มือถือที่เราจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้ เป็นมือถือจาก Huawei ครับ ต้องบอกก่อนว่าหลังจากที่เปิดตัว Huawei Ascend Mate 7 ไปเนี่ย มือถือ Huawei ในช่วงหลังๆ ที่ทยอยตาม Mate 7 ออกมาก็ล้วนแต่น่าใช้กันทั้งนั้นครับ Huawei Honor 6 ก็เป็นหนึ่งในมือถือกลุ่มนั้น โดยเจ้า Huawei Honor 6 นี่เป็นเหมือนมือถือนอกสายตา วางขายกันอย่างเงียบๆ ทั้งที่ความจริงแล้ว Huawei Honor 6 เป็นมือถือที่คุ้มค่ามาก เอาแค่ในฐานะของการเป็นมือถือ Ram 3 GB ในราคาเพียง 11,900 บาท ซึ่งถือว่าเป็นมือถือ Ram 3 GB ที่มีราคาถูกที่สุดในไทยเลยหล่ะครับ ส่วนสเปคที่เหลือก็แรงไม่แพ้ตัวท็อปอย่าง Huawei Ascend Mate 7 อ่ะครับ
สเปค Huawei Honor 6
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD
- ชิปประมวลผล Huawei Hisilicon Kirin 920 Octa-Core ความเร็ว 1.8 GHz
- Ram 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 16 GB รองรับ MicroSD ความจุสูงสุด 64 GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมแฟลชคู่ LED
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง
- ระบบปฏิบัติการ Emotion UI เวอร์ชัน 2.3 (มีพื้นฐานมาจากAndroid 4.4.2)
- รองรับการใช้งาน 4G LTE รองรับ 3G คลื่น 900/2100
- แบตเตอรี่ 3100 mAh
- สเปคเต็มๆ Huawei Honor 6
- ราคา 11,900 บาท
โดย Huawei Honor 6 รุ่นนี้จะเป็นคนละรุ่นกับ Huawei Honor 6 Plus ที่มีกล้องหลัง 2 ตัวนะครับ (Huawei Honor 6 Plus ยังไม่มีกำหนดเข้าไทยในเร็วๆ นี้) แต่ผมว่าสเปคระดับ Huawei Honor 6 ในราคาหมื่นนิดๆ เนี่ย เป็นมือถือนอกสายตาที่ต้องจัดอ่ะครับ สำหรับคนที่อยากได้มือถือสเปคแรงๆ และเน้นไปที่สเปคเป็นพิเศษ ถามว่าสเปคของ Huawei Honor 6 แรงแค่ไหน ผมบอกได้เลยว่าเล่นเกมได้ทุกเกมอ่ะครับ แถมสเปคของตัวนี้ค่อนข้างสมดุลซะด้วย มีทุกอย่างที่ต้องการ ทุกอย่างจบในราคา 11,900 บาทจริงๆ
ข้อดี
– ทุกอย่างอยู่ในจุดสมดุล ทั้ง CPU, แรม, หน้าจอ, แบตเตอรี่, กล้อง
– รองรับการใช้งาน 4G LTE
-?ตัวเครื่องขนาดพอดีมือ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
– มีอินฟาเรดในตัว ใช้งานแทนรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
– รอม Emotion UI ลื่น และเป็นมิตรกับผู้ใช้
– แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
ข้อเสีย
– กล้องหน้าคุณภาพยังไม่ค่อยประทับใจ
-?ดีไซน์ตัวเครื่องดูไม่สมกับสเปคเท่าไหร่
บทสรุป
BEST PERFORMANCE
Design
เห็นในช่วงบนของบทความผมค่อนข้างจะชื่นชม Huawei Honor 6 ในเรื่องของความคุ้มค่าของสเปค แต่ถ้าถามว่าจุดบอดของ Huawei Honor 6 คืออะไร ผมว่ามันคือดีไซน์นี่แหละครับ ไม่ได้หมายความว่า Huawei Honor 6 ไม่สวยนะ แต่ต้องบอกว่า Huawei Honor 6 มีดีไซน์ที่ไม่สมกับสเปคของมันมากกว่า เป็นมือถือที่เห็นหน้าแล้วไม่ได้รู้สึกถึงความแรงของสเปคแม้แต่น้อย ถ้าจะให้เปรียบก็คงเหมือนเอารถบ้านไปวางเครื่องใหม่แหละครับ ต้องลองขับถึงจะรู้ว่าแรง ส่วนความแรงจะระดับไหน อันนี้เอาไว้ไปพูดกันในส่วนของรีวิว Performance ก็แล้วกัน
ดีไซน์ของ Huawei Honor 6 นั้นทำออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หน้าตาดูเหมือนมือถือระดับกลางๆ เพราะถ้าดูบรรดาคู่แข่งก็จะเห็นว่าบรรดามือถือราคาหมื่นบาทขึ้นไป ในช่วงหมื่นต้นๆ เนี่ยเขานิยมใช้วัสดุเป็นโลหะกันทั้งนั้น อีกทั้งดีไซน์ก็ออกแบบมาได้บางเฉียบ ไม่รู้จะแข่งกันบางไปไหน แต่ Huawei Honor 6 นี่สวนกระแสสุดๆ ครับ ผมว่ารุ่นนี้เอาไปวางรวมๆ กับมือถือระดับกลางก็ไม่น่าจะแยกออกนะ แต่อย่างที่ผมได้บอกไปว่า Huawei Honor 6 เนี่ย ต้องลองใช้ถึงจะรู้ว่าดี ในส่วนของการดีไซน์ก็เช่นกันครับ ถ้าได้ลองจับ ?Huawei Honor 6 ก็จะรู้เลยว่า มือถือเครื่องนี้ “มีของ” นะเออ
สิ่งที่ต้องชม Huawei Honor 6 คือวัสดุครับ แม้ภายนอกจะดูเฉยๆ แต่เมื่อได้ลองจับแล้วรู้สึกได้เลยถึงความปราณีต เป็นมือถืองานดีทีเดียว วัสดุของตัวเครื่องแทบ 100% ทำมาจากพลาสติกครับ แต่เป็นพลาสติกอย่างดี งานประกอบนี่อย่างแน่น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ไม่สามารถถอดฝาหลังได้นั่นเอง ที่สำคัญคือการจับถือตัวเครื่องทำได้สะดวกมาก ด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ซึ่งถือว่ากำลังเหมาะสมในการใช้งานสำหรับคนที่เน้นความคล่องตัว แต่ก็ไม่ได้เล็กจนใช้งานลำบาก ต้องมานั่งเพ่งหน้าจอ จัดว่าเป็นมือถือที่ค่อนข้างสมดุลทีเดียวครับ จะใช้เล่นเว็บก็ได้ ใช้เล่นเกมก็ดี จะใช้ดูหนังดูยูทูปก็พอไหว สบายๆ อยู่แล้ว
เข้าสู่การรีวิวรายละเอียดของ Huawei Honor 6 กันเลยดีกว่า เริ่มจากด้านหน้าของ Huawei Honor 6 จะประกอบไปด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ด้านบนของหน้าจอจะเป็นลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์, กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล,?proximity sensor และไฟแจ้งเตือน LED ครับ ส่วนปุ่มกดทั้งสามปุ่มทางด้านล่างจะใช้เป็นปุ่มกดแบบ Soft Key ที่กินพื้นที่หน้าจอด้านล่างเล็กน้อย ข้อดีของปุ่มแบบนี้คือใช้งานได้ยืดหยุ่นกว่า ไม่ว่าจะแนวตั้ง หรือแนวนอนก็ตาม และจุดสังเกตอย่างหนึ่งของ Huawei Honor 6 จะอยู่ตรงขอบจอ โดย Huawei Honor 6 ออกแบบขอบจอมาได้ค่อนข้างบางเลยทีเดียว และนั่นก็ส่งผลต่อมิติโดยรวมของตัวเครื่อง ทำให้ Huawei Hornor 6 เป็นมือถือหน้าจอ 5 นิ้วที่มีขนาดใหญ่กว่าพวกหน้าจอ 4.7 นิ้วนิดเดียวเอง จับถือสะดวกมากครับรุ่นนี้ ใครที่มองว่า Huawei Ascend Mate 7 ใหญ่ไป ลองเปลี่ยนใจมาคบ Huawei Honor 6 ได้นะ 🙂
ด้านข้างของ Huawei Honor 6 แบ่งออกเป็นสองส่วนครับ คือด้านบน-ด้านซ้าย-ด้านขวา จะใช้วัสดุสีเงิน ให้ฟิลเหมือนโลหะ ส่วนด้านล่างจะเป็นพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่อง สำหรับรายละเอียดบริเวณด้านข้างของ Huawei Honor 6 เริ่มจากทางด้านขวามือจะประกอบไปด้วยปุ่ม Power, ปุ่มปรับระดับเสียง, ช่องใส่ซิมการ์ด (รองรับซิมเดียว แบบ MicroSim เฉพาะคลื่น 900/2100, รองรับ 4G LTE) และช่องใส่ MicroSD Card โดย Huawei Honor 6 รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุดที่ 64 GB ครับ ด้านล่างจะเป็นช่องเสียบสาย USB (รองรับ USB OTG) กับไมค์สำหรับสนทนาโทรศัพท์ ส่วนด้านบนของ Huawei Honor 6 จะประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟัง, ไมค์ตัดเสียงรบกวน และอินฟาเรดสำหรับใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
มาถึงด้านหลังของ Huawei Honor 6 กันบ้าง สำหรับด้านหลังของ Huawei Honor 6 จะออกแบบมาให้เหมือนกับมีกระจกปิดทับฝาหลัง ถ้าดูแบบผ่านๆ ก็จะไม่เห็น Texture ทางด้านหลัง สัมผัสของฝาหลัง Huawei Honor 6 ค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับกระจก และเก็บรอยนิ้วมือได้แทบจะทุกเม็ด ถามว่าสวยหรือไม่ ผมก็ว่ามันสวยนะ แต่ดูแลยากจริงๆ จับนิดจับหน่อยก็เต็มไปด้วยรอยนิ้วมือแล้วครับ โดยรายละเอียดตรงด้านหลังของ Huawei Honor 6 จะประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชคู่ LED เป็นแฟลชสีเดียวกันนะครับ ไม่ได้มีสองสีเหมือนอย่าง iPhone หรือ HTC แต่ความสว่างเท่าที่ลองเทสดูเป็นแฟลชที่สว่างกว่าแฟลชของ iPhone 6 Plus ซะอีก
ถัดมาตรงกลางฝาหลังก็จะเป็นโลโก้ Honor ส่วนด้านล่างก็จะเป็นลำโพงหลักของตัวเครื่อง เสียงที่ให้ก็ดังใช้ได้ เปิดดังสุดลำโพงไม่แตก แต่ยังขาดเรื่องมิติ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติของลำโพงมือถือแหละครับ เอาเป็นว่าเสียบหูฟังน่าจะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า อ้อ!! Huawei Honor 6 มีโหมด DTS ในแอปพลิเคชัน Music ด้วยนะครับ ความแตกต่างระหว่างการเปิด DTS และไม่เปิดค่อนข้างเห็นได้ชัด ถ้าเปิด DTS จะให้เสียงที่อิ่มกว่า เบสมาเยอะกว่า ฟังเพลงได้สนุกกว่าไม่เปิด DTS ครับ (มีผลทั้งเสียบหูฟังและฟังผ่านลำโพงตัวเครื่อง)
หน้าจอของ Huawei Honor 6 ใช้เป็นหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วกำลังพอดีมือ มาพร้อมกับความละเอียดในระดับ Full HD ซึ่งชิปเซ็ต?Hisilicon Kirin 920 สามารถขับได้สบายๆ เป็นหน้าจอที่สวยรุ่นหนึ่งเลยหล่ะ ด้วยพาแนลจอแบบ IPS ที่ให้สีสันสมจริง ในมุมมองที่กว้างกว่าจอภาพแบบปกติ ส่วนความละเอียดที่ให้มาระดับ Full HD ก็ถือว่าเกินพอสำหรับมือถือหน้าจอ 5 นิ้วอย่าง Huawei Honor 6 แต่ก็ต้องยอมรับว่าหน้าจอของ Huawei Honor 6 ให้ภาพที่คมมากครับ มองไม่เห็นเม็ดพิกเซลให้เสียอารมณ์กันเลยทีเดียว และยังสามารถปรับโทนสีของหน้าจอได้อีกต่างหาก ส่วนเรื่องความสว่างหน้าจอ และการใช้งานกลางแดด หน้าจอของ Huawei Honor 6 เอาอยู่ครับ แต่ถ้าเจอแดดจัดๆ แบบแดดตอนเที่ยงวันอันนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ต่อให้เร่งความสว่างหน้าจอแบบสุดๆ แล้วก็ตาม ว่าแต่จะมีใครเล่นมือถือกลางแดดตอนเที่ยงนานๆ บ้างหล่ะครับ
ภาพรวมของการดีไซน์, วัสดุและงานประกอบของ Huawei Honor 6 สำหรับผมคิดว่าโอเคครับ ถึงแม้จะขัดใจเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกไปหน่อย แต่พอได้ลองเล่นลองใช้แล้วก็ค่อนข้างประทับใจทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัวเครื่องที่กำลังพอดีมือ ใช้งานสะดวกและคล่องตัว ส่วนงานประกอบก็แน่นหนา แข็งแรง วัสดุตัวเครื่องที่ถึงแม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็เป็นพลาสติกอย่างดี จับถือแล้วดูมีราคา อาจจะไม่ได้ดูหล่อเท่ากับ Mate 7 ที่เป็นบอดี้โลหะ แต่ Huawei Honor 6 ก็ดูดีในแบบของตัวมันเองครับ อาจจะด้วยข้อจำกัดของซีรี่ส์ ที่ดันไปอยู่ในซีรี่ส์ Honor ทำให้ Huawei Honor 6 ยังเหมือนไปไม่สุด แต่ก็เอาเถอะครับ จุดเด่นของเจ้านี่ไม่ได้อยู่ที่หน้าตานี่หน่า เพราะ Huawei Honor 6 เป็นมือถือที่เน้นสเปคครับ สเปคนี่มาแบบเน้นๆ เลย 🙂
Software
Huawei Honor 6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Emotion UI เวอร์ชัน 2.3 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 4.4.2 Kitkat ครับ ด้วยชื่อชั้นของ Emotion UI หรือพูดง่ายๆ ก็คือการปรับแต่งรอมของทาง Huawei ที่การันตีเรื่องความลื่น และความเสถียร โดยเฉพาะในรอมของมือถือรุ่นหลังๆ นี่ทำมาดีครับ ใช้งานง่าย หน้าตาสวยงามและดูแตกต่างไปจากมือถือ Android ทั่วไป ตรงส่วนนี้ผมว่าสำคัญนะ มันแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดจากผู้ผลิตครับ ไม่ใช่ว่าทำมือถือออกมาหน้าตาอย่างสวย แต่ดันไปใช้ UI ดิบๆ จาก Rom ติดชิป แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
โดย Emotion UI ของ Huawei Honor 6 ก็ไม่ได้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดหรอกครับ (Emotion UI ตัวใหม่จะเป็นเวอร์ชัน 3.0) ถ้าถามผมว่ารู้สึกอย่างไรกับ Emotion UI 2.3 ส่วนตัวผมว่าไอคอนมันโบราณไปหน่อย หน้าตาไอคอนดูไม่ทันสมัยเหมือนเวอร์ชัน 3.0 แต่ทาง Huawei ก็ยืนยันนะครับว่ารุ่นนี้อัพเดตเป็น Emotion UI 3.0 ได้เหมือนกับ Huawei Ascend Mate 7 (ในเวอร์ชันที่ขายในจีนเหมือนจะได้อัพแล้ว) แต่ในบ้านเราซึ่งเป็น Huawei Honor 6 รุ่นที่วางขายทั่วโลกอาจจะต้องรออีกซักหน่อยนะ
ข้อดีของ Emotion UI ใน Huawei Honor 6 คือความลื่นครับ ลื่นมากในระดับที่ทัชแล้วติดมือกันเลยทีเดียว แล้วก็ความง่ายในการใช้งาน ไม่มีหน้า App Drawer และสิ่งที่ผมค่อนข้างประทับใจในส่วนของซอฟท์แวร์ Huawei Honor 6 ก็คือรายละเอียดเล็กน้อยที่อยู่ในรอม คือไม่ถึงกับต้องมาเป็น Gesture วาดนิ้วอะไรหรอกครับ มีแค่คว่ำหน้าตัวเครื่องเพื่อลดเสียงแจ้งเตือน หรือการลดเสียงแจ้งเตือนเมื่อหยิบเครื่องขึ้นมา แค่นี้ผมว่าก็โอเคแล้วนะ ไม่เยอะ แต่ใช้งานได้จริง ส่วนอีกอันที่รู้สึกว่าประทับใจก็คือการเขย่าเพื่อจัดเรียงไอคอนครับ อย่างผมเนี่ย ถ้าใช้มือถือแอนดรอยจะชอบนั่งจัดไอคอน บางทีแอปที่เราดาวโหลดมามันกระจัดกระจายอยู่ตามหน้าโฮม ถ้าเป็นมือถือรุ่นอื่นก็คงต้องมานั่งลากไปเรียงทีละแอปๆ แต่ถ้าเป็น Emotion UI ของ Huawei Honor 6 นี่แค่แตะหน้าจอค้างไว้ 1 ที แล้วเขย่าเครื่องเท่านั้นแหละจ้า ไอคอนที่สะเปะสะปะก็จะเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ประหยัดเวลาไปเยอะ
ไฮไลท์สุดท้ายในส่วนของซอฟท์แวร์ Huawei Honor 6 ก็คือปุ่มแผงไอคอนลัด ที่จะเป็นปุ่มลอยอยู่ในหน้าจอ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงปุ่ม Assistive touch ใน iPhone อ่ะครับ แต่ของ Huawei Honor 6 จะใช้งานได้สะดวกกว่า เพราะมันไม่ได้ซับซ้อนเหมือนของ iPhone โดยปุ่มแผงไอคอนลัดของ Huawei Honor 6 จะประกอบไปด้วยปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม, ปุ่ม Recent App, ปุ่มล็อคหน้าจอ และปุ่มเคลียร์แรมครับ ซึ่งช่วยให้เราใช้งานมือถือได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปุ่มล็อคหน้าจอกับปุ่มเคลียร์แรมนี่ผมใช้บ่อยพอสมควรเลย
สำหรับใครที่ตั้งใจจะซื้อ Huawei Honor 6 ไปให้ผู้ใหญ่ที่บ้านใช้งาน ที่อาจจะมีปัญหากับการใช้งานสมาร์ทโฟน ด้วยความซับซ้อนของตัวระบบในระดับหนึ่ง ทาง Huawei ก็มีตัวช่วยมาให้ครับในโหมด “หน้าหลักที่เรียบง่าย” ที่จะเปลี่ยนให้หน้า UI ของ Huawei Honor 6 มีความใกล้เคียงกับ Feature Phone ซึ่งใช้งานได้ง่ายกว่า และไม่มีอะไรซับซ้อนแม้แต่น้อย หน้าตาของ “หน้าหลักที่เรียบง่าย” ก็ตามรูป Screenshot ด้านล่างเลยครับ
ภาพรวมในส่วนของการรีวิวซอฟท์แวร์ Huawei Honor 6 ผมถือว่าสอบผ่านครับ ตัว UI เป็นมิตรกับผู้ใช้ ไม่ซับซ้อน มีฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริง แต่จะสอบได้คะแนนมากกว่านี้ถ้าได้อัพเดตเป็น Emotion UI 3.0 เหมือนอย่าง Mate 7 นะ ไม่ได้หมายความว่า Emotion UI 2.3 ไม่ดีนะ แค่ Emotion UI 3.0 มันดีกว่าเท่านั้นเอง 😛
Feature
หมายเหตุดอกจันตัวโตๆ – อันที่จริงแล้วในรอมของ Huawei Honor 6 ไม่มีแอปพลิเคชันรีโมทที่จะเอาไว้ใช้กับอินฟาเรดครับ แต่ด้วยความคันผมเลยไปหาวิธีมาจนได้นั่นแหละ เพราะฉะนั้นแอปรีโมทที่เราหามาลงเองอาจจะมีบั๊กบ้างเล็กน้อย เช่นใช้เปิดแอร์ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการเปิดทีวียี่ห้อดังๆ?ก็สบายหายห่วงครับ ใช้มือถือย้ายช่องเอา ชิคๆ กันไป
ฟีเจอร์เด่นๆ ของ Huawei Honor 6 ก็คงหนีไม่พ้นกับอินฟาเรดที่ติดมาทางด้านบนของตัวเครื่อง ซึ่งสามารถใช้ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นทีวี, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องเล่น DVD, Apple TV, และกล่องเคเบิลทีวี แต่ก็ต้องใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันรีโมทด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างแปลกนิดนึงตรงที่ในรอม Emotion UI 2.3 ของ Huawei Honor 6 ดันไม่มีแอปพลิเคชันนี้ให้ซะอย่างนั้น แต่ไม่เป็นไรครับ ไม่ให้มา เราโหลดมาลงเองก็ได้ 😛
อันดับแรกให้เข้าไปดาวโหลดแอปพลิเคชันรีโมทจากในลิ้งนี้ เป็นไฟล์ .APK ครับ
จากนั้นก็ลากลงเครื่องหรือ SD Card ก็ได้ แล้วก็จัดการ install เป็นอันเรียบร้อย แค่นี้ก็สามารถใช้ Huawei Honor 6 ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนรีโมทคอนโทรลได้แล้ว
แต่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าบางรุ่นที่ในแอปพลิเคชันไม่มีฐานข้อมูลก็จะไม่สามารถใช้งานได้เลยนะครับ ไม่เหมือนมือถือบางยี่ห้อที่เราสามารถเพิ่มรีโมทได้ผ่านการยิงอินฟาเรดที่ตัวมือถือใส่รีโมทของเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนได้
Camera
Huawei Honor 6 ให้กล้องหลังมาที่ 13 ล้านพิกเซล F2.0 ใช้เซนเซอร์ของ Sony ครับ เพราะฉะนั้นเรื่องกล้องหลังนี่หายห่วง การจับโฟกัสทำได้รวดเร็ว ภาพจากกล้องหลังของ Huawei Honor 6 ถือว่าแจ่มครับ การชดเชยแสง Whitebalance ทำมาค่อนข้างดี ไม่ค่อยเจออาการเพี้ยนเท่าไหร่ นี่ผมกำลังพูดถึงการถ่ายรูปในที่แสงเพียงพอ เช่นการถ่ายตอนกลางวันที่มีแสงแดดครับ
แต่ถ้าเป็นการถ่ายรูปในที่แสงน้อย ก็ต้องมาดูว่าแสงน้อยนี่คือในระดับไหน ถ้าในตัวอาคารที่เปิดไฟนีออน, หรือตอนเย็นก็พอไหวครับ แต่ถ้าเป็นการถ่ายรูปตอนกลางคืนแบบกลางคืนจริงๆ ก็ต้องยอมรับในเรื่องคุณภาพของรูปถ่ายที่จะดรอปลงไปเยอะ เห็นได้ชัดว่ามี Noise เพียบเลย ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องใช้แฟลชช่วยเอานะ
โหมดในการถ่ายรูปของ Huawei Honor 6 มีไม่มากครับ หลักๆ ที่ใช้ก็โหมดปกติ, โหมดอัจฉริยะ แล้วก็โหมดหน้าสวย นอกจากนี้ยังมีโหมดพาโนรามา กับโหมดลายน้ำ ที่จะถ่ายรูปพร้อมกับใส่ลายน้ำสถานที่ได้ (คล้ายๆ กับ Instaplace) โหมดออโต้ผมให้คะแนนกลางๆ ครับ ไม่ได้โดดเด่นมาก บางทีก็รู้สึกว่าทำไมถึงไม่มีโหมดกลางคืนมาให้ด้วยหล่ะ
ส่วนกล้องหน้าของ Huawei Honor 6 ก็ให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Wide หรือเลนส์มุมกว้าง คุณภาพผมให้ในระดับกลางๆ ครับ ถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองในอาคารก็ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเซลฟี่ในที่ๆ มีแสงเพียงพอนี่กินนิ่มเลยครับ ชิลแบบหน้าสวยเนียนกริ๊บ เพราะมีโหมด Beauty มาให้ด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบใน Huawei Honor 6 คือหน้าต่างช่วยเซลฟี่ครับ เวลาที่เรากดถ่ายรูปด้วยกล้องหน้า ถ้าไม่อยากเหวอ ให้มองที่กรอบรูปที่โผล่ขึ้นมา เท่านี้ก็จะกลายเป็นตามองกล้องไปโดยอัตโนมัติ แถมยังสามารถเช็คสภาพตัวเองก่อนถ่ายรูปได้อีกด้วยนะ
และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei Honor 6 ในโหมดออโต้ ไม่ได้มีการปรับแต่งเพิ่มเติม แค่ย่อขนาดลงเว็บแล้วใส่ลายน้ำครับ
Performance
เป็นอะไรที่ไม่ต้องพูดเยอะครับ Performance เนี่ย ก็เพราะเป็นจุดเด่นของ Huawei Honor 6 อยู่แล้ว มือถือเครื่องนี้ทำได้ทุกอย่าง เล่นได้ทุกแอป (ที่รองรับ) จะเกมที่แรงแค่ไหนก็เอาอยู่หมดแหละครับ ด้วยซีพียูในซีรี่ส์ท็อปของค่ายอย่าง?Huawei Hisilicon Kirin 920 ซีพียูแบบ Octa-Core ที่แยกออกเป็น Quad Core 2 ตัว ช่วยกันทำงาน โดย Quad Core ตัวแรง ความเร็ว 1.7 GHz จะใช้สำหรับงานประมวลผลหนักๆ ส่วน Quad Core อีกตัวจะใช้สำหรับงานประมวลผลเบาๆ ซึ่งช่วยในการประหยัดพลังงานได้ค่อนข้างมาก ส่วนความแรงของ Huawei Hisilicon Kirin 920 ในต่างประเทศเคลมไว้ว่ามันแรงพอๆ กับ Qualcomm Snapdragon 805 อ่ะครับ ถ้าวัดเฉพาะตัว CPU นะ แต่ถ้านับ GPU ด้วยผมว่ายังเป็นรองอยู่พอสมควร แต่แค่นี้ผมว่าก็พอที่จะใช้เล่นเกมหนักๆ ได้แล้วหล่ะ สำหรับใครที่คาใจว่า?Huawei Hisilicon Kirin 920 จะใช้งานได้ดีจริงไหม แล้วจะมีปัญหาแอปเด้ง จะเล่นเกมไม่ได้ ผมบอกเลยว่ารุ่นนี้เล่นได้ทุกเกม แบบปรับสุดด้วยเอ้า!!
จัดไปกับ Ram 3 GB อยากเปิดอะไรก็เปิดโลด
แต่การที่มือถือเครื่องหนึ่งจะใช้งานได้ลื่นปรื้ดๆ นอกจาก CPU จะแรงแล้ว Ram ก็สำคัญครับ ถ้าแรมน้อยก็เท่านั้น สุดท้ายมันก็หน่วงอยู่ดี ซึ่งปัญหานี้ไม่เกิดกับ Huawei Honor 6 แน่นอนครับ เพราะเจ้านี่มี Ram มาให้ถึง 3 GB เป็นแรมที่ถือว่ามากในระดับมือถือเรือธงอ่ะครับ (Sony Xperia Z3, Samsung Galaxy Note 4) ซึ่งมีราคาระดับสองหมื่นบาทขึ้นไป แต่ Huawei Honor 6 มีราคาอยู่ที่ 11,900 บาทเท่านั้นเอง ผมถึงบอกว่ามือถือรุ่นนี้เป็นมือถือ Ram 3 GB ที่มีราคาถูกที่สุดในไทยยังไงหล่ะ และด้วย Ram มหาศาลขนาดนี้ จะเปิดกี่แอปก็จัดไปครับ Huawei Honor 6 บอกสบายๆ อยู่แล้ว
Screenshot ตอนแบตเตอรี่ 100%
การใช้งานแบตเตอรี่ของ Huawei Honor 6 ต้องบอกว่ามือถือรุ่นนี้มีต้นทุนที่ดีครับ ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 3100 mAh เมื่อมาเจอกับการจัดการพลังงานที่ดีใน Emotion UI ก็เลยทำให้ Huawei Honor 6 เป็นมือถือที่แบตอึดพอตัวเลย ใช้งานกันทั้งวัน เปิด 3G ตลอด ปรับความสว่างจอแบบออโต้ เล่นเน็ต, เล่นเกม, เล่นโซเชียล, ถ่ายรูป, อัพอินสตราแกรม กลับบ้านยังมีแบตเตอรี่เหลือๆ อ่ะครับ แต่ถ้าใครไม่ค่อยใช้งาน ไม่ค่อยเล่นนี่ก็สแตนบายกันได้ข้ามวัน เผลอๆ ก็ 2 วันไม่ชาร์จยังทำได้เลยครับ บอกแล้วว่าเจ้า Huawei Honor 6 เป็นมือถือเน้นสเปค แถมเป็นสเปคที่สมดุลซะด้วย เครื่องแรง จอสวย แบตอึด ครบเลย!!