สำหรับมือถือที่จะมารีวิวให้ได้รับชมกันในวันนี้ เป็นมือถืออีกรุ่นที่พึ่งเปิดตัวกันไปหมาดๆ ในงาน TME 2015 เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาครับ (แต่เปิดตัวที่ต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว) โดยในงาน TME 2015 นั้น Huawei ได้เปิดตัวมือถือด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ Huawei Ascend G7 และ Huawei Ascend G620S แต่รุ่นที่ผมเลือกมารีวิวจะเป็น Huawei Ascend G7 ก่อนครับ ส่วนรีวิว Huawei Ascend G620S เดี๋ยวจะมีตามมาให้อ่านกันทีหลัง
เหตุผลที่ผมเลือก Huawei Ascend G7 มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันก่อนนั้น ไม่ได้มีเหตุผลอะไรซับซ้อนไปกว่าความชอบส่วนตัวของผมครับ 555 เพราะตอนที่ทาง PR ของ Huawei โทรมาสอบถามว่า “อยากรีวิวรุ่นไหนก่อนคะ?” ผมนี่ตอบกลับไปว่า Huawei Ascend G7 แบบไม่ต้องคิดเลยครับ นั่นก็เพราะว่า Huawei Ascend G7 เป็นมือถือที่ผมค่อนข้างประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นราคาที่เปิดตัวมาได้สวย (Huawei Ascend G7 ราคา 9,990 บาท) สเปคระดับที่ใช้งานได้ดีไปจนถึงดีเยี่ยม และวัสดุกับงานประกอบที่สมราคา ซึ่งผมว่าแค่ 3 เหตุผลนี้ก็เพียงพอแล้วที่ผมจะเลือก Huawei Ascend G7 เพื่อมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันก่อน
นอกเรื่องมาไกลเลย ก่อนที่จะเข้าสู่การรีวิว Huawei Ascend G7 เรามาทำความรู้จักกับสเปค Huawei Ascend G7 กันคร่าวๆ ก่อนดีกว่า
สเปค Huawei Ascend G7
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 410 Quad-Core ความเร็ว 1.2 Ghz แบบ 64 Bit
- ระบบปฏิบัติการ EMUI เวอร์ชัน 3.0 มีพื้นฐานมาจาก Android 4.4.4 Kitkat
- ความจำตัวเครื่อง 16 GB รองรับ microSD สูงสุด 32 GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 88 องศา
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- แบตเตอรี่ Li-Po 3000 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)
- ขนาดตัวเครื่อง 153.5 x 77.3 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก 165 กรัม
- สเปคเต็มๆ Huawei Ascend G7
- ราคา 9,990 บาท
เชื่อผมรึยังหล่ะครับ ว่า Huawei Ascend G7 เนี่ย เป็นมือถือที่ครบเครื่องจริงๆ ถ้ายังไม่เชื่อ ลองเลื่อนลงมาอ่านรีวิวที่เหลือก่อนก็ได้ครับ
ข้อดี
ข้อสังเกต
– กล้องหลังยังมีปัญหาเรื่องการชดเชยแสง
– ตัวเครื่องลื่นไปนิด โดยเฉพาะตรงที่เป็นอลูมิเนียม แล้วก็มีน้ำหนักพอสมควร
– หน้าจอสะท้อนแสงมากไปหน่อย เวลาใช้งานกลางแดดจัดๆ อาจจะมองจอได้ลำบาก
บทสรุป
สำหรับ Huawei Ascend G7 ผมยกให้เป็นมือถือที่สมดุลที่สุดในช่วงราคาไม่เกิน 10,000 บาท ณ ช่วงเวลานี้ไปเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดีไซน์ที่สวยงาม วัสดุหรูหราสมราคา งานประกอบสุดเนี๊ยบ, ซอฟท์แวร์และฟีเจอร์ที่สามารถรีดประสิทธิภาพของตัวฮาร์ดแวร์ออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ยังคงความสวยงามของ UI และฟีเจอร์ที่ใช้ได้จริงทุกฟีเจอร์, กล้องที่ถ่ายภาพได้สนุก แม้จะมีโหมดกล้องไม่เยอะ แต่ก็ใช้ได้ทุกโหมดจริงๆ และประสิทธิภาพในการใช้งานที่เสถียร ไม่ค่อยงอแง ที่สำคัญคือแบตเตอรี่อึดมาก
BEST VALUE
Design
ผมกล้าบอกเลยว่าการออกแบบนี่แหละ เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Huawei Ascend G7 ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์, วัสดุ รวมถึงงานประกอบ ผมว่ายังไงๆ Huawei Ascend G7 ก็สอบผ่านอย่างสบายๆ อะครับ โดยความประทับใจแรกที่ผมได้พบจาก Huawei Ascend G7 คือเรื่องของขนาดตัวเครื่องครับ เอาง่ายๆ คือเทียบ Huawei Ascend G7 กับมือถือเครื่องหลักที่ผมใช้ประจำคือ iPhone 6 Plus ที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.5 นิ้วเท่ากัน เมื่อลองเทียบมิติตัวเครื่องโดยรวมแล้ว Huawei Ascend G7 จะมีขนาดที่เล็กกว่า iPhone 6 Plus พอสมควรครับ ถึงแม้จะเล็กกว่าไม่มาก แต่เวลาที่ถือตัวเครื่องจริงๆ นี่มีผลเยอะเหมือนกันนะเออ
สิ่งแรกที่ต้องชม Huawei Ascend G7 ก็คือเรื่องขอบหน้าจอครับ Huawei Ascend G7 มีขอบหน้าจอที่ค่อนข้างบาง ทำให้มิติตัวเครื่องไม่ใหญ่จนถือลำบาก ส่วนวัสดุของตัวเครื่องหลักๆ เลยก็จะใช้เป็นอลูมิเนียมครับ ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทานในระดับเดียวกับมือถือราคา 15,xxx บาทเลยทีเดียว เอาเป็นว่ามือถือราคาไม่เกินหมื่น ณ ตอนนี้ นอกจาก Lenovo S90 ก็น่าจะเป็น Huawei Ascend G7 นี่แหละครับที่วัสดุกับงานประกอบคุ้มค่าเกินราคาค่าตัว
แต่ถ้าจะเปรียบ Lenovo S90 กับ Huawei Ascend G7 ผมว่ามันให้อารมณ์คนละแบบครับ Lenovo S90 จะเน้นดีไซน์หรูหรา แต่ Huawei Ascend G7 จะเน้นเรื่องความแข็งแรง คือเป็นมือถือที่จับแล้วรู้สึกเลยว่าตัวบอดี้นี่ไม่ธรรมดา ถึก และทนมากๆ แน่นอน โดยสัมผัสของรุ่นนี้นี่ให้ความรู้สึกเดียวกับตอนจับเรือธงอย่าง Huawei Ascend Mate 7 เลยทีเดียว
สำหรับรายละเอียดของ Huawei Ascend G7 อันนี้ผมไม่ขอลงรายละเอียดลึกนะครับ อย่างด้านหน้านี่ก็มีเหมือนมือถือแอนดรอยทั่วไป แต่ตรงลำโพงสนทนาจะแอบใส่ไฟแจ้งเตือน LED เอาไว้ตรงด้านขวา ส่วนปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ของรุ่นนี้จะใช้เป็นปุ่ม Soft Key ที่อยู่บนหน้าจอครับ
เอาแค่วัสดุของ Huawei Ascend G7 นี่ก็คุ้มเกินราคาไปเยอะแล้วหล่ะ
ด้านข้างของ Huawei Ascend G7 บางอยู่ในเกณฑ์ของมือถือทั่วไปครับ ไม่ได้บางมากเหมือนพวก OPPO, vivo แต่ก็ไม่ได้หนาจนรู้สึกว่าล้าสมัย ช่องใส่ซิมการ์ดของ Huawei Ascend G7 จะใช้เป็นถาดซิมที่ต้องอาศัยเข็มจิ้มซิมในการดึงถาดออกมา แต่ที่เห็นว่ามี 2 ช่องไม่ได้หมายความว่า Huawei Ascend G7 รองรับการใช้งาน 2 ซิมนะครับ มือถือรุ่นนี้รองรับซิมเดียว ส่วนช่องด้านล่างนั้นเป็นช่องใส่ MicroSD Card ครับ โดย Huawei Ascend G7 รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุดที่ 32 GB ครับ เมื่อบวกกับหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB ผมว่าน่าจะใช้งานกันพอแหละเนอะ
ด้านหลังของ Huawei Ascend G7 อย่างที่บอกไปว่ามือถือรุ่นนี้ใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม เพราะฉะนั้นด้านหลังก็ย่อมเป็นโลหะเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ Huawei Ascend G7 เป็นมือถืออีกรุ่นที่ทำความสะอาดได้ง่ายมาก ไม่เก็บรอยนิ้วมือ แต่ปัญหาจะอยู่ที่พลาสติกสีขาวทางด้านบนและด้านล่างที่แหละครับ ที่เลอะง่ายไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่เช็ดทำความสะอาดได้ไม่ยากเท่าไหร่ ถือว่าผ่านครับ
ชมมือถือรุ่นนี้ไปเยอะแล้ว มาดูสิ่งที่ผมไม่ประทับใจใน Huawei Ascend G7 กันบ้างดีกว่า อย่างแรกเลยคือความโค้งของฝาหลังครับ ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่ ผมว่าถ้า Huawei Ascend G7 มีฝาหลังที่โค้งเข้ากับอุ้งมือมากกว่านี้ จะทำให้การจับถือทำได้สะดวกมากขึ้น เพราะเอาจริงๆ ฝาหลังอลูมิเนียมของ Huawei Ascend G7 นี่ก็ลื่นเอาเรื่องเหมือนกัน
ส่วนหน้าจอของ Huawei Ascend G7 จะใช้เป็นหน้าจอแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ใหญ่บิ๊กเบิ้ม ใช้งานได้เต็มตา กับความละเอียดหน้าจอที่ HD 720p ซึ่งเพียงพอกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วครับ ไม่ได้รู้สึกว่าจอหยาบ หรือมีเม็ดพิกเซลมากวนใจ ถ้าไม่เพ่งกันแบบจับผิด ซึ่งการใช้งานปกติกับมือถือที่มีหน้าจอใหญ่ๆ แบบนี้เราก็ไม่ได้เพ่งหน้าจออะไรมากมายอยู่แล้ว ทำให้หน้าจอความละเอียด HD ของ Huawei Ascend G7 ค่อนข้างเนียนตา สีสันก็อยู่ในระดับปกติครับ ไม่ได้สดจนเวอร์ สีขาวก็ขาว เป็นหน้าจอที่โอเคเลยหล่ะครับ
ข้อสังเกตของหน้าจอ Huawei Ascend G7 อยู่ที่มุมมองกับตัวกระจกหน้าจอครับ ผมว่าตรงนี้ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเวลาที่มองหน้าจอจากด้านข้างก็พบว่าสีเพี้ยนไปพอสมควร แต่ถ้ามองหน้าจอตรงๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกระจกหน้าจอของ Huawei Ascend G7 ก็ค่อนข้างสะท้อนแสง ซึ่งมีผลเวลาใช้งานกลางแดด จะทำให้อ่านตัวหนังสือยากหน่อยครับ
สำหรับภาพรวมในส่วนของ Design ของ Huawei Ascend G7 เมื่อเทียบกับราคา 9,900 บาท ผมว่าได้อะไรที่คุ้มค่าเกินค่าตัวครับ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตัวเครื่องที่ทำมาจากโลหะ งานประกอบที่แน่นหนา แข็งแรง และการออกแบบที่เทียบชั้นได้กับมือถือราคาหมื่นบาทขึ้นไป เผลอๆ เจ้า Huawei Ascend G7 ถ้าวัดกันเฉพาะในส่วนของการดีไซน์เนี่ย ผมว่าเป็นรองรุ่นท็อปอย่าง Huawei Ascend Mate 7 นิดเดียวอ่ะครับ
Software
Huawei Ascend G7 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ EMUI 3.0 (Emotion UI 3.0) ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 4.4.4 Kitkat เรื่องความลื่นนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ ระดับ Android 4.4.4 Kitkat กับสเปคของ Huawei Ascend G7 นี่ต้องบอกว่าลื่นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องชมคือรอม EMUI 3.0 ยังไว้ใจได้เสมอ ทั้งในเรื่องของฟีเจอร์ และตัว UI ที่ออกแบบมาได้สวยงามกว่า EMUI 2.0 รวมถึงความเสถียรที่ไว้ใจได้อ่ะครับ
หน้าตาของ EMUI 3.0 บน Huawei Ascend G7 ออกแบบมาได้เรียบหรู ไอคอนดูทันสมัย โดยรวมผมว่าหน้าตาดูดีกว่า EMUI 2.0 เยอะครับ การใช้งานนี่ก็แสนง่าย โดยตัว EMUI 3.0 จะไม่มีหน้า App Drawer เหมือนมือถือแอนดรอยปกติทั่วไป เวลาเราโหลดแอปพลิเคชันใหม่ๆ มาลงก็จะขึ้นที่หน้าโฮมทันที ไม่ต้องกดเข้าไปใน App Drawer ให้มึนงงสำหรับมือใหม่ หรือถ้าเปลี่ยนจาก iOS มาใช้เจ้า Huawei Ascend G7 ก็ปรับตัวไม่ยากครับ เล่นๆ ซักสองสามชั่วโมงก็ชินมือแล้ว
การแจ้งเตือนในส่วนของ Notification Center บน Huawei Ascend G7 จะแยกออกจากหน้า Quick Setting ครับ ตรงนี้ผมว่าก็ดีนะ แยกกันเป็นสัดส่วนดีครับ ทำให้พื้นที่ของ Quick Setting มีมากขึ้นด้วย โดยในส่วนของ Quick Setting นี่ก็มีให้เลือกเยอะแยะเลยครับ ตั้งแต่เปิดปิด Wifi ไปจนถึงปิดเครื่องนั่นแหละ ส่วนหน้าการแจ้งเตือน (Notification Center) ก็ทำออกมาได้ดี มีการไล่ลำดับก่อนหลังตามลำดับเวลาด้วย
สำหรับฟีเจอร์ของ Huawei Ascend G7 เอาจริงๆ ก็เป็นฟีเจอร์หลักของตัว EMUI 3.0 นั่นแหละครับ ประกอบไปด้วย Gesture สารพัดรูปแบบไม่แพ้แบรนด์อื่น ไม่ว่าจะเป็นการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกตัวเครื่อง, วาดรูปตัวอักษรตอนปิดหน้าจอเพื่อเข้าสู่ทางลัด
ภาพรวมในส่วนของ Software และ Feature ของ Huawei Ascend G7 ก็ต้องบอกว่ามาเต็ม เพราะตัว UI นี่ก็ใช้เป็นเวอร์ชันเดียวกับรุ่นท็อปอย่าง Mate 7 ความลื่นและความเสถียรนี่หายห่วง ฟีเจอร์ก็มีให้เพียงพอกับการใช้งาน หน้าตาของ UI ดูสวยงาม ทันสมัย และยังใช้งานง่ายอีกด้วย ผมว่าเป็นซอฟท์แวร์ที่ดูใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ดีครับ
Camera
Huawei Ascend G7 มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลครับ ส่วนตัวซอฟท์แวร์จะใช้เป็นเวอร์ชันเดียวกับใน Huawei Ascend Mate 7 แต่มีโหมดให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ ส่วนมากจะเน้นใช้โหมด Auto ครับ
กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลของ Huawei Ascend G7 ใช้เซนเซอร์จาก Sony เพราะฉะนั้นเรื่องคุณภาพของรูปถ่ายถือว่าใช้ได้เลยครับ สีสันของรูปถ่ายสมจริง White Balance ไม่ค่อยเอ๋อ ภาพค่อนข้างคมทีเดียว การจับภาพทำได้รวดเร็วทันใจมาก กดปุ๊บติดปั๊บ แต่ยังติดเรื่องการชดเชยแสงอยู่ครับ เวลาเจอแสงแปลกๆ ตัวกล้องมักจะคุมไม่อยู่ ขาดบ้างฟุ้งบ้างตามประสากล้องมือถือครับ
การถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้ง่ายมาก แต่จะต้องอาศัยระยะเป็นตัวกำหนดความเบลอของฉากหลัง อาจจะต้อง Close-Up ที่ตัววัตถุซะหน่อยถ้าอยากให้หลังเบลอ หรือจะเลือกใช้โหมดโฟกัสทั้งหมด ซึ่งเป็นโหมดที่เราสามารถกลับมาแก้ไขจุดโฟกัสของรูปหลังจากถ่ายภาพไปแล้ว จะให้ตรงไหนชัด ตรงไหนเบลอก็สั่งได้ดั่งใจ
ส่วนการถ่ายรูปในที่แสงน้อยก็พอไหวครับ คุณภาพของรูปถ่ายตอนกลางคืนจาก Huawei Ascend G7 ถือว่าทำได้ดี ยิ่งเป็นการโพสลงโซเชียลเน็ตเวิร์คนี่สบายๆ ไม่ค่อยเห็น Noise และยังได้รายละเอียดครบถ้วน แต่ถ้าเป็นที่ๆ มีแสงไฟเยอะๆ จะเริ่มมีปัญหาแล้วหล่ะ อย่างที่ได้บอกไปครับว่าการชดเชยแสง Huawei Ascend G7 ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดพาโนรามาจากกล้อง Huawei Asecnd G7
มีอีกฟีเจอร์หนึ่งของ Huawei Ascend G7 ที่ผมค่อนข้างชอบ และใช้บ่อยมากตอนที่รีวิว Huawei Ascend G7 คือฟีเจอร์การกดปุ่มลดเสียงติดกัน 2 ครั้ง ตอนที่ปิดหน้าจอ จะเป็นการเปิดกล้องและลั่นชัตเตอร์อย่างรวดเร็ว เจออะไรเจ๋งๆ ก็ยกมือถือขึ้นมา กดปุ่มลดเสียงติดกัน 2 ครั้ง เรียบร้อย ผมสามารถเก็บภาพได้ในเวลา 1 วินาทีนิดๆ ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหน้าจอ > ปลดล็อกเครื่อง > เข้าแอปกล้อง > กดถ่ายรูป ซึ่งเราอาจจะพลาดโมเม้นสำคัญๆ ไปทันที
ตัวอย่างรูปภาพจากการกดปุ่มลดเสียงติดกัน 2 ครั้ง แบบว่าเดินไปเจออะไรก็กดถ่ายเลยครับ
พูดถึงกล้องหน้าของ Huawei Ascend G7 กันบ้างครับ กล้องหน้าของ Huawei Ascend G7 เป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 88 องศา มาพร้อมกับโหมดหน้าสวยที่เลือกปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งได้ และโหมดพาโนรามิคเซลฟี่ ที่สามารถถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าในมุมที่กว้างกว่าปกติ ด้วยโหมดพาโนรามิคเซลฟี่นอกจากจะเหมาะกับการถ่ายรูปเป็นหมู่คณะแล้ว ยังเหมาะกับการถ่ายรูปตัวเองที่ต้องการเก็บฉากหลังสวยๆ ด้วยครับ เรียกว่าไม่ต้องพกไม้เซลฟี่ให้ยุ่งยากเลย
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจในกล้องหน้าของ Huawei Ascend G7 (อันที่จริงต้องบอกว่าใน EMUI มากกว่า) คือหน้าต่างช่วยเซลฟี่ครับ บอกตามตรงว่าผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเซลฟี่เท่าไหร่ จะมีปัญหาเวลามองกล้องหน้าทุกที มองผิดมุมบ้างอะไรบ้าง แต่ตอนที่ใช้ Huawei Ascend G7 นี่ไม่มีปัญหาเลยครับ เพราะเวลาเซลฟี่ก็ให้มองหน้าต่างเล็กๆ ที่จะโผล่ขึ้นมาตอนกดชัตเตอร์ครับ พอเรามองที่หน้าต่างนั้น สายตาของเราก็จะเหมือนมองกล้องพอดีเป๊ะเลย
คุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องหน้าของ Huawei Ascend G7 ผมให้ระดับกลางๆ ครับ ไม่ได้โดดเด่นมาก และต้องพึ่งพาแสงจากสภาพแวดล้อมพอสมควร อย่างการถ่ายย้อนแสงนี่คือหน้ามืดทันที ส่วนแสงน้อยคุณภาพของรูปถ่ายก็จะดรอปลงไป แต่ Huawei Ascend G7 ก็ชดเชยในส่วนนี้ด้วยโหมดเร่งแสงหน้าจอตอนถ่ายเซลฟี่ในที่มืดครับ ซึ่งก็พอช่วยได้นิดหน่อย ส่วนตัวผมว่าดีกว่าแฟลชกล้องหน้านะ เพราะแสงมันแข็งจนเกินไป
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Huawei Ascend G7 ครับ ทุกรูปถ่ายด้วยโหมด Auto และมีบางรูปใช้ HDR ช่วยถ่ายครับ
Performance
อันที่จริง Huawei Ascend G7 ไม่ใช่มือถือเน้นสเปคนะครับ ดูได้จากตัว CPU ที่เลือกใช้เป็นระดับกลางอย่าง Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core ความเร็ว 1.2 GHz และ Ram 2 GB ทำให้การใช้งานทำได้หลากหลายมากกว่า ครั้นจะเอาไปเล่นเกมที่กินกราฟฟิคเยอะๆ ตรงนี้ก็ต้องปรับความละเอียดของภาพให้เหมาะสม ไม่งั้นมีกระตุกแน่ๆ ส่วนเกมทั่วไป เช่น เกมจาก Line หรือเกม Puzzle ที่เล่นฆ่าเวลา อันนี้สบายๆ ครับ
แต่ผมว่าไฮไลท์ของ Huawei Ascend G7 อยู่ที่ความเสถียรของ EMUI 3.0 นี่แหละครับ จะบอกว่าเป็นจุดขายของ Huawei Ascend G7 เลยหล่ะ คือเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่ใช้ CPU รุ่นเดียวกัน ผมว่า Huawei Ascend G7 จะใช้งานได้ลื่นกว่าเยอะเลย ต่อให้ล็อกอิน Social แทบจะทุกชนิด ทั้ง Facebook, Facebook Messenger, Instagram, Twitter, Line โดยเฉพาะสองอย่างแรกนี่จะกิน Ram และทำให้เครื่องหน่วงมากเป็นพิเศษ แต่สำหรับ Huawei Ascend G7 นี่ชิลเลยครับ ต่อให้เล่นเกมด้วยก็ไม่มีปัญหา การสลับแอปพลิเคชันก็ทำได้รวดเร็วทีเดียว
ในเรื่องของการจัดการพลังงาน Huawei Ascend G7 ก็ทำได้ดีครับ ด้วยแบตเตอรี่ 3000 mAh ที่อยู่ในตัวเครื่อง แถมยังเป็นมือถือที่มีสเปคกลางๆ CPU กินไฟน้อย และหน้าจอที่มีขนาดใหญ่แต่ก็ความละเอียดแค่ HD ทำให้แบตเตอรี่ของ Huawei Ascend G7 นั้นอึดพอตัวเลยหล่ะ อย่างตอนที่รีวิว Huawei Ascend G7 เฉลี่ยแล้วประมาณ 1 วันครึ่ง ผมก็ชาร์จไฟเจ้า Huawei Ascend G7 ทีนึงครับ นี่กำลังพูดถึงกรณีที่เปิด 3G สลับกับ WiFi มีการแจ้งเตือนโซเชียลเข้ามาตลอด แล้วก็หยิบขึ้นมาเล่นเกม Candy Crush Soda Saga, Line Cookie Run แล้วก็ Asphalt 8 บางเวลา แต่ถ้าหยิบขึ้นมาเล่นบ่อยๆ ผมว่าแบตเตอรี่ของ Huawei Ascend G7 ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันครับ ส่วนการสแตนบายโดยเปิด 3G และ Wifi ไว้นี่ทิ้งไว้จนลืมเลยครับ ประมาณ 5 วันชาร์จทีก็พอไหวอยู่นะ
ประสิทธิภาพโดยรวมของ Huawei Ascend G7 ส่วนตัวผมมองว่าเป็นมือถือที่โดดเด่นเรื่องความสมดุลครับ โดยความสมดุลที่ว่านั้นก็อยู่ระหว่าง CPU, Ram และตัว OS ที่ทำออกมาได้น่าประทับใจ อย่างที่บอกไปอ่ะครับ Huawei Ascend G7 ไม่ใช้มือถือที่แรงปรู๊ดปร้าด แต่ Huawei Ascend G7 เป็นมือถือที่เสถียร เน้นใช้งานได้หลากหลาย และใช้งานได้เรื่อยๆ ครับ ตั้งแต่ได้รีวิว Huawei Ascend G7 มาเนี่ย ถ้าจำไม่ผิดผมเคลียร์ Ram ไปครั้งเดียวเอง