ตอนที่ HUAWEI เปิดตัว P30 Pro สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับสุดยอดกล้องถ่ายภาพ และดีไซน์สีสันตัวเครื่องที่มีด้วยกันหลายสี แตกต่างจากสมาร์ทโฟนแฟลกชิปทั่วไป ที่จะมาในโทนสีแบบพื้น ๆ ล่าสุด HUAWEI ได้วางจำหน่าย HUAWEI P30 Pro สีใหม่ Amber Sunrise หรือสีที่มีชื่อแปลเป็นไทยว่า “สีส้มอำพัน สีสันแห่งท้องฟ้ายามรุ่งอรุณ” ซึ่งเป็นสีที่หลายคนรอคอย รวมถึงตัวผมเองด้วยครับ
สำหรับ HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise วางจำหน่ายในราคา 37,990 บาท ราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 6,000 บาท แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในรุ่นนี้ถือว่าสมกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มแน่นอน เพราะว่า P30 Pro สี Amber Sunrise ไม่ได้มีดีแค่สีใหม่ แต่ยังถูกปรับสเปคให้ดียิ่งขึ้น จากรุ่นปกติที่จะมาพร้อมความจุ 256 GB พอเป็น สี Amber Sunrise จะมีพื้นที่ความจุในตัวเครื่องสูงถึง 512 GB มากพอที่จะเก็บภาพ เก็บวีดีโอ หรือเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมาก ๆ เลยล่ะ
สเปค HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise
- จอแสดงผล OLED display ขนาด 6.47 นิ้ว Full HD + (2340 x 1080 pixels)
- ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1
- ชิปประมวลผล Kirin 980 | GPU Mali G76
- RAM 8 GB
- ROM 512 GB เพิ่มความจุด้วย NM card ได้
- กล้องหลัง LEICA Quad Camera ความละเอียด 40 MP (OIS, f/1.6) + 20 (wide-angle, f/2.2) + 8 MP (f/3.4) พร้อม 10x Hybrid Zoom + ToF
- กล้องหน้า 32 MP
- รองรับ In-display Fingerprint Scanner
- ผ่านมาตรฐานกันน้ำ /กันฝุ่น IP68
- แบตเตอรี่ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge
- ราคา 37,990 บาท
นอกจากความจุในตัวเครื่องที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแล้ว HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise ยังมาพร้อมกับแพ็กเกจพิเศษสุดพรีเมียม เรียกได้ว่าพรีเมียมตั้งแต่กล่อง และอุปกรณ์เสริมข้างใน โดยเคสที่ Bundle มาในแพ็กเกจ ตกแต่งด้วยคริสตัลจาก Swarovski เสริมความหรูหราเมื่อประกบเคสเข้ากับ P30 Pro Amber Sunrise ได้เป็นอย่างดี สำหรับเคสประดับด้วยคริสตัล Swarovski มีมูลค่า 2,990 บาท
Design – การออกแบบ
หากคิดว่า HUAWEI P30 Pro เดิม ๆ ก็สวยอยู่แล้ว ผมจะบอกว่า HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise นั้นเรียกได้ว่า “โคตรสวย” เลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นการไล่เฉดที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว โทนสีที่เลือกใช้ แม้จะเป็นสีโทนร้อน แต่ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบแสงอาทิตย์ยามเช้า การไล่เฉด Amber Sunrise จะไล่จากสีส้มอำพันบริเวณด้านบนตัวเครื่อง และเข้มขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นสีแดงเหมือนสีของพระอาทิตย์ยามเช้า
ด้านรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวเครื่อง ด้านหน้าจะเป็นหน้าจอ OLED ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขอบเขตความกว้างช่วงสี DCI-P3 มาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก ตัวเครื่องจะเลือก Theme และ Wallpaper ที่มีโทนสีแบบเดียวกับ Amber Sunrise
ภายใต้หน้าจอ นอกจากจะฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้แล้ว ยังฝังลำโพงสำหรับสนทนาไว้ใต้หน้าจอ เป็นเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า HUAWEI Acoustic Display Technology เพราะหากสังเกตดี ๆ ด้านหน้านอกจากบริเวณที่เป็น Notch screen ใส่กล้องความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ก็จะไม่มีเซ็นเซอร์ หรือช่องลำโพงเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป โดย HUAWEI Acoustic Display Technology ใช้หลักการการลอยตัวของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อกระจายเสียงจากการสั่นสะเทือนของหน้าจอจนถึงหูของผู้ใช้ ส่วนตัวที่ได้ทดสอบกับเครื่องรีวิว P30 Pro ให้เสียงในการสนทนาที่ไม่ต่างจากลำโพงของสมาร์ทโฟนปกติ แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงลอดออกมาเหมือนพวกลำโพง Ultrasonic
ด้านหลังยังคงเป็นตำแหน่งของกล้องหลัง 4 ตัว LEICA Quad Camera ชุดเดิ่ม ประกอบไปด้วยเลนส์ในระยะมุมกว้างปกติ 27 มิลลิเมตร ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล f/1.6, เลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra wide-angle 16 มิลลิเมตร ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล f/2.2, เลนส์เทเลโฟโต้ SuperZoom ระยะ 135 มิลลิเมตร ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/3.4 และกล้อง ToF Camera สำหรับวัดระยะของวัตถุด้วยความแม่นยำสูง
สำหรับเคสที่อยู่ในแพ็กเกจ HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise เป็นเคสขนาดพอดีตัวเครื่อง ประดับด้วยคริสตัล Swarovski ทั้งหมดในบริเวณด้านหลัง ตัวเคสมีการไล่เฉดสีเช่นเดียวกับฝาหลัง เมื่อประกบเคส Swarovski เข้ากับตัวเครื่อง P30 Pro Amber Sunrise จะได้ความสวยหรู ดูแพง และวิบวับไปด้วยคริสตัลจาก Swarovski ยิ่งเวลาที่เคสกระทบกับแสงอาทิตย์ จะยิ่งเป็นประกายเพิ่มขึ้นไปอีก
เรื่องความทนทานของเคส Swarovski ขณะที่ผมได้รีวิว HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise ก็พยายามใช้งานเหมือนใส่เคสปกติทั่วไป ไม่ได้ระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ใส่กระเป๋ากางเกง วางบนโต๊ะตามปกติ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวคริสตัล Swarovski หลุดลอกออกมาจากตัวเคสแต่อย่างใด จะมีข้อสังเกตก็ตรงที่พื้นผิวของเคส Swarovski ค่อนข้างสากมือทีเดียว
ส่วนตัวผมมองว่า HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise เมื่อใส่เคส Swarovski จะต้องถูกใจสาว ๆ เป็นแน่ ด้วยความที่ตัวเคสเป็นประกาย ให้ความสวยงามและโดดเด่น หรือถ้าจะไม่ใส่เคสเลย ตัวเครื่องสี Amber Sunrise เองก็สวยมาก ๆ อยู่แล้ว
Camera – กล้องถ่ายรูป
ก่อนหน้านี้ผมเคยรีวิว HUAWEI P30 Pro ไปแล้ว แต่ก็เป็นเฟิร์มแวร์แรก ๆ ที่ยังไม่มีบางฟีเจอร์ เช่น Dual-view รวมถึงการแก้ไขปัญหาในบางจุด เพราะฉะนั้นในรีวิว HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise เลยถือโอกาสเจาะลึกเรื่องกล้องอีกรอบ โดย HUAWEI P30 Pro มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ชุดใหม่ และกล้องหลังที่มีด้วยกันถึง 4 กล้อง LEICA Quad Camera
ด้านระบบช่วยถ่ายภาพต่าง ๆ P30 Pro ก็จัดเต็มทั้งระบบโฟกัสแบบ Contrast Detection AF, Phase Detection AF และ Laser Auto-Focus ที่ให้ความเร็ว ความแม่นยำในการจับโฟกัสในทุกสภาพแสง รวมถึงระบบกันสั่นที่นอกจากจะมี OIS ในเลนส์หลักกับเลนส์เทเลโฟโต้ ยังมีการใช้ HUAWEI AIS หรือระบบกันสั่นอัจฉริยะด้วย AI อีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เป็นของใหม่ในและยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ก็คือเซ็นเซอร์รับแสงแบบใหม่ ที่เรียกได้ว่าฉีกทุกกฎเกณฑ์เดิม ๆ จากเดิมที่เซ็นเซอร์รับแสงของกล้องถ่ายภาพจะเป็นเซ็นเซอร์แบบ RGB คือมีฟิลเตอร์สีแดง, สีเขียว และสีน้ำเงิน กลายเป็นเซ็นเซอร์ RYB ที่เปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีเหลือง ผลก็คือทำให้สามารถรับแสงเข้าได้มากกว่าเดิมถึง 40% เมื่อรวมกับขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ถึง 1/1.7 นิ้ว โดดเด่นมากในการถ่ายภาพกลางคืน
ส่วนการถ่ายภาพในที่มืด ชนิดที่ว่ามืดในแบบไม่มีแสงก็ยังคงเอาอยู่ ด้วยความสามารถในการดัน ISO ได้สูงถึง 409,600 ว่ากันตามตรงคือเร่ง ISO ได้มากกว่ากล้อง DSLR บางรุ่น ส่วนตัวผมรู้สึกว่า P30 Pro เวลาถ่ายกลางคืน มันทำงานเหมือนตัวเองเป็นกล้อง Night Vision บางสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเก็บภาพได้เพราะไม่มีแสง แต่ P30 Pro กลับถ่ายออกมาได้เหมือนกับพื้นที่นั้น ๆ มีแสงสว่าง
จุดเด่นของกล้อง HUAWEI P30 Pro
- สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบในทุกระยะการถ่ายภาพ
- ระยะซูมที่หวังผลได้ ยังไม่มีสมาร์ทโฟนยี่ห้อไหนทำได้เทียบเท่า
- ถ่ายกลางคืนได้สว่าง เก็บรายละเอียดได้ครบ
- ระบบโฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำ
- การเก็บระยะระหว่างวัตถุแม่นยำ ให้โบเก้ที่สมจริง เป็นธรรมชาติ
เริ่มกันที่เรื่องรายละเอียดของภาพถ่าย ผมมองว่าเป็นจุดแข็งที่มันทำได้เหนือกว่าสมาร์ทโฟนทุกแบรนด์ในช่วงเวลานี้ ก็คือความสามารถในการเก็บรายละเอียดได้ครบในทุกระยะการถ่ายภาพ ว่ากันตามตรงการพกพามีค่าเทียบเท่ากับการพกกล้อง DSLR ที่ติดเลนส์ระยะ 16 – 270 มิลลิเมตรไปไหนมาไหนด้วย แต่ที่ไม่เหมือนการพกกล้องก็คือ P30 Pro สามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้นั่นล่ะครับ
อันที่จริงก็มีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่สามารถซูมได้ไกลไม่แพ้ HUAWEI P30 Pro แม้แต่รุ่นก่อนหน้าอย่าง HUAWEI P20 Pro ก็ซูมได้ที่ 10 เท่า แต่ที่แตกต่างคือการซูมของ P30 Pro เป็น 10 เท่าแบบไฮบริด แทบจะไม่สูญเสียรายละเอียด หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายกว่านั้นก็คือเป็นการซูมกึ่ง Digital ที่ให้คุณภาพไม่แพ้การซูมด้วยฮาร์ดแวร์ เอาเป็นว่าสมาร์ทโฟนที่โฆษณาว่าซูมได้ไกลที่สุด เมื่อเทียบระยะเป็นมิลลิเมตรแล้ว ก็ยังถือว่าไกลไม่เท่า P30 Pro นะครับ เนื่องจากระยะของ HUAWEI P30 Pro เวลาซูมจะนับ 1x ที่เลนส์มุมกว้างปกติ ระยะ 27 มิลลิเมตร แล้วตัวคูณเพิ่มเท่าไหร่ก็ว่ากันไป เช่น ซูม 10 เท่า ก็จะได้ระยะ 270 มิลลิเมตร หรือถ้าเป็น Digital Zoom 50x ก็จะได้ระยะเทียบเท่า 1,340 มิลลิเมตร ไม่ได้นับระยะจากเลนส์ Ultra wide-angle 16 มิลลิเมตร แล้วพอซูม 10 เท่า ออกมาเป็นระยะ 160 มิลลิเมตร
ความน่าสนใจของการซูมอีกอย่างคือระบบที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้ง่ายที่สุด และผมว่าเป็นอีกครั้งที่ HUAWEI ฉีกกฎการถ่ายภาพ ด้วยการทลายข้อจำกัดของเลนส์เทเลโฟโต้เรื่องปัญหาภาพสั่นไหว จากสูตรการถ่ายภาพเบื้องต้น หากไม่อยากให้ภาพสั่นไหว จะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ให้เหมาะสมกับระยะ เช่น ถ่ายภาพที่ระยะ 270 มิลลิเมตร ต้องตั้งความเร็วชัตเตอร์อย่างน้อย 1/270 วินาที ถ้าเลนส์มีกันสั่น ก็อาจจะถ่ายได้ที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/200 วินาที หรือถ้าผู้ใช้มีความชำนาญก็อาจลดความเร็วชัตเตอร์ลงมาได้อีกเล็กน้อย
ถ่ายพระจันทร์ด้วย 50x Digital Zoom ถ้ามีขาตั้งกล้องจะได้ภาพที่แจ่มกว่านี้
ในทางกลับกัน หากถ่ายด้วย HUAWEI P30 Pro คือลืมทุกกฎการถ่ายภาพไปได้เลย เพราะต่อให้ซูมในระยะ 10x Hybrid Zoom ก็ไม่เจอปัญหาเรื่องภาพสั่นไหว ด้วยการที่ใช้ทั้ง Dual OIS จากเลนส์หลัก + เลนส์เทเล รวมกับระบบกันสั่น HUAWEI AIS เมื่อ AI ล็อกเป้าวัตถุที่ต้องการถ่ายได้ ภาพก็จะนิ่งทันที ต่อให้ถือถ่ายด้วยมือเดียวก็ไม่ใช่ปัญหา
ส่วนคุณภาพของรูปถ่ายด้วย 10x Hybrid Zoom ให้ภาพตัวอย่างอธิบายแทนการเล่าเรื่องก็แล้วกันครับ
ระยะ 1x
10x Hybrid Zoom
ภาพถ่ายด้วย 10x Hybrid Zoom
เมื่อถ่ายด้วยระยะ 1x
สำหรับการถ่ายภาพยามค่ำคืน หรือถ่ายภาพในที่แสงน้อย อย่างที่ผมได้อธิบายไปแล้วว่า HUAWEI P30 Pro มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ HUAWEI SuperSpectrum ที่เปลี่ยนรูปแบบการจัดการแสงใหม่ ทำให้รับแสงได้มากกว่าเดิม 40% เซ็นเซอร์มีขนาดใหญ่ถึง 1/1.7 นิ้ว อีกทั้งเลนส์หลักมีรูรับแสงกว้างถึง f/1.6 ทำให้การถ่ายภาพกลางคืน แทบจะไม่ต้องเปิด Night Shot ก็ให้คุณภาพที่น่าประทับใจแล้ว
ส่วนโหมด Night Shot ก็ยังคงมีใน HUAWEI P30 Pro และก็ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องเหมือนเคย แต่สิ่งที่ผมว่า Night Shot ถูกอัพเกรดให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อน ๆ คือความปราณีตในการจัดการภาพ ทั้งเรื่องการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ อย่างคมชัด ไปจนถึงการจัดการแสงไฟ และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนตัวมองว่าเมื่อแลกกับเวลาถ่ายภาพที่ 4 -5 วินาทีต่อภาพในโหมด Night Shot ถือว่าคุ้มที่จะรอครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ HUAWEI P30 Pro ทำได้ดีมาก ก็คือเรื่องของ Bokeh effect ที่สมจริงด้วยโบเก้ที่เบลอตามระยะทางจริง ๆ ด้วยการวัดระยะที่แม่นยำของกล้อง ToF ทำให้โบเก้ที่ได้ไม่เหมือนกับการเบลอด้วยกล้องสมาร์ทโฟนปกติทั่วไป แต่ Bokeh ของ P30 Pro จะเบลอตามหลักการถ่ายภาพ วัตถุที่อยู่ใกล้ จะเบลอน้อยกว่าวัตถุที่อยู่ไกล ผลที่ได้ก็คือให้โบเก้สมจริงเป็นธรรมชาติ ตามตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่าง
ส่วนเรื่องการถ่ายวีดีโอ HUAWEI P30 Pro รองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K 60fps วีดีโอมีระบบกันสั่นแบบ OIS ร่วมกันทำงานกับ HUAWEI AIS ช่วยลดอาการภาพสั่นไหวได้ดี รวมถึงฟีเจอร์ในการถ่ายวีดีโอในที่แสงน้อย สามารถซูมได้ระหว่างถ่ายวีดีโอได้ และฟีเจอร์ Dual-view ที่ถ่ายวีดีโอพร้อมกันได้ 2 ระยะ สามารถสร้างสรรค์วีดีโอในมุมมองใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย
ทดสอบฟีเจอร์ Dual-view ถ่ายวีดีโอพร้อมกัน 2 ระยะ ใน HUAWEI P30 และ HUAWEI P30 Pro พร้อมให้อัพเดตแล้ว
การถ่ายวีดีโอแบบ Dual-view เหมาะสำหรับการเก็บภาพบรรยากาศไปพร้อม ๆ กับตัวแบบที่ต้องการโฟกัสเป็นพิเศษ เช่น ไปเที่ยวทะเล อยากเก็บวีดีโอที่เห็นตัวแบบชัด ๆ แต่ก็อยากได้บรรยากาศทะเลด้วย หรือในเคสที่ผมว่าน่าจะถูกใช้งานบ่อยที่สุดก็คงเป็นการถ่ายวีดีโอในคอนเสิร์ต ก็จะสามารถโฟกัสที่นักร้อง ไปพร้อม ๆ กับบรรยากาศในงาน
ปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจาก HUAWEI P30 Pro ครับ ทั้งหมดผมแค่ย่อภาพด้วย Photoshop เท่านั้น ทุกอย่างจบหลังเครื่อง
Performance – ประสิทธิภาพ
HUAWEI P30 Pro Amber Sunrise ใช้ชิปประมวลผลระดับท็อป Kirin 980 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการประมวลผล โดยเฉพาะการประมวลผลด้าน AI มาพร้อม Ram 8 GB รองรับการใช้งานแบบ Multitasking เต็มรูปแบบ และพิเศษเฉพาะสี Amber Sunrise คือให้พื้นที่ความจุในตัวเครื่องสูงถึง 512 GB มากกว่ารุ่นปกติถึง 2 เท่า เพียงพอที่จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ หรือจะถ่ายวีดีโอ 4K 60 fps ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาความจุเต็มง่าย ๆ
ด้วยความที่เป็นชิปเซ็ตระดับท็อป และมาพร้อมกับ GPU Turbo 2.0 เพราะฉะนั้นในการเล่นเกม HUAWEI P30 Pro ตอบโจทย์การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี สามารถเล่นเกมในโหมดเฟรมเรทสูงได้อย่างลื่นไหล ส่วนเรื่องการจัดการเน็ตเวิร์กก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีกว่าแฟลกชิปหลาย ๆ ยี่ห้อครับ ผมทดสอบโดยการเล่น ROV ที่สถานีเตาปูน (รถไฟฟ้าสีม่วง) ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีคนใช้งานเยอะ ๆ HUAWEI P30 Pro ก็ยังคงจัดการเรื่องอินเทอร์เน็ตได้เป็นอย่างดี หรือก่อนหน้านี้ที่ผมไปร่วม Event Pokemon Go Safari Zone @Sentosa ประเทศสิงคโปร์ ที่มีคนใช้งานอินเทอร์เน็ตพร้อมกันเป็นจำนวนมาก HUAWEI P30 Pro ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ตามปกติ ในขณะที่สมาร์ทโฟนของเพื่อนในกลุ่มบางคนไม่สามารถจับสัญญาณได้ด้วยซ้ำ
ด้านการจัดการพลังงานของ HUAWEI P30 Pro ก็ถือว่าเป็นสุดยอดในบรรดาแฟลกชิปสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,200 mAh ชิปประมวลผล Kirin 980 ที่แม้จะให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดีเยี่ยม แต่ในการจัดการพลังงานก็ยังทำได้ดีมาก เช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการ EMUI 9.1 ที่มีการใช้ AI เข้ามาช่วยในการจัดการพลังงาน จากที่ได้ใช้งานมา ผมว่าชาร์จไฟ 2 วันครั้งสบาย ๆ ครับ หรือถ้าต้องชาร์จไฟ ด้วยระบบชาร์จเร็ว SuperCharge 40W ก็สามารถเติมไฟกลับเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 0 – 60% จะอัดไฟได้เร็วมาก ๆ
Overall
HUAWEI P30 Pro สีใหม่ Amber Sunrise กับราคา 37,990 บาท น่าจะถูกใจคนที่ชอบถ่ายภาพ เพราะกล้องของ HUAWEI P30 Pro มันเป็นอะไรที่สุดยอดอยู่แล้ว ส่วนสีใหม่ Amber Sunrise ก็ครบเครื่องทั้งความสวยงาม และพรีเมียมตั้งแต่กล่อง ไปจนถึงเคสที่ประดับด้วยคริสตัล Swarovski และยังได้ความจุที่เพิ่มมาเป็น 512 GB อีกด้วย
โปรโมชันพิเศษในวันที่ 28 มิถุนายน 2562 เวลา 17.00 น. เฉพาะที่ HUAWEI Experience Store สยามพารากอน เพียง 100 ท่านแรก ไม่ว่าจะพรีออเดอร์มาหรือไม่ก็ตาม เมื่อชำระเงินซื้อ HUAWEI P30 Pro Limited Edition รับเลยทันที ของสมนาคุณสุดคุ้มมากมาย ได้แก่ HUAWEI Pocket Photo Printer มูลค่า 3,690 บาท, Watch GT Active Edition มูลค่า 5,990 THB และ Jaymart My Choice มูลค่า 1,500 บาท