หลังจากปล่อยให้คู่แข่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงก่อนหน้ามาพอสมควร ก็ถึงเวลาของค่ายอารยธรรมอย่าง Sony ที่ได้เปิดตัว Sony Xperia Z2 สุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธงต้นตำรับของการกันน้ำ สเปคแรง ที่มาพร้อมกับกล้องเทพ Sony G Lens ความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งรองรับการใช้งาน 4G ในประเทศไทยอีกต่างหาก โดยมีขายกันทั้งหมด 3 สีด้วยกัน คือสีขาว, สีดำ และสีม่วง ส่วนเครื่องรีวิว Sony Xperia Z2 ที่ทางเราได้รับมานั้นเป็นเครื่องสีม่วงครับ ขอบอกเลยว่าเวลาที่ฝาหลังโดนแดดนี่สวยมากๆ เลยหล่ะ ก่อนจะเข้าสู่รีวิวแบบเต็มๆ ของ Sony Xperia Z2 เรามาทำความรู้จักกับสเปคของมันแบบคร่าวๆ ก่อนดีกว่า
สเปค Sony Xperia Z2 (D6503)
- ชิปประมวลผล Snapdragon 801 (MSM8974AB) Quad-core ความเร็ว 2.3 GHz
- แรม 3 GB
- รอมในตัว 16 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 64 GB
- หน้าจอ IPS?Triluminos display?ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1920 x 1080
- Android 4.4.2 KitKat
- กล้องหลัง?G Lens ความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor RS ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี และใช้ตัวประมวลผลกล้องโดยเฉพาะ BIONZ
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Exmor R
- ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K หรือ 4 เท่าของ Full HD
- ถ่ายวีดีโอใต้น้ำได้
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP58
- รองรับ 4G LTE ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย
- แบตเตอรี่?Li-ion?ความจุ?3,000 mAh??
- น้ำหนัก 158 กรัม
- รองรับ NFC
- สเปค?Sony Xperia Z2
- ราคา 23,990 บาท
สำหรับตัวเครื่องรีวิว Sony Xperia Z2 ที่เราได้รับมานั้นเป็นเครื่องทดสอบคนละโมเดลกับที่วางขายจริงในประเทศไทย แต่ไม่ต้องกังวลว่ารีวิวของเราจะอ้างอิงไม่ได้นะครับ เพราะโมเดลที่เราได้รับมาแตกต่างจากเครื่องขายจริงแค่การรองรับ 4G เท่านั้น (เครื่องรีวิวที่ทีมงานได้รับมาเป็นโมเดล D6502 ที่ใช้งานได้แค่ 3G) ส่วนสเปคอื่นนี่เหมือนกันเป๊ะๆ เลยครับ โดย Sony Xperia Z2 ที่ขายในไทยนั้นแพคเกจจะเป็นกล่องไซส์เล็ก โดยข้างในจะประกอบไปด้วยตัวเครื่อง, หูฟังแบบ Earbud, สาย USB และอแดปเตอร์ ส่วนแท่นชาร์จ Magnetic Charger Dock?นั้นไม่ได้แถมมาให้นะครับ
Design
งานประกอบแน่นหนา แข็งแรง
ภาพรวมของดีไซน์ Sony Xperia Z2 นั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างจาก Sony Xperia Z1 มากเท่าไหร่นัก ยังคงใช้ดีไซน์แบบ?Omnibalanced เหมือนอย่างตอน Sony Xperia Z ที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงไปพร้อมๆ กับความหรูหราด้วยการออกแบบให้มีความสมมาตรทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่อง ที่จะเห็นว่าต่างก็เป็นกระจกทั้งคู่ สมมาตรถึงในขนาดที่ว่าจับใส่กระเป๋ากางเกงอาจจะแยกไม่ออกระหว่างหน้า-หลัง, บน-ล่างเลยทีเดียว (ผู้เขียนหยิบพลาดบ่อยมาก แหะๆ) จากประสบการณ์ของการออกแบบสมาร์ทโฟนแบบ Omnibalanced ดีไซน์ของ Sony มาหลายรุ่น นับตั้งแต่ Sony Xperia Z ทำให้ค่อนข้างเชื่อได้ว่าใน Sony Xperia Z2 ไม่น่าจะมีปัญหาน้ำเข้าไปทางขอบหลังของตัวเครื่องได้อย่างแน่นอน เพราะงานประกอบเนี๊ยบมาก และที่เจ๋งกว่านั้นคือในส่วนของการกันน้ำเนี่ย ยังรวมถึงการเคลือบวัสดุของตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้เวลาที่เราจับตัวเครื่องลงน้ำไปเนี่ย น้ำจะไม่เกาะที่ตัวเครื่องเหมือนอย่างใน Samsung Galaxy S5 ครับ?แต่จะเป็นลักษณะเหมือนอย่างน้ำกลิ้งบนใบบัวมากกว่า เวลาเอาขึ้นจากนั้นแค่สลัดๆ ตัวเครื่องก็แทบจะแห้งแล้วครับ ตรงนี้ต้องขอชมเลย แสดงให้เห็นถึงความเก๋าในด้านการกันน้ำได้ดีสมกับที่ขายสมาร์ทโฟนกันน้ำมานานหลายรุ่นเลย
ด้านหน้าของ Sony Xperia Z2 เป็นหน้าจอกระจกทั้งแผ่น ด้านบนมีลำโพงสนทนาพร้อมไฟแจ้งเตือน LED ที่มีขนาดใหญ่กว่า Sony Xperia Z1 ถัดมาเป็นโลโก้ Sony, กล้องหน้าความละเอียด 2.2 ล้านพิกเซล ด้านตรงข้ามเป็นเซนเซอร์วัดแสง ด้านล่างเป็นลำโพงตัวที่ 2 โดยด้านหน้าของ Sony Xperia Z2 จะค่อนข้างโล่ง เพราะปุ่มกดทั้ง 3 จะเป็นแบบทัชสกรีนบนหน้าจอหรือที่เรียกว่าปุ่มกดแบบ Soft Key สำหรับลำโพงของ Sony Xperia Z2 ก็เป็นลำโพงคู่แบบ Stereo เหมือนอย่าง HTC One M8 (BoomSound) แต่ของ Sony จะใช้ชื้อว่า?S-Force Front Surround ซึ่งให้เสียงที่ดังกระหึ่มพอตัวเลยครับ (แต่ต้องเปิด xLOUD หรือไม่ก็ ClearAudio+) การแยกเสียงซ้ายขวาทำได้ดี แต่รายละเอียดยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ใช้ฟังขำๆ พอแก้ขัดได้
ดีไซน์แบบ Omnibalanced เน้นความสมมาตร และสื่อถึงความสมบูรณ์แบบ
ส่วนปุ่มกดและพอร์ทต่างๆ ของตัวเครื่องจะกระจายอยู่ตามด้านข้างครับ ด้านซ้ายจะเป็นช่องเสียบสาย Micro USB และช่องใส่ซิม ซึ่งทั้ง 2 ช่องนี้จะมาฝาปิดอยู่นะครับตามสไตล์สมาร์ทโฟนกันน้ำได้ ถัดมาจะเป็นช่องสำหรับชาร์จไฟโดย Magnetic Charger หรือที่ชาร์จหัวแม่เหล็กที่จะขายแยกเป็น Dock ช่วยอำนวยความสะดวกได้เยอะเลยครับ เพราะเวลาที่เราชาร์จไฟจะได้ไม่ต้องคอยเปิดปิดฝากันน้ำให้เสียอารมณ์ แค่วางตัวเครื่องลงไปใน Magnetic Charger Dock เป็นอันใช้ได้ ทางด้านขวาของตัวเครื่อง Sony Xperia Z2 ประกอบไปด้วยช่องใส่ Micro SD Card แน่นอนว่ามันมีฝาปิดเช่นเดียวกับทางด้านซ้าย ถัดมาเป็นปุ่ม Power ดีไซน์แบบกลมเช่นเดียวกับ Sony Xperia Z และ Xperia Z1 ตามมาด้วยปุ่มปรับระดับเสียงที่ไม่รู้จะออกแบบมาให้เล็กทำไม ตรงนี้รู้สึกว่ากดยากไปนิดนึง และปุ่มชัตเตอร์แบบแมนนวล ทำให้สามารถจับลงน้ำพร้อมกับการถ่ายรูปได้น้ำได้อย่างสบายๆ สำหรับด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมไมค์สำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะเป็นไมค์สนทนาที่ออกแบบเป็นรูเล็กๆ 3 รู ให้เสียงสนทนาที่คมชัดเลยทีเดียว และยังมีช่องสำหรับคล้องสายห้อยคอด้วย
ด้านหลังของ Sony Xperia Z2 ตามที่ได้บอกไปแล้วว่าเป็นการดีไซน์แบบ?Omnibalanced ถ้าด้านหน้าเป็นกระจก ด้านหลังก็ต้องเป็นกระจกด้วย สำหรับด้านหลังของ Sony Xperia Z2 จะประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซล Sony G Lens พร้อมแฟลชแบบ LED แต่เป็นแฟลชดวงเดียวนะครับ ไม่ได้ใช้แฟลชคู่เหมือนอย่าง iPhone 5S และ HTC One M8 ตรงกลางของตัวเครื่องทางด้านหลังมีโลโก้ Sony และด้านล่างมีโลโก้ Xperia
สำหรับหน้าจอของ Sony Xperia Z2 จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ครับ เพราะบอกตรงๆ ว่าผู้เขียนน้ำตาจะไหลเมื่อรู้ว่า Sony เริ่มใช้หน้าจอแบบ IPS ในสมาร์ทโฟนของตัวเองแล้ว โดยหน้าจอ IPS ใน Sony Xperia Z2 นั้นถูกใช้เป็นรุ่นที่ 2 ครับตั้งแต่ Sony ผลิตสมาร์ทโฟนขึ้นมา (รุ่นแรกที่ใช้จอ IPS คือ Sony Xperia Z1 Compact) ส่งผลให้เมื่อเทียบกับจอของ Sony Xperia Z1 หรือรุ่นก่อนๆ ที่ใช้จอภาพแบบ TFT นี่ Sony Xperia Z2 ชนะขาดลอยเลยทีเดียว ด้วยมุมมองของภาพที่กว้างกว่าหลายขุม รวมถึงการใช้งานกลางแดดที่ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ มาก โดยจอของ Sony Xperia Z2 เป็นจอภาพแบบสัมผัสขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1080p ชัดแจ๋วไม่ต้องเพ่งหาเม็ดพิกเซลเลยครับ มองไม่เห็นแน่นอน และที่สำคัญเมื่อรวมกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับหน้าจอที่ทาง Sony จับใส่มาใน Sony Xperia Z2 ไม่ว่าจะเป็น Triluminos Display ที่ช่วยเพิ่มเฉดสีให้กับการแสดงผล เปรียบเหมือนกับจอภาพของ Sony Xperia Z2 เป็นดินสอสีแบบ 24 สี ในขณะที่มือถือรุ่นอื่นเป็นดินสอสี 12 สี เพราะฉะนั้นในการแสดงผล หน้าจอของ Sony Xperia Z2 จะแสดงผลได้สมจริงกว่า และในส่วนของการแสดงรูปภาพหรือวีดีโอยังได้เทคโนโลยี?X-Reality for mobile ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพในการดูภาพถ่ายและวิดีโอหลังการถ่าย ช่วยให้ภาพที่ได้ใสขึ้น คมชัดขึ้น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่เมื่อเทียบหน้าจอกันเรือธงรุ่นอื่นๆ ก็ยังถือว่าหน้าจอของ Sony Xperia Z2 ซีดกว่าอยู่ดี แต่ถ้าเทียบกับเรือธง Sony รุ่นก่อนๆ นี่ถือว่า Sony Xperia Z2 พัฒนาไปเยอะเลยครับ
ถ้าให้พูดถึงภาพรวมของดีไซน์ Sony Xperia Z2 ว่าแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Sony Xperia Z1 อย่างไร ผมคงสรุปให้สั้นๆ ง่ายๆ เลยว่า Sony Xperia Z2 เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีไซน์มาเพื่อลบจุดด้อยใน Sony Xperia Z1 ทั้งหมด และสำหรับรูปตัวเครื่องในมุมอื่นๆ สามารถรับชมได้จาก Gallery ตัวเครื่องเลยครับ
Software
Sony ยัดทุกเทคโนโลยีที่มี
ใส่มาในสมาร์ทโฟนเครื่องนี้
Sony Xperia Z2 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุดอย่าง Android 4.4.2 Kitkat ครอบด้วย Xperia Home Launcher ?เวอร์ชัน 6.2.1.A.0.7 ที่ไม่ค่อยมีความแตกต่างจาก UI ของ Sony Xperia Z1 มากนัก การใช้งานทำได้ลื่นไหลดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากสเปคที่ดี และอีกส่วนมาจากการพัฒนารอมจากทาง Sony ที่ไม่ค่อยทำให้ผิดหวังซักเท่าไหร่ การดีไซน์ไอคอนต่างๆ ของ Sony Xperia Z2 ยังคงดูเรีบบง่ายและแฝงไปด้วยความหรูหราเหมือนเดิม (เอาจริงๆ ไอคอนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยเมื่อปี 2011 เลย แตกต่างแค่เพียงสีของไอคอนเท่านั้น) ข้อดีของ UI ของ Sony Xperia Z2 ที่ส่วนตัวผมประทับใจเอามากๆ ก็คือการไม่ยัดเยียด App ประเภท Bloatware ใส่ให้มาในรอมตั้งแต่แรกเหมือนอย่างแบรนด์อื่นๆ ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บเหลือเยอะมากขึ้น และส่งผลถึง Ram ที่จะมีให้ใช้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
Xperia Home Launcher ใน Sony Xperia สามารถเปลี่ยน Theme ได้มากถึง 6 แบบ และยังสามารถดาวโหลด Theme เพิ่ม โดยเข้าไปที่ Sony Select หรือกดปุ่ม + ตรงหน้า Theme ซึ่งจะมีให้เลือกดาวน์โหลดทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ที่สำคัญ Theme ที่มีให้ดาวโหลดค่อนข้างจะมีการอัพเดตและทันสมัยพอสมควรเลย อย่างตอนนี้ก็มี Theme The Amazing Spiderman 2 ให้ดาวโหลดฟรีด้วย
สำหรับแอพฟังเพลง หรือใน Sony Xperia Z2 จะเรียกว่า Walkman (เวอร์ชัน 8.3.A.0.5) ตัวนี้จะพิเศษตรงที่ Sony จะทำการใส่เทคโนโลยีที่เคยมีใน Walkman ของตัวเองลงไปในแอพด้วย อาทิเช่น Clear Audio+, Clear Bass, Clear Phase และ xLOUD เป็นต้น ซึ่งการปรับแต่งเหล่านี้มีผลพอสมควรนะครับกับคุณภาพของเสียงเพลงที่เราจะได้รับจากแอพ Walkman แต่ถ้าใครคิดว่าการปรับแต่งมันยุ่งยากวุ่นวายละก็แนะนำให้เปิดแค่ Clear Audio+ ก็พอครับ ตัวเดียวเอาอยู่ เสียงดีขึ้น รายละเอียดมาครบขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยครับไม่ว่าจะเปิดเพลงผ่านลำโพงของตัวเครื่องและหูฟัง
อีกหนึ่งเทคโนโลยีของ Sony ที่จับใส่เข้ามาในเจ้า Sony Xperia Z2 ในส่วนของการแสดงผลหน้าจอก็คือ?X-Reality for mobile ที่จะทำงานเมื่อเราแสดงรูปถ่ายจากแอพ Album หรือเปิดวีดีโอผ่านแอพ Movies ที่ติดมากับตัวเครื่อง โดย?X-Reality for mobile?จะช่วยในเรื่องของการปรับปรุงคุณภาพของรูปถ่ายและวีดีโอ ช่วยให้ภาพที่ได้ใสขึ้น คมชัดขึ้น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น (สำหรับการเปิดดูผ่านหน้าจอของ Sony Xperia Z2 เท่านั้นนะครับ) โดยเฉพาะการรับชมวีดีโอผ่านทางจอภาพของ Sony Xperia Z2 นี่ค่อนข้างเจ๋งทีเดียวครับ สีของวีดีโอจะสดรวมถึงภาพจะคมชัดขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยเวลาที่เปิด?X-Reality for mobile
จอชัด กล้องเทพ แบตอึด สเปคแรง คุณยังจะต้องการอะไรอีกหล่ะ?
ในส่วนของการจัดการพลังงาน Sony Xperia Z2 ให้แบตเตอรี่มาเยอะพอสมควรครับ รวมถึงการจัดการพลังงานก็ทำได้ดีซะด้วย แถมยังมีโหมดประหยัดพลังงานอันเลื่องชื่ออย่าง Stamina Mode โดยหลักการทำงานของ Stamina Mode ค่อนข้างจะเบสิกเลยครับ เมื่อเราเปิด Stamina Mode เวลาที่ปิดหน้าจอ แอพทั้งหมดก็จะถูกปิดการทำงานในเบื้องหลังทันที แต่เราสามารถกำหนดได้นะครับว่าจะให้แอพอะไรรันได้บ้างตอนที่เปิด Stamina Mode อยู่ และในส่วนของการจัดการพลังงานก็มีข้อกังขารวมถึงการเปรียบเทียบกับ Samsung Galaxy S5 ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวว่าแบตใครจะอึดกว่ากัน แต่จากการที่ได้ลองใช้เครื่องรีวิว Sony Xperia Z2 มาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถ้าให้เทียบกับ Samsung Galaxy S5 ส่วนตัวผมให้เสมอกันครับ เพราะผมสามารถใช้งาน Sony Xperia Z2 ได้หมดวันอย่างสบายๆ เผลอๆ ยังใช้งานข้ามวันได้เลยถ้าไม่เล่นอะไรมาก และอีกสิ่งหนึ่งที่มีคนนำไปเปรียบเทียบกับมากคือระบบประหยัดพลังงานของ Sony Xperia Z2 ว่าเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับ โหมดหน้าจอขาวดำของ Samsung Galaxy S5 ผลก็ตามรูปนะครับสำหรับ Stamina Mode ใน Sony Xperia Z2
สรุปภาพรวมสำหรับในส่วน Software ของ Sony Xperia Z2 นั้นถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ การตอบสนองทำได้รวดเร็ว มีความลื่นไหล และไม่ค่อยงอแง (ส่วนหนึ่งมาจากสเปคที่แรงด้วย) ที่สำคัญคือเป็นสมาร์ทโฟนเน้นไปที่ความบันเทิงอย่างในเรื่องการดูหนัง, ฟังเพลงได้ดีรุ่นหนึ่งเลย ด้วยตัวซอฟท์แวร์ที่เรียกว่าสนับสนุนด้านความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบเลยล่ะ
Feature
สำหรับฟีเจอร์ของ Sony Xperia Z2 จะไม่เหมือนอย่างสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นที่จะมีการอัดฟีเจอร์ใส่มาอย่างบ้าคลั่ง แต่ให้มาอย่างพอดีๆ และก็ใช้งานจริงได้ซะด้วย ฟีเจอร์แรกเลยที่ผู้เขียนรู้สึกว่า Sony คิดถูกแล้วที่ใส่มันเข้ามาก็คือการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกเครื่อง ช่วยให้ใช้งาน Sony Xperia Z2 ได้สะดวกและคล่องตัวเอามากๆ เลยครับ เพราะเราไม่ต้องหยิบเครื่องแล้วเอื้อมมือไปกดปุ่ม Power เพื่อเปิดหน้าจอ เพราะแค่แตะหน้าจอตรงไหนก็ได้ 2 ครั้งก็สามารถเปิดหน้าจอได้แล้ว
PlayStation,?PlayStation Mobile
เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์หลักที่ Sony ภูมิใจนำเสนอมากและก็จับเทคโนโลยีของตัวเองยัดลงไปในสมาร์ทโฟนอีกแล้ว ซึ่งก็คือ PlayStation Mobile นั่นเองครับ ที่จะรวบรวมเกมอินดี้ๆ ใส่ไว้ใน Store ของ Sony เอง (คล้ายๆ กับ Tegra Zone ของ Nvidia นั่นแหละ) เพียงแค่เราสมัครไอดีผ่านทางแอพ หรือถ้าใครที่มีไอดี Playstation อยู่แล้วก็แค่ล็อกอินได้ทันทีเลย โดยเกมใน PlayStation Mobile นี่พูดตรงๆ ส่วนตัวผมว่ายังไม่ค่อยน่าเล่นซักเท่าไหร่ บางเกมภาพสู้เกมใน Play Store ยังไม่ได้เลย นอกจากนี้อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญใน Sony Xperia Z2 (ที่จริงๆ มีมาตั้งแต่ Xperia Z แล้ว) คือการเชื่อมต่อตัวเครื่องกับจอยเกม PS3 Dualshock 3 และ PS4 Dualshock 4 ได้เพื่อใช้เล่นเกมใน PlayStation Mobile รวมถึงเกมใน Play Store บางเกม อาทิเช่น Dead Trigger, Dead trigger 2, และ?Virtua Tennis Challenge เป็นต้น โดยการเชื่อมต่อนั้นเป็นแบบ Wireless หรือแบบไร้สายซะด้วย ส่วนแอพ PlayStation เนี่ยอันนี้สิว๊าวของจริง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถเล่นเกม PlayStation 4 ขณะที่อยู่นอกบ้านได้ มันไม่เวอร์เกินไปครับ เพราะใน Sony Xperia Z2 สามารถเล่นเกม PlayStation ผ่านตัวมือถือได้เลย แต่เป็นการเล่นแบบสตรีมมิ่งนะครับ เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่มันพร้อมให้บริการจะเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ ผมหมายถึงทั้งการเล่นเกมแล้วก็เจ้า Sony Xperia Z2 ทั้งคู่เลยหล่ะ
Small App
สำหรับฟีเจอร์ Small App จะเป็นการเรียกแอพพลิเคชันขนาดเล็กขึ้นมาในลักษณะที่ลอยอยู่บนหน้าจอ วิธีการเรียกใช้เพียงแค่กดปุ่ม Recent App ก็จะเห็นว่ามี Small App อยู่ทางด้านล่าง นอกจากจะมี Small App ติดมากับตัวเครื่องแล้ว ยังสามารถเข้าไปดาวโหลดเพิ่มได้ใน Play Store อีกต่างหาก สำหรับ Small App น่าสนใจที่เรียกใช้บ่อยๆ ก็ได้แก่ Flashlight, Calculator และ Mirror เป็นต้น ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้ดีฟีเจอร์หนึ่งเลยครับ
Camera
โหมดกล้องมีให้เลือกใช้เพียบ
กล้องหลักของ Sony Xperia Z2 ใช้เซนเซอร์ภาพ Exmor RS สำหรับมือถือความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซลขนาดใหญ่ 1/2.3 นิ้ว เลนส์ G ของ Sony และกลไกประมวลผล BIONZ for Mobile โดยทาง Sony เคลมว่าการผสมผสานที่โดดเด่นนี้ทำให้ Sony Xperia Z2 มีคุณภาพและประสิทธิภาพเทียบเท่ากับกล้องดิจิตอลคอมแพคเลยทีเดียว หลายท่านคงจะเริ่มงงแล้วใช่ไหมครับ ว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง ทั้ง Exmor RS, Sony G Lens และ BIONZ for Mobile?
Exmor RS -?เซนเซอร์ภาพ Exmor RS ความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซลที่มีขนาดใหญ่ 1/2.3 นิ้วจะเปิดใช้ความไวแสงได้สูงกว่า ช่วยลดจุดสีรบกวนจนดูชัดและนุ่มนวลขึ้น ทั้งนี้จะปรับทุกรายละเอียดที่น่าทึ่งได้แม่นยำกว่าเดิม โดยขนาดของเซนเซอร์ใน Sony Xperia Z2 จะใหญ่เท่ากับกล้องคอมแพคเลยนะครับ
Sony G Lens -?เลนส์ G ของ Sony มีคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพจับโฟกัสที่เหนือกว่าโดยใน Sony Xperia Z2 ใช้เลนส์มุมกว้าง 27 มม. พร้อมช่องรับแสง F2.0 ที่ช่วยให้เลนส์จับแสงในสภาพที่ปราศจากแสงได้มากกว่าโดยแทบไม่ต้องง้อแสงแฟลช
BIONZ for Mobile -?กลไลประมวลผลภาพ BIONZ สำหรับมือถือสุดของ Sony ใช้อัลกอริทึมที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ความสมจริงมีชีวิตชีวาในทุกช็อต การจับภาพความละเอียดสูงระดับพิกเซล และระบบลด Noise ในที่แสงน้อยและระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Image Stabilizer) รวมถึงการเปิดรับแสงอัตโนมัติและสมดุลแสงขาวอัตโนมัตินั้นทำได้อย่างแม่นยำด้วย Sony G Lens เพื่อสร้างความสว่างให้สมดุลพร้อมกับเสริมสีสันด้วยชั้นพื้นผิวและความลึกที่สมบูรณ์ ส่งผลให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูมีมิติและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
กล้องของ Sony Xperia Z2 แพนภาพได้สมูทมากที่สุดในบรรดาเรือธงทั้งหมดเลยหล่ะ
ที่สำคัญยังมีโหมดถ่ายรูปในรูปแบบต่างๆ ให้เลือกใช้หลายแบบเลยทีเดียว ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ อาทิเช่น
- AR Effect -?โหมดตกแต่งภาพแบบ Real Time ที่มีมาตั้งแต่ใน Sony Xperia Z เวลาที่ใช้โหมดนี้จะมีตัวเลือกให้เราเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟคไดโนเสาร์, ใต้ท้องทะเล หรือแม้แต่ภูติในเทพนิยาย ใช้เล่นขำขำได้ครับ อันนี้ต้องมีจินตนาการพอสมควรเลยนะ
- Background defocus -?มันก็คือการรีโฟกัสหลังจากถ่ายภาพนี่แหละครับ เหมือนอย่างของ HTC One M8 และ Samsung Galaxy S5 แต่ในกรณีของ Sony Xperia Z2 จะเลือกได้ว่าต้องการให้ภาพเบลอมากหรือเบลอน้อย แต่ไม่สามารถเลือกจุดโฟกัสหลังถ่ายภาพได้เหมือนกับ 2 รุ่นที่เหลือนะครับ จุดโฟกัสจะเลือกได้แค่ก่อนถ่ายภาพเท่านั้น
- Timeshift Burst -?โหมดนี้จะเป็นการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว (เร็วกว่ากดปุ่มชัตเตอร์ค้างอีกนะครับ) แล้วให้เราเลือกว่าจะใช้ภาพไหน โดย Sony Xperia Z2 จะรัวเก็บภาพก่อนที่เราจะตั้งใจกดชัตเตอร์เสียอีก เรียกว่าไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญจริงๆ ครับ แต่เรื่องความชัดของรูปภาพนั้นอีกเรื่องนะ?
- 4K Video?-?มันคือการถ่ายวีดีโอแบบปกติแต่จะถ่ายวีดีโอที่มีความละเอียดสูงมากถึง 4 เท่าของระดับ Full HD หรือที่เรียกกันว่า 4K ซึ่งกินเนื้อที่จัดเก็บเอามากๆ เลยหล่ะครับ สำหรับโหมดนี้ผมรู้สึกเฉยๆ และถือว่าไม่ค่อยจำเป็นซะด้วยซ้ำ เพราะจอทีวีที่รองรับความละเอียด 4K ในปัจจุบันก็ยังมีราคาแพงพอสมควร
- Timeshift Video -?หรือจะเรียกอีกอย่างว่า Slow-Mo วีดีโอ ซึ่งจริงๆ มันก็คือการถ่ายวีดีโอแบบสโลวโมชันเหมือนอย่างใน iPhone 5s นั่นแหละครับ การใช้งานก็เหมือนกันเป๊ะเลย หลังจากถ่ายวีดีโอเสร็จก็เข้ามาเลือกช่วงที่จะให้มันสโลวได้เหมือนกับ iPhone 5s
- Social Live -?โหมดนี้จะเป็นการล็อกอินเข้ากับ Facebook ของเรา เมื่อถ่ายวีดีโอด้วยโหมด Social Live ก็จะทำการอัพโหลดวีดีโอที่เรากำลังถ่ายขึ้น Facebook แบบสตรีมสดได้ทันที (นึกถึง Google Glass ครับ) โดยจะถ่ายวีดีโอได้นานสุด 10 นาที แถมเพื่อนยังสามารถคอมเม้นกันได้แบบสดๆ อีกด้วย เสียอย่างเดียวตรงที่อินเทอร์เน็ตบ้านเรายังแรงไม่พอนี่แหละครับ เลยทำให้สตรีมได้ไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร
ในส่วนของการใช้งานจริงนั้น การเรียกแอพพลิเคชันกล้องถ่ายรูปทำได้รวดเร็วสมกับสเปคของมันเอง การจับโฟกัสทำได้รวดเร็ว รวมถึงการถ่ายรูปก็ทำได้ค่อนข้างไวทีเดียวเลยหล่ะ และสิ่งที่ทุกคนอยากจะทราบเกี่ยวกับคุณภาพของรูปถ่ายนั้น จะมีข้อติเวลาที่ถ่ายรูปเวลากลางคืน นอกจากจะจับโฟกัสและถ่ายได้ช้ากว่าตอนกลางวัน คุณภาพของรูปถ่ายตอนกลางคืนยังไม่ได้โดดเด่นซักเท่าไหร่ จัดว่าไม่ได้ดี แต่ก็ไม่ได้แย่?
Performance
ประสิทธิภาพโดยรวมของ Sony Xperia Z2 ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ สมศักดิ์ศรีของเรือธงอย่างแน่นอน ด้วยสเปคที่จัดเต็มมาขนาดนี้ ผลเทสไม่ต้องห่วงเลยครับ แรงทะลุหลอดแน่นอน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เทียบกับเรือธงด้วยกันแล้ว Sony Xperia Z2 จะเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดคือ Ram ที่ให้มามากถึง 3 GB ใช้งานหนักยังไงก็เอาอยู่ รับรองว่าเหลือๆ การใช้งานก็ลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงให้เห็นเลย
สำหรับแรมของ Sony Xperia Z2 นี่ผมถือว่าให้มาเกินใช้ซะด้วยซ้ำ เพราะอัดมาถึง 3 GB ขนาดโหลดทุกอย่างที่ใช้งานลงเครื่องแล้ว ยังเหลือแรมให้ใช้ประมาณ 1.2 GB เลยทีเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเปิดแอพอะไรให้มันใช้แรมให้หมด แต่สังเกตได้เลยว่าเวลาที่เล่นเกมหนักๆ Sony Xperia Z2 ทำได้ดีมาก เล่นได้ทุกเกมแบบไม่มีอาการกระตุกเลย รวมถึงภาพที่ได้ในระดับปรับแบบสุด มีความสมูทมาก การโหลดเกมทำได้รวดเร็ว เล่นเกมแพ้นี่จะอ้างว่าเครื่องกระตุกไม่ได้เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องของความร้อนดูจะเป็นปัญหาของ Sony Xperia Z2 มากเลยทีเดียว เพราะเปิดดาต้าทิ้งไว้ เล่นเกมหรือเล่นเฟซบุ๊คซักพักจะรู้สึกว่าหลังเครื่องร้อนพอสมควร แต่ไม่มีปัญหากับการใช้งานโดยรวมนะครับ จะมีปัญหาเฉพาะเวลาที่เปิดใช้งานกล้อง จากที่ผมได้ลองทดสอบดู พบว่าเมื่อเปิดใช้งานกล้องหลังกลางสภาพแดดจัดๆ ที่อุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาขึ้นไป กล้องของ Sony Xperia Z2 จะมีปัญหาปิดตัวเองเพื่อป้องกันกล้องพังจากความร้อนเกิน ทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปกลางแดดจัดๆ ได้นานเท่าไหร่ แต่เมื่อปิดกล้องซักพักให้เครื่องเย็นลงก็จะใช้งานได้เหมือนเดิม ตรงนี้ผมได้แจ้งปัญหากับทาง Sony ไปแล้ว คาดว่าในการอัพเดตซอฟท์แวร์ครั้งหน้าคงจะมีการแก้ปัญหาในจุดนี้อย่างแน่นอน
Overall
ภาพรวมของ Sony Xperia Z2 ก็จัดเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Sony ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดีไซน์แบบ?Omnibalanced ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา, แข็งแรงและทนทาน ด้วยวัสดุด้านหลังที่ทำมาจากกระจก งานประกอบจัดอยู่ในเกณฑ์ดีมาก บรรดาฝาปิดพอร์ตต่างๆ ทำได้ดี สมกับที่เป็นสมาร์ทโฟนกันน้ำ ที่สำคัญคือ Sony Xperia Z2 เป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกออกแบบมาเพื่อลบข้อด้อยที่มีใน Sony Xperia Z1 ซะเรียบเลย ไม่ว่าจะเป็นปุ่มชัตเตอร์, หน้าจอแบบ IPS (ซักที) สเปคข้างในที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ กล้องหลังก็ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับในกล้องคอมแพค Sony G Lens แถมยังมีดีกรีกล้องมือถือที่มีคะแนนสูงที่สุด ฟีเจอร์ก็ให้มาพอดีๆ ไม่เยอะเกินไป แต่เน้นใช้งานจริง?
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ในงาน Thailand Mobile Expo 2014 Hi-End มหกรรมมือถือครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่พึ่งผ่านพ้นมานั้น แม้ว่า Sony Xperia Z2 จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่ราคาขายแพงที่สุดในเรือธงทั้งหมด (Sony Xperia Z2 ราคา 23,990 บาท) แต่ก็เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงเพียงรุ่นเดียวในงานที่ขายหมดเกลี้ยงในงาน TME 2014 Hi-End
ข้อดี
- ดีไซน์แบบ?Omnibalanced ให้ความรู้สึกหรูหรา แข็งแรงและทนทาน
- หน้าจอคมชัด, ได้มุมมองที่กว้างขึ้น สีสันสมจริง
- งานประกอบจัดว่าดีมาก
- การใช้งานลื่นไหลมาก
- กล้องหลังเรียกใช้งานได้รวดเร็ว รวมถึงการโฟกัสและการจับภาพก็ทำได้ด้วยเร็วเช่นเดียวกัน
- แบตเตอรี่อึด รวมถึง Stamina Mode ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจมาก
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องมีความร้อนพอสมควรเวลาใช้งานต่อเนื่อง
- กล้องหลังมีอาการดับเมื่ออากาศร้อนจัด (น่าจะได้รับการแก้ไขหลังอัพเดต)
- คุณภาพของรูปถ่ายตอนกลางคืนน่าจะทำได้ดีกว่านี้
- ราคาค่อนข้างแรง
ขอบคุณเครื่องรีวิว Sony Xperia Z2 จาก โซนี่ประเทศไทย