รีวิว realme Watch S Pro สมาร์ตวอชท์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง realme ที่เข้ามาเสริมทัพอุปกรณ์ AIoT ให้มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ เป็นการปรับปรุงเรื่องสเปคให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการใส่หน้าจอ AMOLED กับวัสดุตัวเรือนที่พรีเมียมด้วยการใช้สแตนเลสสตีล อีกทั้งฟีเจอร์ที่มีมาให้ไม่แพ้สมาร์ตวอชท์ราคาแพง ๆ อย่างการวัดระดับออกซิเจนในเลือด
realme เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนเพียงไม่กี่แบรนด์ในไทย ที่มุ่งมั่นในการทำตลาดสินค้าประเภท AIoT อย่างเต็มกำลัง และในปี 2021 นี้ ก็ได้เปิดตัวสมาร์ตวอชท์รุ่นใหม่อย่าง realme Watch S Pro และยังมีอุปกรณ์ AIoT ประเภทอื่น ๆ ที่เปิดตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น แปรงสีฟัน realme M1/ N1 Toothbrush, ไฟพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว realme Night Light รวมถึงโทรทัศน์รุ่น realme Smart TV 55″ ทำให้กลยุทธ์ 1 + 4 + N และ realme Ecosystem มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
วิดีโอรีวิว realme Watch S Pro
สเปค realme Watch S Pro
- หน้าปัดกลมขนาด 1.39 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 454 × 454 พิกเซล (326 ppi)
- กระจกหน้าจอ 2.5D จาก Gorilla Glass และตัวเรือนสแตลเลสสตีล
- ขนาดสายนาฬิกากว้าง 22 มิลลิเมตร ยาว 152 – 223 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 63.5 กรัม (ตัวเรือนรวมกับสายนาฬิกา)
- ตัวเรือนสีดำ + สายนาฬิกาซิลิโคนสีดำ
- ชิปประมวลผล Dual-Core + Dual-Satellite GPS
- มาตรฐานการกันน้ำ 5 ATM ป้องกันแรงดันน้ำที่ 50 เมตร
- เซ็นเซอร์
- เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหว
- เซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
- เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุน
- เซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ
- เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่
- แบตเตอรี่ความจุ 420 mAh สามารถใช้งานได้สูงสุด 14 วัน
- แท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก
- ชาร์จไฟจาก 0 – 100% เต็มได้ภายใน 2 ชั่วโมง
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 ขึ้นไป และ iOS 9.0 ขึ้นไป
- เชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น realme Link
- ราคา 4,999 บาท
แกะกล่อง realme Watch S Pro
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องของ realme Watch S Pro รุ่นนี้จะมีอุปกรณ์เสริมให้เพียงอย่างเดียว ได้แก่ แท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก ที่รองรับการชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB Type-A สามารถใช้งานร่วมกับอะแดปเตอร์โทรศัพท์ปกติได้เลย ส่วนสายนาฬิกาที่ให้มาในกล่อง จะเป็นสายสีดำ วัสดุเป็นซิลิโคน และมีสายนาฬิกาแบบอื่น ๆ วางจำหน่ายแยกต่างหาก โดยมีรายละเอียดดังนี้
- สายซิลิโคน (สีน้ำเงิน/ สีเขียว/ สีส้ม)
- สายหนังวีแกน (สีน้ำเงิน/ สีเขียว/ สีน้ำตาล)
- สายแสตนเลสสตีล (สีดำ)
ตัวเรือนหรูหราด้วยหน้าปัดกลม และวัสดุสแตนเลสสตีล
เมื่อเทียบกับ realme Watch S ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ realme Watch S Pro จะให้ความรู้สึกที่หรูหรามากกว่า แม้จะเป็นหน้าปัดแบบกลม ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ด้วยวัสดุตัวเรือนที่เป็นสแตนเลสสตีล SUS316L ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีความทนทาน โดยพื้นผิวถูกขัดเงาที่ด้านหน้า ขัดด้านที่ด้านข้าง และปิดท้ายด้วยการเคลือบแบบ PVD + AF ให้ความพรีเมียมมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด จะมีข้อสังเกตก็ในเรื่องน้ำหนักตัวเรือน ที่หนักขึ้นเมื่อเทียบกับ realme Watch S แต่เมื่อเทียบกับสมาร์ตวอชท์ที่เป็นโลหะ ผมว่ารุ่นนี้ถือว่าน้ำหนักเบาเลยทีเดียว (รวมสาย 63 กรัม)
สายนาฬิกาของ realme Watch S Pro ที่ให้มาในกล่อง เป็นวัสดุซิลิโคน ความกว้างอยู่ที่ 22 มิลลิเมตร และมีความยาวอยู่ที่ 152 – 223 มิลลิเมตร สามารถถอดเปลี่ยนได้ ขนาดของตัวเรือนกับสาย เมื่ออยู่บนข้อมือผู้ชาย ถือว่ากำลังพอดี ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ถ้าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก อาจจะมีขนาดใหญ่ไปสักหน่อย ดีที่ตัวเรือนกับสายมีน้ำหนักเบา ถือว่าชดเชยกันไปครับ
สำหรับการควบคุม realme Watch S Pro จะใช้การสัมผัสหน้าจอเป็นหลัก รวมกับปุ่มกดที่มีให้ 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนจะเป็นการย้อนกลับ ส่วนปุ่มล่างเป็นทางลัดเข้าสู่โหมดออกกำลังกาย ตัวปุ่มไม่แข็งจนกดยาก ไม่ยวบจนลั่นง่าย ๆ และการที่ดีไซน์ออกมาแบบนี้ ยิ่งทำให้มีความคล้ายกับนาฬิกาแบบมาตรฐานทรงสปอร์ต เข้ากับการแต่งกายได้แทบจะทุกรูปแบบ แต่แนะนำให้หาสายที่เป็นหนังวีแกนมาสำรองอีกสักเส้น ใส่เวลาที่ต้องแต่งกายทางการ หรือกึ่งทางการ
นอกจากสายนาฬิกาที่ถอดเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบการแต่งกายได้แล้ว realme Watch S Pro ยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบของหน้าปัด ผ่านแอปพลิเคชั่น realme Link ได้มากกว่า 100 รูปแบบ เรียกได้ว่าเปลี่ยนหน้าปัดทุกวัน ไม่ซ้ำกันได้นานมากกว่า 3 เดือนเลยทีเดียว หรือจะสร้างหน้าปัดขึ้นเอง จากรูปภาพที่ชื่นชอบ ก็ทำได้เช่นกัน
หน้าจอของ realme Watch S Pro เป็นหน้าจอแบบ AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 1.39 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 454 x 454 พิกเซล หรือ 326 ppi มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับความสว่าง สามารถปรับค่าความสว่างตามสภาพแวดล้อมได้อัตโนมัติ สามารถเร่งความสว่างหน้าจอได้สูงสุด 450 nits ใช้งานกลางแดดได้ในระดับหนึ่ง และยังสามารถปรับระดับความสว่างได้ถึง 5 ระดับ เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นที่แสงน้อย ก็สามารถคุมให้แสงหน้าจอไม่จ้าจนเกินไปได้
ส่วนกระจกหน้าจอเป็นแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass และรองรับฟีเจอร์อย่าง AOD หรือ Always on Display ที่จะทำให้หน้าปัดนาฬิกาติดอยู่ตลอดเวลา สามารถเลือกเปิด – ปิดฟีเจอร์นี้ได้ เพราะการเปิด AOD จะทำให้อัตราการใช้พลังงานสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ด้วยความที่เป็นหน้าจอแบบ AMOLED หากเลือก Always on Display ที่มีสีดำมากหน่อย ก็จะกินพลังงานน้อยกว่า
ด้านหลังของตัวเรือน realme Watch S Pro ใช้วัสดุเป็นพลาสติกแบบด้าน มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดระดับออกซิเจนในเลือด และมีพอร์ตชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับชาร์จไฟ
ฟีเจอร์ในการดูแลสุขภาพ มาพร้อมเซ็นเซอร์ PPG
หนึ่งในฟีเจอร์พื้นฐานที่สมาร์ตวอชท์ควรจะมีอย่าง วัดอัตราการเต้นของหัวใจ realme Watch S Pro ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่รุ่นนี้จะเหนือกว่าตรงที่เลือกใช้เซ็นเซอร์ PPG รุ่นอัพเกรดที่มีความแม่นยำสูง สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นการวัดแบบ real-time จึงทำให้ตรวจจับการเต้นของหัวใจที่สูง หรือต่ำเกินไปได้อีกด้วย
สำหรับรูปแบบการวัดอัตราการเต้นหัวใจ PPG (Photoplethysmography) จะเป็นการปล่อยแสงสีเขียวที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ ไปยังผิวหนัง แล้วตรวจจับการสะท้อนของหลอดเลือดภายในร่างกาย โดยเซ็นเซอร์ใน realme Watch S Pro ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมในหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการใช้พลังงาน, ความเข้ากันของสีผิว
วัดระดับออกซิเจนในเลือด realme Watch S Pro สามารถตรวจจับระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งออกซิเจนในเลือดนั้นเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญอย่างหนึ่งของสุขภาพร่างกาย หากออกซิเจนในเลือดต่ำเกินไป หมายความว่าเซลล์ในร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอ ซึ่งจะนำไปสู่อาการต่าง ๆ ได้ ในเรื่องของความแม่นยำ ก็ถือว่าใกล้เคียงกับอุปกรณ์ตรวจวัดที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด
รองรับการออกกำลังกายกว่า 15 รูปแบบ และใส่ว่ายน้ำได้
ในด้านการออกกำลังกาย realme Watch S Pro รองรับโหมดกีฬามากถึง 15 ประเภท ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, เดินกลางแจ้ง, เดินในร่ม, ขี่จักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม, การเดินทางไกลด้วยเท้า, ว่ายน้ำ, บาสเกตบอล, โยคะ, เครื่องออกกำลังกายกรรเชียงบก, เครื่องเดินวงรี, คริกเก็ต, การฝึกความแข็งแรง และ Free workout อีกทั้งสามารถระบุได้อัตโนมัติว่าผู้ใช้กำลังเดินหรือวิ่ง พร้อมระบบตรวจจับก้าวเดินที่มีความแม่นยำสูง
โดยไฮไลต์ของสมาร์ตวอชท์รุ่นนี้ คือการรองรับ โหมดว่ายน้ำ เนื่องจากตัวเรือนมีคุณสมบัติกันน้ำระดับ 5ATM ป้องกันแรงดันน้ำที่ 50 เมตร โดยในโหมดว่ายน้ำสามารถบันทึกข้อมูลการว่ายน้ำได้แบบ real-time รวมถึงการนับ SWOLF/ แคลอรี/ ระยะทาง/ ประเภท ฯลฯ อีกทั้งสามารถบันทึกและแชร์ข้อมูลการว่ายน้ำได้อีกด้วย
สำหรับการออกกำลังกายพื้นฐานอย่างการวิ่ง หรือการปั่นจักรยาน realme Watch S Pro ก็สามารถเก็บระยะทางได้อย่างแม่นยำ ด้วย GPS Dual-Satellite ความแม่นยำสูง ถือเป็นครั้งแรกของ realme ที่ใช้เซ็นซอร์ GPS ที่มีความแม่นยำสูง และใช้พลังงานต่ำ รองรับตำแหน่งแบบ dual-satellite (เมื่อเปิด GPS และ Glonass ออนไลน์ในเวลาเดียวกัน) เมื่อการระบุตำแหน่งและความเร็วมีความแม่นยำสูง ก็ส่งผลให้ค่าต่าง ๆ ที่บันทึกระหว่างการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น ระยะทาง, PACE, แคลอรี่ที่เผาผลาญได้ มีความแม่นยำมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
ฟีเจอร์สุขภาพเพิ่มเติม
นอกจากการออกกำลังกาย และแจ้งเตือนเรื่องอัตราการเต้นหัวใจแล้ว realme Watch S Pro ยังมีฟังก์ชั่นด้านสุขภาพที่ครอบคลุม และสามารถใช้งานได้จริง เช่น การนับก้าวเดิน (มาตรฐานแนะนำให้ตั้งที่ 10,000 ก้าวต่อวัน) การแจ้งเตือนให้ขยับร่างกายเมื่อนั่งนานจนเกินไป (ช่วยเรื่องออฟฟิศซินโดรม) ตรวจจับการนอนหลับ, การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ และโหมดทำสมาธิเพื่อผ่อนคลาย ลดความเครียด
การเชื่อมต่อ การแจ้งเตือน รองรับภาษาไทย
สำหรับการเชื่อมต่อ realme Watch S Pro รุ่นนี้จะเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่าน Bluetooth 5.0 ที่มีอัตราการบริโภคพลังงานที่ต่ำ ผ่านแอปพลิเคชั่น realme Link ที่ตอนนี้มีให้ดาวน์โหลดทั้ง Play Store (Android ) และ App Store (iOS, iPhone) แต่ในการรีวิว realme Watch S Pro ผมทำการเชื่อมต่อสมาร์ตวอชท์รุ่นนี้ เข้ากับ realme 7 Pro ซึ่งมีแอปพลิเคชั่น realme Link พรีโหลดมาให้ตั้งแต่แรกแล้ว
การเชื่อมต่อครั้งแรก หากเป็นการเชื่อมต่อผ่าน realme Smartphone จะเชื่อมต่อได้ง่ายมาก เนื่องจากเป็น realme Ecosystem ที่มีจุดเด่นเรื่องการจับคู่อุปกรณ์ และการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว เพียงแค่ผมวางเครื่องรีวิว realme Watch S Pro ไว้ใกล้ ๆ กับ realme 7 Pro ที่เปิดแอปพลิเคชั่น realme Link (ต้องอัพเดตแอปเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด) จากนั้นก็เลือกเชื่อมต่อ และรอไม่นานก็พร้อมใช้งานทันทีครับ
ในด้านการใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟน realme Watch S Pro ยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ในการปลดล็อกหน้าจอสมาร์ตโฟนได้ ซึ่งเหมาะมากในยุค COVID-19 ระบาด และทุกคนต้องใส่หน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน การใช้ฟีเจอร์ปลดล็อกตัวเครื่อง ทำให้การใช้งานสมาร์ตโฟนมีความสะดวกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือจะใช้ควบคุมการ เปิด/ ปิด และปรับระดับเสียงเพลง หรือสลับเพลง บนสมาร์ตโฟนจากระยะไกลได้
อีกทั้งรองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่นกล้อง สามารถใช้ realme Watch S Pro แทนปุ่มชัตเตอร์ ทำให้สามารถถ่ายภาพตัวเองได้แม้อยู่คนเดียว หรือจะเป็นการตัดสาย (ปฏิเสธการโทร) เมื่อสายเรียกเข้าสมาร์ตโฟนที่เชื่อมต่อกับ realme Watch S Pro ไว้ โดยสายเรียกเข้าจะแสดงบน realme Watch S Pro พร้อมปุ่มปฏิเสธ
นอกจากนี้ เมื่อมีการอัปเดต OTA ในอนาคต realme Watch S Pro จะสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ AIoT หลายเครื่องจากระยะไกล เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ realme AIoT 1 + 4 + N โดย realme Watch S Pro จัดเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ศูนย์กลางของระบบ realme AIoT
แบตเตอรี่อึด ชาร์จทีเดียว ใช้งานได้นานถึง 14 วัน
มาถึงส่วนสุดท้าย ที่หลายคนค่อนข้างซีเรียสในการเลือกซื้อสมาร์ตวอชท์สักเรือน นั่นก็คือในเรื่องการจัดการพลังงาน โดย realme Watch S Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 420mAh และด้วยเซ็นเซอร์และชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพสูง ตามสเปคระบุว่าสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วัน ต่อการชาร์จไฟเต็ม 100% แต่ส่วนตัวตอนที่รีวิว realme Watch S Pro ผมชาร์จไฟประมาณ 1 สัปดาห์ต่อครั้ง อาจเพราะเปิด Always on Display รวมถึงเปิดฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นหัวใจไว้ตลอดเวลาด้วย
อย่างไรก็ตาม โดยรวมก็ถือว่าเป็นสมาร์ตวอชท์ที่แบตเตอรี่อึดมาก ๆ อยู่ดีครับ ส่วนเรื่องการชาร์จไฟ แท่นชาร์จของรุ่นนี้เป็นแบบแม่เหล็ก แค่วางนาฬิกาลงไปตรง ๆ เป็นอันใช้ได้ ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0 – 100% ในเวลา 2 ชั่วโมง
สรุปภาพรวม รีวิว realme Watch S Pro
ภาพรวมของ realme Watch S Pro จากที่ได้ลองใช้งานเครื่องรีวิวมาประมาณ 1 สัปดาห์นิด ๆ ผมมองว่าเป็นสมาร์ตวอชท์ที่น่าสนใจรุ่นหนึ่ง กับราคาเปิดตัว 4,999 บาท ได้สมาร์ตวอชท์หน้าปัดกลม วัสดุพรีเมียมด้วยสแตนเลสสตีล ฟีเจอร์การออกกำลังกายครบ ๆ อีกทั้งรองรับการวัดระดับออกซิเจนในเลือด และที่สำคัญคือ หน้าจอมีขนาดใหญ่ ความละเอียดคมชัด อ่านไทยได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า ตามสไตล์ที่ realme ถนัดเลยล่ะครับ
สำหรับราคา โปรโมชั่น และการวางจำหน่าย realme Watch S Pro จะเป็นดังนี้
- realme Watch S Pro ราคาพิเศษเพียง 3,999 บาท (จากปกติ 4,999 บาท)
- ราคาพิเศษ Flash Sale วันที่ 11, 16 และ 19 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น
- เฉพาะช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee และ Thisshop