สำหรับมือถือที่เราจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้ เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นเล็ก สเปคก็ธรรมดาทั่วไป แต่มีความน่าสนใจที่กล้อง และถ้าจะให้ลงรายละเอียดเข้าไปอีกก็จะเป็นมือถือที่โดดเด่นในเรื่องของกล้อง ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ทำออกมาได้ถูกจริตคนไทยอย่างแน่นอน และจะเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออะไรไปไม่ได้ นอกจาก OPPO ครับ
โดยโทรศัพท์มือถือ OPPO ที่เราจะมารีวิวในวันนี้ได้แก่ OPPO Mirror 5 Lite นั่นเอง เห็นชื่อ Lite ต่อท้ายแปลว่าจะต้องเป็นรุ่นที่ลดสเปคจาก OPPO Mirror 5 ปกติ และมีราคาที่ถูกกว่าเดิม แต่เท่าที่ผมได้ลองเล่นเครื่องรีวิว OPPO Mirror 5 Lite บอกได้แค่ว่าเพื่อนๆ ที่ชอบถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟน แต่ไม่อยากจ่ายเงินซื้อสมาร์ทโฟนราคาแพงๆ ควรเก็บ OPPO Mirror 5 Lite ไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกได้เลย
สเปค OPPO Mirror 5 Lite
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop + ColorOS 2.1
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด qHD 960 x 540 พิกเซล
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6582 Quad-Core 1.3 GHz
- GPU Mali-400MP2
- RAM 1 GB
- หน่วยความจำภายใน 16 GB + รองรับ microSD Card สูงสุด 32 GB
- กล้องหลัง: 8 ล้านพิกเซล + autofocus + LED flash + Pure Image 2.0+
- กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ Li – Po 2420 mAh (ถอดเปลี่ยนไม่ได้)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม (microSIM และ nanoSIM)
- สัดส่วน : 142.7 x 71.7 x 7.55 มม., น้ำหนัก 141 กรัม
- ราคา 5,990 บาท
ดูจากสเปคและราคาเปิดตัวที่ 5,990 บาท เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนต้องร้องยี้อย่างแน่นอน เพราะถ้าเทียบสเปคของ OPPO Mirror 5 Lite กับโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ตัวสเปคนี่สู้ไม่ได้เลย บอกตามตรงว่าตอนแรกผมก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน แต่พอได้ลองเล่นเครื่องรีวิว OPPO Mirror 5 Lite แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เนื่องจาก OPPO Mirror 5 Lite มีดีกว่าที่หน้าสเปคนั่นเอง
จุดเด่น
– มี Gesture ให้เลือกใช้มากมาย ตามสไตล์ OPPO
– กล้องหลังใช้งานได้ดี โหมดถ่ายภาพมีให้เลือกเยอะ
– ดีไซน์สวยงาม งานประกอบแข็งแรงใช้ได้
– เครื่องเล่นเพลงมีโหมด Dirac HD Sound เสียงดี ฟังเพลงสนุก
– โหมด Beautify 3.0 ยังคงไว้ใจได้เสมอ กล้องหน้ามี Auto Focus ด้วย
ข้อสังเกต
– หน้าจอ TFT มุมมองไม่กว้างเท่าไหร่ ใช้กลางแจ้งลำบาก
– สเปคถือว่าธรรมดามาก Ram น้อยไปนิด
บทสรุป
BEST CAMERA
Design
สิ่งแรกที่ผมมองว่าเป็นจุดเด่นของ OPPO Mirror 5 Lite อยู่ที่การออกแบบ ที่สวยงามไม่แพ้โทรศัพท์มือถือ OPPO รุ่นบนๆ หรือต่อให้เทียบกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่นๆ ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ส่วนตัวผมมองว่า OPPO Mirror 5 Lite ก็สามารถสู้ได้สบายๆ โดย OPPO Mirror 5 Lite จะมีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีขาวขอบทอง และสีดำขอบเงิน ส่วนเครื่องรีวิว OPPO Mirror 5 Lite ที่เราได้รับมาเป็นตัวเครื่องสีขาวขอบทอง ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา สวยงาม โดยเฉพาะขอบตัวเครื่องสีทองที่ตัดกับสีขาวได้เป็นอย่างดี เป็นการเลือกสีได้ลงตัวเอามากๆ
รูปทรงของ OPPO Mirror 5 Lite ก็เหมือนโทรศัพท์มือถือส่วนมากของยุคนี้แหละครับ คือมาในรูปทรงแบบแท่ง และด้วยหน้าจอที่มีขนาด 5 นิ้ว เมื่อรวมกับขอบตัวเครื่องที่มีดีไซน์โค้งมน จึงไม่แปลกที่ OPPO Mirror 5 Lite เป็นมือถือที่จับถือได้สะดวกและใช้งานได้คล่องตัวรุ่นหนึ่งเลยล่ะครับ มือเดียวก็สามารถกวาดหน้าจอได้ทั่วแล้ว เหมาะมากสำหรับใครทื่หยิบมือถือขึ้นมาใช้บ่อยๆ ระหว่างเดินทาง เพราะตัวหน้าจอขนาด 5 นิ้วเองก็ถือว่ามีขนาดพอเหมาะสำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม, Social Network หรือแม้แต่จะใช้ดูภาพยนตร์ ดู Youtube บนหน้าจอ 5 นิ้วก็ไม่ได้ขี้เหร่เท่าไหร่
ความละเอียดหน้าจอ OPPO Mirror 5 Lite ให้มาที่ความละเอียด qHD (960 x 540 พิกเซล) เป็นความละเอียดที่ไม่ถึงระดับ HD ใครที่เคยใช้งานมือถือหน้าจอ HD หรือความละเอียด Full HD มาก่อนอาจรู้สึกว่าหน้าจอไม่ค่อยคมเท่าไหร่ แต่การใช้งานทั่วไป ในลักษณะการถือใช้งานตามระยะสายตาปกติสำหรับมือถือหน้าจอ 5 นิ้ว ส่วนตัวผมว่าหน้าจอของ OPPO Mirror 5 Lite จัดอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แถมยังไม่กินพลังในการประมวลผลมากเท่าไหร่ ส่งผลให้ยังคงใช้งานได้ลื่นไหลและยังได้การจัดการพลังงานที่ดีอีกด้วย
ด้านหน้าของ OPPO Mirror 5 Lite นอกจากหน้าจอขนาด 5 นิ้วแล้ว ด้านบนหน้าจอประกอบไปด้วยกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมโหมด Beauty หรือโหมดหน้าสวยที่ไว้ใจได้จาก OPPO, ลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์ที่ให้เสียงคมชัด และเซนเซอร์วัดแสง ส่วนด้านล่างหน้าจอประกอบไปด้วยปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ที่ไม่มีไฟใต้ปุ่ม สิ่งที่น่าสนใจคือปุ่มกดทั้ง 3 ของ OPPO Mirror 5 Lite สามารถใช้งานเป็นปุ่มลัดในการเปิด – ปิดหน้าจอได้ ถ้าอยากจะเปิดหน้าจอให้กดปุ่มใดก็ได้ 2 ครั้งติดกัน แต่ถ้าต้องการจะปิดหน้าจอ (เช่นเดียวกับการกดปุ่ม Power) ก็สามารถใช้การกดปุ่มโฮมติดกัน 2 ครั้งแทนได้
ขอบด้านข้าง OPPO Mirror 5 Lite ออกแบบมาให้มีสีตัดกับตัวเครื่องตามที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้นของรีวิว OPPO Mirror 5 Lite และมีดีไซน์ที่โค้งมน ให้สัมผัสที่ดี และช่วยให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวก ส่วนรายละเอียดทางด้านข้าง เริ่มจากทางขวามือจะประกอบไปด้วยปุ่ม Power สำหรับเปิด – ปิดเครื่อง ด้านบนประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านซ้ายประกอบไปด้วยปุ่มปรับระดับเสียง และด้านล่างก็จะเป็นช่องเสียบสาย Micro USB สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อข้อมูล กับไมค์สำหรับสนทนาโทรศัพท์ โดยรวมก็เป็นการจัดวางตามมาตรฐานทั่วไป ปุ่มกดทั้ง 2 ฝั่งกดง่าย ปุ่มไม่แข็งอย่างที่คิด
ด้านหลังของ OPPO Mirror 5 Lite เป็นที่มาของชื่อรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมีการออกแบบฝาหลังให้มีลักษณะเหมือนกระจก ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและการสัมผัสก็ให้ความรู้สึกเหมือนจับฝาหลังที่เป็นกระจกจริงๆ ด้วยการเคลือบลามิเนต แต่ตัวฝาหลังของ OPPO Mirror 5 Lite ใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถบิดงอได้โดยไม่แตกหัก ฝาหลังสามารถถอดได้ครับ เมื่อถอดฝาหลังออกก็จะพบกับช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD Card รองรับความจุสูงสุด 32 GB
ส่วนตัวผมว่าฝาหลังสีดำจะสวยกว่าสีขาวนิดหน่อย แต่ถ้าภาพรวมผมชอบ OPPO Mirror 5 Lite สีขาวมากกว่า เพราะโดยรวมสวยและหรูหรากว่าสีดำนิดหน่อย สุดท้ายก็อยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคลครับ ว่าอยากได้สวยหรู หรือสวยเข้มมากกว่ากัน
ภาพรวมของ OPPO Mirror 5 Lite ในส่วนของการดีไซน์ กับราคา 5,990 บาท ผมว่าสู้กับแบรนด์อื่นได้สบายๆ ทั้งในแง่ของการเลือกใช้วัสดุที่สวยงาม สมราคา งานประกอบแน่นหนา แข็งแรง และยังจับถือได้สะดวก ใช้งานมือเดียวได้สบายๆ เป็นโทรศัพท์มือถือที่คล่องตัวรุ่นหนึ่ง ในเรื่องของการดีไซน์ OPPO Mirror 5 Lite สอบผ่านไปได้ไม่ยาก
Software
OPPO Mirror 5 Lite มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 5.1 ครอบด้วย ColorOS 2.1.0i อันเป็นเอกลักษณ์ของทาง OPPO โดยจุดเด่นของ ColorOS เวอร์ชัน 2.1 คือจะมีลูกเล่นและความเสถียรมากกว่าเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ลำพังแค่ Gesture ก็มีให้เลือกใช้เพียบ ทั้งการเคาะหน้าจอ, วาดหน้าจอเพื่อเป็นทางลัดเข้าสู่แอปพลิเคชัน และยังสามารถสแกนไฟล์ขยะทิ้งได้อย่างรวดเร็ว แถมหน้าจอ Lock Screen ยังเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ปลดล็อกหน้าจออีกด้วย
นอกจากหน้าจอ Lock Screen จะเปลี่ยนได้เรื่อยๆ แล้ว Theme บน OPPO Mirror 5 Lite ก็มีให้เลือกดาวน์โหลดเพียบ เยอะขนาดที่ว่าเปลี่ยนทุกวันแบบไม่ซ้ำกันได้หลายเดือนอยู่ และอีกไฮไลท์อย่างแอปพลิเคชัน Music ในเครื่องก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ Dirac HD Sound ที่ช่วยให้ฟังเพลงบน OPPO Mirror 5 Lite ได้สนุกมากขึ้น เสียงทุกย่านจะโดนบูสขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ เสียงเบสแน่นขึ้น เสียงแหลมจัดขึ้นกว่าเดิม
ภาพรวมของซอฟท์แวร์ ColorOS 2.1.0i บน OPPO Mirror 5 Lite ก็ยังคงความเป็น OPPO ได้เหมือนเคย คือมีความสดใสของตัว UI (ถ้าอยากเข้มก็เปลี่ยน Theme เอา) และฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาในรอมก็ล้วนแต่ตอบสนองในการใช้งานและในเรื่องของความบันเทิงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการฟังเพลงบน OPPO Mirror 5 Lite นี่ให้เสียงที่ดีกว่ามือถือหลายรุ่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ฟีเจอร์ Dirac HD Sound เป็นอะไรที่เปิดใช้งานแล้วเห็นผลชัดเจนมากครับ
Camera
กล้องของ OPPO Mirror 5 Lite ถือเป็นจุดเด่นสุดๆ ของโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้เลยครับ สามารถชดเชยในส่วนของสเปคที่ดูธรรมดาได้สบายๆ ด้วยกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซ็นเซอร์ (BSI) เพิ่มพื้นที่ความไวแสง 1/4 นิ้ว ความกว้างรูรับแสง f/2.0 ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดี และตัวซอฟท์แวร์ Pure Image 2.0+ บน OPPO Mirror 5 Lite ก็ทำให้สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้หลายรูปแบบไม่ซ้ำใคร โดยโหมดการถ่ายรูปจะมีให้เลือกใช้ดังนี้
- Normal
- Beautify
- Filters
- Panorama
- HDR
- GIF
- Audio Photo
- Double Exposure
จากการที่ได้ทดลองใช้งาน OPPO Mirror 5 Lite ในส่วนของกล้องหลังก็เป็นอะไรที่ผมอึ้งไปเหมือนกัน เพราะทดสอบโทรศัพท์มือถือในช่วงราคาประมาณนี้มาก็หลายรุ่นหลายยี่ห้อ กล้องหลัง OPPO Mirror 5 Lite สามารถสู้ได้สบายๆ แถมโหมดการถ่ายภาพก็มีให้เลือกหลากหลาย และเป็นฟีเจอร์ที่ค่ายอื่นไม่มีให้อีกต่างหาก เช่นการถ่ายรูปด้วยโหมด Double Exposure หรือถ่ายรูปซ้อนกันแบบชิคๆ ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจ รวมถึงสามารถเพิ่ม หรือลดแสงได้ตามต้องการอีกด้วย
การถ่ายรูปในที่แสงน้อยก็ไม่ใช่ปัญหาของ OPPO Mirror 5 Lite ด้วยรูรับแสง f/2.0 และซอฟท์แวร์ที่ค่อนข้างฉลาด มีการจัดการ Noise และจัดการแสงที่ฟุ้งๆ ได้ดีเมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือรุ่นอื่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน
สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลของ OPPO Mirror 5 Lite ก็ตามนี้ครับ
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลของ OPPO Mirror 5 Lite มาพร้อมกับ มาพร้อมกับความไวแสงต่อเฟรมที่สูง ซึ่งจะช่วยลดจุดสีรบกวนทุกครั้งที่ถ่ายภาพและวีดีโอ นอกจากนี้ยังแต่งสวยทันใจด้วย Beautify เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยโหมด Beautify ของ OPPO นั้นไว้ใจได้อยู่แล้ว โดยสามารถรปรับแต่งได้ถึง 3 ระดับ (รวมปกติด้วยเป็น 4) ตามความต้องการของเรา ส่วนตัวผมแนะนำที่ระดับ Weak – Medium ก็น่าจะพอเพียงแล้ว ส่วน Strong ผมว่าแรงไปหน่อย
ระดับความแรงของ Beautify 3.0 เริ่มจากไม่ใช้ ไปจนถึงระดับ Strong จะประมาณนี้
จริงอยู่ที่ OPPO Mirror 5 Lite ไม่มีแฟลช LED กล้องหน้ามาให้ แต่ในการถ่ายรูปในที่แสงน้อย OPPO ก็ชดเชยให้ด้วยฟีเจอร์ Screen Flash หรือการยิงแสงสีขาวจากหน้าจอแทนแฟลช LED ซึ่งช่วยในการถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้จริง และยังได้แสงที่โอเคกว่าการยิงแฟลช LED ใส่หน้าโดยตรงครับ
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องหน้าของ OPPO Mirror 5 Lite ดูได้จาก Gallery ได้ครับ
Performance
ประสิทธิภาพของ OPPO Mirror 5 Lite จัดอยู่ในระดับธรรมดาทั่วไปตามสเปคที่ให้มาแหละครับ CPU MediaTek MT6582 Quad Core ความเร็ว 1.3 GHz, Ram 1 GB ชิปกราฟฟิค Mali-400MP2 กับหน่วยความจำภายใน 16 GB โดยรวมถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน สามารถใช้เล่นอินเทอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือจะใช้เล่นเกมก็พอได้อยู่ครับ พวกเกมเล็กๆ เช่น Line Cookie Run, Subway Surfer แต่ถ้าเป็นเกมที่ใช้พลังในการประมวลผลสูงอาจต้องอาศัยการปรับกราฟฟิคในเกมให้เหมาะสม และพยายามเคลียร์ Ram ก่อนเล่นเกม ก็จะช่วยให้ OPPO Mirror 5 Lite เล่นเกมได้ลื่นมากขึ้น
สิ่งที่ต้องชม OPPO คือการเลือกฮาร์ดแวร์ให้กับ OPPO Mirror 5 Lite โดยเฉพาะหน้าจอนี่มีผลมากต่อการใช้งาน กับความละเอียด qHD ที่ไม่ได้กินพลังในการประมวลผลเท่ากับหน้าจอความละเอียดสูงๆ ทำให้ CPU MediaTek MT6582 ทำงานได้อย่างลื่นไหล รวมถึงซอฟท์แวร์ที่เป็น Android 5.1 Lollipop ครอบด้วย ColorOS 2.1.0i ที่มีความเสถียรในระดับที่น่าพอใจ และยังมีการจัดการพลังงานที่ดีเลยทีเดียว กับแบตเตอรี่ความจุ 2420 mAh พร้อมโหมดประหยัดพลังงานที่มีให้เลือกใช้หลากหลาย ลำพังตัว OPPO Mirror 5 Lite ปกติก็มีการจัดการพลังงานที่ดีอยู่แล้ว หากไม่ได้ใช้งานหนักอย่างต่อเนื่องก็สามารถใช้งานหมดวันได้สบายๆ โดยไม่ต้องง้อ Powerbank (แต่พกไว้จะอุ่นใจกว่า)