เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Redmi by Xiaomi ได้เปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่เล่นเอาตลาดสะเทือนกันไปทั้งบางอย่าง Redmi Note 7 ที่เคลมว่าเป็นสมาร์ตโฟนมาพร้อมกล้องความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล สำคัญคือราคาเริ่มต้นเมื่อตีเป็นเงินไทย อยู่ที่ประมาณ 4,600 บาทเท่านั้น
ประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจอยู่ที่กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล ว่าสรุปแล้วมันเป็น 48 ล้านพิกเซลจริง หรือแค่เป็น Gimmick เพราะถ้าดูจากสเปคของชิปประมวลผล Snapdragon 660 จะรองรับเซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูงสุดแค่ 25 ล้านพิกเซล แล้วแบบนี้ Redmi Note 7 จะใส่กล้อง 48 ล้านเข้าไปได้อย่างไร?
อันดับแรกต้องอธิบายหลักการทำงานของเซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL Bright GM1 ที่อยู่ใน Redmi Note 7 โดยเซ็นเซอร์ดังกล่าวมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน ซึ่งถือว่าเล็กสำหรับสมาร์ตโฟนในยุคปัจจุบัน
แต่ในการใช้งานจริง จะเป็นการรวม 4 พิกเซลเข้าเป็น 1 ด้วยเทคโนโลยี Tretacell ทำให้ Output ออกมาที่ 12 ล้านพิกเซล แต่จะได้ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นเป็น 1.6 ไมครอน ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่มาก
ส่งผลให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดีขึ้น รวมถึงการถ่ายภาพในที่แสงปกติ ก็จะได้รายละเอียดที่คมชัดมากขึ้นด้วย เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ 12 ล้านปกติ เท่ากับว่าในโหมด Auto Redmi Note 7 จะถ่ายภาพออกมาแค่ 12 ล้านพิกเซลเท่านั้น
เมื่อ Output จากเซ็นเซอร์ออกมาที่ 12 ล้านพิกเซล ก็ยังอยู่ในเงื่อนไขของ Qualcomm Spectra 160 ISP ในชิป Snapdragon 660 ที่รองรับความละเอียดสูงสุด 25 ล้านพิกเซล
ส่วนความละเอียดเต็มเซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซล ผมลองไล่ ๆ ดูรีวิวบน Youtube พบว่า Redmi Note 7 ก็สามารถถ่ายออกมาได้เช่นกันครับ แต่จะสงวนไว้เฉพาะโหมด Pro เท่านั้น และเข้าใจว่าในโหมดดังกล่าวคงไม่มีการปรับแต่งภาพด้วย AI
ทำให้อนุมานได้เลยว่าความสวยงามน่าจะไม่เท่ากับ 12 ล้านพิกเซลในโหมด Auto อย่างแน่นอน รวมถึงหน้าเว็บ Mi ประเทศจีนก็แจ้งรายละเอียดไว้ค่อนข้างชัดเจน (ผมแปลด้วย Google Translate)
สรุปว่า Redmi Note 7 กล้อง 48 ล้านปลอมใช่หรือไม่ ส่วนตัวผมว่า Redmi ก็ไม่ได้หลอก เพราะเซ็นเซอร์ GM1 มันเป็น 48 ล้านพิกเซลจริง เพียงแต่ Output ที่ดีที่สุดมันคือ 12 ล้านพิกเซล ด้วยการรวมพิกเซลเข้าด้วยกัน และก็สามารถถ่ายได้ที่เต็มความละเอียด 48 ล้าน เพียงแค่มันจะให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่เท่า 12 ล้าน 1.6 ไมครอนจากการรวมเท่านั้นเอง