Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] ASUS Zenfone 3 Marshall Limited Edition ราคา 14,990 บาท แค่หูฟังก็คุ้มแล้ว!!
    Android Platform

    [Review] ASUS Zenfone 3 Marshall Limited Edition ราคา 14,990 บาท แค่หูฟังก็คุ้มแล้ว!!

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng4 กันยายน 2016Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    ASUS Zenfone 3 เป็นมือถือในเจนเนอร์เรชันที่ 3 ของ ASUS Zenfone ไล่มาตั้งแต่รุ่นแรก ASUS Zenfone 4, ASUS Zenfone 5 และ ASUS Zenfone 6 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2014 ก็เป็นกระแสแรงไปทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว เพราะเป็นมือถือที่สเปคคุ้มค่า ณ ตอนนั้น เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มือถือ Ram 2 GB กับราคา 5,990 บาทนี่เป็นอะไรที่ว้าวมาก พอปีถัดมา ASUS ก็ได้ทำให้ตลาดมือถือสะเทือนอีกครั้ง ด้วย ASUS Zenfone 2 ZE551ML กับราคา 11,990 บาท แต่ให้แรมสูงถึง 4 GB จัดเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวด้วย Ram 4 GB และในปี 2016 ก็คงต้องถึงคิวของ ASUS Zenfone 3 แล้วล่ะครับ

    สเปค ASUS Zenfone 3

    • หน้าจอ Super IPS+ ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ความสว่างสูงสุดที่ 600nits
    • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 ความเร็ว 2.0 GHz
    • Ram 4 GB
    • ความจุ 64 GB
    • กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล PixelMaster 3.0, OIS+EIS
    • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
    • รองรับ 4G LTE และรองรับ 2 ซิม
    • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือทางด้านหลังตัวเครื่อง
    • แบตเตอรี่ 3000 mAh
    • สเปคเต็ม ๆ ASUS Zenfone 3
    • ราคา 14,990 บาท

    แต่สิ่งที่ผลิกโผคือ ASUS Zenfone 3 กลับเป็นมือถือที่โดนบ่นเยอะ จากแฟน ๆ อารยธรรมเซ็น ด้วยราคาเปิดตัวที่สูงขึ้นจากเดิม แต่ส่วนตัวผู้เขียนกลับมองว่า ASUS Zenfone 3 ยังคงความคุ้มค่าสไตล์ Zenfone เช่นเคย แถมยังเพิ่มเติมเรื่องความพรีเมียมเข้าไปอีก ตอนที่ได้ลองจับ ASUS Zenfone 3 ครั้งแรกที่ไต้หวัน ยอมรับเลยว่าต้องมองมือถือ ASUS ใหม่เสียแล้ว จากที่คิดมาตลอดว่ามือถือ Zenfone เน้นประหยัด เน้นสเปค พอมาใน ASUS Zenfone 3 นี่เพิ่มเติมความพรีเมียมเข้าไปอีก พรีเมียมในระดับที่เทียบชั้นกับมือถือตัวท็อปของยี่ห้ออื่นได้สบาย ๆ เลยล่ะ

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00029

    ความพรีเมียมเริ่มจากกล่องของ ASUS Zenfone 3 Marshall Limited Edition (ต่อจากนี้ไปขอเรียกว่า ASUS Zenfone 3) หรือ Zenfone 3 รุ่นแถมหูฟัง Marshall Major 2 ที่ไม่ได้แถมในลักษณะของการยัดกล่องหูฟังใส่ถุงหิ้วมาให้ แต่มีกล่องเฉพาะ ที่ใส่ทั้ง ASUS Zenfone 3 ZE552KL รุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้ว กับหูฟัง Marshall Major 2 เอาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกหรูหรา พรีเมียมสมราคามาก ๆ และถ้าหักค่าหูฟัง Marshall Major 2 ไปแล้ว ผมว่า ASUS Zenfone 3 ZE552KL ที่ขายในราคา 14,990 บาทก็ไม่ได้แพงจนเกินไปเลย ส่วนรุ่นหน้าจอ 5.2 นิ้ว ASUS Zenfone 3 ZE520KL ราคา 11,990 บาท ไม่ได้แถมหูฟัง Marshall มาให้เหมือนตัวท็อป ส่วนรายละเอียดที่เหลือเหมือนกันหมดครับ

    จุดเด่น

    – ทุกอย่างอยู่ในจุดสมดุล ทั้ง CPU, แรม, หน้าจอ, แบตเตอรี่, กล้อง
    – วัสดุ, งานประกอบดีเกินราคา อุปกรณ์เสริมที่ให้มาก็ดูพรีเมียมดี โดยเฉพาะ Marshall Major II
    – ลำโพง 5-magnet ให้เสียงที่ดี และความดังก็ใช้ได้เลย
    – แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
    – ความจุตัวเครื่อง 64 GB แทบไม่ต้องใช้ Micro SD Card
    – กล้องหน้าให้คุณภาพรูปถ่ายที่ประทับใจ

    ข้อสังเกต

    – ภาพจากกล้อง จัดอยู่ในระดับมาตรฐานเท่านั้น น่าจะทำได้ดีกว่านี้
    – ไฟปุ่มกดตัวเครื่องก็ยังไม่มีเหมือนเดิม
    – ฝาหลังกระจก เก็บรอยนิ้วมือพอสมควร
    – Bloatware เยอะไปหน่อย

    บทสรุป

    ASUS Zenfone 3 Marshall Limited Edition กับราคาค่าตัว 14,990 บาท เมื่อหักกับของแถมที่เป็นหูฟัง Marshall Major II แล้ว ถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตัวเครื่องที่เป็นโลหะกับกระจก, การออกแบบที่หรูหราพรีเมียม เรียกว่ายกระดับจาก ASUS Zenfone 2 ไปมากทีเดียว ขนาดถือว่ากำลังพอดีมือทั้ง ASUS Zenfone 3 หน้าจอ 5.5 และหน้าจอ 5.2 นิ้ว ฟีเจอร์ กับเทคโนโลยีก็จัดหนักจัดเต็ม ลำโพง 5-magnet ที่ให้เสียงดัง รายละเอียดแน่น ๆ และยังรองรับไฟล์เพลงคุณภาพสูง Hi-Res ส่วนกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ก็ใส่เทคโนโลยีแบบจัดหนักจัดเต็ม เช่น TriTech Auto-Focus ระบบโฟกัสสามรูปแบบ ที่ช่วยให้จับโฟกัสได้เร็วเพียง 0.03 วินาที คุณภาพรูปถ่ายเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จัดว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก แต่ก็ยังอยู่ในระดับธรรมดา เมื่อเทียบกับคู่แข่งในราคาใกล้เคียงกัน และข้อสังเกตอีกอย่าง คือตัวหูฟัง Marshall Major II ที่จะขายเฉพาะรุ่น Limited Edition เท่านั้น ถ้าบันเดิลมาให้ ASUS Zenfone 3 ZE552KL ทุกรุ่นนี่จะเป็นมือถือที่คุ้มค่าคุ้มราคายิ่งกว่านี้ เอาเป็นว่าใครสอย ASUS Zenfone 3 Marshall Limited Edition ได้ทันก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วครับ หักลบราคาหูฟังไป ราคา 14,990 บาทสำหรับ ASUS Zenfone 3 นี่ถือว่าไม่แพงเลย
    Editor : Jerminalz
    88
    BEST PRICE

    Design

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00035

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00034

    ความเปลี่ยนแปลงแรกที่ ASUS Zenfone 3 ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง ASUS Zenfone 2 ก็คือดีไซน์, วัสดุ และงานประกอบ โดยรอบนี้ ASUS เลือกใช้โลหะ กับกระจกเป็นวัสดุหลักของ ASUS Zenfone 3 ให้ความหรูหรา พรีเมียมไม่แพ้มือถือราคาสองหมื่นบาทขึ้นไปเลยล่ะ

    ด้านหน้าของ ASUS Zenfone 3 ประกอบไปด้วยหน้าจอ Super IPS+ ขนาด 5.5 นิ้ว สำหรับรุ่น ZE552KL และหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว สำหรับ ASUS Zenfone 3 ZE520KL ความละเอียดระดับ Full HD ความสว่างสูงสุด 600 nits ด้านบนหน้าจอประกอบไปด้วยลำโพงสำหรับสนทนา, กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างหน้าจอ เป็นพื้นที่ของ Navigation Key ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App และก็ยังไม่ใส่ไฟ LED ใต้ปุ่มเหมือนตอน ASUS Zenfone 2 โดยไฟ LED ใต้ปุ่มเราจะพบได้ในรุ่นท็อปอย่าง ASUS Zenfone 3 Ultra และ ASUS Zenfone 3 Deluxe

    ด้านข้างของ ASUS Zenfone 3 ใช้วัสดุเป็นโลหะ มีความโค้งเล็กน้อย แต่ที่ต้องชมคือการเก็บขอบเก็บมุมได้ดี จับถือเนียนมือ รายละเอียดทางด้านขวามือ ประกอบไปด้วยปุ่ม Power กับปุ่มปรับระดับเสียง ตัวปุ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย กดง่าย ด้านซ้ายมือประกอบไปด้วยช่องใส่ซิมการ์ด โดย ASUS Zenfone 3 รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม เป็นแบบ Hybrid Slot คือต้องเลือกระหว่างซิม 2 หรือจะใส่ MicroSD Card (รองรับความจุสูงสุด 256 GB)

    ด้านบนของ ASUS Zenfone 3 ประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร กับไมค์สำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างประกอบไปด้วยพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 2.0 ที่สามารถเสียบสายด้านไหนก็ได้ และลำโพงแบบ 5-Magnet ที่ให้เสียงดังกระหึ่ม กับรายละเอียดที่มากกว่าลำโพงปกติทั่วไป

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-0044

    ถ้าถามว่า ASUS Zenfone 3

    มีอะไรเปลี่ยนไปมากที่สุด

    คงเป็นดีไซน์นี่แหละ…แจ่มขึ้นเยอะ

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00038

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00037

    ด้านหลังของ ASUS Zenfone 3 ใช้วัสดุเป็นกระจกนิรภัย 2.5D มีความโค้งบริเวณขอบเล็กน้อย  รายละเอียดทางด้านหลังประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual LED และ Laser สำหรับช่วยโฟกัส ตัวโมดูลกล้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยจากฝาหลัง ข้อสังเกตของฝาหลังที่ใช้วัสดุเป็นกระจก คือต้องแลกความสวยงามกับลายนิ้วมือหลังตัวเครื่อง เป็นเรื่องปกติมากสำหรับมือถือาหลังกระจกแบบเงา ที่จะมีรอยนิ้วมือเต็มตัวเครื่องไปหมด

    ถัดมาจะเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า จดจำลายนิ้วมือได้มากสุดที่ 5 ลายนิ้วมือ แต่โดยปกติแล้ว ตำแหน่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง มักจะใช้อยู่ 2 นิ้วในการปลดล็อก ซึ่งก็คือนิ้วชี้ด้านซ้าย และด้านขวา การปลดล็อกทำได้รวดเร็ว ขนาดไม่ตั้งใจแตะยังสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ และมีฟีเจอร์ใช้งานกับอย่างอื่นนอกจากปลดล็อกตัวเครื่อง ตามมาด้วยโลโก้ ASUS บริเวณด้านล่างของฝาหลัง

    หน้าจอ Super IPS+ ของ ASUS Zenfone 3 ความละเอียดระดับ Full HD ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส และยังมีความสว่างสูงถึง 600 nits ซึ่งสว่างกว่าหน้าจอมือถือทั่วไปพอสมควร สามารถเร่งแสงไฟสู้แดดจัดได้สบาย ๆ การตอบสนองในการสัมผัสหน้าจอทำได้ดี รองรับทัชสกรีนทั้งหมด 10 จุด และด้วยขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งถือว่ากำลังดีสำหรับการใช้งาน ไม่ใหญ่ และไม่เล็กจนเกินไป ที่จะรับชมวีดีโอ, เล่นอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่เล่นเกม แต่ถ้าคิดว่าหน้าจอ 5.5 นิ้วของ ASUS Zenfone 3 ZE552KL ใหญ่เกินไป ASUS ก็ทำรุ่นหน้าจอ 5.2 นิ้ว ASUS Zenfone 3 ZE520KL ออกมาเป็นตัวเลือกด้วย สนนราคา 11,990 บาท ทุกอย่างเหมือนกันหมด ต่างที่ Ram 3GB และขนาดหน้าจอเท่านั้น เมื่อเทียบกับเครื่อง ASUS Zenfone 3 ในรีวิว

    ภาพรวมของ ASUS Zenfone 3 ทั้งรุ่นหน้าจอ 5.2 นิ้ว และหน้าจอ 5.5 นิ้ว ถือว่ามีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งวัสดุที่พรีเมียมมากขึ้น ดีไซน์ที่สวยงาม (ส่วนตัวผมชอบดีไซน์แบบนี้มากกว่า ASUS Zenfone 3 Deluxe เสียอีก) และการเก็บรายละเอียดที่ดีมาก ทั้งกรอบตัวเครื่องที่ผ่านกรรมวิธีผลิตหลายขั้นตอน ดีไซน์โค้งมนจับถือได้ถนัดมือ แถมลำโพง 5-magnet ก็ให้เสียงที่ดีสมกับที่ ASUS ได้เน้นเป็นไฮไลท์หลักของมือถือรุ่นนี้ ต้องยอมรับเลยว่า ASUS ทำการบ้านมาดีทีเดียว สำหรับ ASUS Zenfone 3 ที่มาแบบพรีเมียมกว่าเดิม ฉีกภาพเก่า ๆ ของมือถือ ASUS ไปได้หมด

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00019

    Software

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-0044

    ASUS Zenfone 3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย ASUS ZenUI 3.0 ที่เน้นเรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพ ให้รีดพลังของ CPU ได้อย่างเต็มที่ ภาพรวมยังคงคล้ายกับ ZenUI เวอร์ชันก่อน ใครที่อัพเครื่องมาจาก ASUS Zenfone 2 มาใช้ ASUS Zenfone 3 ก็ไม่ต้องปรับตัวมาก เพราะตัว UI บน Zenfone 3 เมื่อเทียบกับ Zenfone 2 ที่อัพเดตเป็น Android 6.0 Marshmallow

    ตัว Zen UI 3.0 มี Widget ติดมาให้พอสมควร การใช้งานก็มีด้วยกัน 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือหน้า Home กับ App Drawer ที่ยังคงไว้อยู่ การใช้งานก็คือแอปพลิเคชันที่เราดาวน์โหลดมาจาก Play Store จะเก็บไว้ที่ App Drawer ส่วนหน้าโฮมอันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคลเลยครับ สามารถเลือก Widget ได้ตามต้องการ หรือจะย้ายแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย ๆ มาไว้ที่หน้าโฮมก็ทำได้เช่นกัน โดยเราสามารถเพิ่มหน้าโฮมได้สูงสุด 7 หน้า

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00007

    ข้อสังเกตของ ASUS Zenfone 3 คือมีแอปพลิเคชันติดเครื่อง (Bloatware) อยู่ในรอมเยอะมาก เข้าใจว่ามีทั้งแอปพลิเคชันพรีโหลดเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ เช่น Line, Lazada กับแอปพลิเคชันที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ ASUS เอง เช่น เกม Township, SimCity และ Need for Speed No Limits โดยเราก็สามารถลบแอปพลิเคชันเหล่านั้นออกได้ถ้าไม่ต้องการ แต่ก็มีแอปพลิเคชันบางตัวที่ไม่สามารถ Uninstall ออกได้เช่นกัน จะทำได้ก็แค่การ Disable ไม่ให้มันแสดงเท่านั้น

    Feature

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-0046

    ASUS Zenfone 3 มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย แต่ในการรีวิว ASUS Zenfone 3 ใน part ของ Feature ผมจะขอยกมาแค่ฟีเจอร์เด่น ๆ ของ ASUS Zenfone 3 มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน โดยจะเน้นไปที่ฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับความบันเทิงเป็นหลัก

    Hi-Res Audio และ SonicMaster

    ASUS Zenfone 3 รองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูง (ขนาดไฟล์ก็สูงตาม) Hi-Res Audio เช่นไฟล์ตระกูล FLAC, WAV เป็นต้น คือเราสามารถเปิดไฟล์เพลง 24-bit/192KHz ที่คุณภาพสูงกว่า CD ถึง 4 เท่า เรียกว่าเป็นเกรดเดียวกับในสตูดิโอ และรองรับการเชื่อมต่อกับหูฟัง Hi-Res ด้วย (ต้องซื้อแยก)

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00015

    ส่วน SonicMaster ก็คือฟีเจอร์ในการปรับแต่งเสียง สามารถปรับแต่ง EQ ได้ถึง 5 ย่าน อยากได้เบส, กลาง, แหลมแบบไหนก็ปรับกันได้ตามสะดวก หรือจะเลือกใช้ EQ ที่ Preset ไว้แล้วก็ได้เช่นกัน

     

    ASUS Game-Genie

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00014

    ฟีเจอร์ใหม่ที่พบได้ใน ASUS ZenUI 3.0 โดย Game-Genie คือแอปพลิเคชันผู้ช่วยสำหรับคนเล่นเกมโดยเฉพาะ ลักษณะของ Game-Genie จะเป็น Widget ที่ลอยอยู่ในหน้าจอขณะที่เราเปิดเกม สามารถทำ Speed Booster เพื่อเร่งความเร็วของเครื่องได้ ถ้าต้องการเล่นเกมหนัก ๆ หรือจะใช้อัดหน้าจอในขณะที่เล่นเกมก็ได้เช่นกัน และยังสามารถทำ Live Video ผ่าน Youtube Live, Twitch ตอนเล่นเกมได้ทันที สายแคสเกมมือถือน่าถูกใจกันล่ะ

    Camera

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00038

    จุดที่ ASUS เน้นเป็นพิเศษในตัว ASUS Zenfone 3 ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องกล้อง ที่รอบนี้จัดหนักจัดเต็มตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ยันซอฟท์แวร์ เริ่มจากกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบโฟกัสแบบ TriTech Auto-Focus ที่ประกอบไปด้วย

    • Laser Auto-Focus
    • Phase Detection Auto-Focus (PDAF)
    • Continuous Auto-Focus

    การที่มีระบบโฟกัสทั้ง 3 แบบในกล้องมือถือตัวเดียว ช่วยให้การถ่ายภาพด้วย ASUS Zenfone 3 ง่ายในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในที่แสงเพียงพอ เพราะ ASUS Zenfone 3 สามารถจับโฟกัสได้เร็วมาก เพียง 0.03 วินาทีเท่านั้น เร็วกว่ากระพริบตาก็ TriTech AF ของ ASUS Zenfone 3 นี่ล่ะ

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-0045

    แต่ถ้าเป็นพื้นที่แสงน้อย หรือมีแสงไม่เพียงพอ เช่น การถ่ายภาพตอนกลางคืน, ถ่ายภาพในตัวอาคาร การที่ ASUS Zenfone 3 มีระบบโฟกัส 3 แบบ ช่วยให้ตัวเครื่องจับภาพได้ดีกว่า เพราะระบบโฟกัสแต่ละอย่างของ ASUS Zenfone 3 มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป การที่ใส่มา 3 แบบ จึงเป็นเหมือนการเติมเต็มให้กันและกัน เพราะในที่แสงน้อย ระบบโฟกัสแบบ PDAF จะทำงานได้ไม่เต็มที่ ก็จะเป็นหน้าที่ของ Laser AF ที่เข้ามาช่วยในการโฟกัสให้รวดเร็วทันใจ ถึงแม้จะไม่เร็วเท่ากับการถ่ายรูปในที่แสงปกติ แต่ก็ไม่ได้โฟกัสช้าจนเกินไป

    นอกจาก TriTech AF แล้ว กล้องหลังของ ASUS Zenfone 3 ยังใส่ระบบกันสั่นที่มาทั้ง OIS และ EIS คือใช้ทั้งซอฟท์แวร์กับฮาร์ดแวร์ในการช่วยไม่ให้ภาพสั่นไหว แบ่งเป็นกันสั่น OIS 4 แกน และ EIS 3 แกน (สำหรับถ่ายวีดีโอ)  ในการใช้งานจริงก็ช่วยได้มากในการถ่ายภาพที่แสงน้อย หรือการถ่ายวีดีโอโดยที่ไม่ได้ใช้ไม้ Gimbal

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00026

    เซนเซอร์ของกล้องหลัง ASUS Zenfone 3 มีเทคโนโลยีเจ๋ง ๆ อย่าง Deep Trench Isolation Technology และ Color Correction Sersor ที่ช่วยให้ได้ภาพที่สีสันสมจริง ไม่มีปัญหาสีเพี้ยน ง่าย ๆ คือเห็นยังไง ก็ถ่ายออกมาแบบนั้นเลย และยังมาพร้อมกับ Super Resolution ที่ถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล โดยเทคโนโลยีทั้งหมดของ ASUS ถูกจัดการผ่าน PixelMaster 3.0

    ในการใช้งานจริง ต้องยอมรับว่ากล้องหลังของ ASUS Zenfone 3 ถ่ายรูปได้สนุกทีเดียว ด้วยระบบโฟกัสแบบ TriTech ช่วยให้หยิบ ยก ถ่าย ได้ทันทีแบบไม่ต้องรอ แต่ข้อสังเกตคือตอนแสงน้อย การจับโฟกัสจะความเร็วตกอย่างเห็นได้ชัด และตัว Continuous Auto-Focus เองเหมือนยังทำงานได้ไม่เต็มที่ในโหมดวีดีโอ ส่วนคุณภาพรูปถ่ายเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนนี่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่เทียบกับคู่แข่งก็ยังไม่ได้โดดเด่นกว่ากันมาก

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ASUS Zenfone 3

    ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ของ ASUS Zenfone 3 มีโหมด Beautification ติดมาให้ โหมดดังกล่าวสามารถปรับแต่งความสวยได้ละเอียด ทั้งสีผิว, ลบริ้วรอย, โครงหน้า หรือแม้แต่ตาโตก็ได้เช่นกัน คุณภาพรูปถ่ายกล้องหน้าถือว่าโอเคเลย เพื่อน ๆ สามารถชมการรีวิวกล้องหน้าแบบเจาะลึกได้จากวีดีโอด้านล่างเลยครับ

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ASUS Zenfone 3

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง ASUS Zenfone 3 ไฟล์ขนาดเต็ม ไม่ย่อ ไม่ปรับแต่ง สามารถเข้าไปดูได้ในลิ้งด้านล่างเลยครับ

    • http://goo.gl/oN5KX3

    Performance

    Review-ASUS-Zenfone-3-SpecPhone-00020

    ASUS Zenfone 3 ใช้ชิปประมวลผลของ Qualcomm ในรุ่น Snapdragon 625 ซึ่งถือเป็นชิปเซ็ตที่ใหม่สำหรับประเทศไทย โดยชิป Snapdragon 625 เป็นชิปเซ็ต Octa-Core ความเร็ว 2.0 GHz แบบ 64 Bit ชิปกราฟฟิค Adreno 506 และ Ram 4 GB เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการเล่นเกมที่ต้องการกราฟฟิคสูง ๆ ประสิทธิภาพโดยรวมสู้กับมือถือเรือธงของปีที่แล้วได้สบาย ๆ แล้วก็ให้ความจุมาสูงถึง 64 GB สำหรับ ASUS Zenfone 3 ZE552KL หน้าจอ 5.5 นิ้ว เก็บไฟล์ เก็บแอปได้มาก เผลอ ๆ อาจจะไม่ต้องใช้ MicroSD Card ก็ได้ครับ

    แบตเตอรี่ของ ASUS Zenfone 3 ให้มาที่ความจุ 3000 mAh จากการทดสอบก็สามารถใช้งานได้ประมาณ 10 ชั่วโมงขึ้นไป สำหรับการใช้งานต่อเนื่อง แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป เปิด 4G เล่นเกม, เล่นอินเทอร์เน็ต/ โซเชียล รวมถึงใช้ถ่ายรูป มีพักปิดหน้าจอบ้าง ASUS Zenfone 3 สามารถใช้งานหมดวันได้สบาย ๆ ครับ ถือว่าแบตเตอรี่อึดพอตัวเลย

    Gallery

    Asus ASUS Zenfone 3 Review Zenfone 3
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    รวมโทรศัพท์ติดโปร AIS ล่าสุดทุกรุ่นปี 2568 มีส่วนลดค่าเครื่องติดโปรเท่าไหร่บ้างเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ

    15 พฤษภาคม 2025

    วิธีปิดไอจีชั่วคราวในโทรศัพท์ทำยังไงในปี 2025 ปิดโปรไฟล์ IG ชั่วคราวไม่ให้คนอื่นเห็นแบบง่ายๆ

    14 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปรทรูล่าสุดปี 2568 ทุกรุ่นทุกยี่ห้อมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจทรู

    14 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    วิธีเช็คเบอร์ตัวเอง AIS, true, dtac กดอะไร เช็คเบอร์มือถือตัวเองง่ายๆ ทำได้ทุกค่าย!

    15 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปร AIS ล่าสุดทุกรุ่นปี 2568 มีส่วนลดค่าเครื่องติดโปรเท่าไหร่บ้างเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ

    15 พฤษภาคม 2025

    เปิดตัว “realme 14T 5G” แบตอึด-เล่นเกมลื่นสุดสมตำแหน่ง Performance Dominator น้องใหม่พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยครบเครื่องในราคา 8,999 บาท

    15 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 5 ฟีเจอร์โฟนราคาไม่เกิน 1,500 เน้นโทร ปุ่มใหญ่ USB-C

    15 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X