ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Gadget) เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าการมาของ Apple Watch ของ Apple เป็นหนึ่งในจุดที่ทำให้อุปกรณ์สวมใส่กลายเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็มีอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะออกมาหลายต่อหลายรุ่น
ส่วนตัวผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าไม่เคยสนใจอุปกรณ์สวมใส่ประเภทสมาร์ทวอชท์แม้แต่น้อย นั่นก็เพราะส่วนตัวไม่ใช่คนที่ชอบใส่นาฬิกาข้อมือ แล้วก็ยังไม่เห็นความจำเป็นของอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทวอชท์ เนื่องจากสมาร์ทวอชท์แต่ก่อนก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรมากมาย เต็มที่ก็แค่เป็น Second Screen ช่วยให้เราเปิดหน้าจอมือถือน้อยลง โดยการแจ้งเตือนก็จะมาแจ้งเตือนที่สมาร์ทวอชท์ทั้งหมด แล้วก็ประเด็นสำคัญที่สุด คือขี้เกียจถอดนาฬิกามาชาร์จไฟทุกวัน ลำพังแค่ชาร์จมือถือก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว เวลาที่มีพวกอุปกรณ์สวมใส่ส่งเข้ามาให้รีวิว สังเกตดีๆ จะพบว่าผมไม่ค่อยได้แตะของพวกนี้เท่าไหร่
แต่แล้ว Sony ประเทศไทยก็ได้ส่ง Sony SmartWatch 3 มาให้ โดยมาเป็นแพคคู่กับหูฟัง Sony SBH70 และ Sony Xperia Z3 ในฐานะที่ผู้เขียนเองก็เป็นแฟนบอยแบบลับๆ ของ Sony บวกกับสเปคของ Sony SmartWatch 3 ที่ Sony เคลมว่าเป็นที่สุดของ Android Wear แทบจะทุกอย่าง จึงเป็นที่มาของ Sony SmartWatch 3 โดยกระผม Jerminalz ครับ
สเปค Sony SmartWatch 3
- หน้าจอ Transflective ขนาด 1.6 นิ้ว ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล
- CPU Quad ARM A7 ความเร็ว 1.2 GHz
- Ram 512 mb
- Rom 4 GB eMMC
- Ambient light sensors
- Accelerometer
- Compass, Gyro, GPS
- กันน้ำระดับ IP68
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1*
- แบตเตอรี่ 420 mAh ชาร์จไฟผ่าน MicroUSB แบบเดียวกับมือถือ
- ราคา 8,490 บาท (สายซิลิโคน) และราคา 9,490 บาท (สายโลหะ)
รายละเอียดของ Sony SmartWatch 3 หลักๆ ก็คือเป็น Android Wear ที่รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android Wear 5.1.1 (เวอร์ชันล่าสุด) แต่สิ่งที่ผมจะย้ำกับเพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะซื้อ Sony SmartWatch 3 คืออย่าได้อัพเดต Sony SmartWatch 3 เป็น Android 5.1.1 เด็ดขาด เพราะมันสูบแบตเตอรี่ของ Sony SmartWatch 3 อย่างกะท่อรั่วเลยครับ แบตเตอรี่จากที่เคยอยู่ได้สองวันตอน Android 5.0 กลับอยู่ได้ไม่ถึงวันตอนอัพเดตซะอย่างนั้น แถมยังได้ความร้อนจากตัว SmartWatch 3 เป็นของแถมอีกต่างหาก
หน้าตาของ Sony SmartWatch 3 ก็เหมือนนาฬิกาทั่วไปเลยครับ หน้าปัดเป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนสายเนี่ย มีด้วยกัน 3 แบบหลักๆ คือสายซิลิโคนสีสันสดใส, สายโลหะสุดเข้ม และสายหนังสุดหรูหรา และแน่นอนว่า Sony SmartWatch 3 ที่ส่งมาให้เรารีวิวเนี่ย เป็นรุ่นสายซิลิโคนครับ สีสันสดใส ออกแนวสปอร์ตแบบสุดๆ
สายซิลิโคนของ Sony SmartWatch 3 ที่ทาง Sony ประเทศไทยส่งมาให้มีด้วยกัน 4 สี คือสีดำ, สีขาว, สีเขียว, และสีชมพูครับ แต่ส่วนตัวผมว่าสีชมพูกับสีเขียวสวยสุด สีแสบได้ใจจริงๆ เหมาะกับการใช้ออกกำลังกายเอามากๆ
ตัว Sony SmartWatch 3 เองถ้าไม่นับสาย จะมีขนาดที่เล็กมากๆ ขนาดก็ตามที่เห็นอ่ะครับ เมื่อเทียบกับมือผู้หญิง
ตัวเรือนใช้วัสดุเป็นโลหะ กระจกก็กันรอยขีดข่วนได้ดีในระดับหนึ่งเลย เท่าที่ผมลองใช้ Sony SmartWatch 3 เป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ พูดกันตรงๆ ก็ใส่แบบนาฬิกาเลยครับ ไม่ได้ระวังแต่อย่างใด มีการกระแทกโน่นนี่นั่นบ้าง ตัวกระจก Sony SmartWatch 3 ก็ไม่ได้มีรอยอะไรนะครับ เอาเป็นว่า Sony SmartWatch 3 เป็นสมาร์ทวอชท์ที่ไม่ต้องคอยประคบประหงม แล้วก็หาเคสมาใส่เหมือนยี่ห้อผลไม้แหว่งแน่นอน
น้ำหนักเมื่อใส่ในแขนพร้อมกับสายซิลิโคนไม่ได้หนักเลยครับ สำหรับผมที่ไม่ใส่นาฬิกาข้อมือก็ไม่ได้ใช้เวลาปรับตัวนาน แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่ารำคาญแต่อย่างใด แถมใส่ออกกำลังกายก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระด้วย เป็นจุดหนึ่งที่ต้องชม Sony เลยล่ะครับ
Sony SmartWatch 3 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.6 นิ้ว ใช้พาแนลแบบทรานสเฟล็กทีฟ ซึ่งมีข้อดีตรงที่เวลาเจอแสงแดดจัดๆ ตัวหน้าจอจะแสดงผลได้คล้ายๆ กับหน้าจอแบบ EInk ทำให้การใช้งาน Sony SmartWatch 3 กลางแจ้งไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด แถมยังมีโหมดปรับแสงสว่างหน้าจอแบบอัตโนมัติอีกต่างหาก
การจะใช้งาน Sony SmartWatch 3 จำเป็นที่จะต้องมีมือถือแอนดรอยครับ เนื่องจาก Sony SmartWatch 3 ก็เป็น Android Wear ประเภทหนึ่ง ซึ่งหน้าที่หลักของ Android Wear ก็คือการเป็นหน้าจอที่ 2 ของสมาร์ทโฟน Android นั่นเอง
โดยการเชื่อมต่อ Sony SmartWatch 3 กับมือถือก็ไม่ยากครับ เพียงแค่เราโหลดแอปพลิเคชัน Android Wear จาก Google Play Store มาเท่านั้นเอง การเชื่อมต่อก็ทำตามขั้นตอนที่ตัวแอปพลิเคชันแนะนำ แต่ถ้ามือถือของเรารองรับ NFC ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพราะแค่จัดการแตะ Sony SmartWatch 3 เข้ากับมือถือเท่านั้นเอง
อย่างมือถือที่ทดสอบร่วมกับ Sony SmartWatch 3 ในรีวิวของเราคือ Sony Xperia Z3 ซึ่งมี NFC ในตัวก็แค่โหลดแอป Android Wear แล้วก็แตะอุปกรณ์สองชิ้นเข้าด้วยกันก็เป็นอันเรียบร้อย
หน้าที่หลักของ Sony SmartWatch 3 ก็คือการเป็นหน้าจอที่ 2 ครับ โดยตัว Sony SmartWatch 3 สามารถแสดงทุกการแจ้งเตือนมาไว้ที่ข้อมือเรา ทำให้เราไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อยๆ แล้วก็สามารถตอบข้อความกลับไปได้ผ่านทางเสียงพูดครับ แต่ถ้าเป็นการแจ้งเตือนทาง Facebook Messenger จะสามารถตอบกลับไปได้ด้วยการกดไลค์, หรือคำสั่งเสียงให้ SmartWatch 3 พิมพ์ให้ได้ด้วยนะ เพียงแต่ข้อจำกัดตอนนี้คือ Sony SmartWatch 3 ยังไม่รองรับภาษาไทย แถมยังต้องใช้สำเนียงภาษาอังกฤษที่ต้องเป๊ะพอสมควรอีกต่างหาก
หรือจะใช้รับสายโทรศัพท์แทนมือถือก็ได้เช่นกัน แต่ต้องใช้งานร่วมกับหูฟังบลูทูธนะครับ เนื่องจาก Sony SmartWatch 3 มีแค่ไมโครโฟน แต่ไม่มีลำโพงในตัว
ตอนคุยก็จะแปลกๆ หน่อย เหมือนคุยกับข้อมือตัวเองอ่ะครับ
นอกจากรับสายแล้ว ยังใช้ Sony SmartWatch 3 โทรออกได้ด้วยนะ โดยรายชื่อที่มีก็จะ Sync กับในมือถือเรานั่นเอง
ส่วนความสามารถในการซัพพอร์ตเรื่องการออกกำลังกายก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอุปกรณ์สวมใส่เจ้าอื่นๆ ที่เป็น Android Wear แอปพลิเคชันที่มีให้ก็คล้ายๆ กัน จะเป็น Google Fit หรือจะเป็น Runtastic ก็มีให้เลือกใช้ แต่ส่วนมากจะจำกัดไว้ที่การวิ่ง, เดิน, ปีนเขา, ปั่นจักรยาน
ความเจ๋งของ Sony SmartWatch 3 คือมี GPS ในตัวครับ เราสามารถออกไปวิ่งพร้อมกับ Sony SmartWatch 3 โดยที่ไม่ต้องพกมือถือไปให้หนัก โดยที่ตัว Sony SmartWatch 3 ยังสามารถเก็บระยะทางและความเร็วได้เหมือนมือถือเลย
และยังสามารถใช้ Sony SmartWatch 3 เป็นหน้าจอสำหรับนำทางผ่าน Google Map ได้ด้วยนะครับ วิธีการใช้งานก็คือให้เราเปิด Google Map แล้วก็หาเส้นทางบนมือถือตามปกติ พอเรากดนำทาง แผนที่ก็จะมาแสดงบน Sony SmartWatch 3 แทน
ส่วนความสามารถอื่นๆ ก็เช่นการควบคุมเพลง เวลาจะเปลี่ยนเพลงก็เปลี่ยนได้จาก Sony SmartWatch 3 เลย ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาให้เสียเวลา
แต่อย่างที่เราได้บอกไปว่า Sony SmartWatch 3 เป็นสมาร์ทวอชท์ที่สมาร์ทยิ่งกว่า นั่นก็คือมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในตัว 4 GB ทำให้ Sony SmartWatch 3 สามารถยัดเพลงเข้าไปในตัวมันเองได้ เพราะฉะนั้นตอนออกไปวิ่งข้างนอกบ้าน ก็ไม่ต้องพกมือถือไปให้เกะกะครับ เล่นเพลงได้ เก็บระยะทางได้ เท่านี้ก็เพียงพอต่อการออกกำลังกายนอกบ้านแล้ว
โดยการ Sync เพลงกับ Sony SmartWatch 3 จะต้อง Sync เป็น Playlist เท่านั้น โดยให้เราสร้างเพลยลิส แล้วก็เลือกที่ Sync to SmartWatch 3 จากนั้นก็รอโอนถ่ายไฟล์เพลง ง่ายๆ ครับ แต่ใช้เวลานานหน่อยนะ
แน่นอนว่าการฟังเพลงผ่าน Sony SmartWatch 3 จำเป็นต้องใช้หูฟังบลูทูธเท่านั้น เนื่องจาก Sony SmartWatch 3 ไม่มีช่องเสียบหูฟังครับ อย่างตอนรีวิว Sony SmartWatch 3 ผมก็ใช่ร่วมกับ Sony SBH70 และเท่าที่ลองทดสอบกับบลูทูธยี่ห้ออื่นก็ใช้งานได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าเป็นหูฟังบลูทูธของ Sony ส่วนมากจะมี NFC มาให้ในตัว ซึ่งเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากันได้ง่ายกว่า
ความพิเศษอีกอย่างของ Sony SmartWatch 3 ก็คือความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นไม่แพ้มือถือตัวท็อปอย่าง Sony Xperia Z3 โดย Sony SmartWatch 3 กันน้ำระดับ IP68 เท่ากับ Sony Xperia Z3 นั่นแหละครับ เพราะฉะนั้นใส่อาบน้ำได้สบายๆ แต่ใส่ว่ายน้ำผมไม่แนะนำนะครับ เนื่องจากการกันน้ำก็มีระยะเวลาและความลึกที่จำกัด
โดนน้ำฉีดใส่แค่นี้อ่ะเด็กๆ ฝนตกก็ไม่มีปัญหา
ภาพรวม
สำหรับผมแล้ว Sony SmartWatch 3 จัดว่าเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ดีชิ้นหนึ่ง สำหรับคนที่อยากได้นาฬิกา Android Wear ราคาไม่แพงจนเกินไป กับค่าตัวเริ่มต้นที่ 8,490 บาทสำหรับสายซิลิโคน และราคา 9,490 บาทสำหรับสายโลหะ ได้สมาร์ทวอชท์ที่สมาร์ทกว่าด้วยหน่วยความจำภายในตัว 4 GB และ GPS ทำให้ Sony SmartWatch 3 เป็นมากกว่าสมาร์ทวอชท์ เนื่องจากในบางสถานการณ์ เช่นการออกกำลังกายเนี่ย เราสามารถใช้ Sony SmartWatch 3 แทนมือถือได้เลย
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่หมดไวมากเมื่อทำการอัพเกรดเป็น Android 5.1.1