Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] รีวิว blackphone 2 หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก!!
    Android Platform

    [Review] รีวิว blackphone 2 หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก!!

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng20 มกราคม 2017Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนจัดเป็นอุปกรณ์ที่ Must have ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลายเป็นของที่ทุกคนต้องมี และด้วยความสามารถที่ต้องบอกว่ามันทำอะไรได้หลากหลายขึ้น และลดขั้นตอนความยุ่งยากไปได้เยอะ เช่น การโอนเงิน, การแก้ไขงาน ที่ไม่จำกัดว่าต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์อีกต่อไป จึงไม่แปลกที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ จะเก็บข้อมูลส่วนตัว, งาน รวมถึงธุรกรรมต่าง ๆ ไว้ในสมาร์ทโฟนเครื่องที่ใช้ประจำ

    แต่หนึ่งในเรื่องที่เรามักจะมองข้ามและปล่อยผ่านไปอยู่เสมอก็คือเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูล ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ บางคนที่กำลังอ่านบทความรีวิวมือถือเครื่องนี้อยู่ ยังไม่ได้ทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ด้วยซ้ำ และถ้าหากว่าโทรศัพท์เราบังเอิญสูญหายไป นั่นหมายถึงข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเรา ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, คลิปวีดีโอ, ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ก็พร้อมจะโดนเข้าถึงได้ตลอดเวลา และมันก็จัดเป็นหายนะชัด ๆ

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00020

    สำหรับสมาร์ทโฟนที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ เป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์น้องใหม่ในประเทศไทย นำเข้าโดยบริษัท ZecureAsia ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทสามารถ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยมือถือรุ่นดังกล่าวก็ได้แก่ blackphone 2 สมาร์ทโฟนที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อต้นปี 2017

    สเปค blackphone 2

    • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD กระจกนิรภัย Gorilla Glass
    • ระบบปฏิบัติการ Silent OS 3.0.1 บนพื้นฐาน Android 6.0.1 Marshmallow
    • ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 octa-core ความเร็ว1.65 GHz
    • GPU Adreno 405
    • Ram 3 GB
    • ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB รองรับ microSD card สูงสุด 128 GB
    • กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลBSI ออโต้โฟกัสและแฟลช Dual-LED
    • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
    • รองรับ Wi-Fi b/g/n, Bluetooth, GPS/A-GPS
    • รองรับ4G LTE
    • แบตเตอรี่ความจุ 3,060 mAh รองรับ Quick Charge 2.0
    • ราคา 22,900 บาท

    ความพิเศษของ blackphone 2 ที่นำเข้าโดย ZecureAsia ก็คือจะมีชุดอุปกรณ์เสริมแถมมาให้เมื่อซื้อตัวเครื่อง blackphone 2 ด้วย ในชุดอุปกรณ์เสริมดังกล่าวก็จะประกอบไปด้วย เคส blackphone 2, กระจกกันรอยขนาดพอดีกับตัวเครื่อง และอะแดปเตอร์รองรับ Qualcomm Quick Charge 2.0 รุ่นขาปลั๊ก US (ขาแบบแบน) มาให้อีกหนึ่งตัว ส่วนอะแดปเตอร์ที่อยู่ในกล่องเครื่องรีวิว blackphone 2 จะเป็นอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 แบบขา UK (ขากลม) ซึ่งทั้งสองแบบสามารถใช้งานกับปลั๊กไฟ, ปลั๊กสามตาในประเทศไทยได้ครับ

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00039

    Software

    จุดเด่นของ blackphone 2 หลัก ๆ จะอยู่ที่ระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง เหมาะสำหรับคนที่กังวลเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูลเป็นพิเศษ มาพร้อมกับ Security Center ที่จะคอยแจ้งเตือนเรื่องความปลอดภัย ทำงานคล้าย ๆ กับโปรแกรม Anti-Virus บนคอมพิวเตอร์ และ Silent Phone ที่จัดว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องของการโทรศัพท์ รวมถึงการแชทผ่านแอปพลิเคชัน Silent Phone ที่เป็นการติดต่อกันแบบ 1 – 1 ไม่มีการแวะส่งข้อมูลไปยังที่อื่น และไม่สามารถแทรกแซงการสนทนาได้

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00025

    ตัวระบบปฏิบัติการของ blackphone 2 ตอนที่รีวิวเป็น Silent OS เวอร์ชัน 3.0.1 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 6.0.1 Marshmallow มาใน Mood & Tone สีดำ เน้นความเรียบหรู และเข้ากันกับดีไซน์ตัวเครื่อง ตัว UI เองแทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงจาก Stock Android แต่ทาง Silent Circle ได้เข้าไปปรับแต่งเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียดมาก โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงข้อมูลของแอปพลิเคชัน (App Permission) นั้นตั้งค่าได้ละเอียดที่สุด เท่าที่ผมเคยพบในมือถือ Android และมันตั้งค่าแบบนี้ได้กับทุกแอปพลิเคชัน!!

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00018

    ด้านระบบรักษาความปลอดภัยตัวเครื่อง น่าเสียดายที่ blackphone 2 ไม่ได้ติดเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ แต่สามารถใช้การปลดล็อกด้วย PIN Code จำนวนหลายหลัก และมีการปรับแต่งให้หน้า Lock Screen มีตัวเลขขึ้นแบบสุ่ม กันผู้ไม่หวังดีจดจำระบบการปลดล็อก ส่วนการปลดล็อกในรูปแบบ Biometrics ก็มีระบบการจดจำใบหน้าให้เลือกใช้ครับ

    Security Center

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00019

    สำหรับฟีเจอร์ Security Center บน blackphone 2 โดยปกติจะอยู่บริเวณมุมขวาล่างของตัวเครื่องครับ มีลักษณะไอคอนเป็นรูปแม่กุญแจ หลักการทำงานก็อย่างที่ได้บอกไปแล้ว ว่าเป็นการทำงานคล้าย ๆ กับ Anti-Virus ที่จะคอยแจ้งเตือนการเชื่อมต่อ หรืออะไรก็ตามที่ดูเป็นพิษเป็นภัยต่อข้อมูลและตัวเครื่อง blackphone 2 ผ่านหัวข้อ Privacy Meter ที่แบ่งระดับความปลอดภัยเป็น 3 รูปแบบ ส่วนการแจ้งเตือนที่พบบ่อย ๆ เช่น

    Smart Wi-Fi Manager – จะมีการแจ้งเตือนแทบทุกครั้งที่เราเชื่อมต่อ Wi-Fi แปลก ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลเราจะไม่โดน Hack ระหว่างที่เชื่อมต่อ รวมถึงสั่งเปิด/ ปิด Wi-Fi แบบอัจฉริยะโดยอิงกับพื้นที่ใช้งานประจำ เช่น ตั้งให้มาถึงที่ทำงาน แล้วเปิด Wi-Fi เชื่อมต่อกับที่ทำงาน พอออกจากที่ทำงาน Wi-Fi ก็จะปิดทันที แล้วก็ไปเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติเอง เมื่อเราถึงบ้าน เป็นต้น

    การอัพเดต Software – จะขึ้นในระบบการแจ้งเตือนของ Privacy Meter ด้วยเช่นกันครับ อย่างที่เราทราบกันดี ว่าระบบปฏิบัติการ Android มีช่องโหว่ให้ Hacker สามารถเข้าไปล้วงข้อมูลได้ โดยการแก้ไขก็คือให้เราหมั่นอัพเดต Security Patch อยู่เป็นประจำ และแน่นอนว่า blackphone 2 ก็มีการอัพเดตในส่วนนี้แทบจะทุกเดือน

    การระบุตำแหน่ง – หนึ่งในสิ่งที่เรามักจะมองข้าม ก็คือเรื่องของ Location เพราะถ้าเอาตามหลักความปลอดภัยจริง ๆ แล้ว การเปิดตำแหน่งของเรา ควรทำในเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้งานเท่านั้น เช่น เปิดแผนที่ เป็นต้น

    แอปพลิเคชันแฝง – อีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับมือถือ Android เนื่องจากการลงแอปพลิเคชันนอก Play Store นั้นง่ายพอ ๆ กับการปอกกล้วยเข้าปาก แตะ ๆ หน้าจอสองสามทีก็ลงไฟล์ .apk ได้แล้ว บางทีเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ดี ๆ ก็โหลดแอปพลิเคชันมาลงในเครื่องเฉย โดยตัว Security Center ก็จะช่วยกรองแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้

    ในส่วนของการตั้งค่ามือถือผ่าน Security Center ก็จะเป็นการตั้งค่าด้านความปลอดภัย ที่แยกส่วนออกมาจากการตั้งค่าบน Android อีกที ประกอบไปด้วย การตั้ง Password แบบเข้ารหัส, การสั่งลบข้อมูลในเครื่องระยะไกล (Remote Wipe) ในกรณีที่เราทำโทรศัพท์หาย สามารถ Remote Wipe ข้อมูลให้หายภายในพริบตา โดยเข้าไปที่ https://www.zecureasia.com/ >> Remote Wipe แล้วทำการ Login เข้าไปจัดการลบข้อมูลทิ้ง ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลที่มีในเครื่องจะหลุดไปยังผู้ไม่หวังดี รวมถึงการอัพเดตด้านความปลอดภัยก็มีปล่อยออกมาเรื่อย ๆ

    มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากมือถือ Android ทั่วไป เพราะการสั่งลบข้อมูลนั่นก็ทำได้เช่นเดียวกัน แต่การ Remote Wipe บน blackphone 2 เจ๋งกว่าตรงที่มันไม่ระบุพิกัดของผู้ที่ทำการ Wipe ข้อมูลครับ ต่างจากแอนดรอยที่ระบุว่ามีการสั่งลบข้อมูลจากที่ไหน พร้อมระบุตำแหน่งเรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายทีเดียว

    นอกจากฟีเจอร์ที่กล่าวมาแล้ว ในส่วนของ Security Center ยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ซึ่งก็คือ Spaces Management หรือการจัดการพื้นที่ใน blackphone 2 (แบ่งได้สูงสุด 4 Account) ที่สามารถจัดการได้เหมือนกับการสร้าง User บนคอมพิวเตอร์ โดยแต่ละ User ก็จะแยกจากการชัดเจน

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00005

    อย่างตอนที่ผมรีวิว blackphone 2 ก็ลองตั้ง Account ไว้ 2 Account แยกกันระหว่างส่วนตัว กับการทำงาน แอปพลิเคชันก็จะแยกจากกัน เหมาะสำหรับคนทำงาน ที่อยากจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว สามารถใช้งาน Facebook ได้หลาย Account รวมถึงแอปพลิเคชัน Line ก็ล็อกอินพร้อมกันได้สูงสุดถึง 4 ไอดี ใครที่ทำงาน แล้วมีจ็อบเสริม เช่น เปิดร้านขายของออนไลน์ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไอดี Line เดียวกันให้ปวดหัว หรือไปหาซื้อมือถือเครื่องสำรองมาใช้ เพียงแค่ blackphone 2 เครื่องเดียวก็พอแล้วครับ การแจ้งเตือนก็สามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนพร้อมกันข้าม Account ได้อย่างไม่มีปัญหา

    นอกจากจะสามารถตั้ง Account ได้ถึง 4 Account แล้ว Spaces Management ยังตั้งค่าการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดอีกด้วย อย่างผมเองเปิดไว้ 2 Account สำหรับใช้งานส่วนตัว กับใช้งานที่ทำงาน ก็ตั้งค่าให้ Account ทำงาน ไม่สามารถเข้าถึงรูปภาพ และบัญชีโซเชียลของ Account ส่วนตัวได้ รวมถึงการเข้าถึงรายชื่อ ไปจนถึงการตั้งค่าพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นMobile Network, Bluetooth, ภาพหน้าจอ และอื่น ๆ แต่ในทางกลับกัน ถ้ามีการแจ้งเตือนจาก Account ทำงาน เราสามารถให้มันแจ้งเตือนในขณะที่เราใช้ Account ส่วนตัวได้ครับ อย่างผมก็จะเปิดให้ Email กับ SMS ใน Account ทำงาน แจ้งเตือนบน Account ส่วนตัวด้วย เป็นต้น

    Silent Phone

    จัดว่าเป็นอีกไฮไลท์ของ blackphone 2 เลยก็ว่าได้ สำหรับ Silent Phone ที่เป็นแอปพลิเคชันในการสื่อสารที่มาพร้อมกับความปลอดภัยระดับสูง ที่เป็นการคุยแบบ 1 – 1 ไม่มีผ่านเซิร์ฟเวอร์กลาง ไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ ไม่ว่าจะเป็นการคุยแบบเสียง หรือคุยแบบแชทก็ตาม

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00003

    ทีเด็ดของการคุยผ่าน Silent Phone ด้วยแพ็กเกจ Silent World ที่ติดมาให้ในเครื่อง จะเป็นแพ็กเกจโทรระหว่างประเทศเดือนละ 100 นาที ใช้ได้นาน 12 เดือน เป็นบริการเสริมที่ช่วยให้การโทรระหว่างประเทศปลอดภัย, มีความเป็นส่วนตัว โดยสามารถโทรได้ทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ทั้งหมายเลขที่เป็นเบอร์มือถือ และ เบอร์บ้านได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลก ที่สำคัญคือไม่เสียค่าบริการโทรทางไกลระหว่างประเทศแบบโรมมิ่ง

    ความน่าสนใจอยู่ที่การโทรไปต่างประเทศ จะเป็นเหมือนเราเปิดเบอร์ที่ต่างประเทศ เลือกได้ US กับ UK (เครื่องรีวิว blackphone 2 เป็นแพ็กเกจ UK) ระบบจะทำการสร้างเบอร์โทรที่เป็นเบอร์โทรตามประเทศที่เลือก ทำให้อีกฝ่ายสามารถโทรกลับมาหาเราได้ ในอัตราค่าบริการเดียวกับการโทรในประเทศปลายสายครับ

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00002

    นอกจากนี้ยังมี Silent Text หรือการแชทที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อความปลอดภัยและป้องกันข้อความหลุดสู่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น ข้อความแบบการแชท, ข้อความเสียง, ไฟล์งานส่วนตัวต่าง ๆ โดย สามารถรับส่งไฟล์ได้สูงถึง 100 MB เช่น Word, PowerPoint, PDF และสามารถทำการลบแชทได้ทั้ง 2 ฝ่าย (Burn Chat) สมมติว่าโดนเพื่อนแกล้ง เอามือถือเราไปเล่น แล้วส่งข้อความมั่ว ๆ ผ่าน Silent Text ไปยังเพื่อนอีกคน เราสามารถเข้าไป Burn Chat ทิ้งได้ทันที (มีเวลา 90 วัน) ซึ่งเป็นการลบแชททั้งสองฝ่าย คืออีกฝ่ายก็จะไม่เห็นข้อความนั้นอีกต่อไป

    Design

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00022

    สำหรับดีไซน์และการออกแบบของ blackphone 2 มีการเลือกใช้วัสดุที่หรูหรา สมราคา 22,900 บาทล่ะครับ โดยวัสดุหลักจะเป็นโลหะกับกระจก ให้ทั้งความสวยงามและความหรูหรา ขนาดตัวเครื่องตามไซส์มาตรฐานสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 นิ้วทั่วไป อาจจะไม่ได้เล็ก ขอบบางจัด แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เทอะทะ การพกพา การจับถือทำได้สะดวก และถ้าเป็นคนที่ใช้งานมือถือหน้าจอประมาณนี้อยู่แล้วก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00001

    ด้านหน้าของ blackphone 2 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD เป็นหน้าจอที่จัดว่าคมชัด ด้วยค่าความหนาแน่นหน้าจอสูงถึง 401 ppi คมชัดในระดับที่มองไม่เห็นเม็ดพิกเซล สีสันหน้าจอสดใส ใช้งานได้อย่างสบายตา ทั้งการรับชมภาพยนตร์, เล่นอินเทอร์เน็ต, ส่งอีเมลล์ รวมถึงใช้ในการทำงาน หรือต้องอ่าน Text จำนวนหลาย ๆ บรรทัดก็ไม่ใช่ปัญหา ส่วนตัวกระจกหน้าจอใช้เป็นกระจกนิรภัย Gorilla Glass ทนทานต่อรอยขีดข่วน

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00026

    รายละเอียดทางด้านบนหน้าจอ blackphone 2 ประกอบไปด้วยลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างหน้าจอจะเป็น Navigation Keys ไล่จากซ้ายไปขวา ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ที่มีไฟ LED ใต้ปุ่ม ไม่เป็นปัญหาเมื่อใช้งานในที่มืด

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00027

    ขอบด้านข้าง blackphone 2 ใช้วัสดุเป็นโลหะ ให้ความคงทนแข็งแรง รายละเอียดเริ่มจากทางด้านขวามือ ประกอบไปด้วยปุ่ม Power กับปุ่มปรับระดับเสียง, ด้านบนมีพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร กับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน, ด้านซ้ายมือเป็นช่องใส่ซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดแบบ Nano Sim จำนวน 1 ซิม กับช่องใส่ Micro SD Card รองรับความจุสูงสุด 128 GB ส่วนด้านล่างจะเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ กับพอร์ต Micro USB สำหรับใช้ชาร์จไฟ และเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00035

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00034

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00033

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00032

    ด้านหลังของ blackphone 2 ใช้วัสดุเป็นกระจกนิรภัยเช่นเดียวกับด้านหน้า ดีไซน์เน้นความเรียบหรู รายละเอียดทางด้านหลังประกอบไปด้วย กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ BSI พร้อมแฟลช Dual LED สีเดียวกันจำนวน 2 ดวง ตรงกลางมีโลโก้ Silent Circle ส่วนทางด้านล่างจะเป็นลำโพงหลักของตัวเครื่อง ให้เสียงที่ดังใช้ได้ จัดว่าเป็นลำโพงมือถือที่ฟังเพลงเพราะรุ่นหนึ่งเลยครับ

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00028

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00029

    เรื่องความสวยงาม ความหรูหรา ทนทานของวัสดุ blackphone 2 ไม่ใช่อะไรที่น่าเป็นห่วงครับ รับรองว่าสมกับราคา 22,900 บาทแน่นอน จะมีข้อสังเกตเล็กน้อยบริเวณตัวฝาหลัง การใช้วัสดุเป็นกระจกกับสีดำเงานั้นสวยงามก็จริง แต่ในการใช้งานก็จะพบว่ามันเก็บรอยนิ้วมือแบบสุด ๆ เหมือนกัน เรียกว่าเช็ดกันจนขี้เกียจจะเช็ด ส่วนตัวผมตอนรีวิว blackphone 2 ก็อาศัยเช็ดตอนกลับถึงบ้านทีเดียวเลย แต่ทาง ZecureAsia ผู้นำเข้า blackphone 2  ก็มีอุปกรณ์เสริมอย่างเคส แถมมาให้ด้วย เฉพาะผู้ที่ซื้อ blackphone 2 ในประเทศไทยเท่านั้นครับ ชุดอุปกรณ์เสริมดังกล่าวจะไม่มีให้ที่ต่างประเทศไทย ซึ่งเมื่อใส่เคสก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยนิ้วมือหลังเครื่องแล้ว

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00044

    Camera

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00031

    ถึงแม้ว่าจุดเด่นของ blackphone 2 จะเน้นที่ความปลอดภัยเป็นหลัก แต่เรื่องกล้องก็ถือว่าให้ฟีเจอร์มาแน่นเหมือนกัน เริ่มจากฮาร์ดแวร์กล้อง มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ BSI และแฟลช Dual LED ส่วนซอฟท์แวร์กล้องจัดเต็มกว่าที่คิด มีโหมดให้เลือกใช้มากมายกว่า 19 โหมด กับฟิลเตอร์อีก 12 แบบ แทบไม่ต้องไปโหลดแอปพลิเคชันแต่งภาพเพิ่มเติม โหมดที่ให้มาในกล้อง เรียกว่าเกินใช้งานด้วยซ้ำไปครับ บางโหมดนี่ก็แทบไม่ได้เปิดใช้ ส่วนภาพถ่ายจากกล้องของ blackphone 2 อยู่ในระดับพอใช้ ยังมีข้อจำกัดตอนถ่ายรูปในที่แสงน้อย กับเรื่องการโฟกัสที่ไม่ได้เร็วเท่าไหร่

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00014

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00012

    สำหรับกล้องหน้า blackphone 2 มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซอฟท์แวร์และโหมดต่าง ๆ มีให้เลือกใช้เท่า ๆ กับที่กล้องหลังมี ข้อสังเกตคือเป็นกล้องหน้าแบบ Fixed-focus ในการถ่ายเซลฟี่ต้องเว้นระยะประมาณหนึ่ง

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00011

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง blackphone 2 ก็ตาม Gallery นี้เลยครับ

    Performance

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00006

    ประสิทธิภาพของ blackphone 2 มาพร้อมชิปเซ็ตรุ่นยอดนิยมจาก Qualcomm รุ่น Snapdragon 615 octa-core ความเร็ว 1.6 GHz แบบ 64 Bit ชิป GPU เป็น Adreno 405 กับ Ram 3 GB ในแง่ของสเปคอาจจะดูไม่โดดเด่น แต่ในแง่ของการใช้งานถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานครับ ด้วยลักษณะการใช้งานของ blackphone 2 ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก เน้นที่ระบบความปลอดภัยกับความเสถียรของตัวระบบ ซึ่งสเปคดังกล่าวก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี อาจจะมีอาการแล็คบ้างเล็กน้อยเมื่อทำการสลับ Account แต่โดยรวมก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าการใช้งานสะดุดแต่อย่างใด

    พื้นที่ความจุในตัวเครื่อง blackphone 2 ให้มาที่ 32 GB เหลือพื้นที่ให้ใช้เก็บข้อมูลจริง 25.37 GB สามารถเพิ่มความจุด้วย Micro SD Card ได้สูงสุดถึง 128 GB ส่วนใครที่กังวลว่าใช้งานหลาย Account แล้วความจุไม่พอใช้งาน ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะมีแอปพลิเคชัน Spaces Sharing สำหรับใช้แชร์ข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงแอปพลิเคชันไปยัง Account อื่น ๆ ได้

    ในส่วนของการจัดการพลังงาน blackphone 2 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3060 mAh ในการใช้งานจริงจัดว่าแบตเตอรี่อึดทีเดียว ด้วยสเปคที่ไม่ได้บริโภคพลังงานสูง รวมถึงตัว Silent OS ที่มีการจัดการพลังงานได้ดี  ถ้าไม่ใช่คนที่เล่นมือถือแบบจัด ๆ ประเภทว่าหยิบมาเล่นทุก 5 นาที ส่วนตัวผมว่าสามารถใช้งาน blackphone 2 แบบไม่ต้องพก Powerbank ได้ครับ กลับถึงบ้านยังมีแบตเตอรี่เหลือ ๆ และยังรองรับฟีเจอร์ Quick Charge 2.0 สามารถชาร์จไฟได้เร็วกว่าปกติด้วยครับ

    Overall

    Review-Black-Phone-2-SpecPhone-00036

    ภาพรวมของ blackphone 2 กับราคา 22,900 บาท สำหรับผมมองว่ามันก็ไม่ได้แพงอะไร ถ้าคนที่ซื้อไปใช้มั่นใจว่าใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์ และซีเรียสเรื่องความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ เพราะถ้าเทียบแค่สเปคตัวเครื่อง พูดกันตามตรงว่าราคาแรงเกินไปมาก แต่สำหรับคนที่ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว, ความลับ หรือข้อมูลทางธุรกิจ ผมว่าราคา 22,900 บาทก็ไม่ได้แพงเลยเมื่อเทียบกับมูลค่าของข้อมูลนั้น ๆ ด้วยจุดเด่นเรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารผ่าน Silent Phone, Silent Text รวมถึง Security Center ที่เป็นเหมือนกำแพงขนาดใหญ่ คอยป้องกันการโจมตีข้อมูลจากผู้ไม่หวังดี ต่อให้มือถือถูกขโมยก็ยังสามารถสั่ง Remote Wipe ข้อมูลสำคัญให้หายไปได้อย่างหมดจด เรียกว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวของจริง ที่ใครก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ (ถ้าเราไม่อนุญาต)

    สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย blackphone 2 สามารถหาซื้อได้ที่ Open by i-mobile Shop, TG Fone, PTE สาขาที่ร่วมรายการ และสามารถสั่งซื้อออนไลน์ ผ่าน www.zecureasia.com/blackphone2

    ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/pg/BlackphoneTH

    จุดเด่น 

    • ระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงด้วยตัว Silent OS
    • เหมาะสำหรับคนที่ซีเรียสเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    • สามารถแบ่ง Account ได้ถึง 4 Account และจำกัดการเข้าถึงได้ตามต้องการ
    • มาพร้อม Silent Phone ที่เป็นการส่งข้อมูลแบบ 1 – 1 ไม่มีการยิงข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์
    • โทรฟรีทั้งในและต่างประเทศได้เดือนละ 100 นาที นาน 12 เดือน ผ่าน Silent World
    • สามารถล้างข้อมูลได้ทันทีผ่าน Remote Wipe และลบได้อย่างหมดจด ไม่ทิ้งร่องรอย รวมถึงตำแหน่งที่สั่งลบข้อมูล
    • มีการอัพเดต Patch ด้านความปลอดภัยอยู่เป็นประจำ

    ข้อสังเกต

    • มีอาการแล็คในบางครั้ง เมื่อทำการสลับ Account ไปมาบ่อย ๆ
    • เป็นสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างเฉพาะทาง ถ้าไม่ใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ราคาจะสูงมากทันที
    • จำเป็นต้องจำ Password หลายชุด และระบบรักษาความปลอดภัยในรูปแบบ Biometrics มีเพียงการจดจำใบหน้าเท่านั้น

     

    Gallery

    Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    วิธียกเลิกบริการเสริม AIS ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความเสียเงินจาก AIS ทำยังไง อัพเดท 2568

    13 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ ทั้งหมดทำยังไงบ้างแบบง่ายๆ ปี 2025

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    วิธียกเลิกบริการเสริม AIS ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความเสียเงินจาก AIS ทำยังไง อัพเดท 2568

    13 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ ทั้งหมดทำยังไงบ้างแบบง่ายๆ ปี 2025

    13 พฤษภาคม 2025

    Samsung Galaxy S25 Edge มาแล้ว เปิดราคา 36,xxx บาง 5.8mm แต่แรงด้วย SD 8 Elite for Galaxy

    13 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจใช้ AI ช่วยประหยัดพลังงาน คาดใส่เข้ามาใน iOS 19

    13 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X