Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] Flash Plus 2 คุ้มกว่านี้มีอีกไหม Helio P10, Ram 2 GB, สแกนนิ้ว ราคา 4,990 บาท!!
    Android Platform

    [Review] Flash Plus 2 คุ้มกว่านี้มีอีกไหม Helio P10, Ram 2 GB, สแกนนิ้ว ราคา 4,990 บาท!!

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng26 พฤษภาคม 2016Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    More than Metal เป็นสโลแกนของมือถือที่ผมจะมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน โดยมือถือรุ่นดังกล่าวก็คือ Flash Plus 2 มือถือที่ดูจากสเปคตอนแรกนี่ผมขยี้ตาก่อนเลย เพราะชิปเซ็ต MediaTek Helio P10 พอไปอยู่ในมือถือบางรุ่นเนี่ย ราคาดีดไปหมื่นกว่าบาทเลยก็มี แต่พออยู่ใน Flash Plus 2 พร้อมแรม 2 GB กลับมีราคาเพียง 4,990 บาท ส่วนตัว Ram 3 GB ก็มีราคาอยู่ที่ 5,990 บาทเท่านั้น ไหนจะฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, วัสดุตัวเครื่องที่ทำจากโลหะ, หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD MiraVision, แถมยังมี DAC ในตัว ด้วยชิปเสียง AKM 4375 พร้อม PowerAMP NXP980 ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในมือถือราคาประมาณนี้หรอกครับ

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00012

    สเปค Flash Plus 2

    • หน้าจอ OGS ความละเอียด Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว
    • Chipset Mediatek MT6755 Helio P10 Quad-core 1.8 GHz
    • GPU Mali-T860MP2
    • รุ่นหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16GB/Ram 2GB, รุ่นหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB/ Ram 3GB
    • รองรับ Micro SD Card สูงสุด 128GB
    • กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง 2.0 พร้อมไฟแฟลช 2 ดวง เซ็นเซอร์กล้องขนาด 1/3 นิ้ว, 1.12 µm pixel size และโฟกัสด้วยระบบ PDAF
    • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED
    • Fingerprint Scanner (เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ)
    • ชิปเสียง AKM4375 (Hi-Fi)
    • ลำโพง NXP980 สามารถขยายเสียงไปในตัวทำให้ลำโพงดังได้ถึง 3.6W
    • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (ช่องใส่คนละช่องกับ Micro SD Card)
    • รองรับการใช้งาน 4G LTE
    • Fast Charging
    • แบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh
    • ราคา 4,990 บาท สำหรับรุ่น 16/2GB และ ราคา 5,990 บาท สำหรับรุ่น 32/3GB

    Flash Plus 2 จะขายแบบ Exclusive เฉพาะที่ Lazada เท่านั้นครับ เท่ากับว่าไม่มีเครื่องให้ลองเล่นที่หน้าร้าน ต้องสั่ง Online ผ่านทาง Lazada อย่างเดียว และการที่ขายผ่านทาง Lazada นี่แหละครับ เลยทำให้ Flash Plus 2 สามารถจำหน่ายในราคาที่เป็นมิตรได้ขนาดนี้ เพราะไม่ต้องไปเสียค่าหน้าร้าน, ค่าพนักงานเพิ่มเติม ผลดีก็ตกอยู่กับผู้บริโภคแบบเรา ๆ นี่แหละครับ ได้ของดี ราคาประหยัดเฉยเลย โดย Flash Plus 2 เปิดขายวันแรกวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ เวลา 12.00-14.00 น. จำนวนจำกัด มาร่วมเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้สัมผัสมือถือสุด exclusive ได้ที่ : http://www.lazada.co.th/flash-plus-2/ 

    จุดเด่น

    – สเปคและโดยรวม เมื่อเทียบกับราคาแล้วจัดว่าคุ้มมากๆ
    – ทุกอย่างอยู่ในจุดสมดุล ทั้ง CPU, แรม, หน้าจอ, แบตเตอรี่, กล้อง
    – รองรับ 4G LTE และรองรับ 2 ซิม
    – งานประกอบดีเกินราคา วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะ ดีไซน์สวย
    – หน้าจอแสดงผลคมชัด มีโหมดหน้าจอให้เลือกหลากหลาย
    – มีสแกนนิ้วติดมาให้ และสแกนนิ้วทำได้มากกว่าปลดล็อก
    – รอมให้มาเป็น Android 6.0 ตั้งแต่แรก และแทบจะเป็น Pure Android
    – แบตเตอรี่ 3000 mAh ใช้งานได้นาน พร้อมฟีเจอร์ชาร์จเร็ว

    ข้อสังเกต

    – ตำแหน่งของปุ่ม Power และ Navigation วางตำแหน่งแบบ Nexus บางคนอาจไม่ถนัด
    – เท่าที่ใช้งานเครื่องรีวิว พบปัญหาเชื่อมต่อ LTE ไม่ติดในบางครั้ง
    – โหมด Beauty ใช้ยาก ตรวจหาหน้าไม่ค่อยเจอ แถมฟุ้งด้วย
    – ภาพจากกล้องหลังยังไม่ประทับใจเท่าไหร่ ถ่ายในที่แสงน้อยมี Noise พอสมควร

    บทสรุป

    สำหรับ Flash Plus 2 ก็เป็นมือถือที่น่าสนใจมาก (ก ไก่หลายตัว) อีกรุ่นหนึ่ง ด้วยจุดเด่นเรื่องสเปคและภาพรวมต่อราคาที่ให้มากกว่าคู่แข่งในช่วงราคาเดียวกันเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต MediaTek Helio P10, Ram 2 GB (ราคา 4,990 บาท)​ / Ram 3 GB (ราคา 5,990 บาท) ประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่เล่นเกมได้สนุกทีเดียว วัสดุตัวเครื่องที่จัดเต็มด้วยฝาหลังโลหะทั้งชิ้น งานประกอบแข็งแรง ทนทาน ส่วนซอฟท์แวร์ก็จัด Android 6.0 Marshmallow ระบบปฏิบัติการแอนดรอยรุ่นใหม่ล่าสุด ปรับแต่งน้อยที่สุดจนเกือบจะเป็น Pure Android ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ติดชิปเสียง AKM 4375 พร้อม Amp ในตัว ให้เสียงที่ทรงพลังกว่ามือถือในช่วงราคาใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด แบตเตอรี่ให้มาที่ 3000 mAh เพียงพอต่อการใช้งาน และยังรองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็วอีกด้วย ภาพรวมของ Flash Plus 2 จัดว่าเป็นมือถือที่ไม่ควรพลาดเลย สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือราคาไม่เกิน 6,000 บาท ตัวนี้มีครบทุกอย่างที่โทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งควรจะมีเลยครับ
    Editor : Jerminalz
    85
    BEST PRICE

    Design

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00003

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00002

    ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Flash Plus 2 ครั้งแรกเมื่อตอนที่ SpecPhone เข้าไปคุยเรื่องการทำตลาด Flash Plus 2 ในประเทศไทย ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้เข้าไปคุยเองหรอกครับ แต่ส่งน้องทีมงานอีกคนไปแทน ก็เลยรู้จัก Flash Plus 2 ผ่านทางคำบอกเล่าของน้องทีมงาน ตอนแรกก็คิดว่าน้องมันโม้หรือเปล่า มือถือบอดี้โลหะ, Ram 2 GB ชิป Helio P10, มีสแกนนิ้วจะขายในราคาไม่เกิน 5,000 บาท

    สารภาพตามตรง ตอนแรกผมยังบอกน้องอยู่เลยว่า โดนหลอกแล้ว ราคาน่าจะเปิดมาที่ 6 พันกว่าบาทโน่นนนน

    เจอราคาเปิดตัว Flash Plus 2 เข้าไป ผมนี่มีหงายหลังเลยทีเดียว เพราะพี่แกเล่นขายในราคาเพียง 4,990 บาท เจอแค่วัสดุตัวเครื่องครั้งแรกนี่ก็อึ้งแล้ว เพราะวัสดุฝาหลังเป็นโลหะ สัมผัสที่ให้นี่แบบเดียวกับมือถือราคา 8 พันกว่าบาทเลยล่ะ ตัวฝาหลังนี่มาในแนวโลหะขัดลาย การเก็บขอบเก็บมุมทำได้ดีมาก

    ที่สำคัญคือฝาหลังของ Flash Plus 2 สามารถถอดได้ซะด้วย ที่ผมบอกว่าถอดได้นี่คือถอดได้ทั้งฝา เพราะฉะนั้นเวลาใช้ ๆ ไปแล้วรู้สึกเบื่อสีเดิมก็สามารถไปหาซื้อฝาหลังอีกสีมาเปลี่ยนได้ โดย Flash Plus 2 จะมีขายด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีเงิน กับสีทอง แต่วิธีการแกะฝาหลังอาจยากไปหน่อย เพราะต้องใช้เล็บแงะบริเวณมุมขวาล่างของตัวเครื่อง มันจะมีร่องสำหรับแงะฝาหลัง

    เมื่อแกะฝาหลังออก จะพบกับช่องใส่ซิมจำนวน 2 ช่อง (รองรับ Micro Sim ทั้ง 2 ซิม) ช่องใส่ MicroSD Card (รองรับความจุสูงสุดที่ 128 GB) ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ของ Flash Plus 2 นั้นไม่สามารถถอดเปลี่ยนเองได้นะครับ

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00004

    Flash Plus 2 เปิดสเปคแบบนี้

    วัสดุแบบนี้ ฟีเจอร์แน่นขนาดนี้

    แบรนด์อื่่นอยู่ยากนะพูดเลย

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00009

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00001

    ข้อสังเกตของ Flash Plus 2 ในส่วนของการดีไซน์ ที่ผมพบระหว่างที่เขียนรีวิว Flash Plus 2 นั้นจะมีอยู่ 2 จุดใหญ่ ๆ คือการวางตำแหน่งปุ่ม Power (หรือที่บางคนเรียกว่าปุ่ม Sleep/ Wake) ที่อยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง คือมือถือปกติทั่วไป ส่วนมากจะวางปุ่ม Power ไว้ใต้ปุ่มปรับระดับเสียง แต่ไม่ใช่กับ Flash Plus 2 ครับ เพราะมือถือรุ่นนี้วางปุ่ม Power ไว้ด้านบนซะอย่างนั้น เวลาผมใช้งานจะกดผิดประจำ

    ส่วนอีกปุ่มที่รู้สึกว่าแปลกก็จะเป็นปุ่ม Navigation ที่อยู่ทางด้านล่างของหน้าจอแสดงผล คือตามปกติเขาจะวางตำแหน่งปุ่ม Recent App ไว้ทางด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะเป็นปุ่มย้อนกลับ แต่ใน Flash Plus 2 จะสลับกันครับ คืออิงกับทาง Google Nexus เอาปุ่ม Recent App ไว้ทางขวา ตรงกลางเป็นปุ่มโฮมที่ติดสแกนลายนิ้วมือเอาไว้ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นปุ่มย้อนกลับ แน่นอนว่าผมก็กดผิดเป็นประจำตอนที่รีวิว Flash Plus 2

    วกกลับไปที่ด้านหลังของ Flash Plus 2 กันหน่อย สำหรับรายละเอียดด้านหลังของ Flash Plus 2 ก็จะประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual LED อยู่ข้าง ๆ ตามมาด้วยโลโก้ Flash ตรงกลางหลัง (ไม่พบโลโก้ Alcatel ที่ตัวเครื่องเลย) และด้านล่างของฝาหลังจะพบกับลำโพงหลักของตัวเครื่อง ซึ่งมันให้เสียงที่ดัง และฟังเพลงได้สนุกทีเดียว เป็นอีกจุดเด่นของ Flash Plus 2 เลยก็ว่าได้

    ส่วนใครที่กังวลว่าลำโพงอยู่ทางด้านหลัง เวลาวางเครื่องบนพื้นมันจะทำให้เสียงไม่ออกหรือเปล่า อันนี้ไม่ต้องกังวลไป เพราะ Flash Plus 2 จะมีการยกตัวเครื่องให้นูนจากพื้นเล็กน้อย ต่อให้วางเครื่องไว้บนพื้น เสียงลำโพงจาก Flash Plus 2 ก็ยังคงดังเหมือนเดิม เผลอ ๆ มันจะเล่นเพลงได้เสียงดีกว่าตอนถือลอย ๆ ด้วยซ้ำ เพราะมีพื้นช่วยในการสะท้อนเสียงให้แน่นเข้าไปอีก

    Flash Plus 2 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ตัวกระจกหน้าจอเป็นกระจกนิรภัย Dragon Trail (ที่เคยเป็นคู่แข่งของ Gorilla Glass) และใช้เทคโนโลยีช่วยแสดงผล MiraVision ทั้งยังรองรับระบบสัมผัสแบบมัลติทัชได้สูงสุด 5 จุด ซึ่งมันก็เพียงพอสำหรับมือถือหน้าจอ 5.5 นิ้วแล้วล่ะครับ คงไม่มีใครจิ้มมือถือทีเดียว 10 นิ้วหรอกเนอะ

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00010

    หน้าจอแสดงผลของ Flash Plus 2 ก็ถือว่าคมชัดสำหรับมือถือหน้าจอ 5.5 นิ้ว ด้วยความละเอียดระดับ Full HD ก็จะได้ค่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลที่ 401 ppi ซึ่งละเอียดเกินกว่าที่ตาคนปกติทั่วไปจะมองเห็นเม็ดพิกเซล พร้อมด้วยเทคโนโลยีในการช่วยแสดงผล MiraVision (คล้าย ๆ กับพวก Bravia Engine ของมือถือ Sony) ที่มีโหมดให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ Standard, Vivid และโหมดที่ให้เราเข้าไปปรับค่าสีของหน้าจอ Flash Plus 2 ได้ด้วยตัวเอง รวมถึงการโหมดถนอมสายตา (BluLight Defender) ที่จะลดการปล่อยแสงสีฟ้า เวลาเปิดโหมดนี้ สีสันหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นโทนอมเหลือง เหมาะสำหรับการใช้งานในที่แสงน้อย หรือใครที่ใช้โทรศัพท์มือถือนาน ๆ แล้วปวดตา

    ภาพรวมในด้าน Design ของ Flash Plus 2 ส่วนตัวผมคิดว่ามันมาสุดทางมาก สำหรับการเป็นโทรศัพท์มือถือราคา 4,990 บาท ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สวยงาม ตัวเครื่องจับถือถนัดมือ น้ำหนักเครื่องกำลังพอดี วัสดุตัวเครื่องก็ทำจากโลหะจริง ๆ ไม่ใช่พลาสติกทาสี หรือพลาสติกเคลือบโลหะ หน้าจอก็คมชัดระดับ Full HD มีโหมดปรับหน้าจอให้เลือกใช้หลากหลายแบบ ถ้าไม่นับการวางปุ่ม Power กับปุ่ม Navigation ที่ดูแปลกไปจากมือถือแอนดรอยรุ่นอื่น (แต่เหมือนกับ Nexus) Flash Plus 2 เป็นมือถือที่ให้อะไรมาครบครันสุด ๆ จนบางทีก็ไม่อยากเชื่อว่ามือถือราคา 4,990 บาท จะให้อะไรมาเต็มขนาดนี้

    Software

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00005

    Flash Plus 2 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง และความเจ๋งของซอฟท์แวร์ Flash Plus 2 ก็คือมันแทบจะไม่โดนปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม คือ UI นี่เกือบ ๆ จะเป็น Pure Android แล้วล่ะครับ มีเพียงการลงแอปพลิเคชัน (Bloatware) เพิ่มเข้าไปใน Stock Rom กับปรับแต่งแอปพลิเคชันบางตัว เช่น แอปพลิเคชันกล้อง, หน้า Setting เป็นต้น

    Screenshot-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00019

    แอปพลิเคชันที่เพิ่มขึ้นมาจาก Stock Rom และน่าสนใจก็คือ Music ครับ ตามที่ผมได้เกริ่นไปแล้วว่า Flash Plus 2 มาพร้อมกับ DAC และ Amp ในตัว คือมือถือรุ่นนี้ ราคา 4,990 บาท ดันใส่ชิปเสียง AKM 4375 มาให้ด้วย เพราะฉะนั้นแอปพลิเคชัน Music ที่ติดมาให้ในเครื่อง นอกจากจะใช้ฟังเพลงได้แล้ว ยังมีฟีเจอร์ในการ Mix เสียง แบบ DJ ได้ด้วย ร้ายกาจจริง ๆ มือถือรุ่นนี้

    Screenshot-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00012

    Screenshot-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00013

    ส่วนตัวผมมองว่าการที่ Flash Plus 2 เลือกที่จะปรับแต่งรอมให้น้อยที่สุด ให้มันใกล้เคียงกับ Pure Android มากที่สุด เป็นทางออกที่ Win-Win ทั้งสองฝ่าย ทั้งฝั่งผู้ผลิต และฝั่งผู้ใช้เอง เพราะจะได้ลดต้นทุนเรื่องการพัฒนาซอฟท์แวร์ การออกแบบ UI/ UX เนื่องจากรอม Android 6.0 Marshmallow ก็มีหน้าตาที่สวยงามอยู่แล้ว การใช้งาน หรือฟีเจอร์เองก็เพียงพอต่อการใช้งาน ความลื่นนี่ไม่ต้องพูดถึง สเปคระดับนี้ เจอกับ Android 6.0 Marshmallow ที่เน้นเรื่อง Performance เป็นหลัก แบบนี้ผู้ใช้อย่างเรา ๆ นี่ยิ้มเลยครับ

    ส่วนใครที่เบื่อหน้าตาเดิม ๆ อยากได้ UI สวย ๆ ก็สามารถไปดาวน์โหลด Launcher มาลงเพิ่มเติมทีหลังได้ ใน Google Play มี Launcher ให้เลือกดาวน์โหลดเพียบ

    Feature

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00006

    ถึงแม้ว่าฟีเจอร์ของ Flash Plus 2 จะไม่ได้มีเยอะแยะมากมายเหมือนมือถือยี่ห้ออื่น ๆ ด้วยข้อจำกัดทางด้านราคา และตัวรอมของ Flash Plus 2 ที่เกือบจะเป็น Pure Android ตามที่ผมได้อธิบายไปในรีวิว Flash Plus 2 หัวข้อ Software เพราะฉะนั้นฟีเจอร์ของ Flash Plus 2 จึงไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่ ถ้าหวังว่าจะเจอฟีเจอร์ประเภทวาดหน้าจออะไรพวกนี้ก็ควรมองข้าม Flash Plus 2 ไปครับ

    โดยส่วนตัวแล้ว ผมกลับชอบฟีเจอร์ที่มีใน Flash Plus 2 มากกว่า เพราะมันเป็นฟีเจอร์ที่เมื่อเปิดใช้งานแล้วได้ใช้งานจริง ๆ อย่างการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกเครื่อง (อันที่จริงใช้การกดปุ่ม Home สะดวกกว่า) และเราก็สามารถเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อทำการปิดหน้าจอได้เช่นกัน ซึ่งผมว่ามันสะดวกมาก เนื่องจากปุ่ม Power ของ Flash Plus 2 วางอยู่ในตำแหน่งที่กดยากกว่าปกติ

    Screenshot-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00004

    เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Flash Plus 2 ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจในมือถือรุ่นนี้ เพราะนอกจากจะสแกนนิ้วได้รวดเร็ว (พอ ๆ กับเจ้าอื่น) ยังมีลูกเล่นที่ตัวสแกนลายนิ้วมือ โดย Flash Plus 2 สามารถเก็บลายนิ้วมือได้มากสุดที่ 5 นิ้ว และเราสามารถตั้งค่าให้แอปพลิเคชันทำงานเมื่อใช้ปุ่มสแกนนิ้วได้ เช่น ตั้งให้นิ้วโป้งขวา = ปลดล็อกตัวเครื่อง, นิ้วโป้งซ้าย = เปิดกล้อง, นิ้วชี้ขวา = เปิดแอป Facebook  เป็นต้น

    Screenshot-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00005

    ระบบรักษาความปลอดภัยของ Flash Plus 2 จัดว่าอยู่ในระดับดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการที่ใช้ซอฟท์แวร์เป็น Android 6.0 Marshmallow จะมีการขอ Permission ทุกครั้ง เมื่อเราใช้งานแอปพลิเคชันที่โหลดใหม่เป็นครั้งแรก และเมื่อเราตั้งรหัสล็อกเครื่องเอาไว้ ระบบจะทำการถามรหัสทุกครั้งที่มีการ Restart เครื่อง หรือเปิดเครื่องใหม่ แต่การถามรหัสของ Flash Plus 2 จะแปลกกว่ามือถือแอนดรอยยี่ห้ออื่น คือมันจะถามรหัสก่อนที่จะบูทเครื่องเสร็จ แล้วพอบูทเครื่องเสร็จก็จะต้องใส่รหัสเดิมอีกครั้งหนึ่ง (รอบสองใช้สแกนนิ้วได้)

    Camera

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00007

    สเปคของฮาร์ดแวร์กล้อง Flash Plus 2 ถ้าดูจากตัวเลขความละเอียดที่ให้มาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติทั่วไป กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual LED อัตราส่วนของภาพที่ความละเอียดสูงสุดเป็นแบบ 4:3 ซึ่งเป็นอัตราส่วนมาตรฐานสำหรับกล้องมือถือ ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED อัตราส่วนภาพที่ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 4:3 แต่ถ้าต้องการถ่ายภาพที่อัตราส่วนแบบ 16:9 ก็ต้องลดความละเอียดกล้องหน้าลงมาเหลือ 5 ล้านพิกเซล

    สำหรับการถ่ายวีดีโอ กล้องหลังของ Flash Plus 2 สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD แต่ถ้าเป็นกล้องหน้าจะถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ระดับ HD เท่านั้น แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน VDO Call หรือจะใช้ทำ Facebook Live/ BIGO Live แล้วล่ะครับ

    Screenshot-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00001

    สิ่งที่ผมชอบในกล้องของ Flash Plus 2 ก็คือ ไม่ให้โหมดถ่ายรูปมาเยอะจนเกินใช้ อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่าซอฟท์แวร์ของ Flash Plus 2 เป็นเกือบ ๆ Pure Android เพราะฉะนั้นเมนูกล้องจึงไม่มีลูกเล่น หรือโหมด (ที่ปกติเราก็ไม่ค่อยได้ใช้) มากมาย โดยโหมดกล้องของ Flash Plus 2 จะมีแค่ 3 โหมดหลัก ๆ ได้แก่

    • Normal (โหมดออโต้)
    • Panorama
    • PIP – เป็นการถ่ายรูปด้วยกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

    การตั้งค่ากล้องก็ปรับได้ละเอียดประมาณหนึ่ง สามารถเลือกความละเอียดของภาพที่จะถ่ายได้ รวมถึงเลือกเปิดฟีเจอร์การถ่ายกลางคืน, HDR และการหน่วงเวลา (สำหรับกล้องหน้า) ส่วนโหมดหน้าสวย หรือ Beauty ในกล้องหน้า Flash Plus 2 ก็มีติดมาให้เช่นกัน แต่ส่วนตัวผมว่ามันยังไม่สุดเท่าไหร่ อารมณ์โหมด Beauty เมื่อก่อนอะครับ คือจะขาว ๆ ฟุ้ง ๆ ไปหมด และมีอีกโหมดที่น่าสนใจก็คือโหมดถ่ายรูปเด็ก คือตัวกล้องจะทำการส่งเสียงเพื่อให้เด็กสนใจ จะได้มองที่กล้องขณะถ่ายรูปด้วยครับ

    คุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องหลังของ Flash Plus 2 ส่วนตัวผมไม่ประทับใจเท่าไหร่ ตอนที่รีวิวนี่พบปัญหาเรื่อง White Balance ประจำ แต่การเปิดกล้องทำได้รวดเร็ว การจับภาพก็เร็วดี คุณภาพของรูปถ่ายถ้ามีแสงเพียงพอก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเจอที่แสงน้อยเข้าไปก็ Noise เพียบครับ แต่พอย้อนกลับมาดูราคาค่าตัวที่ 4,990 บาท ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรนะ

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Flash Plus 2 (ไฟล์ผ่านการย่อรูปเพื่อลงเว็บไซต์)

    ส่วนคุณภาพรูปถ่ายจากกล้องหน้าก็อย่างที่ได้บอกไปว่า โหมด Beauty ยังไม่ปังเท่าที่ควร แต่ปัญหาที่พบมากกว่าคือการถ่ายในที่แสงน้อยครับ ซอฟท์แวร์กล้องจะพยายามทำให้ภาพจากกล้องหน้าสว่าง ซึ่งมันไปแก้ปัญหาที่การเพิ่ม Speed Shutter ทีนี้ถ้าเราถือกล้องไม่นิ่งพอก็จะเกิดภาพเบลอได้ครับ

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Flash Plus 2 (ไฟล์ผ่านการย่อรูปเพื่อลงเว็บไซต์)

    Performance

    Review-Alcatel-Flash-Plus-2-SpecPhone-00008

    ประสิทธิภาพของ Flash Plus 2 จัดว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio P10 (MT6755) Octa-Core ความเร็ว 1.8 GHz ความแรงเมื่อเทียบกับชิปของ Qualcomm จะเทียบได้กับ Snapdragon 615 แต่ MediaTek Helio P10 จะมีคะแนนเหนือกว่าเล็กน้อย พูดง่าย ๆ คือมันแรงกว่า Snapdragon 615 แต่ยังสู้ Snapdragon 650 ไม่ได้นั่นเองครับ

    Flash Plus 2 เครื่องที่ผมได้มารีวิวนั้นเป็นรุ่น Ram 2 GB ครับ ในการใช้งานผมไม่รู้สึกติดขัดเรื่องความลื่นแต่อย่างใด ด้วยรอม Android 6.0 Marshmallow ที่เกือบจะเป็น Pure Android ความลื่นนั้นหายห่วงอยู่แล้ว การใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำได้อย่างลื่นไหล หรือจะใช้เล่นเกมก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้สุดจริง ๆ ผมแนะนำให้ซื้อ Flash Plus 2 Ram 3 GB ราคา 5,990 บาทจะดีกว่าครับ

    แบตเตอรี่ของ Flash Plus 2 ให้มาที่ความจุ 3,000 mAh ถือว่าเป็นแบตเตอรี่ความจุมาตรฐานสำหรับมือถือแอนดรอยจอใหญ่อยู่แล้ว ระยะเวลาในการใช้งาน ทดสอบด้วยการเปิด Cellular + Wifi เอาไว้ตลอด (ใส่ซิม Truemove-H 4G) ปรับแสงหน้าจอแบบ Auto มีหยิบขึ้นมาถ่ายรูป, เช็คโซเชียล Facebook, Line, Twitter, Instagram และมีเล่นเกมบ้างเล็กน้อย พบว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ข้ามวันแบบสบาย ๆ แต่ถ้าใช้งานแบบหนัก ๆ หยิบมาเล่นบ่อยหน่อยอันนี้ผมว่าก็น่าพอลากไปได้หมดวันพอดี

    แต่ถ้าใช้ไม่พอจริง ๆ Flash Plus 2 ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ซึ่งมันชาร์จเร็วจริงครับ ผมทดสอบชาร์จไฟตอนแบตเตอรี่เหลือ 30% พบว่าใช้เวลาเพียง 40 นาทีก็เติมไฟได้เต็ม 100% แล้ว โดยการชาร์จไฟช่วง 30 – 70% นี่ทำได้เร็วมาก แต่หลังจากนั้นเหมือนอแดปเตอร์จะปล่อยไฟช้าลงเรื่อย ๆ เพื่อช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น ส่วนความร้อนระหว่างชาร์จไฟก็เอาเรื่องเหมือนกัน ตัวเครื่องจะร้อนขึ้นมาแบบรู้สึกได้เลยครับ ไม่แนะนำให้เล่นไปชาร์จไปนะ

    Gallery

    Alcatel Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์เกาหลีพากย์ไทย Netflix ล่าสุดปี 2025 สนุกๆ ครบทุกแนว มีเรื่องไหนน่าดูบ้าง

    9 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    ราคาไอโฟนล่าสุด 2025 ทุกรุ่นทั้งเครื่องเปล่าและติดโปรที่วางขายในตอนนี้ มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง อัพเดท พฤษภาคม 2025

    9 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์เกาหลีพากย์ไทย Netflix ล่าสุดปี 2025 สนุกๆ ครบทุกแนว มีเรื่องไหนน่าดูบ้าง

    9 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X