ในงาน Thailand Mobile Expo 2014 Hi-End (TME 2014) ที่ผ่านมานั้นมีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นวางขายครั้งแรกในงาน Nokia XL ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดย Nokia XL เป็นสมาร์ทโฟนอยู่ในตระกูล Nokia X Series ที่ ณ ตอนนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Nokia X, Nokia X+ และ Nokia XL สำหรับจุดเด่นของสมาร์ทโฟน Nokia X Series นั้นคือมันเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 4.1 Jellybean ทำให้มันเป็นสมาร์ทโฟนโนเกียที่ใช้งานแอพฯ แอนดรอยได้ บวกกับราคาเปิดตัวที่ไม่แพงจนเกินไป ทำให้มีคนให้ความสนใจ Nokia X Series ค่อนข้างมากเลยทีเดียว โดยในตอนแรกนั้น Nokia ได้ปล่อย Nokia X ลงสู่ตลาดเป็นรุ่นแรกและได้รับเสียงตอบรับที่ดีพอสมควร ส่วน Nokia XL ก็เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้มีคนพูดถึงกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะในเว็บของ Specphone เอง หรือแม้แต่ใน pantip ก็ตาม ด้วยสเปคและอะไรหลายๆ อย่างที่ลงตัวตอบโจทย์สิ่งที่คนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เป็นต้น
สเปค Nokia XL
- ชิปประมวลผล Dual Core Snapdragon S4 ความเร็ว 1 GHz
- แรม 768 MB
- รอม 4 GB เพิ่ม Micro SD Card ได้
- หน้าจอ IPS ?5 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480
- กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชแบบ LED
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- ระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform?
- สามารถใช้งาน App ของ Android ได้
- เซอร์วิสเพียบทั้งจาก Microsoft และ Nokia
- สเปคเต็มๆ Nokia XL
- ราคา 5,650 บาท
สำหรับกล่องของ Nokia XL นั้นเป็นกล่องกระดาษที่มีลักษณะเหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของ Nokia ไม่ว่าจะเป็น Lumia หรือแม้แต่ Nokia X เมื่อเปิดกล่องมาก็จะพบตัวเครื่อง, ที่ชาร์จไฟ, คู่มือ และหูฟังแบบ Earbud ส่วนสาย USB นั้นต้องหาซื้อเพิ่มเอาเองครับ ซึ่ง Nokia XL ก็รองรับสาย USB แบบ Micro USB โดย Nokia XL ที่เรานำมารีวิวนั้นมีตัวเครื่องสีดำครับ?
Design
พอเป็นหน้าจอ 5 นิ้วนี่มัน
เต็มตาดีจริงๆ
งานประกอบยังคงไว้ใจได้เสมอ
ครั้งแรกที่ผมได้ลองสัมผัส Nokia XL ความรู้สึกแรกที่แวบเข้ามาคือ “ความทนทาน” ด้วยน้ำหนักของตัวเครื่อง รวมถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่ายังคงเนี๊ยบและวางใจได้ตามสไตล์ของ Nokia ว่ามันยังคงได้รับความอึด ถึกที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นต่อรุ่น โดยรูปทรงของ Nokia XL จะเป็นรูปทรงของสมาร์ทโฟนแบบที่เรียกกันว่า โมโนบล็อกแบบ Touchscreen มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมตามสมัยนิยม แต่ใน Nokia XL ก็จะเหมือนสมาร์ทโฟน Nokia รุ่นอื่นๆ มองปุ๊บก็จะรู้สึกเลยว่านี่แหละมือถือยี่ห้อ Nokia ด้วยวัสดุและการออกแบบที่ค่อนข้างจะไปในแนวทางเดียวกัน
ด้านหน้าของ Nokia XL นั้นจะค่อนข้างโล่งนอกจากหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วก็จะมีโลโก้ Nokia, ลำโพงสนทนา และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซลอยู่ทางด้านบน ส่วนด้านล่างจะมีปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวเท่านั้นคือ ปุ่มย้อนกลับ หรือปุ่ม Back ที่มีสเต็ปการกดได้สองแบบ คือกด 1 ครั้งเป็นการย้อนกลับ แต่ถ้ากดค้างไว้จะเป็นการออกมาที่หน้า Home ทันที โดยการออกแบบปุ่มควบคุมลักษณะนี้เราจะเห็นได้ในฟีเจอร์โฟนของ Nokia ในซีรี่ส์ Nokia Asha ตรงนี้ก็เป็นความตั้งใจของ Nokia ที่ออกแบบ Nokia XL ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่เป็นสมาร์ทโฟน ที่ใช้งานได้ง่ายเหมือน Feature Phone นั่นเองครับ
ปุ่มควบคุมอื่นๆ ของ Nokia XL ก็จะเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไปครับ ได้แก่ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียงที่จะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ปล่อยให้ด้านซ้ายโล่งๆ และถ้าจะบอกว่า Nokia XL คือ Nokia X ที่ขยายร่างก็คงไม่ถูกต้องซะทีเดียวครับ เพราะการวางตำแหน่งบางอย่างก็ไม่เหมือนกัน เช่น ช่องเสียบหูฟังของ Nokia XL จะอยู่ตรงกลางของด้านบนของตัวเครื่อง แต่ใน Nokia X จะอยู่ทางด้านบนเยื้องมาทางซ้ายมือ เป็นต้น และแน่นอนว่าช่องเสียบสาย USB จะอยู่ทางด้านล่างของตัวเครื่องครับ แต่ในกล่องของ Nokia XL จะไม่แถมสาย Micro USB มาให้นะครับ ต้องซื้อแยกเอาเอง
ฝาหลังของ Nokia XL ทำมาจากพลาสติก Polycarbonate ที่ให้สัมผัสค่อนข้างนุ่มมือ ไม่แข็งกระด้าง ตัวพื้นผิวของฝาหลังเป็นแบบ Soft Touch ที่ป้องกันรอยนิ้วมือได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ ก็พบว่ามีรอยนิ้วมือตามฝาหลังได้เช่นกัน ส่วนสีสันนั้นจี๊ดจ๊าดถูกใจวัยรุ่นแน่ๆ ครับ น่าเสียดายที่เครื่องรีวิว Nokia XL ที่ทางเราได้มานั้นเป็นสีดำ แต่ก็ดูคลาสสิกและเรียบๆ โดยด้านหลังของตัวเครื่องจะมีกล้องหลักความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมไฟแฟลชแบบ LED แน่นอนว่าฝาหลังของ Nokia XL นั้นสามารถถอดเปลี่ยนได้ และเมื่อถอดฝาหลังออกจะพบว่ามีแบตเตอรี่ความจุ 2,000 มิลลิแอมป์ พร้อมช่องใส่ซิม 2 ช่อง ตามชื่อรุ่น Nokia XL Dual Sim โดยรองรับซิมแบบ Micro Sim และมีช่องใส่ Micro SD Card รองรับความจุสูงสุด 32 GB?
ส่วนหน้าจอของ Nokia XL ให้มาที่ขนาด 5 นิ้ว ใหญ่เต็มตาจับเต็มมือดีครับ แต่ความละเอียดกลับเท่า Nokia X ที่มีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ทำให้จอของ Nokia XL ดูหยาบทันทีเลยเมื่อเทียบกับ Nokia X แต่ก็ยังได้ข้อดีของความเป็นจอ IPS ตรงที่มันสามารถใช้งานกลางแดดได้สบายๆ ที่สำคัญ Nokia XL ยังสามารถใช้การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกตัวเครื่องได้ด้วยนะครับ แต่อาจจะต้องออกแรงเคาะกันซักหน่อย?
สำหรับรูปภาพของตัวเครื่อง Nokia XL แบบเต็มๆ สามารถรับชมได้จาก Gallery ของตัวเครื่องเลยครับ
Software
Nokia X Platform?ก็เหมือน
เป็ดที่ทำอะไรได้หลายอย่าง
ระบบปฏิบัติการณ์ของ Nokia XL จะใช้ชื่อว่า Nokia X Platform ในเครื่องที่นำมารีวิวนั้นจะเป็นเวอร์ชันล่าสุดคือ Nokia X Platform 1.1 ที่มีพื้นฐานมาจากระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.1 Jellybean ที่ทาง Nokia เองได้นำตัวซอฟแวร์มาทำการปรับแต่ง โดยตัดเซอร์วิสจาก Google ออกไปทั้งหมด รวมถึง Play Store ด้วย แล้วใส่เซอร์วิสจากทาง Nokia และ Microsoft เข้าไปแทน ข้อดีของตัวระบบ Nokia X Platform ก็คือในเรื่องของการรองรับแอพพลิเคชันที่หลากหลายกว่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นของ Nokia แต่ก็ยังคงมีเซอร์วิสจาก Nokia และ Microsoft ให้ใช้เหมือนอย่างมือถือโนเกียรุ่นอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่รวมเอาข้อดีของหลายๆ ระบบปฏิบัติการเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ส่วนเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งาน ต้องบอกเลยว่าด้วยสเปคของ Nokia XL เองที่ไม่ได้แรงโดดเด่นอะไร จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ส่งผลให้ตัว Nokia X Platform เองนั้นทำงานได้ไม่ค่อยไหลลื่นมากนัก จะมีอาการหน่วงเล็กๆ ให้เห็นเวลาที่เลื่อนหน้าจอ หรือกดเข้าแอพพลิเคชัน รวมถึงการถ่ายรูปที่ทำได้อาจจะไม่ทันใจผู้ที่เคยใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีสเปคสูงๆ มาก่อน แต่สำหรับผู้ใช้มือใหม่ที่เปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนมาใช้ Nokia XL ก็อาจจะไม่รู้สึกอะไร เพราะมันก็ถือว่าเร็วกว่าพวกฟีเจอร์โฟนหรือสมาร์ทโฟนระดับล่างๆ ของบางยี่ห้อเลยหล่ะ?ส่วนหน้าตาของ Nokia X Platform จะมีอินเตอร์เฟสคล้ายๆ กับ Windows Phone ที่จะเป็น Tiles แถมยังสามารถปรับขนาด, และสีสันของ Tiles ได้อีกด้วย เรียกว่าค่อนข้างให้อิสระในการกำหนดหน้าจอหลักกับผู้ใช้เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่ม Widget ไว้ที่หน้าจอหลักได้เหมือนสมาร์ทโฟน Android อีกด้วย (ก็มันมีพื้นฐานมาจาก Android นี่เนอะ) รวมถึงบรรดาหน้า Setting แบบต่างๆ หากใครเคยใช้งานสมาร์ทโฟน Android มาก่อนก็จะรู้สึกไม่แตกต่างเลยหล่ะ
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ในส่วนตอนต้นของหัวข้อ Software ว่าระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform มีพื้นฐานมาจาก Android 4.1 Jellybean ที่ทางโนเกียได้จัดการเอา Google Service ออกทั้งหมด อาจจะมีคำถามว่าแล้ว Nokia XL จะโหลดแอพได้จากช่องทางไหน? ในส่วนของตรงนี้ก็ต้องบอกว่า Nokia ได้เตรียมการแก้ปัญหาตรงนี้มาแล้วด้วยการใส่ Nokia Store ไว้ให้ใน Nokia XL สำหรับใช้โหลดแอพพลิเคชันลงเครื่อง ส่วนความหลากหลายของแอพนั้นก็มีให้เลือกใช้เยอะพอสมควรเลยครับ ช่วงหลังมานี่ก็มีการอัพเดตที่รวดเ็วมากขึ้น แต่ถ้ายังไม่จุใจ หรือแอพบางแอพหาโหลดผ่าน Nokia Store ไม่ได้ ก็สามารถหาโหลดได้จาก Third Party App Store อย่างเช่น 1 Mobile Market, SlideME Market, Aptoide Appstore เป็นต้น รับรองว่ามี App ให้เลือกดาวโหลดมากกว่าฝั่ง Windows Phone แน่นอน
ถ้า Nokia X Platform เป็นเป็ด Nokia XL ก็จัดว่าเป็นเป็ดยักษ์ซะด้วยสิ
Feature
FastLane
ถือเป็นจุดเด่นของตัวระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform ที่ทางโนเกียเต็มใจนำเสนอมากเป็นพิเศษคือความง่ายครับ โดยเฉพาะ FastLane หรือทางลัดเข้าสู่แอพ Android การใช้งาน FastLane (จะเรียกว่า Recent App ก็น่าจะไม่ผิดนะ) ทำได้ง่ายมาก จากหน้า Home แค่ปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาเท่านั้นเอง หรือจะใช้การกดปุ่ม Back ?1 ครั้งขณะอยู่ที่หน้าจอหลัก ก็จะเข้าสู่ FastLane ที่จะแสดงแอพพลิเคชันที่เราเคยใช้งานครั้งล่าสุดเอาไว้ตามช่วงเวลาก่อนหลัง ทำให้เราสามารถเข้าถึงแอพที่ใช้งานบ่อยๆ ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตามสโลแกนของ Nokia XL เลย
สนุกกับแอพ Android ที่ใช่ สไลด์เดียวเข้าถึงทุกแอพที่ชอบ
?Here Maps
สุดยอดแอพพลิเคชันนำทางอัจฉริยะจาก Nokia ก็ยังมีให้เห็นใน Nokia XL และจัดเป็นคีย์ฟีเจอร์ที่ทาง Nokia ภูมิใจนำเสนอเลยก็ว่าได้ จุดเด่นของ Here Maps คือการดาวโหลดแผนที่มาใช้แบบ Offline ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Internet สามารถใช้นำทางแทน GPS ได้เลย แถมยังรองรับการแสดงผลแบบ 3D อีกต่างหาก อีกทั้งมีการอัพเดตแผนที่อยู่เรื่่อยๆ และแน่นอนว่าฟรีตลอดชีพครับ
?Nokia MixRadio
สำหรับ Nokia MixRadio แอพฟังเพลงออนไลน์แบบสตรีมที่มีเพลงให้เลือกฟังมากกว่า 16 ล้านเพลง ทั้งเพลงไทยและเพลงต่างประเทศ จุดเด่นของ Nokia MixRadio อีกอย่างคือการเลือกคุณภาพของเพลงได้ครับ ว่าอยากจะได้คุณภาพสูงหรือแบบธรรมดา ถ้าอย่างแบบคุณภาพปกติจะมีข้อดีตรงที่ใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตไม่ต้องแรงมาก เพียงแค่ EDGE ?ก็สามารถฟังเพลงได้อย่างลื่นไหลมากแล้ว แต่จะมีข้อด้อยนิดหน่อยตรงที่ตัว Nokia Mixradio จะเปลี่ยนเพลงได้เพียง 6 ครั้งต่อชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าทำการอัพเกรดเป็น Nokia MixRadio+ ก็จะสามารถเปลี่ยนเพลงได้อย่างต่อเนื่องไม่มีจำกัด แถมยังสามารถแสดงเนื้อเพลงได้อีกต่างหาก
Camera
ถ้าเคยใช้งานกล้องของ Lumia Windows Phone มาก่อนก็จะรู้สึกเลยครับว่ากล้องของ Nokia XL นี่มันลูกเมียน้อยชัดๆ ด้วยโหมดการถ่ายรูปที่มีไม่เยอะเหมือนอย่าง Lumia แถมการถ่ายภาพยังมีอาการดีเลย์ให้เห็นอีกต่างหาก กล้องของ Nokia XL ไม่ใช่ประเภทคิดไวทำไวครับ ต้องใจเย็นๆ เวลาถ่ายรูปจาก Nokia XL เมื่อกดถ่ายแล้วควรถือ Nokia XL นิ่งๆ ไว้ซักประมาณครึ่งวินาทีครับ เพราะตัวระบบประมวลผลช้าไปหน่อย แต่ก็ยังมีข้อดีที่ทำมาลบจุดบอดของกล้อง Nokia X ซึ่งก็คือระบบ Auto Focus และไฟแฟลชครับ ช่วยให้ถ่ายรูปได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
สำหรับโหมดการถ่ายภาพมีแค่ 3 โหมดได้แก่ ถ่ายภาพนิ่ง, ถ่ายวีดีโอ และถ่ายภาพพาโนรามาเท่านั้นเอง ส่วนกล้องหน้าของ Nokia XL นั้นให้มาที่ 2 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว จัดว่าให้มาเยอะกว่ารุ่นอื่นๆ ในช่วงราคาเดียวกันครับ ?ส่วนเรื่องคุณภาพของรูปถ่ายนั้นอยู่ในระดับที่พอใช้งานได้ครับ สีจะออกซีดๆ หน่อย สีแอบเพี้ยนเล็กๆ ยิ่งถ่ายเวลากลางคืนนี่ยิ่งแล้วเลยครับ Noise กระจาย แต่ถ้าจะใช้เก็บรูปขำขำก็พอไปวัดไปวาได้ครับ จัดอยู่ในระดับกลางๆ?สำหรับภาพถ่ายจากกล้องของ Nokia XL สามารถรับชมได้จาก Gallery ด้านล่างเลยครับ
Performance
Nokia XL ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่เด่นในเรื่องของความแรง สเปคของตัวเครื่องทั้งหมดให้มาแค่เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ไม่ขาดแล้วก็ไม่เกิน เพราะฉะนั้นการนำตัวเครื่องมาเทสความแรงคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่ามันไม่น่าจะทำคะแนนได้เยอะ อีกทั้งการ Benchmark ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นเมื่อใช้งานจริงจะต้องลื่นไหลตามคะแนนที่มันทำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่การปรับแต่งตัวระบบให้สอดคล้องกับฮาร์ดแวร์มากกว่า สำหรับในตัว Nokia XL เองถือว่าทำได้ดีสำหรับสมาร์ทโฟนในช่วงราคาไม่เกิน 6,000 บาท การใช้งานมีอาการหน่วงให้เห็นบ้าง เป็นสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างคิดช้าทำช้าเลยทีเดียว แต่อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าความแรงไม่ใช่จุดเด่นของ Nokia XL สิ่งที่เป็นจุดเด่นและถือว่ามันทำได้ดีนั้นคือความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ กล่าวคือตัวระบบเองออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ใครก็ใช้งาน Nokia XL ได้ทั้งนั้น แม้จะไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนมาก่อนก็ตาม ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นกูรูด้านเทคโนโลยีเสมอไป
“เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นแฟน Nokia แล้วชอบ Nokia X คุณจะรัก Nokia XL”
ส่วนคำถามที่พบมากสำหรับ Nokia XL ว่า Ram ที่ให้มาเพียง 768 MB นั้นจะพอหรือไม่ จากการที่ได้ลองใช้งานดูแล้ว ล็อกอิน Facebook, Line, Instagrams และใช้ Facebook Messenger ด้วย ตัวระบบจะเหลือแรมให้ใช้ประมาณ 200 MB พอที่จะเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ อย่าง Line Cookie Run ได้อย่างสบายๆ?สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมบน Nokia XL ก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งครับ โดยจำนวนเกมก็มีพอๆ กับใน Play Store เลย แต่ด้วยข้อจำกัดด้าน Hardware ทำให้ Nokia XL ไม่สามารถเล่นเกมโหดๆ ที่กินสเปคมากๆ ได้นะครับ แต่ถ้าเกมเล็กๆ เล่นฆ่าเวลาอย่าง Line Cookie Run, Line Ranger หรือ Plant vs Zombies 2 ก็พอไหวอยู่ ??
มาถึงเรื่องของการจัดการพลังงานกันบ้าง ข้อดีของการที่ Nokia ตัดเซอร์วิสทุกอย่างจาก Google ออกไปทั้งหมด ทำให้การจัดการพลังงานของ Nokia XL ทำได้น่าประทับใจมาก สำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5 นิ้ว ใช้งาน Social Media เรื่อยๆ และเปิดฟังเพลงจาก Nokia MixRadio บ้าง แบตเตอรี่ 2,000 mAh สามารถอยู่จนหมดวันได้สบายๆ?
Overall
สำหรับ Nokia XL ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ทาง Nokia สร้างมันขึ้นมาเป็น “ทางเลือก” ให้ผู้ใช้ได้มีตัวเลือกมากขึ้น เพราะเอาจริงๆ Nokia XL นั้นก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นคุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ ด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชและออโต้โฟกัส, กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล งานประกอบที่แข็งแรงและแน่นอนในแบบของ Nokia กับราคา 5,650 บาท ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว เพราะผู้เขียนเชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่อยากได้งานประกอบแบบโนเกียแล้วมี App ได้เล่นมากกว่าแพลทฟอร์ม Windows Phone คือถ้าคุณประทับใจใน Nokia X คุณจะหลงรัก Nokia XL เลยครับ ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่ลงตัวกว่า Nokia X เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ามันออกมาเพื่อปิดจุดบอดของ Nokia X ก็ว่าได้ สรุปง่ายๆ?ก็อย่างที่ได้พูดมาตลอดทั้งบทความรีวิว Nokia XL ว่า Nokia XL ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่สเปคสูง แต่เป็นสมาร์ทโฟนตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็เท่านั้นเอง
ข้อดี
- งานประกอบแน่นหนา วัสดุดี
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วใช้งานกลางแดดได้สบายๆ
- ใช้งานง่าย เข้าถึงแอพฯ ได้ง่าย เหมาะกับผู้เริ่มใช้สมาร์ทโฟน
- เป็น Nokia ที่มีแอพให้เลือกใช้มากมาย
- มีเซอร์วิสจาก Nokia อย่าง MixRadio และ Here Maps
- แบตเตอรี่อึดพอสมควร
ข้อสังเกต
- หน้าจอความละเอียดน้อยไปหน่อย
- การใช้งานมีอาการหน่วงบ้าง
สมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในช่วงราคาใกล้เคียงกับ Nokia XL?
Nokia Lumia 630 Dual Sim ราคา 5,190 บาท
เป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 ที่ทำราคาออกมาได้น่าสนใจมาก เพราะอยู่ที่ 5,190 บาทเท่านั้น สิ่งที่เหนือกว่า Nokia XL คือเรื่องของความลื่นไหลในการใช้งาน ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 ที่ได้รับการปรับปรุงมาแล้วเป็นอย่างดี กล้องถ่ายภาพได้ดีกว่า Nokia XL แต่ Nokia XL จะเหนือกว่าในเรื่องของขนาดหน้าจอ, ความหลากหลายของแอพฯ, มีกล้องหน้า และแฟลชที่กล้องหลัง
Asus Zenfone 5 (รุ่น Ram 1 GB) ราคา 4,990 บาท
ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีกับ Nokia XL มากครับ ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ใกล้เคียงกัน รวมถึงขนาดหน้าจอ 5 นิ้วเหมือนกันอีกต่างหาก Zenfone 5 จะได้เปรียบกว่าในเรื่องของสเปคและตัวระบบปฏิบัติการที่สดใหม่กว่า แต่ก็ต้องแลกกับการไม่มีเซอร์วิสจาก Nokia ทั้ง Here Maps และ Nokia MixRadio?
**ขอบคุณเครื่องสำหรับรีวิวจาก Nokia ประเทศไทย**