ่อยๆ เวลาที่ชาร์จไฟก็ไม่ยากครับ เพียงแค่มีสายชาร์จแบบ Magnetic หรือสายชาร์จแม่เหล็ก (ราคาขายแยกประมาณ 399 บาท) วิธีการชาร์จก็แค่เสียบสายชาร์จ Magnetic กับช่องเสียบที่อยู่ทางด้านล่างของตัวเครื่องเท่านั้นเอง และด้านล่างนอกจากจะมีช่องเสียบสาย Magnetic แล้วยังมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรที่กันน้ำได้
พูดถึงด้านหน้าและด้านข้างไปแล้ว ก็มาพูดถึงด้านหลังกันบ้างครับ ด้านหลังของ Sony Xperia Z2 Tablet จะแตกต่างจาก Sony Xperia Z2 ที่ฝาหลังเป็นกระจกอย่างชัดเจน เพราะฝาหลังของ Sony Xperia Z2 Tablet เป็นพลาสติกแบบ Soft Touch ที่ผู้เขียนรู้สึกว่าไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก เพราะมันไม่สวยเอาซะเลย เลอะรอยนิ้วมือก็ง่าย แถมยังเช็ดทำความสะอาดยากอีกต่างหาก ที่สำคัญคือมันทำให้ความสวยงามของตัวเครื่องลดลงเยอะเลยเมื่อเอาไปเทียบกับฝาหลังของ Sony Xperia Z2 โดยด้านหลังของ Sony Xperia Z2 Tablet ตรงกลางจะมีโลโก้ Sony ส่วนกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor RS จะอยู่ทางมุมขวาของตัวเครื่อง (ถ้ามองจากด้านหลัง) เป็นกล้องหลังเดี่ยวๆ ไม่มีแฟลชด้วยครับ สำหรับวัสดุของฝาหลัง Sony Xperia Z2 Tablet ที่ใช้เป็นพลาสติกแบบ Soft Touch เนี่ยใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียนะครับ ข้อดีก็มีเหมือนกัน และเป็นข้อดีที่ Sony เอามาใช้เป็นจุดเด่นของ Sony Xperia Z2 Tablet เลยหล่ะ ซึ่งข้อดีนั้นก็คือมันเป็น Tablet หน้าจอ 10.1 นิ้วที่มีน้ำหนักเบามากครับ ด้วยน้ำหนักตัวแค่ 439 กรัมเท่านั้นเอง (เบากว่า iPad Air อีกนะครับ) และด้วยการออกแบบสไตล์ Omnibalance ทำให้การกระจายน้ำหนักทำได้ดีทีเดียว ถือใช้งานไปนานๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเมื่อยมือแต่อย่างใด? แถมยังมีความบางเพียง 6.4 มิลลิเมตรเท่านั้น โดย Sony เคลมว่า Sony Xperia Z2 Tablet เป็นแท็บเล็ตกันน้ำหน้าจอ 10.1 นิ้วที่มีน้ำหนักเบาและบางที่สุดในโลก
สำหรับวัสดุของตัวเครื่องโดยรวมก็ยังให้ความรู้สึกที่ดีกว่าบางแบรนด์อยู่ดี ในเรื่องของความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไป ถึงแม้จะเป็นพลาสติกแบบ Soft Touch ก็เถอะ (แต่คาดว่าถ้าวัสดุด้านหลังใช้เป็นกระจกตัวเครื่องน่าจะหนักกว่านี้มากพอสมควรเลย) แต่สิ่งที่น่าผิดหวังจริงๆ สำหรับเครื่องรีวิว Sony Xperia Z2 Tablet คืองานประกอบครับ รู้สึกได้เลยว่ามันกรอบมาก แค่เพียงออกแรงบีบตัวเครื่องเพียงนิดเดียวก็รู้สึกได้เลยครับว่าหน้าจอมันยวบลงมา งานประกอบนี่คนละเรื่องกับ Sony Xperia Z2 เลย แต่ก็ยังคงกันน้ำได้ตามปกตินะครับ จากการเอาจุ่มน้ำแล้วไม่พบว่าน้ำเข้าเครื่องรีวิวแต่อย่างใด (เครื่องขายจริงอาจจะไม่กรอบแบบนี้ก็ได้ครับ แต่เท่าที่ลองไปจับๆ เครื่องโชว์ในศูนย์บริการมาพบว่ามีอาการคล้ายกันหมดเลย) และเมื่อพูดถึงการกันน้ำ ก็ต้องบอกเลยครับว่าความเก๋าเกมในการผลิตมือถือ/แท็บเล็ตกันน้ำของ Sony ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ในส่วนของสารเคลือบผิวตัวเครื่องแบบใน Sony Xperia Z2 ก็ยังมีให้เห็น Sony Xperia Z2 Tablet ครับ เวลาที่เราหยิบ Sony Xperia Z2 Tablet ขึ้นจากน้ำจะเห็นได้ชัดเลยว่าน้ำไม่สามารถเกาะที่ตัวเครื่องได้เลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอหรือฝาหลัง แค่สลัดๆ ตัวเครื่องก็แทบจะแห้งแล้ว
พูดถึงหน้าจอของ Sony Xperia Z2 Tablet กันบ้างครับ หลังจากที่ Sony หลงอยู่ในยุคของหน้าจอแบบ TFT มานาน (ไม่รู้มีอะไรดี ใช้อยู่นั่นแหละ) ณ ตอนนี้มือถือ/แท็บเล็ต Sony ได้ก้าวเข้าสู่ยุคหน้าจอ IPS ซักทีครับ โดย Sony Xperia Z2 Tablet จัดเป็นแท็บเล็ตตัวแรกของโซนี่เลยที่ใช้หน้าจอแบบ IPS ผลที่ได้จากการเปลี่ยนมาใช้จอ IPS ทำให้มุมมองภาพกว้างขึ้นเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน สีสันก็ไม่ได้เพี้ยนเหมือนอย่างจอ TFT แถมยังใช้งานกลางแสงแดดจัดๆ ได้อย่างสบาย หลายท่านอาจจะนึกไปว่าหน้าจอของ Sony Xperia Z2 Tablet น่าจะดีเทียบเท่ากับหน้าจอของ Sony Xperia Z2 เพราะเทคโนโลยีหน้าจอเองไม่ว่าจะเป็น Triluminos Display, X-Reality for Mobile ก็มีเหมือนกัน แถมยังเป็นจอ IPS อีกต่างหาก ขอบอกเลยว่าคิดผิดครับ เพราะหน้าจอของ Sony Xperia Z2 Tablet เครื่องที่รีวิวนั้นสีเพี้ยนพอสมควรเลย โดยเฉพาะสีขาวจะออกโทนแดงซะด้วยซ้ำ ถึงกับต้องเข้าไปปรับ White Balance เลยหล่ะ (ก็ยังดีที่ปรับ White Balance ได้นะ) ไม่แน่ว่าเครื่องขายจริงอาจจะไม่มีปัญหานี้ก็ได้นะครับ แต่มีอีกปัญหาใหญ่สำหรับหน้าจอที่ผู้เขียนคิดว่าจะซื้อเครื่องขายจริงมาก็คงไม่รอดปัญหานี้อย่างแน่นอนก็คือหน้าจอมีแสงสะท้อนมากเกินไป เอาเป็นว่าผู้เขียนสามารถใช้ Sony Xperia Z2 Tablet แทนกระจกส่องหน้าได้สบายๆ เลยครับ ถึงแม้เปิดหน้าจอก็ยังถือว่าสะท้อนมากอยู่ดี คงต้องแก้ปัญหาด้วยการติดฟิล์มแบบด้านเอาครับ แต่สำหรับหน้าจอของ Sony Xperia Z2 Tablet หากไปเทียบกับหน้าจอของแท็บเล็ต Sony รุ่นก่อนๆ จะเห็นได้ชัดเลยครับว่ามีการพัฒนาในทางทีดีขึ้นมากเลยทีเดียว
ถึงแม้หน้าจอจะทำมาดีกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีพอให้รู้สึกประทับใจ
สำหรับ Design (วัสดุและการออกแบบ) ของ Sony Xperia Z2 นั้น ถึงแม้จะขัดใจตรงฝาหลังและงานประกอบไปซักหน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่าสอบผ่านครับ เพราะมันถูกชดเชยด้วยความบางเบาแทน การออกแบบยังทำได้ดีเหมือนเดิม ดีไซน์แบบ Omnibalance ยังคงให้ความรู้สึกเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา และการกระจายน้ำหนักทำได้ดีมาก เมื่อผนวกกับวัสดุของตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเบา ทำให้การถือ Sony Xperia Z2 Tablet เป็นเวลานานๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกล้าเลย จนบางครั้งเริ่มไม่แน่ใจว่านี่คือแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้วจริงหรือเปล่า เพราะมันเบามากจริงๆ สำหรับภาพรีวิวในส่วนของตัวเครื่องในมุมอื่นๆ สามารถรับชมได้จาก Gallery ตัวเครื่องเลยครับ
Software
สำหรับ Software ของ Sony Xperia Z2 Tablet จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุดอย่าง Andorid 4.4 Kitkat ครอบทับด้วย Xperia Home ที่การออกแบบไอคอนต่างๆ ยังคงเดิมเหมือนใน Sony Xperia Z2 เอาเป็นว่าตั้งแต่ Sony ปล่อยสมาร์ทโฟนในซีรี่ส์ NXT (พวก Sony Xperia S, Xperia U เป็นต้น) เมื่อประมาณปี 2011 การดีไซน์ไอคอนของแอพต่างๆ รวมถึง UI ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมายนักครับ จะมีเปลี่ยนสีบ้างอะไรบ้างเท่านั้น ซึ่งการดีไซน์ UI ของ Sony เองก็ให้ความรู้สึกล้ำสมัย สมกับเป็นค่ายอารยธรรมจริงๆ และข้อดีสำหรับ UI ของ Sony Xperia Z2 Tablet ที่ส่วนตัวผมประทับใจเอามากๆ ก็คือการไม่ยัดเยียด App ประเภท Bloatware ใส่ให้มาในรอมตั้งแต่แรกเหมือนอย่างแบรนด์อื่นๆ ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บเหลือเยอะมากขึ้น และส่งผลถึง Ram ที่จะมีให้ใช้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการจัดการพลังงาน Sony Xperia Z2 Tablet ให้แบตเตอรี่มาเยอะพอสมควรสำหรับแท็บเล็ต โดยมันจะมีแบตเตอรี่ความจุมากถึง 6,000 mAh รวมถึงการจัดการพลังงานก็ทำได้ดีซะด้วย แถมยังมีโหมดประหยัดพลังงานอันเลื่องชื่ออย่าง Stamina Mode เหมือนในสมาร์ทโฟน โดยหลักการทำงานของ Stamina Mode ค่อนข้างจะเบสิกเลยครับ เมื่อเราเปิด Stamina Mode เวลาที่ปิดหน้าจอ แอพทั้งหมดก็จะถูกปิดการทำงานในเบื้องหลังทันที แต่เราสามารถกำหนดได้นะครับว่าจะให้แอพอะไรรันได้บ้างตอนที่เปิด Stamina Mode อยู่ ข้อเสียของ Stamina Mode อย่างเดียวเท่าที่เห็นคือเวลาที่เปิดหน้าจอมาทีนึงนี่จะมีการแจ้งเตือนเด้งแบบกระหน่ำเลยหล่ะครับ ถามว่ายืดอายุแบตเตอรี่ได้นานแค่ไหน เอาเป็นว่าตั้งแต่ได้เครื่องรีวิวมาเนี่ย ผมนับครั้งชาร์จได้เลยครับ เปิด Stamina Mode ทีนี่ยืดอายุแบตเพิ่มได้อีกประมาณ 30% ได้ เรียกว่าสแตนบายได้หลายวันเลย?
สรุปภาพรวมสำหรับในส่วน Software ของ Sony Xperia Z2 Tablet นั้นถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ การตอบสนองทำได้รวดเร็ว มีความลื่นไหล และไม่ค่อยงอแง (ส่วนหนึ่งมาจากสเปคที่แรงด้วยหล่ะ)
Feature
ต้องบอกก่อนนะครับว่า Sony Xperia Z2 Tablet เนี่ยถูกออกแบบมาให้เป็นแท็บเล็ตที่เน้นการตอบสนองเรื่องความบันเทิง รวมถึงการทำงานควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟนของทาง Sony เอง เพราะฉะนั้นฟีเจอร์เด่นๆ ส่วนมากจะเน้นไปที่ความบันเทิงซะมากครับ
Remote Control
เข้าใจว่า Sony คงมองภาพของ Sony Xperia Z2 Tablet ไว้เป็นแท็บเล็ตที่เดินถือเล่นในบ้าน เพราะออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาพอที่จะถือนานๆ ได้สบาย ฟีเจอร์การเป็นรีโมทคอนโทรลของมันจึงถูกใส่เข้ามาครับ โดย Sony Xpeia Z2 Tablet สามารถใช้เป็นรีโมทคอนโทรลเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทโทรทัศน์, เครื่องเล่น Blu-Rays (เครื่องเล่น DVD ก็ได้ครับ) และอื่นๆ โดยวิธีการใช้งานก็ไม่ยากครับ แค่เราเสิร์จหาชื่อรุ่นเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านทางตัวแอพพลิเคชันรีโมทได้ทันที แต่ถ้าไม่มีชื่อรุ่นในฐานข้อมูลก็เพียงแค่ Add เพิ่มเองเลยครับ ทำได้โดยการนำรีโมทมาจ่อกับอินฟาเรทของ Sony Xperia 2 Tablet เท่านั้นเอง
การเชื่อมต่อกับ Joy Stick
อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญใน Sony Xperia Z2 Tablet คือการเชื่อมต่อตัวเครื่องกับจอยเกม PS3 Dualshock 3 และ PS4 Dualshock 4 ได้เพื่อใช้เล่นเกมใน PlayStation Mobile รวมถึงเกมใน Play Store บางเกม อาทิเช่น Dead Trigger, Dead trigger 2, และ Virtua Tennis Challenge เป็นต้น โดยการเชื่อมต่อนั้นเป็นแบบ Wireless หรือแบบไร้สายซะด้วย และด้วยขนาดจอ 10.1 นิ้วทำให้มันเหมาะกับการต่อจอยมากกว่าในสมาร์ทโฟนแน่นอน เล่นกันเพลินเลยหล่ะ
การใช้งานโทรศัพท์
Sony Xperia Z2 Tablet นอกจากจะเป็นแท็บเล็ตที่ใส่ซิมเพื่อใช้เล่นอินเทอร์เน็ตได้แล้ว ยังสามารถใช้สำหรับโทรออก – รับสายได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก ด้วยขนาดเครื่องที่ไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นโทรศัพท์ตั้งแต่แรก และไม่มีลำโพงสนทนาเหมือนอย่างในโทรศัพท์ (ใช้ลำโพงคู่ด้านหน้านั่นแหละครับในการสนทนา) หากจะใช้งานเป็นโทรศัพท์จริงๆ คงต้องพกหูฟัง Smalltalk หรือถ้าจะเน้นคล่องตัวก็คงต้องใช้หูฟังบลูทูธ
Camera
สำหรับกล้องของ Sony Xperia Z2 Tablet จะเป็นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor RS ที่มีอินเตอร์เฟสเหมือนในสมาร์ทโฟนเป๊ะเลย รวมถึงโหมดต่างๆ ด้วยเช่นกัน แต่ข้อเสียแบบสุดๆ ของมันคือ Auto Focus ที่มีก็เหมือนไม่มี แล้วก็ไม่มีแฟลชด้วย การจับโฟกัสทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ คิดช้า และต้องถือเครื่องให้มือนิ่งจริงๆ นะครับ ไม่งั้นสั่นกระจายเลย และยิ่งถ่ายรูปตอนแสงน้อยอย่างเวลากลางคืนนี่จบเห่เลย ถ่ายช้า แถมคุณภาพของรูปถ่ายยังออกมาไม่ดีอีกต่างหาก เอาเป็นว่ามันคือกล้องแท็บเล็ตครับ คงจะเอานิยามอะไรมากไม่ได้ เน้นถ่ายขำๆ แก้ขัด
ทีเด็ดของกล้อง Sony Xperia Z2 Tablet คือโหมดต่างๆ ที่มีให้เล่นไม่แพ้ในฝั่งสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะ AR Effect นี่น่าจะถูกใจเด็กๆ พอสมควรเลย (รวมถึงผู้ใหญ่หัวใจอยากเด็กด้วย) เป็นอีกฟีเจอร์นึงในกล้องที่เล่นสนุกครับ ไม่ว่าจะใช้กล้องหน้าหรือกล้องหลัง ส่วนโหมดอื่นๆ ก็อาทิเช่น?
- Background defocus?-?มันก็คือการรีโฟกัสหลังจากถ่ายภาพนี่แหละครับ เหมือนอย่างของ HTC One M8 และ Samsung Galaxy S5 แต่ในกรณีของ Sony Xperia Z2 จะเลือกได้ว่าต้องการให้ภาพเบลอมากหรือเบลอน้อย แต่ไม่สามารถเลือกจุดโฟกัสหลังถ่ายภาพได้เหมือนกับ 2 รุ่นที่เหลือนะครับ จุดโฟกัสจะเลือกได้แค่ก่อนถ่ายภาพเท่านั้น
- Timeshift Burst?-?โหมดนี้จะเป็นการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว (เร็วกว่ากดปุ่มชัตเตอร์ค้างอีกนะครับ) แล้วให้เราเลือกว่าจะใช้ภาพไหน โดย Sony Xperia Z2 จะรัวเก็บภาพก่อนที่เราจะตั้งใจกดชัตเตอร์เสียอีก เรียกว่าไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญจริงๆ ครับ แต่เรื่องความชัดของรูปภาพนั้นอีกเรื่องนะ?
- Social Live?-?โหมดนี้จะเป็นการล็อกอินเข้ากับ Facebook ของเรา เมื่อถ่ายวีดีโอด้วยโหมด Social Live ก็จะทำการอัพโหลดวีดีโอที่เรากำลังถ่ายขึ้น Facebook แบบสตรีมสดได้ทันที แต่เสียอย่างเดียวที่อินเตอร์เน็ตบ้านเราไม่แรงพอครับ
กล้องแท็บเล็ต…ก็ยังคงเป็นกล้องแท็บเล็ตวันยังค่ำ
ถึงแม้ว่าในการถ่ายภาพด้วยกล้องของ Sony Xperia Z2 Tablet อาจจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่นัก รวมถึงใช้งานยากพอสมควร เพราะไม่มีทั้ง Auto Focus และแฟลช?แต่คุณภาพของรูปถ่ายนี่ถ้าดูผ่านหน้าจอของ Sony Xperia Z2 Tablet นี่บอกเลยว่าภาพสวยกว่าตอนถ่ายอีกครับ ส่วยจนไม่คิดว่าเป็นรูปที่ถ่ายจากกล้องหลังของมันเลยหล่ะ อาจเพราะด้วย X-Reality for Mobile ที่ช่วยปรับภาพให้มีความคมชัด สีสันสดใสมากยิ่งขึ้นเรียกว่าหน้ามือเป็นหลังมือเลย และสำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจาก Sony Xperia Z2 Tablet สามารถรับชมได้จาก Gallery ด้านล่างสุดครับผม
Performance
ประสิทธิภาพโดยรวมของ Sony Xperia Z2 Tablet ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ สมศักดิ์ศรีของแท็บเล็ตเรือธงอย่างแน่นอน ด้วยสเปคที่จัดเต็มมาขนาดนี้ ผลเทสไม่ต้องห่วงเลยครับ แรงทะลุหลอดแน่นอน อีกทั้งจัด Ram ให้มามากถึง 3 GB ใช้งานหนักยังไงก็เอาอยู่ รับรองว่าเหลือๆ การใช้งานก็ลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงให้เห็นเลย
สำหรับแรมของ Sony Xperia Z2 Tablet นี่ผมถือว่าให้มาเกินใช้ซะด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับ Sony Xperia Z2 เลย เพราะอัดมาถึง 3 GB ขนาดโหลดทุกอย่างที่ใช้งานลงเครื่องแล้ว ยังเหลือแรมให้ใช้ประมาณ 1.2 GB เลยทีเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเปิดแอพอะไรให้มันใช้แรมให้หมด แต่สังเกตได้เลยว่าเวลาที่เล่นเกมหนักๆ Sony Xperia Z2 tablet ทำได้ดีมากเล่นได้ทุกเกมแบบไม่มีอาการกระตุกเลย?รวมถึงภาพที่ได้ในระดับปรับแบบสุด มีความสมูทมาก การโหลดเกมทำได้รวดเร็ว เช่นเดียวกับการเข้า-ออกแอพพลิเคชัน
ส่วนเรื่องความร้อนพอมีให้เห็นบ้างครับเมื่อเปิดใช้งานไปสักพัก หรือเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่เจอปัญหาเครื่องร้อนจนปิดตัวเอง หรือกล้องร้อนจนปิดตัวเหมือนอย่างใน Sony Xperia Z2 นะครับ ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติเหมือนเดิม ถือว่า Sony ทำการบ้านมาดีทีเดียวครับสำหรับ Sony Xperia Z2 Tablet?
Overall
ภาพรวมของ Sony Xperia Z2 Tablet ก็จัดเป็นแท็บเล็ตเรือธงที่ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Sony ครับ จุดเด่นอยู่ที่ตัวเครื่องบาง น้ำหนักเบา แล้วก็กันน้ำได้ ดีไซน์ถูกออกแบบมาอย่างปราณีตสมกับราคา แถมสเปคยังแรงเทียบเท่ากับมือถือรุ่นท็อปๆ เลยหล่ะ บรรดาข้อด้อยที่มีใน Sony Xperia Tablet Z ก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยใน Sony Xperia Z2 Tablet ?
ข้อดี
- ดีไซน์แบบ?Omnibalanced ให้ความรู้สึกหรูหรา แข็งแรงและทนทาน
- น้ำหนักเครื่องเบามากสำหรับแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว
- หน้าจอเป็น IPS ที่คมชัดกว่าแท็บเล็ต Sony รุ่นก่อนๆ
- การใช้งานลื่นไหลมาก
- ตัวเครื่องกันน้ำ กันฝุ่น
- แบตเตอรี่อึด รวมถึง Stamina Mode ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจมาก
ข้อสังเกต
- หน้าจอกระจกสะท้อนมากเกินไป
- พลาสติก Soft Touch ที่ฝาหลังเป็นรอยง่าย, เช็ดทำความสะอาดยาก
- คุณภาพของรูปถ่ายยังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร
สำหรับคู่แข่งของ Sony Xperia Z2 Tablet ในช่วงราคาที่ใกล้เคียงกันถือว่าค่อนข้างน้อยครับ จะมีอยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ทำสเปคออกมาแรงขนาดนี้ (รวมถึงราคาด้วย) แต่ส่วนตัวผู้เขียนมองว่ายังไงคู่แข่งจริงๆ ที่พอจะฟัดกับ Sony Xperia Z2 Tablet ได้ก็คงจะเป็น iPad Air นี่แหละครับ