หลังจากที่ปล่อยให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนคู่แข่งหลายเจ้าปล่อยมือถือ Flagship หรือมือถือรุ่นเรือธงรุ่นใหม่กันไปหมดแล้ว ก็ถึงเวลาของทาง Nokia ที่ตอนนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของทางไมโครซอฟท์ดีไวซ์จะ “ปล่อยของ” กันบ้าง ซึ่งมือถือเรือธง ณ เวลานี้ของ Nokia ก็ได้แก่เจ้านี่เลยครับ Nokia Lumia 930?โดย Nokia Lumia 930 เป็นรุ่นต่อยอดจาก Nokia Lumia 920 แต่จะมาพร้อมกับการปรับปรุงในหลายๆ ด้าน และแน่นอนครับ Nokia Lumia 930 ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone รุ่นล่าสุดอย่าง Windows Phone 8.1 พร้อมเป็น Lumia Cyan ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ
Nokia Lumia 930 ในประเทศไทยนั้นเริ่มวางขายไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 จัดเป็นมือถือระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 ตัวที่สองที่วางขายในประเทศไทย (ตัวแรกคือ Nokia Lumia 630) สนนราคา 19,890 บาท และในการรีวิว Nokia Lumia 930 ครั้งนี้ ทางทีมงานได้รับเครื่องรีวิวมาจากทางไมโครซอฟท์ดีไวซ์ประเทศไทย โดย Nokia Lumia 930 ที่เราได้รับมารีวิวนั้นมีตัวเครื่องสีขาว ซึ่งเป็น 1 ใน 4 สีของ Nokia Lumia 930 ครับ (Nokia Lumia 930 มีทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีส้ม และสีเขียว) และตามธรรมเนียมก่อนจะเข้าสู่การรีวิว เรามาทำความรู้จักกับสเปคของ Nokia Lumia 930 กันก่อนเลยครับ
สเปค Nokia Lumia 930
- ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1
- หน้าจอ?ClearBlack OLED?ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
- CPU Snapdragon 800 Quad Core ความเร็ว 2.2 GHz
- Ram 2 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB
- กล้องหลังเทคโนโลยี Pureview ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชคู่
- กล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- แบตเตอรี่ 2,420 mAh
- น้ำหนัก 167 กรัม
- ราคา 19,890 บาท
- สเปค Nokia Lumia แบบเต็มๆ
สำหรับแพคเกจของ Nokia Lumia 930 จะอยู่ในกล่องกระดาษแบบใหม่ ไม่เหมือนกับรุ่นก่อนๆ แล้วครับ (ผมว่าแบบนี้ดูใส่ใจในแพคเกจมากกว่ารุ่นก่อนๆ เยอะเลย) สำหรับอุปกรณ์ในกล่องก็จะประกอบไปด้วยตัวเครื่อง Nokia Lumia 930, หูฟัง Smalltalk แบบ In-Ear พร้อมจุก 3 ขนาด, อแดปเตอร์และสาย USB สำหรับเชื่อมต่อครับ พูดถึงสเปคไปแล้ว กล่องและอุปกรณ์ภายในกล่องแล้ว ก็เข้าสู่การรีวิว Nokia Lumia 930 แบบเต็มๆ กันเลยครับ
Design
ขอบโลหะเป็นอะไรที่โดนจริงๆ
สำหรับตัวผมเองนั้น เมื่อเห็น Nokia Lumia 930 ครั้งแรกในงานเปิดตัว Nokia Lumia 930 เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่าประทับใจในรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างมาก จะบอกว่าเป็น Love at first sight ก็คงจะไม่ผิดนัก ด้วยจุดเด่นแรกที่ค่อนข้างเตะตาเป็นพิเศษอย่างขอบตัวเครื่องของ Nokia Lumia 930 ที่ทำมาจากโลหะทั้งชิ้นเช่นเดียวกับใน Sony Xperia Z2 ภาพลักษณ์ที่สื่อให้เห็นถึงความบึกบึน คงทนและแข็งแรง เอาเป็นว่ามอง Nokia Lumia 930 ด้วยสายตาแวบแรกนี่รู้เลยว่าเป็นมือถือที่วัสดุและงานประกอบแข็งแรง ทนทานอย่างแน่นอน
และเมื่อได้ลองจับเครื่องรีวิว Nokia Lumia 930 แบบจริงจัง (ต้องขอขอบคุณทางไมโครซอฟท์ดีไวซ์ประเทศไทยด้วยครับ สำหรับเครื่องรีวิว Nokia Lumia 930 แต่คราวหน้าขอเครื่องทดสอบสีสดๆ หน่อยนะครับ ><) ก็ยิ่งหลงรักในดีไซน์ของมันยิ่งขึ้น แน่นอนว่าในงานเปิดตัวผมได้ทำการ Hands-on เจ้า Nokia Lumia 930 ไปก็จริง แต่ก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ และเมื่อได้ Nokia Lumia 930 มาลองเล่นลองใช้งานดู ถ้าจำไม่ผิดผมอวดเจ้า Nokia Lumia 930 ให้กับคนทั้งออฟฟิศดู ว่ามันเป็นมือถือรุ่นท็อปที่ออกแบบมาได้สวยงามเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่ากระแสตอบรับจากเพื่อนๆ ในที่ทำงานก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “มันสวยดีหว่ะ” แถมน้ำหนักเครื่องก็ไม่ได้หนักมาก อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
สัมผัสแรกที่ได้ลองจับ Nokia Lumia 930 ที่ถึงแม้เราจะรู้ว่าวัสดุส่วนมากที่นำมาทำเป็นตัวเครื่องจะเป็นพลาสติก แต่สัมผัสตัวเครื่องให้ความรู้สึกพรีเมียมสมกับความเป็นรุ่นเรือธง อย่างที่เรารู้กันว่ามือถือโนเกียมีจุดเด่นเรื่องวัสดุของตัวเครื่องรวมถึงงานประกอบที่แข็งแรงอยู่แล้ว และแน่นอนว่า Nokia Lumia 930 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ในส่วนของวัสดุ, การจัดวางรวมถึงองค์ประกอบของตัวเครื่อง สำหรับผมแล้วให้คะแนนเต็มเลย ส่วนตัวผมยอมรับว่าเจ้า Nokia Lumia 930 เนี่ยเป็นมือถือ Windows Phone เครื่องแรกที่เห็นแล้วรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ พูดกันตรงๆ ว่าอยากได้เลยครับ ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่โดนใจ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอที่กำลังพอดีมือ และที่สำคัญคือดีไซน์ที่สวยงามโดนใจเป็นพิเศษนี่แหละครับ
Nokia Lumia 930 เป็นมือถือที่เห็นครั้งแรกแล้วตกหลุมรักเอาได้ง่ายๆ
มาถึงรายละเอียดในส่วนของดีไซน์ของ Nokia Lumia 930 กันบ้าง เริ่มจากด้านหน้ากันก่อนเลย?ขอบบนหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว มีลำโพงสำหรับสนทนา ถัดมาเป็นกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล f/2.4 พร้อมเซ็นเซอร์วัดระยะห่าง, เซ็นเซอร์ปรับระดับแสงอัตโนมัติ?ถัดลงมาใต้จอจะพบกับแผงปุ่มเมนูแบบสัมผัส (Capacitive Button) เริ่มจากปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮมที่เป็นสัญลักษณ์ Windows และปุ่มค้นหา ตอนแรกผมนึกว่าจะใช้เป็นปุ่มกดแบบ Soft Key เหมือนอย่าง Nokia Lumia 630 เสียอีกนะครับ (ความชอบส่วนตัวล้วนๆ เลย) แต่ก็ดีแล้วครับ จะได้ไม่เปลืองพื้นที่หน้าจอ นอกจากนี้ยังมีช่องไมโครโฟนสนทนาจัดวางอยู่ใกล้กัน
ส่วนขอบเครื่องอันเป็นจุดเด่นมากๆ ของ Nokia Lumia 930 เริ่มกันที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องยังเหมือนรุ่นก่อนๆ คือ?ปล่อยโล่งเพื่ออวดความสวยงามของวัสดุที่ทำจากโลหะ?ส่วนด้านบนของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยช่องใส่ซิมการ์ด โดยช่องใส่ซิมการ์ดของ Nokia Lumia 930 นี้ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์สำหรับเปิดถาดซิมแล้ว เพียงใช้เล็บแคะเบาๆ ก็สามารถเปลี่ยนซิมได้ทันที สำหรับซิมการ์ดที่ Nokia Lumia 930 รองรับจะเป็นซิมการ์ดแบบ Nano Sim (ซิมเล็กๆ แบบ iPhone 5S) ถัดมาเป็นช่องต่อชุดหูฟังมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร รองรับแจ็คหูฟังทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นแจ็คแบบตรง หรือแบบตัว L รับรองว่าเสียบได้หมด ไม่มีติดแน่นอนครับ ถัดมาทางด้านขวาของตัวเครื่องจะมาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียงที่มีขนาดกำลังพอดี ไม่สั้นเกินไปแบบ Sony Xperia Z2,?ปุ่ม Power และปุ่มล่างสุดจะเป็นปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายรูปภาพสามารถกดได้ 2 จังหวะ (กดโฟกัส > กดถ่ายภาพ) โดยปุ่มทั้งหมดเป็นวัสดุเดียวกับขอบของตัวเครื่อง และที่สำคัญคือปุ่มกดทั้งหมด (ปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power) กดไม่ยากครับ ไม่ต้องออกแรงเยอะ และมีการตอบสนองค่อนข้างดีทีเดียว ส่วนขอบเครื่องทางด้านล่างจะมีเพียงพอร์ต microUSB เท่านั้น
เห็นตัวเครื่องดูเหมือนจะใหญ่ แต่พอลองใช้จริงๆ ก็จับถนัดมืออยู่นะ
พูดถึงด้านหน้าและด้านข้างของ Nokia Lumia 930 ไปแล้ว ก็มาต่อกันที่ด้านหลังของ Nokia Lumia 930 กันบ้างครับ สำหรับวัสดุด้านหลังของ Nokia Lumia 930 จะใช้วัสดุทำมาจากโพลีคาร์บอร์เนต มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี PureView ใช้เลนส์ ZEISS แฟลชแบบ Dual LED จัดวางอยู่ และมีช่องไมโครโฟนสำหรับบันทึกวิดีโอ 2 จุด เท่ากับว่า Nokia Lumia 930 มีไมค์ที่ตัวเครื่องทั้งหมด 4 ตัวกันเลย ช่วยให้การบันทึกเสียงตอนถ่ายวีดีโอเป็นแบบ Stereo และช่วยในการตัดเสียงรบกวนได้ดีมากๆ ส่วนมุมล่างขวาเป็นลำโพงหลักของตัวเครื่อง?และแน่นอนว่าไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ นอกจากนี้การออกแบบฝาหลังของ Nokia Lumia 930 จะมีลักษณะโค้งเล็กน้อยเพื่อให้รับกับอุ้งมือเวลาที่เราจับถือตัวเครื่อง ส่งผลให้สามารถจับตัวเครื่อง Nokia Lumia 930 ได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น และถึงแม้ว่าฝาหลังของ Nokia Lumia 930 จะมีลักษณะโค้งเป็นหลังเต่า แต่เท่าที่ลองกดๆ ดูพบว่าไม่มีอาการหลังยวบเลยครับ ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของ Nokia ในเรื่องของงานประกอบ โดย Nokia Lumia 930 สำหรับผมให้คะแนนเรื่องงานประกอบและวัสดุอยู่ในระดับ S เรียกว่าสมกับราคา 19,890 บาทเลยหล่ะครับ
สำหรับหน้าจอของ Nokia Lumia 930 เป็นหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดจัดเต็มที่ Full HD OLED ClearBlack ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 440 ppi เรื่องความคมชัดหายห่วงเลยครับ หน้าจอคมกริบมองไม่เห็นเม็ดพิกเซลแน่นอน เพราะหน้าจอของ Nokia Lumia 930 นี่ละเอียดจริงๆ และด้วยการออกแบบของ Nokia Lumia 930 ที่มีขอบจอบางกว่ารุ่นก่อนๆ ทำให้หน้าจอขนาด 5 นิ้วของมันไม่ได้ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเทอะทะแต่อย่างใด สามารถพกพาได้สะดวก เห็นผมชมเจ้า Nokia Lumia 930 มาเยอะแล้ว อย่าคิดว่ามันไม่มีจุดที่ไม่น่าประทับใจนะครับ ซึ่งจุดไม่น่าประทับใจจุดแรกเลยเนี่ยอยู่ที่หน้าจอของ Nokia Lumia 930 เลยครับ จริงอยู่ที่หน้าจอคมชัดมาก แต่ในบางลีลาจะรู้สึกได้เลยว่าสีของหน้าจอ Nokia Lumia 930 จะติดโทนม่วงๆ อย่างสีขาวมันจะไม่ขาวซะทีเดียวครับ จะออกปนม่วงๆ เล็กน้อย แต่ถ้าเป็นสีดำจะรู้สึกเลยครับว่ามันดำจริงๆ ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ ClearBlack OLED ของทาง Nokia นี่แหละ
สำหรับรูปตัวเครื่อง Nokia Lumia 930 ในมุมอื่นๆ สามารถรับชมได้จาก Gallery ได้เลยครับผม
Software
Nokia Lumia 930 มาพร้อมกับ Windows Phone 8.1 เวอร์ชั่นล่าสุดที่เป็น Lumia Cyan เรียบร้อย การใช้งานต้องบอกว่าลื่นไหลหายห่วงจริงๆ ครับ ด้วยตัวสเปคที่อัดมาแรงเกินความต้องการของตัวระบบซะด้วยซ้ำไป เพราะขนาด Nokia Lumia 630 ที่สเปคแตกต่างกันมากยังใช้งานได้ลื่นไหลเลยบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 แล้วสเปคที่จัดเต็มแบบ Nokia Lumia 930 มีหรือจะไม่ลื่น แต่จะมีข้อสังเกตเล็กน้อยเวลาเปิดแอพบน Nokia Lumia 930 พบว่ามันยังมีการโหลดแอพครั้งแรกนานพอสมควร (ตรงนี้ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ครับ) ถ้าใครเคยใช้มือถือไวๆ มาอาจจะมีหงุดหงิดเล็กน้อย
ความเจ๋งอีกอย่างของระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 คือมันเป็นระบบปฏิบัติการ Windows Phone ที่ใช้งานได้สะดวกกว่า Windows Phone 8 หลายขุมครับ อย่างแรกเลยคือมันมี Action Center (Notification Bar แบบ Android) ช่วยให้เข้าถึงการตั้งค่า และการแจ้งเตือนได้ง่ายขึ้นมากๆ และอีกอย่างหนึ่งคือระบบ Multitasking ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นเดียวกัน แต่จะว่าไปหน้าจอ Multitasking แบบนี้ก็มีมาตั้งแต่ Windows Phone 8 GDR3 แล้วนะครับ แต่ใน Windows Phone 8.1 มันจะได้รับการอัพเกรดให้ดีขึ้นเพราะผู้ใช้สามารถปิดการทำงานของ App ได้ด้วยการกดที่เครื่องหมายกากบาทเหมือนเดิม หรือจะปาดนิ้วลากหน้าต่างแอพลงมาที่ขอบจอด้านล่างก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีการปรับไอคอนของแอพในหน้าจอ Multitasking ให้ดูทันสมัยและเข้าตัว UI ด้วย
Feature
สำหรับฟีเจอร์เด่นๆ ของ Nokia Lumia 930 ก็คงไม่พ้นฟีเจอร์ของตัว Windows Phone 8.1 นั่นแหละครับ ส่วนมากก็จะเป็นพวกแอพหน้าเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ว่าแต่จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจใน Nokia Lumia 930 บ้าง มาดูกันเลยครับ
Here Map
ยังคงเป็นแอพพลิเคชันนำทางที่สุดยอดเช่นเคยครับ ด้วยทีเด็ดอย่างการใช้งานในโหมด Offline ได้ (แต่ต้องดาวโหลดแผนที่ลงเครื่องก่อน) และนอกจากการนำทางแล้ว ยังมาพร้อมกับความสามารถในการหาสถานที่ท่องเที่ยวนี่น่าสนใจ, โรงแรม, สถานีบริการน้ำมัน รวมถึงร้านอาหารก็ยังได้ ที่สำคัญ Here Map สามารถแสดงผลแผนที่ได้แบบ 3D กันเลยทีเดียว?แถมยังทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Here Drive+ เพื่อใช้สำหรับนำทางแทน GPS ได้อีกต่างหาก
Nokia StoryTeller
เป็นแอพพลิเคชันที่น่ารักมากครับ เหมาะสำหรับใครที่ไปท่องเที่ยวบ่อยๆ ตัวแอพพลิเคชัน Nokia StoryTeller เองออกแบบมาสำหรับเก็บบันทึกความทรงจำเป็นอัลบัม?เราไม่ต้องยุ่งอะไรกับมันเลย แค่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เท่านั้นเองครับ โดยตัว Nokia StoryTeller จะดึงภาพที่เราถ่ายมาในช่วงเวลาและสถานที่ใกล้เคียงกัน มาจัดทำเป็นสไลด์โชว์ พร้อมใส่เพลงประกอบน่ารักๆ ให้เราแบบอัตโนมัติด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าไปแก้ไข เพื่อเปลี่ยนเพลงประกอบและเลือกรูปภาพได้เอง จากนั้นถ้าอยากแชร์สไลด์โชว์ดังกล่าวก็สามารถเซฟเป็นวีดีโอเพื่อแชร์ขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ครับ
Health & Fitness
ตามเทรนสมาร์ทโฟนเพื่อสุขภาพเลยครับฟีเจอร์อันนี้ โดยเจ้า Nokia Lumia 930 จะมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวติดมาให้ในเครื่อง ผู้ใช้แค่เข้าไปเปิด Motion Data เท่านั้น (เข้าไปที่ Setting > Motion Data > On) ที่เหลือก็แค่พกเจ้า Nokia Lumia 930 ติดตัวไว้ แอพพลิเคชัน Health & Fitness ก็จะทำการเก็บสถิติการเดินของเราไว้ และยังสามารถตั้งเป้าหมายได้ด้วยว่าจะเดินวันละกี่ก้าว
Nokia MixRadio
บริการฟังเพลงแบบสตรีมจาก Nokia ที่มีเพลงให้เลือกฟังกว่า 18 ล้านเพลง ที่สำคัญคือมันไม่ได้ต้องการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในการสตรีม ใช้แค่เพียงการเชื่อมต่อแบบ Edge ก็สามารถฟังเพลงได้อย่างลื่นไหลไม่ขาดตอนแล้ว นอกจากนี้หากเสียเงินอัพเกรดเป็น MixRadio+ ก็จะสามารถเปลี่ยนเพลงได้เรื่อยๆ แถมยังแสดงเนื้อร้องของเพลงนั้นๆ ได้อีกด้วย แต่ถ้าเรามีเพลงอยู่ในคอมพิวเตอร์อยู่แล้วก็ยังสามารถเอาลงเครื่องเพื่อฟังได้ตามปกติผ่านทางแอพ Music ได้เช่นกันครับ
Camera
ในส่วนของกล้องถ่ายรูปของ Nokia Lumia 930 จะมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล PureView เทคโนโลยี เลนส์ ZEISS?และใน?Lumia Cyan ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ที่ใช้งานร่วมกับ Nokia Camera มากขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ Living Images กับการโฟกัสต่อเนื่อง และผนวกกับการนำภาพ Living Images มาทำวิดีโอง่ายๆจาก Nokia Storyteller ตามที่เราได้นำเสนอไว้ในส่วนของ Feature ได้อีกด้วย ส่วนคุณภาพจากกล้องของ Nokia Lumia 930 ถือว่าทำออกมาดี ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และสามารถเลือกขนาดไฟล์ (5 MP+19?MP) รวมถึงรูปแบบของไฟล์เป็น DNG (ไฟล์ RAW) สำหรับไปตกแต่งเพิ่มเติมได้ หรือจะตกแต่งจาก Nokia Creative Studio จากในตัวเครื่องเลยก็ได้ ส่วนการโฟกัสก็มีการโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่องให้ หรือหากต้องการจะโฟกัสเองก็แตะที่หน้าจอเพื่อโฟกัสได้เลย
ฟังดูก็น่าจะปกติ และค่อนข้างโอเคเลยใช่ไหมครับสำหรับกล้องของ Nokia Lumia 930 แต่มันดันติดอยู่อย่างเดียวที่เป็นข้อด้อยของกล้อง Nokia Lumia 930 เลย ในส่วนของ White Balance ที่ยังคงเพี้ยนอยู่เช่นเคย (กลายเป็นเอกลักษณ์ของมือถือ Windows Phone ไปแล้วมั้งเนี่ย) โดยจะมีปัญหากับสีโทนเหลืองมากที่สุดครับ ถ้าเราโฟกัสไปที่วัตถุสีเหลือง โทนสีรวมของภาพจะเป็นสีโทนฟ้าไปทันที ตรงนี้ต้องแก้ไขด้วยการปรับ White Balance เป็นแบบ Manual ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง นอกจากเรื่อง White Balance ก็ยังมีเรื่องของความร้อนที่ค่อนข้างสูงเวลาเปิดใช้งานกล้อง แต่ไม่ถึงกับทำให้กล้องปิดตัวเองแบบ Sony Xperia Z2 นะครับ
สำหรับภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Nokia Lumia 930 สามารถรับชมได้จาก Gallery เลยครับ
Performance
ด้วยสเปคระดับนี้ (ถึงแม้ CPU จะเก่าไปหน่อยก็เถอะ) ทำให้เรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานไม่ใช่ปัญหาของ Nokia Lumia 930 แม้แต่น้อยครับ อย่างที่ผมได้บอกไว้ในส่วนของซอฟท์แวร์ ว่าสเปคของ Nokia Lumia 930 นั้นแรงเกินกว่าที่ตัวซอฟท์แวร์ต้องการเสียอีก เพราะฉะนั้นถ้าวัดที่ความลื่นไหลก็คงไม่เห็นความแตกต่างจาก Nokia Lumia รุ่นอื่นๆ มากนัก แต่จะไปเห็นผลตอนที่เข้าแอพ หรือใช้งานแอพพลิเคชันมากกว่า เพราะเจ้า Nokia Lumia 930 สามารถเล่นเกมได้ทุกเกมที่มีบน Store แบบปรับสุดได้สบายๆ ครับ รวมถึงการใช้งานแอพในเครื่อง ที่เห็นได้ชัดก็อย่างการเปิดใช้ Here Map ถ้าลองใช้การซูมเข้า – ออกและดูแผนที่ในโหมด 3D จะมีความลื่นไหลกว่ารุ่นล่างๆ อย่างเห็นได้ชัด
ส่วนในเรื่องของการจัดการพลังงาน Nokia Lumia 930 จัดว่าเป็นมือถือที่ใช้งานได้หมดวันอย่างสบายๆ โดยไม่ต้องพึ่ง Powerbank โดยเวลาที่ผมใช้งานจะเปิด Data ไว้ตลอด (ช่วงที่ทำการรีวิว Nokia Lumia 930 นี่ iPhone ผมพังพอดี ทำให้มีโอกาสใส่ซิมหลักที่รองรับการใช้งาน 4G ในเจ้า Nokia Lumia 930) เน้นเล่น Facebook และเข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลเป็นหลัก มีหยิบมาถ่ายรูปบ้าง เล่นเกมนิดหน่อย (เพราะไม่ค่อยมีเกมให้เล่น) ใช้งานประมาณวันละประมาณ 9 – 11 ชั่วโมง ก็ยังไม่เคยต้องเสียบเจ้า Nokia Lumia 930 กับ Powerbank เลยครับ (ถ้าก่อนออกจากบ้านชาร์จไฟเต็ม 100% นะ) ถือว่าแบตเตอรี่อึดพอตัวเลยสำหรับ Nokia Lumia 930
แต่ความแรงที่ได้มาใน Nokia Lumia 930 ก็แลกมาด้วยความร้อนชนิดที่ต้องบอกว่า “มันจะร้อนอะไรง่ายขนาดนั้น” เปิดใช้งานไปซักพักจะรู้สึกเลยว่าความร้อนที่ขอบอลูมิเนียมจะมาไวมาก ยิ่งถ้าใช้งานกลางแจ้ง เช่นถ่ายรูป หรือเล่นเกมบนรถเมล์ปกติที่ไม่ใช่รถแอร์ พบว่าเครื่องจะร้อนมาก แต่เท่าที่ลองใช้งานตอนเครื่องร้อนๆ ก็ไม่พบว่ามีอาการแอพปิดตัวแต่อย่างใด และข้อดีของขอบเครื่องอลูมิเนียมก็คือมันร้อนไวก็จริง แต่การระบายความร้อนก็ทำได้ไวเช่นเดียวกันครับ
Overall
สำหรับภาพรวมของ Nokia Lumia 930 ก็ยังคงเป็นมือถือ Flagship ที่ราคาน่าคบหาอยู่เช่นเคย ด้วยราคาของ Nokia Lumia 930 เปิดมาที่ 19,890 บาท แต่ได้มือถือที่วัสดุและงานประกอบระดับเทพ คือต้องย้ำอีกทีว่าตัวเครื่องของ Nokia Lumia 930 นี่สวยได้ใจจริงๆ โดยเฉพาะขอบเครื่องโลหะช่วยเสริมความหรูหราได้อีก 50% ส่วนสเปคของเครื่องก็จัดเต็มจนเกินความต้องการของตัวระบบ ไม่ว่าจะเป็น CPU Quad Core 2.2 GHz ชิปกราฟฟิค Adreno 330 Ram 2 GB เล่นได้ทุกเกม ใช้งานได้ทุกแอพ?และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Nokia Lumia 930 คุ้มค่าก็คือเรื่องของหน่วยความจำภายในครับ เพราะจัดมาให้ถึง 32 GB?และใช้งาน OneDrive เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้อีกต่างหาก
และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นมากๆ ของมือถือระบบปฏิบัติการ Windows Phone ก็คือในเรื่องการซัพพอร์ตการทำงานค่อนข้างเต็มรูปแบบ อย่างแอพพลิเคชัน Office 365 ที่ทำงานร่วมกับ OneDrive ได้เป็นอย่างดี สามารถแก้ไขเอกสารจากที่ไหนก็ได้ผ่านทาง Nokia Lumia 930 และยังสามารถใช้ Nokia Lumia 930 แทนพอยเตอร์สำหรับพรีเซนต์งานได้อีกด้วย เรียกว่า Nokia Lumia 930 เป็นมือถือที่ตอบโจทย์ทั้งเล่นและทำงานอย่างเต็มที่จริงๆ
ข้อดี
- ตัวเครื่องสวยมาก วัสดุดี งานประกอบแน่นหนา
- หน้าจอสวย และคมชัดมาก
- ระบบปฏิบัติการมาพร้อม Lumia Cyan มีลูกเล่นเพียบ โดยเฉพาะในกล้องถ่ายรูป
- กล้อง PureView ได้รับการปรับปรุงมาจากรุ่นก่อน ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่อึดใช้ได้
- รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย และรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ในไทย
ข้อสังเกต
- บางครั้งสีหน้าจอจะออกโทนม่วง
- White Balance ค่อนข้างเพี้ยน
- ตัวเครื่องมีความร้อนสูงพอสมควรเวลาใช้งานไปซักพัก
Compare
มาถึงส่วนสุดท้ายของรีวิว Nokia Lumia 930 ซึ่งก็คือการเปรียบเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกับ Nokia Lumia 930 ที่ราคา 19,890 บาท จำนวน 5 รุ่นด้วยกัน ก็จะมีดังนี้ครับ
สิ่งแรกที่ Nokia Lumia 930 เหนือกว่าทุกรุ่นก็คือราคาครับ Nokia Lumia 930 มีราคาถูกที่สุดในบรรดา 5 รุ่นคือ 19,890 และจะได้จุดเด่นตรงที่งานประกอบกับวัสดุที่ค่อนข้างดีเยี่ยม ขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์พอดีๆ ไม่ได้หนักจนเกินไป อีกทั้งหน่วยความจำในตัวเครื่องก็มีให้ถึง 32 GB ถึงแม้หน้าจอจะมีความละเอียดน้อยกว่า LG G3 และ Oppo Find 7 แต่ก็ต้องถามว่าหน้าจอความละเอียด Quad HD จำเป็นกับมือถือ ณ ช่วงเวลานี้แล้วหรือไม่
ส่วนตัวเลือกอื่น นอกเหนือจาก Nokia Lumia 930 ก็ขอสรุปง่ายๆ ดังนี้ครับ
- ถ้าต้องการหน้าจอ Quad HD และเทคโนโลยีแบบจัดหนัก แนะนำให้จัด LG G3 หรือไม่ก็ Oppo Find 7
- ถ้าอยากใช้มือถือระบบปิด มีแอพให้เลือกใช้เยอะ พกพาสะดวก ที่สำคัญคือยอมรับหน้าจอเล็กๆ ได้ และราคาไม่ใช่ปัญหา แนะนำให้จัด iPhone 5s
- แต่ถ้าอยากใช้มือถือดีไซน์แบบ Nokia Lumia แต่ยังติดที่ Windows Phone มีแอพให้เลือกใช้น้อย แนะนำให้จัด Sony Xperia Z2