เอซุสถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีตัวเลือกให้กับผู้ใช้งานนั้นได้เลือกซื้อค่อนข้างเยอะ ที่สำคัญคือเรื่องของราคาตัวเครื่องซึ่งเรานั้นจะเห็นได้ว่าราคาของมือถือ ASUS นั้นจะมีตั้งแต่ช่วงราคาหลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่นกลางๆ และที่สำคัญนั่นคือเรื่องของสเปคของตัวเครื่องที่จัดมาให้แบบคุ้มค่ากับเงินที่เรานั้นต้องจ่ายไป ดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นก็เรียกว่าเป็นดีไซน์แบบที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จึงไม่แปลกว่าทำไม ASUS จึงสามารถขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศไต้หวันและเป็นแบรนด์ยอดนิยมในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และวันนี้ผมจะมารีวิวมือถือจาก ASUS อีกหนึ่งรุ่นที่เรียกว่าเป็นมือถือที่ราคากำลังสู้ไหว และมีจุดเด่นที่น่าสนใจนั่นก็คือ ASUS Zenfone 2 Laser นั่นเอง สเปคของตัวเครื่องจะเป็นอย่างไร และจุดเด่นของรุ่นนี้นั้นจะน่าสนใจขนาดไหนไปติดตามกันได้เลย
สเปคของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL)
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียดแบบ HD
- ซีพียู Snapdragon 410 ความเร็ว 1.2 GHz
- จีพียู Adreno 306
- แรม 2 GB
- หน่วยความจำภายใน 16 GB
- รองรับการใช้งาน MicroSD
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- ระบบปฎิบัติการ Android 5.0
- แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh
- ราคา 5,990 บาท
- สเปคเต็มของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL)
กล่องของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั้นจะมาในลักษณะเดียวกันกับมือถือตระกูล Zenfone 2 ทุกรุ่น คือเน้นไปในดีไซน์แบบเรียบง่าย เมื่อเราเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับ ASUS Zenfone 2 Laser นอนนิ่งอยู่ภายใน และภายในกล่องนั้นจะมีอุปกรณ์พื้นฐานอย่าง อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ และสายเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบ Micro USB และข้อสังเกตุที่พบในจุดนี้นั่นคือไม่มีหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้เราได้ใช้งาน ดังนั้นถ้าอยากจะฟังเพลงแบบส่วนตัวๆ หน่อยเราต้องไปหาซื้อหูฟังมาใช้เอง ซึ่งเดี๋ยวนี้หลายๆ แบรนด์ก็เลือกที่จะไม่แถมหูฟังมาให้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อดูจากราคาของตัวเครื่องแล้วเรียกว่าพอรับได้หากจะไม่มีหูฟังมาให้
หมายเหตุ
โดย ASUS Zenfone 2 Laser ที่ขายในประเทศไทย ณ ตอนนี้จะมีด้วยกัน 2 รุ่น คือรุ่นที่ผมนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน คือ ASUS Zenfone 2 Laser หน้าจอ 5.5 นิ้ว (ZE550KL) ราคา 5,990 บาท กับอีกรุ่นก็คือ ASUS Zenfone 2 Laser หน้าจอ 5 นิ้ว (ZE500KL) ราคา 5,090 บาท ซึ่ง 2 รุ่นนี้จะต่างกันแค่ขนาดหน้าจอ, ขนาดตัวเครื่อง และแบตเตอรี่เท่านั้น (หน้าจอ 5.5 นิ้ว แบตเตอรี่ 3000 mAh ส่วนรุ่นหน้าจอ 5 นิ้ว แบตเตอรี่ 2400 mAh) เพราะฉะนั้นรีวิว ASUS Zenfone 2 Laser ที่เพื่อนๆ กำลังอ่านอยู่นี้ สามารถใช้อ้างอิงได้กับทั้ง 2 รุ่นครับ
จุดเด่น
– แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน
– รองรับการใช้งาน 4G
– รองรับการใช้งาน Micro SD สูงสุด 128 GB
– สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้
– รองรับการอัพเดทเป็น Android 6.0
– ตัวเครื่องมีดีไซน์สวยงาม
ข้อสังเกต
– ซีพียูความเร็วค่อนข้างน้อย
– ยังมีมือถืออีกหลายรุ่นที่สเปคสูงกว่าในราคา 5,990 บาท
– ไม่เหมาะกับการเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ
บทสรุป
BEST PRICE
Design
เริ่มกันที่เรื่องดีไซน์ของตัวเครื่องกันก่อนเลย ASUS Zenfone 2 Laser (ZE551ML) มาพร้อมดีไซน์ที่เรานั้นคุ้นตากันเป็นอย่างดี และข้อดีของดีไซน์แบบนี้นั่นคือถึงแม้ว่าเราจะซื้อรุ่นราคากลางๆ มาก็ตามแต่ดีไซน์ของตัวเครื่องที่ได้มานั้นเหมือนกับเราซื้อเครื่องระดับตัวท็อป จะเห็นได้ว่าดีไซน์ของมือถือจาก ASUS นั้นจะแตกต่างกันที่ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นส่วนใหญ่ สังเกตง่ายๆ ได้จากการสัมผัสที่ด้านหลังตัวเครื่องเพราะรุ่นระดับเรือธงจาก ASUS อย่างเช่น ASUS Zenfone 2 (ZE551ML),ASUS Zenfone 2 Deluxe และ ASUS Zenfone 2 Deluxe Special Edition ที่จะมีฝาหลังของตัวเครื่องแบบโพลีกอนซึ่งไม่เหมือนกันกับรุ่นอื่น
ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 ความละเอียดแบบ HD พื้นที่ของหน้าจอนั้นคิดเป็น 72% ของตัวเครื่องด้าน เวลาใช้งานจริงก็ใช้งานได้เต็มตา สีสันของหน้าจอนั้นมีความสวยสดตามสไตล์หน้าจอแบบ IPS ถึงแม้ว่าความละเอียดหน้าจอจะอยู่ในระดับ HD แต่ความคมชัดนั้นไม่เป็นรองมากเท่าไรนัก เรื่องของความแข็งแรงของหน้าจอ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั้นก็มาพร้อมกับ Corning Gorilla Glass 4 ดังนั้นในเรื่องของการทนต่อสภาพแวดล้อมนั้นถือว่าหน้าจอของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั้นทำได้ดีนอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสที่หน้าจอแตกในการใช้งานทั่วไปถึง 85% เลยทีเดียว
และอย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าดีไซน์ของมือถือ ASUS นั้นออกมาเหมือนๆ กันเป็นส่วนใหญ่ และในรุ่นนี้ก็เช่นกันที่ด้านบนของหน้าจอจะประกอบด้วย เซนเซอร์ปิดหน้าจอเมื่อเราทำการสนทนาโทรศัพท์เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงาน และ Ambient Light Sensor ที่จะช่วยปรับสภาพแสงของหน้าจอตามสภาพแวดล้อมที่เราใช้งานตัวเครื่อง ใกล้กันจะเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนาพร้อมไฟ LED ที่ช่วยแจ้งสถานะของตัวเครื่อง เช่น การแจ้งเตือนต่างๆ,ปริมาณในการชาร์จแบตเตอรี่ และจะกระพริบเตือนเมื่อแบตเตอรี่ของเรานั้นใกล้จะหมดและที่จะสังเกตุได้อย่างชัดเจนนั่นคือโลโก้ของ ASUS ที่จะอยู่ในตำแหน่งใต้ลำโพงสนทนา ซึ่งเมื่อดูๆ ไปแล้วสิ่งนี้อาจจะกลายเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของมือถือ ASUS ก็ว่าได้
และนอกจากนี้ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) จะมาพร้อมกับกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซลที่ด้านหน้าของตัวเครื่องพร้อมเลนส์มุมกว้างถึง 85 องศาที่จะช่วยในการถ่ายภาพแบบหมู่คณะได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงขนาดของรูรับแสงที่ ƒ/2.0 ที่ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดี ด้านล่างของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมหลักของตัวเครื่องอย่างปุ่ม Home,Back,Recent ที่จะไม่มีไฟ LED ใส่มาให้เหมือนZenfone 2 รุ่นอื่นๆ ดังนั้นการใช้งานเวลากลางคืนนั้นอาจจะลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ไม่นานก็จะชินจนสามารถใช้งานได้อย่างง่ายๆ แค่ปรับตัวนิดหน่อยก็เล่นเพลินแล้ว
สาเหตุที่ทำให้การใช้งานในช่วงแรกๆ ค่อนข้างลำบากก็เพราะว่าตำแหน่งของปุ่ม Back และ Recent ของมือถือ ASUS นั้นจะสลับตำแหน่งกับมือถือทั่วๆ ไป โดยปุ่ม Back ของมือถือ ASUS จะอยู่ที่ด้านซ้ายส่วนปุ่ม Back ของมือถือทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ด้านขวา ดังนั้นเวลาย้ายมาใช้มือถือ ASUS ช่วงแรกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นคือเวลาเราจะกดปุ่ม Back เรามักจะกดผิดปุ่มเพราะความเคยชินในการใช้งานมือถือรุ่นอื่นๆ มาก่อน ประกอบกับ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ไม่มีไฟ LED ใส่มาให้ในปุ่มควบคุมหลักทำให้สิ่งนี้กลายเป็นข้อจำกัดเล็กๆ น้อย ๆ ในการใช้งาน แรกๆอาจจะพบกับความรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง
แต่อย่างที่ผมได้บอกไปครับว่าหากเราเคยชินกับตำแหน่งปุ่มควบคุมหลักในแบบของ ASUS แล้วการใช้งานมือถือ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ในตอนกลางคืนนั้นเรียกว่าง่ายมากเลย ด้านล่างของปุ่มควบจะเป็นพลาสติกแบบขัดเงาแบบเดียวกับที่ใช้ใน ASUS Zenfone รุ่นอื่นๆ ด้านบนของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) จะประกอบไปด้วยปุ่ม เปิด/ปิดเครื่อง ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและไมค์ตัวที่สองเพื่อทำการตัดเสียงรบกวนภายนอกในขณะที่เรานั้นทำการสนทนาโทรศัพท์ซึ่งจดนี้ถือว่าขาดไม่ได้เลย
ด้านล่างของASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั้นจะประกอบไปด้วยช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ Micro USB และไมค์สำหรับสนทนาโทรศัพท์ และที่ด้านข้างของตัวเครื่องทั้งสองด้านนั้นจะไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ ทั้งสิ้นมีเพียงช่องเล็กๆ สำหรับแกะฝาหลังของตัวเครื่องออกมา และเนื่องจากงานประกอบที่แน่นหนาทำให้คนที่ไม่มีเล็บอาจจะเจ็บนิ้ว
ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายภาพขนาด 13 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี PixelMaster 2.0 ที่จะช่วยจับภาพให้สว่างขึ้นสูงสุดที่ 400% ในการถ่ายภาพตอนกลางคืน ใกล้กันเป็นแฟลช LED แบบ Dual Tonesและที่พิเศษมากๆ นั่นคือในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับระบบโฟกัสแบบเลเซอร์โฟกัสที่สามารถจับวัตถุได้ภายใน 0.3 วินาที ใต้ตำแหน่งของกล้องจะเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ซึ่งเราจะสามารถสังเกตุเห็นโลโก้ของ ASUS โดดเด่นอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ในตำแหน่งเดียวกับกับมือถือ Zenfrone รุ่นอื่นๆ
ด้านล่างของฝาหลังเราจะสังเกตุเห็นคำว่า Zenfone อันเป็นชื่อของมือถือตระกูลนี้และที่ใต้โลโก้ Zenfone จะเป็นช่องลำโพงขนาดใหญ่ที่จะเป็นลำโพงเดี่ยวแต่เสียงที่ออกมานั้นดังชัดเจน นอกจากนี้ยังมีซอฟท์แวร์เข้ามาช่วยจัดการในเรื่องของระบบเสียงให้ดียิ่งขึ้นเมื่อแกะฝาหลังของตัวเครื่องออกมาเราจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh แบบสามารถถอดเปลี่ยนได้ซึ่งเป็นข้อดีของรุ่นนี้ที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้ และมีช่องใส่ซิมแบบ Micro SIM มาให้ถึงสองช่องนอกจากนั้น ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ยังรองรับการใช้งานแบบ 4G ทั้งสองซิมอีกด้วย ในเรื่องของการใช้งาน Micro SD ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) รองรับการใช้งาน Micro SD สูงสุดที่ 128 GB เรียกว่าถ้าอยากเพิ่มความจำก็สามารถเพิ่มได้เยอะมาก
ในแง่ของการพกพานั้น ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ถือว่าสอบผ่านง่ายๆเลย เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียงแค่ 170 กรัมเท่านั้นไม่ว่าเราจะไปไหนก็สามารถนำใส่กระเป๋าไปด้วยได้สบายๆ แต่สิ่งที่ผมชอบใน ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั่นคือเรื่องของงานประกอบเพราะถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะทำจากพลาสติกแต่งานประกอบที่ออกมานั้นมีความแน่นหนาแข็งแรง ไม่รู้สึกก๊องแก๊งเหมือนเป็นของราคาถูก นอกจากนั้น ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ยังมาพร้อมกับดีไซน์ของตัวเครื่องด้านหลังที่โค้งมนเข้ารับกับมือของเรา ทำให้เราสามารถถือ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ไว้ได้อย่างกระชับมืออีกด้วย และเมื่อเทียบกับมือถืออย่าง ASUS Zenfone 2 Laser (ZE500KL) หน้าจอขนาด 5 นิ้วแล้วพบว่า ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั้นมีขนาดที่ใหญ่กว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่สำหรับมือผู้หญิงแล้วเรียกว่าอาจจะใหญ่เกินมือไปสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับความบางแล้วถือว่ายังพอให้อภัยได้ เอาล่ะครับมาพูดถึงเรื่องถัดไปนั่นคือเรื่องของซอฟท์แวร์กันบ้างดีกว่า
Software
เรื่องของซอฟท์แวร์ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) มาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop ครอบทับด้วย ZenUI อันเป็นเอกลักษณ์ของ ASUS และข้อดีของ ZenUI นั่นก็คือเราสามารถปรับแต่งส่วนต่างๆ ของ UI ได้อย่างเช่น Theme,Font และยังสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้อีกมากมาย เรื่องของแอพต่างที่ ASUS อัดมาให้นั้นก็เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแอพพื้นฐานจาก Google เช่น Google Chrome,Gmail,Maps,YouTube,Google Drive,Play Music,Play Movies & TV ,Hangouts และ Google+ เรียกว่าให้มาครบครันเลย และนอกจากนี้ด้วยความที่เป็น Android 5.0 Lollipop นั้นสามารถเล่นแอพที่ออกมาใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน และ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) จะเป็นหนึ่งในมือถือจาก ASUS ที่จะได้อัพเดท Android 6.0 อีกด้วย
นอกจากแอพใน Play Store และแอพจาก Google ที่มีมาให้แล้วแอพดีๆ ที่ติดเครื่องมานั้นก็ช่วยให้เราสามารถใช้งาน ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย อย่างเช่น Power Saver ที่จะช่วยทำให้ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั้นประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น AudioWizard ที่จะทำให้เสียงที่ออกมาจาก ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ผ่านหูฟังนั้นดียิ่งขึ้น หรือจะเป็น ASUS Mobile Manager ที่จะช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องให้มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นซอฟท์แวร์ที่ติดเครื่องมาโดยที่เราไม่ต้องไปดาวน์โหลดมาลงเองซึ่งถือว่าช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานไปในตัวนั่นเอง
Feature
มาพูดถึงเรื่องของฟีเจอร์กันบ้าง แน่นอนว่าชื่อรุ่น Laser จะต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับแสงเลเซอร์อย่างแน่นอน ใช่แล้วล่ะครับ!! เพราะว่า ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) มาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพอย่าง ระบบโฟกัสแบบเลเซอร์โฟกัสที่สามารถโฟกัสได้ไวเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น ซึ่งข้อดีของการโฟกัสได้ไวนั่นคือเราสามารถถ่ายภาพยากๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นแล้วภาพแบบไหนที่เรียกว่าถ่ายยาก ภาพทีถ่ายยากก็อย่างเช่นภาพรถขณะวิ่ง ภาพดอกไม้ไฟ ซึ่งถ้ากล้องของเราโฟกัสช้าโอกาสที่จะได้ภาพสวยๆ มาก็น้อยลงตามไปด้วย หรืออาจจะได้มาแต่รายละเอียดของภาพอาจจะไม่ได้อย่างที่เราตั้งใจไว้ และผมได้ลองทดสอบถ่ายภาพด้วยระบบเลเซอร์โฟกัสของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) พบว่าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสามารถ่ายภาพในขณะวัตถุเคลื่อนไหวได้อย่างดีเยี่ยม
Camera
และมาดูกันที่เรื่องของกล้องถ่ายภาพที่เป็นจุดขายของรุ่นนี้กันบ้างครับ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบเลเซอร์โฟกัสที่สามารถโฟกัสด้วยความเร็วเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพถึง 18 โหมดด้วยกันได้แก่ Auto,Manual / HDR / Beatification / Super Resolution / Low Light / Night / Depth of Field / Effect / Selfie / GIF Animation / Panorama / Miniature / Time Rewind / Smart Remove / All Smiles / Slow Motion และ Time Lapse ตรงนี้ผมถือว่าคุ้มมากๆ กับราคาของตัวเครื่องที่ 5,990 บาท และโหมดที่ผมจะแนะนำจะเป็นโหมดที่เราต้องใช้งานกันบ่อยๆ อย่างแน่นอนนั่นก็คือ โหมด Beautification,Low Light,Super Resolution และ Manual ซึ่งจะอธิบายง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- Beautification หรือเราอาจเรียกว่าโหมดบิวตี้ก็ได้ครับ โหมดนี้อาจจะถูกใจสาวๆที่ชอบถ่ายเซลฟี่ครับ เพราะสามารถปรับแต่งได้หลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็นผิวเนียน ปรับโทนสีผิว หน้าเรียว ตาโต ก็สามารถปรับได้ตามใจครับ
- Low Light คือการปรับแต่งเม็ดพิกเซลให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความสว่างต่อพิกเซลให้มากขึ้น พูดง่ายๆก็คือสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น แต่การเปิดใช้ฟังก์ชั่นนี้ความละเอียดของกล้องถ่ายภาพจะถูกลดลงเหลือเพียง 3 ล้านพิกเซลเท่านั้นแต่ได้รายละเอียดของภาพที่ชัดเจนขึ้นครับ
- Super Resolution เป็นโหมดที่ทำให้เราสามารถถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงถึง 52 ล้านพิกเซลโดยหลักการทำงานคือระบบจะถ่ายภาพไว้ทั้งหมด 4 ครั้งแล้วจึงประมวลเข้าเป็นภาพความละเอียดสูง เหมาะสำหรับการนำภาพไปปรับแต่งต่อไป แต่ข้อเสียของการถ่ายภาพด้วยโหมดนี้นั่นก็คือไฟล์ภาพจะค่อนข้างใหญ่เพราะเกิดจากการรวมภาพ 4 ภาพเข้าด้วยกันแต่การถ่ายภาพด้วยโหมดนี้จะได้รายละเอียดของภาพมากกว่าการถ่ายแบบปกติครับ
- Manual หรือบางคนอาจจะเรียกว่าโหมดโปรครับ ซึ่งในโหมดนี้เราสามารถปรับแต่งค่าต่างๆของกล้องได้ทั้งหมด เช่น ค่า White Balance ซึ่งปรับได้ทีละ 50K ค่าความไวแสง (ISO) ที่ปรับได้ตั้งแต่ 50-800 ค่าความเร็วชัตเตอร์ก็สามารถปรับได้นานสุดที่ 1/2 วินาที ค่าการชดเชยแสง และ ระยะโฟกัสก็สามารถปรับได้ตามใจชอบครับ จะหน้าชัดหลังเบลอก็สามารถทำได้ง่ายดายทีเดียวครับ
รูปที่ถ่ายจากกล้องหน้าของ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL)
Performance
เรื่องของประสิทธิภาพ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) มาพร้อมกับซีพียู Snapdragon 410 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.2 GHz ด้วยความที่เป็นซีพียู Snapdragon ดังนั้นในเรื่องของการรองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ นั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลยล่ะ แต่ติดที่ว่าความเร็วของซีพียูนั้นมีความเร็วค่อนข้างต่ำดังนั้นการประมวลผลต่างๆ นั้นจะทำได้ไม่ทันใจสักเท่าไรนัก จากการทดสอบโดยการเล่นเกมตั้งแต่กราฟฟิกระดับเล็กๆน้อยๆ ไล่ไปจนถึงเกมที่กินสเปคเครื่องมากๆพบว่าเกม Angry Bird 2 ที่มีกราฟฟิกไม่สูงมากนัก ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) สามารถเล่นได้อย่างลื่นๆ และเมื่อทดสอบจากเกมที่มีกราฟฟิกสูงขึ้นมาอีกหน่อยอย่างเช่น Gunship Battle และ Sniper 3D ก็พบว่า ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ยังสามารถเล่นได้อย่างลื่นๆ อยู่
และเมื่อลองเล่นเกมที่ใช้กราฟฟิกสูงๆ อย่าง Asphalt 8 แล้วทำการปรับกาฟฟิกสูงสุดกลับพบว่าสามารถเล่นได้อยู่และพบการหน่วงของเครื่องเพียงเล็กน้อยแต่เมื่อได้ปรับการฟฟิกของเกมเป็นแบบ Low พบว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลไร้อาการกระตุก แต่เราจะต้องเปิดโหมด Performance เอาไว้ด้วยเพื่อการเล่นเกมอย่างเต็มประสิทธิภาพ และผมยังได้ทดสอบกับอีกสองเกมที่ใช้กราฟฟิกสูงๆ อย่างเช่น Sniper Fury และ God Of Rome จากค่าย Gameloft ก็พบว่าสองเกมนี้นั้นสามารถเล่นได้อย่างลื่นๆ เลยซึ่งสังเกตได้ว่าภาพที่ออกมานั้นจะมีความละเอียดที่ค่อนข้างต่ำอยู่เหมือนกัน แต่ภาพรวมที่ออกมานั้นเรียกว่าทำได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว แรม 2 GB ที่มีอยู่ใน ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) นั้นก็ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพพอที่จะสามารถสลับไปมาระหว่างแอพได้อยู่ แต่หากมีการใช้งานหลายแอพก็อาจจะมีการเริ่มใหม่เกิดขึ้นบ้าง
เรื่องของการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่างสมบูรณ์ อย่างเช่นผมได้ทำการเชื่อมต่อกับ Wifi ก็พบว่าไม่เคยเจอปัญหา WiFi หลุดในระหว่างการใช้งานเหมือนที่เคยที่ข่าวออกมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมากงานนี้ชี้ให้เห็นว่า ASUS ได้แก้ปัญหานี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่จะไม่พูดก็คงจะไม่ได้นั่นคือเรื่องของแบตเตอรี่ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ซึ่งหลังจากที่ได้ทดสอบเกมต่างๆ ไปมากมายก็พบว่าปริมาณของแบตเตอรี่นั้นยังเหลือพอที่จะสามารถทำอย่างอื่นได้อีก สำหรับมือถือซีพียู Snapdragon 410 และหน้าจอแบบ HD แล้วเรียกว่าแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh นั้นเยอะพอให้เราใช้งานได้ตลอดวันแบบสบายๆ
ดังนั้นสรุปได้ว่า ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) เป็นมือถือที่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดใช้งานมือถือประเภทสมาร์ทโฟนที่อยากได้เครื่องที่ใช้งานได้หลากหลาย อย่างเช่นการถ่ายภาพ,การใช้งานมัลติมีเดีย รวมไปถึงการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ผสมผสานไปกับงานประกอบที่แข็งแรงแน่นหนาในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เรียกว่า ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ตอบโจทย์ในทุกข้อที่กล่าวมาทั้งหมด และสิ่งที่ทำให้ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) เป็นมือถือที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งนั่นคือระบบปฎิบัติการของตัวเครื่องที่กำลังจะได้อัพเดทเป็น Android 6.0 ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อเทียบกับราคาเพียง 5,990 บาทแล้วทำให้ ASUS Zenfone 2 Laser (ZE550KL) เป็นมือถือที่คุ้มค่ากับการที่เราต้องเสียเงินจำนวน 5,990 บาท