Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Phone Review»Full»[Review] รีวิว ASUS Zenfone Selfie มือถือสุดคุ้ม Ram 3 GB กล้อง 13 ล้าน ในราคา 8,990 บาท
    Full

    [Review] รีวิว ASUS Zenfone Selfie มือถือสุดคุ้ม Ram 3 GB กล้อง 13 ล้าน ในราคา 8,990 บาท

    SpecPhone HQBy SpecPhone HQ31 ตุลาคม 2015Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    หลังจาก Zenfone รุ่นต่างๆ ออกวางจำหน่ายก็นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับวงการสมาร์ทโฟน เพราะนอกจากจะมุ่งเน้นในด้านของความคุ้มค่าแล้ว ความโดดเด่นในด้านของดีไซน์ก็ถือได้ว่าไม่เป็นรองใครอีกด้วย พร้อมทั้งราคาของ Zenfone รุ่นต่างๆยังเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างทั่วถึง สเปคของตัวเครื่องก็เรียกได้ว่าออกมาให้เลือกซื้อกันชนิดที่ว่าเลือกไม่ถูกกันเลย และในวันนี้ผมจะมารีวิวอีกหนึ่งสมาชิกของอารยธรรมเซนซึ่งก็คือ ASUS ZenFone Selfie นั่นเองครับ ซึ่งในรุ่นนี้จะมุ่งเน้นความโดดเด่นไปที่กล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยสเปคของตัวเครื่องจะประกอบด้วย

     สเปค ASUS Zenfone Selfie (ZD551KL)

    • ซีพียู Snapdragon 615 ความเร็ว 1.5 GHz
    • จีพียู Adreno 405
    • Android 5.0 มาพร้อม Zen UI 2.0
    • แรม 3 GB
    • หน่วยความจำภายใน 32 GB
    • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD ( 1080 x 1920 ) Corning Gorilla Glass 4
    • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล PixelMaster 2.0 พร้อมแฟลชคู่แบบ  Real Tone และเลเซอร์โฟกัส
    • กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล PixelMaster 2.0 พร้อมแฟลชคู่แบบ Real Tone
    • รองรับ Micro SD สูงสุด 128 GB
    • รองรับการใช้งาน 2 ซิม 3G/4G LTE ทุกเครือข่าย
    • แบตเตอรี่ Li-Polymer 3000 mAh ( สามารถถอดเปลี่ยนได้ )
    • ราคา 8,990 บาท
    • สเปคแบบเต็มๆของเครื่อง

    ดูจากสเปคคร่าวๆเราจะเห็นได้ว่า ASUS Zenfone Selfie  ของเรานั้นเรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างจาก Zenfone รุ่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพแบบ Selfie แล้วคงจะถูกใจไม่น้อยเลยทีเดียว

    Review-ASUS-Zenfone-Selfie-SpecPhone-00014

    จุดเด่น

    – ความลื่นไหลของเครื่องทำได้ค่อนข้างดี
    – ตัวเครื่องมีแรม 3 GB ทำให้การใช้งานหลายๆแอพส์ทำได้ราบรื่น
    – ใช้งาน 3G/4G LTE ได้อย่างไร้ปัญหา
    – งานประกอบของตัวเครื่องทำได้ดี
    – แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้
    – กล้องถ่ายภาพเป็นระบบเลเซอร์โฟกัส
    – ซีพียูเป็น Snapdragonใช้งานได้ทุกแอพส์

    ข้อสังเกต

    – วัสดุของตัวเครื่องทำจากพลาสติก
    – ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
    – เท่าที่ใช้งานพบปัญหา Bluetooth หลุดบ่อย
    – ปุ่ม Power ก็ยังคงอยู่ด้านบนในรุ่นนี้ซึ่งค่อนข้างกดยาก และ ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่องเวลาใช้งานจริงค่อนข้างลำบาก
    – ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก

    บทสรุป

    สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ราคาปานกลางแต่ได้กล้องถ่ายภาพที่ดี Zenfone Selfie อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะในทุกวันนี้ผู้คนต่างนิยมการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนมากขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะบันทึกภาพไว้เสมอๆ และด้วยกล้องที่มีความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซลทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ทำให้เรานั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความคมชัดอีกต่อไป เทคโนโลยเลเซอร์โฟกัสที่กล้องหลังนั้นก็สามารถใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม และด้วยราคาเครื่องเพียง 8,990 เท่านั้นยิ่งทำให้ Zenfone Selfie เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองในขณะนี้
    Editor : Nookies
    85
    BEST PRICE

    Design

    Review-ASUS-Zenfone-Selfie-SpecPhone-00014

    “โดดเด่นด้วยกล้องหน้า 13 ล้าน”
    Review-ASUS-Zenfone-Selfie-SpecPhone-00015

    Review-ASUS-Zenfone-Selfie-SpecPhone-00018

    พูดถึงเรื่องดีไซน์กับบ้างดีกว่า ASUS Zenfone Selfie จะมีทั้งหมด 6  สีด้วยกันนั่นคือสีขาว,แดง,ชมพู,ฟ้า,เทา และสีทอง  เครื่องที่เราจะมารีวิววันนี้จะเป็นสี ชมพูครับASUS Zenfone Selfie มาพร้อมดีไซน์ที่เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะเรียกได้ว่าการออกแบบของ Zenfone ทุกรุ่นนั่นมักจะมีดีไซน์คล้ายๆกันหมด บางรุ่นนี่เหมือนกันเป๊ะเลย ด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้วแบบ Full HD ( 1080 x 1920 ) พร้อมเทคโนโลยีกันรอยขีดข่วนแบบ Corning  Gorilla  Glass 4  ความหนาแน่นพิกเซลอยู่ที่ 403 ppi

    แน่นอนว่าหน้าจอของ ASUS Zenfone Selfie ยังคงมีความสดใสและสีสันที่สวยงามไม่แพ้ Zenfone รุ่นอื่นๆ หน้าจอสามารถสู้แสงแดดได้ดีเหมือนเช่นเคย การตอบสนองต่อการสัมผัส ก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหาหน่วงหรือช้าแต่อย่างใด พื้นที่ของหน้าจอคิดเป็นประมาณ 70 % ของตัวเครื่องด้านหน้า เทียบเท่ากับรุ่นอื่นๆ ด้านบนของหน้าจอจะประกอบไปด้วยกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลที่มีเทคโนโลยี PixelMaster 2.0 มาช่วยลด Noise ของภาพที่เราถ่ายออกมา และช่วยเพิ่มคมชัดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมแฟลชคู่แบบ Real Tone ที่จะช่วยให้สีผิวดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ใกล้กันเป็นลำโพงสนทนา และและเซ็นเซอร์ Proximity Sensor ที่จะช่วยปิดหน้าจอในขณะที่เราสนทนา

    ด้านล่างของหน้าจอจะเป็นปุ่มควบคุมแบบสัมผัสของตัวเครื่องซึ่งในรุ่นนี้ก็ยังคงไม่มีไฟ LED ใส่มาให้ครับ ทำให้การใช้งานเวลากลางคืนอาจจะต้องอาศัยความเคยชินอยู่บ้าง ด้านล่างสุดของหน้าจอจะเป็นพลาสติกขัดเงาให้ความรู้สึกคล้ายโลหะ เหมือนรุ่นก่อนๆ ด้านข้างของตัวเครื่องบางเพียง 3.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ทั้งสองด้านไม่มีปุ่มควบคุมใด ๆนอกจากช่องสำหรับแกะฝาหลังที่ด้านขวาของหน้าจอ ด้านบนของตัวเครื่องมีปุ่มสำหรับ ปิด/เปิด เครื่อง ใกล้ๆกันเป็นช่องสำหรับเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร และไมค์ตัดเสียงรบกวน ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบ  Micro USB และไมค์สนทนา

    ด้านหลังของตัวเครื่อง เป็นพลาสติกขัดเงาสีสันสดใส เช่น สีชมพูที่เรานำมารีวิวนั้นอาจจะออกแบบมาเพื่อเอาใจผู้หญิงโดยเฉพาะก็ว่าได้ ด้านหลังของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย กล้องขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมเทคโนโลยี  Pixel Master  2.0 โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ ที่ด้านข้างของกล้องจะเป็นแฟลชคู่ LED แบบ  Real Tone เช่นเดียวกับกล้องด้านหน้าของตัวเครื่อง และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้คือมี เทคโนโลยีเลเซอร์โฟกัสอัตโนมัติเพิ่มเข้ามาอีกด้วย ด้านล่างของกล้องจะเป็นปุ่มลด/เพิ่ม เสียง และเราจะเห็นโลโก้ ASUS เด่นชัดอยู่ตรงกลางฝาหลังเหมือนในรุ่นอื่นๆของ ASUSด้านล่างจะเป็นช่องลำโพง ซึ่งยังคงเป็นลำโพงเดี่ยวเหมือนเดิมครับ เสียงที่ออกมาจากลำโพงจัดว่าธรรมดาครับ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ

    ตัวเครื่องมีงานประกอบที่แน่นหนาดีทีเดียวเรียกว่ามีสีสันหวานๆน่ารักๆ แต่ผมสังเกตว่าฝาหลังของตัวเครื่องยังคงค่อนข้างแกะยากอยู่เหมือนเดิมครับ  เมื่อเปิดฝาหลังจะพบแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh ซึ่งในรุ่นนี้เราสามารถถอดเปลี่ยนเองได้แล้ว ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Micro Sim 2 ช่อง  ช่องใส่ Micro SD ( รองรับความจุสูงสุด 128 GB )และที่ฝาหลังด้านในจะไม่มี NFC ใส่มาให้ในรุ่นนี้เหมือนที่ใส่ใน ASUS Zenfone 2 และ ASUS Zenfone 2 Deluxe

    สิ่งที่อาจจะต้องตำหนิอีกเช่นเคยนั่นคือแผงควบคุมยังไม่ใส่ไฟ LED มาให้ เพื่อการใช้งานในเวลากลางคืนที่ดีขึ้น  พูดถึงเรื่องการพกพาก็ทำได้สะดวกครับ เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง  170 g เท่านั้น ตัวเครื่องมีดีไซน์โค้งมนพอดีมือเหมือน Zenfone รุ่นอื่นๆที่ผ่านมา  การพกพาไปตามที่ต่างๆก็ทำได้สะดวก เช่นเดียวกับ Zenfone รุ่นอื่นๆ แต่สำหรับบางคนอาจมองว่าตัวเครื่องมีน้ำหนักมากไปสักนิดหนึ่ง

    Software

    Review-ASUS-Zenfone-Selfie-SpecPhone-00007

    ASUS Zenfone Selfie มาพร้อม Android 5.0 ครอบทับด้วย Zen UI 2.0 เช่นเดียวกับ ASUS Zenfone 2 แน่นอนว่ารองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้อย่างสมบูรณ์ รวมไปถึงยังมีแอปพลิเคชันติดตั้งมาให้อย่างครบครัน  ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Google  และแอปพลิเคชัน เบ็ดเตล็ด ต่างๆ อย่างเช่น แอปพลิเคชันเครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศ และวิทยุ FM Stereo

    นอกจากแอพพลิเคชั่นจากGoogle แล้ว ASUS ยังใส่ฟีเจอร์ต่างๆที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมาให้อีกด้วย อาทิเช่น ตัวจัดการพลังงาน หรือ Do It Later ที่เสมือนเป็นเลขาส่วนตัวในเรื่องของตารางนัดหมายต่างๆ หรือจะเป็น Auto-Start Manager ที่จะช่วยจัดสรรแอพส์ที่เราต้องการจะให้ทำงานทันทีหลังเปิดเครื่องซึ่งก็มีประโยชน์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีAudio Wizard ที่จะช่วยทำให้เสียงที่ออกมานั้นดียิ่งขึ้น การเข้าถึง Google Now ก็ยังทำได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกเช่นเคยด้วยการกดปุ่ม Home ค้างไว้ประมาณ 2 วินาทีเท่านั้น

    ASUS Zenfone Selfie รุ่นที่เรานำมารีวิวนั้นมีความจำภายใน 32 GB ( เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 25 GB และเรายังสามารถใส่ Micro SD เพิ่มได้อีก 128 GB ถือว่าเยอะมากเลย  และด้วย Ram ที่ให้มาถึง 3 GB  ( เหลือให้ใช้จริงราวๆ 1.4 GB ) ซึ่งเท่านี้ก็สามารถใช้งานแอพส์ต่างๆได้หลายแอพส์เรียกว่าเพียงพอต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี

    Camera

    Review-ASUS-Zenfone-Selfie-SpecPhone-00002

    มาดูเรื่องกล้องกันบ้างดีกว่าครับ ASUS Zenfone Selfie  มาพร้อมกับกล้อง 13 พิกเซลพร้อมเทคโนโลยี  PixelMaster 2.0  ที่จะช่วยให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้นไปอีกครับ แต่สิ่งที่พิเศษเอามากๆนั่นคือในรุ่นนี้จะมาพร้อมกล้องหน้าขนาด 13 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกับกล้องหลังแต่ในครั้งนี้จะเพิ่มเทคโนโลยีโฟกัสอัตโนมัติด้วยลำแสงเลเซอร์เข้ามา ช่วยให้การโฟกัสในจุดต่างๆทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสามารถโฟกัสได้ไวถึง 0.2 วินาทีเท่านั้น

    ในส่วนของกล้องหน้านั้นถือว่าชัดขึ้นมากกว่าเดิมเพราะมีความละเอียดที่สูงกว่านั้นเองและทำหน้าที่ในระดับทั่วไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วเรื่องกล้องของ ASUS Zenfone Selfie  นั้นเรียกได้ว่าไม่แตกต่างจาก ASUS Zenfone 2  หรือ ASUS Zenfone 2 Deluxe เลย ฟังก์ชั่นต่างๆก็ครบครันเหมือนเดิม โดยกล้องทั้งหน้าและหลังจะมีโหมดการถ่ายภาพมากถึง 17 โหมดด้วยกันเลยทีเดียว แต่ที่ผมจะนำเสนอจะเป็นโหมดที่เราใช้งานกันบ่อยๆนั่นก็คือ โหมด  Beautification,Low Light,Super Resolution และ Manual ครับ

    • Beautification หรือเราอาจเรียกว่าโหมดบิวตี้ก็ได้ครับ โหมดนี้อาจจะถูกใจสาวๆที่ชอบถ่ายเซลฟี่ครับ เพราะสามารถปรับแต่งได้หลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็นผิวเนียน ปรับโทนสีผิว หน้าเรียว ตาโต ก็สามารถปรับได้ตามใจครับ
    • Low Light คือการปรับแต่งเม็ดพิกเซลให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความสว่างต่อพิกเซลให้มากขึ้น พูดง่ายๆก็คือสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น แต่การเปิดใช้ฟังก์ชั่นนี้ความละเอียดของกล้องถ่ายภาพจะถูกลดลงเหลือเพียง 3 ล้านพิกเซลเท่านั้นแต่ได้รายละเอียดของภาพที่ชัดเจนขึ้นครับ
    • Super Resolution เป็นโหมดที่ทำให้เราสามารถถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงถึง 52 ล้านพิกเซลโดยหลักการทำงานคือระบบจะถ่ายภาพไว้ทั้งหมด 4 ครั้งแล้วจึงประมวลเข้าเป็นภาพความละเอียดสูง เหมาะสำหรับการนำภาพไปปรับแต่งต่อไป แต่ข้อเสียของการถ่ายภาพด้วยโหมดนี้นั่นก็คือไฟล์ภาพจะค่อนข้างใหญ่เพราะเกิดจากการรวมภาพ 4 ภาพเข้าด้วยกันแต่การถ่ายภาพด้วยโหมดนี้จะได้รายละเอียดของภาพมากกว่าการถ่ายแบบปกติครับ
    • Manual หรือบางคนอาจจะเรียกว่าโหมดโปรครับ ซึ่งในโหมดนี้เราสามารถปรับแต่งค่าต่างๆของกล้องได้ทั้งหมด เช่น ค่า White Balance ซึ่งปรับได้ทีละ 50K ค่าความไวแสง (ISO) ที่ปรับได้ตั้งแต่ 50-800 ค่าความเร็วชัตเตอร์ก็สามารถปรับได้นานสุดที่ 1/2 วินาที ค่าการชดเชยแสง และ ระยะโฟกัสก็สามารถปรับได้ตามใจชอบครับ จะหน้าชัดหลังเบลอก็สามารถทำได้ง่ายดายทีเดียวครับ

    Performance

    “ซีพียู Snapdragon 615”

    Zenfone Selfie Antutu

    พูดถึงประสิทธิภาพของการทำงานกันบ้างครับ ASUS Zenfone Selfie มาพร้อมกับซีพียู  Snapdragon 615 แบบ 64-bit เมื่อพูดถึงชิพ Snapdragon แล้วหลายคนคงคลายกังวลไปได้อย่างแน่นอนเพราะทุกวันนี้ซีพียู Snapdragon ถือเป็นที่สุดสำหรับการใช้งาน

    เมื่อทดสอบด้วยแอพส์ยอดนิยมอย่าง Antutu Benchmark พบว่า ASUS Zenfone Selfie  สามารถทำคะแนนอยู่ที่  36,942 คะแนนเท่านั้น จะเห็นได้ว่าคะแนนที่ออกมานั้นอยู่ในเกณฑ์ปานกลางไม่สูงมากและก็ไม่น้อยจนน่าเกลียดถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา

    และเช่นเดียวกับ ASUS Zenfone 2 การใช้งานกราฟิกหนักๆเช่น เล่นเกม แนะนำให้เปลี่ยนโหมดการใช้งานเป็นโหมด Performance ซึ่งจะช่วยเร่งให้ซีพียูนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  หลังจากทำการทดสอบเกมดังๆที่ใช้ทรัพยากรเครื่องสูงๆอย่าง Asphalt 8,Modern Combat ก็พบว่าการประมวลผลทำได้พอใช้ มีอาการกระตุกเป็นช่วงๆ

    เท่าที่สังเกตมามือถือรุ่นที่ใช้ Snapdragon 615 และจีพียู Adreno 405 มักจะพบกับปัญหานี้อยู่เช่นกันอาจจะต้องรอการอัพเดทเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้กันต่อไป แต่ถ้าเป็นเกมง่ายๆที่ไม่ต้องการใช้สเปคสูงมากนักก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่ค่อยพบปัญหาภาพกระตุกเท่าไรนัก เนื่องจากซีพียูระดับนี้สามารถเล่นเกมที่มีการประมวลผลในระดับปานกลางได้เป็นอย่างดี

    การเชื่อมต่อต่างๆ เช่น Wifi  ก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่าง เนื่องจากชิพ Snapdragon นั้นขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพอยู่แล้ว และทาง ASUS  ก็ได้ปล่อยซอฟท์แวร์ออกมาให้อัพเดทแก้บัคต่างๆของระบบจนเรียกได้ว่าระบบค่อนข้างสเถียร การใช้งานพบปัญหาน้อยมาก การใช้งานแบตเตอรี่ถือว่าจัดสรรพลังงานได้ค่อนข้างดี สามารถใช้งานในระยะเวลานานได้อย่างต่อเนื่อง

    ASUS Zenfone Selfie นั้น มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ที่เรียกว่ากำลังพอใช้งานได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกโหมดประหยัดพลังงานแบบต่างๆเพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น แต่เสียดายที่ในรุ่นนี้ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วเข้าใส่เข้ามาด้วย ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่นั้นค่อนข้างค่อนข้างที่จะใช้เวลาอยู่สักหน่อย แต่ประสิทธิภาพโดยรวมนั้นสามารถใช้งานทั่วๆไปได้เป็นอย่างดี เกมเล็กๆน้อยหรือแอพส์ทั่วไปนั้นสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Screenshot_2015-10-31-16-32-54-horz

    Overall

    Review-ASUS-Zenfone-Selfie-SpecPhone-00016

    และมาถึงบทสรุปจากการใช้งานจริงก็พบว่า ASUS Zenfone Selfie นั้นเรียกว่าให้คุณภาพดีเกินราคา 8,990 บาท ซึ่งตามปกติแล้วมือถือในราคาประมาณนี้มักจะไม่ใช้ซีพียูระดับนี้ และปัจจุบันเราสามารถพบซีพียู Snapdragon 615 ในเครื่องที่มีราคาตั้งแต่ 12,000 บาทขึ้นไป อาทิเช่น Vivo X5Pro,Oppo R7 Plus,HTC Desire 826 ชี้ให้เห็นถึงความคุ้มค่าที่ใส่มาในราคาเพียง 8,990 บาท แรมขนาด 3 GB ที่ใช้ทำให้การใช้งานหลายๆแอพส์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่อาจมีข้อเสียคือแอพส์ที่ต้องใช้การประมวลผลสูงอาจพบปัญหากระตุกบ้างในบางครั้ง

    และที่จะเป็นไฮไลท์สำหรับรุ่นนี้เลยก็คือกล้องหน้าที่มีขนาด 13 ล้านพิกเซล ที่มีเอฟเฟคให้เล่นถึง 17 เอฟเฟคเพียงแค่ 3 อย่างที่ผมได้กล่าวมานั้นก็เรียกว่าเหมือนได้เครื่องสเปคราคา 1,5000 บาทมาใช้งาน ในราคาเพียง 8,990 บาทเท่านั้น ซึ่งราคานี้อาจจะทำให้คู่แข่งที่มีราคาหรือสเปคใกล้เคียงกันตกที่นั่งลำบากเลยก็เป็นได้ ในส่วนของวัสดุของตัวเครื่องนั้นก็ยังแอบเสียดายที่ตัวเครื่องยังคงใช้พลาสติกเป็นหลัก และในรุ่นนี้ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วเข้ามาให้ แต่เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นมือถือที่ตอบโจทย์ใครหลายคนได้เป็นอย่างดีเลยครับ

    Gallery

    Android Asus ASUS Zenfone Selfie
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    SpecPhone HQ

    Related Posts

    รีวิว Alldocube iPlay 50 mini และ iPlay 60 Pad Pro แท็บเล็ตตัวคุ้มที่มาขายไทยอย่างเป็นทางการ

    7 พฤษภาคม 2025

    Android 16 จะมีหน้าแสดงสุขภาพแบตเตอรี่แบบละเอียด …แต่ใช้ได้เฉพาะ Pixel รุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น

    7 พฤษภาคม 2025

    ดูหนังจักรวาล Marvel เรียงตาม Timeline ยังไง? ดูแบบไหนได้บ้าง? ที่นี่มีคำตอบ! อัพเดท 2025

    6 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    Samsung Galaxy S25 Edge มาแล้ว เปิดราคา 36,xxx บาง 5.8mm แต่แรงด้วย SD 8 Elite for Galaxy

    13 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจใช้ AI ช่วยประหยัดพลังงาน คาดใส่เข้ามาใน iOS 19

    13 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 3 กลุ่มหลักที่เหมาะกับ iPhone 16e – ถ้าซื้อไปใช้ รับรองว่าคุ้ม!

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X