แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาและเรียนรุ่นไหนดีแบบจัดเซ็ทในงบ 15000-30000 บาท
ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัส Covid-19 ในปีนี้ ก็ทำให้การทำงานและการเรียนของหลายๆ จังหวัด และหลายๆ โรงเรียน หรือมหาลัยฯ ก็จำเป็นต้องเปิดให้เรียนแบบออนไลน์แทน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะใช้มือถือในการเรียนกันนี่แหละ แต่เชื่อว่าก็มีอีกหลายคน ที่รู้สึกว่าหน้าจอของมือถือมันเล็กไป และทำอะไรได้ไม่ถนัดเท่าไหร่ ตัวช่วยที่จะทำให้การเรียน และจดบันทึกไปด้วยขณะที่เรียนได้นั้น ก็คือแท็ปเล็ตที่มีหน้าจอใหญ่กว่ามือถือ และทำอะไรได้มากกว่าเยอะมาก เรียกง่ายๆ ว่าเหมือนเป็นคอมฯ ย่อส่วนลงมา เพื่อให้เราใช้งานพกพาไปไหนได้สะดวกกว่า และหนึ่งในแท็ปเล็ตที่ดีที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น iPad ที่ทำออกมาหลายรุ่น และพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมต่อการใช้งานของแต่ละคน รวมไปถึงการมองเห็นถึงความสำคัญในการเรียนของนักเรียนและนักศึกษา ด้วยการลดราคาค่าเครื่องจากปกติ ให้มีราคาของนักศึกษาอีกด้วย ยิ่งในช่วงนี้ที่เปิดเทอมแล้ว ทาง Apple ก็มีของแถมเป็น AirPods เพื่อเอาไว้ฟังในขณะที่เรียนหรือประชุมอีก สำหรับคนที่กำลังมองหา iPad สําหรับนักศึกษามาใช้งานเพื่อการเรียนนั้น วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ iPad สําหรับนักศึกษาและเอาไว้เรียนรุ่นไหนดีแบบจัดเซ็ตมาให้เลยในงบ 15,000-30,000 บาท จะได้อะไรบ้างมาดูกันเลย
สเปคของ iPad สําหรับนักศึกษาแต่ละรุ่น
แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาแบบจัดเซ็ท
- แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาแบบจัดเซ็ทในงบไม่เกิน 15,000 บาท
- แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาแบบจัดเซ็ทในงบไม่เกิน 20,000 บาท
- แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาแบบจัดเซ็ทในงบไม่เกิน 30,000 บาท
iPad ที่วางขายอยู่ตอนนี้มีรุ่นอะไรบ้าง?
สำหรับ iPad สําหรับนักศึกษาที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ จะเป็น iPad สําหรับนักศึกษารุ่นที่ยังมีการวางขายอยู่บนหน้าเว็บของ Apple และจะอิงราคาเครื่องเปล่าจาก Apple อย่างเดียวเท่านั้น จะไม่ได้รวมราคาที่ซื้อพร้อมโปรฯ ต่างๆ ของเครือข่ายแต่ละเครือข่าย เนื่องจากถ้าซื้อพร้อมกับแพ็กเกจ จะไม่สามารถซื้อร่วมกับอุปกรณ์ หรือว่าจัดเซ็ตอุปกรณ์เสริมให้ได้ โดยรุ่นที่ยังมีการวางขายอยู่ในปัจจุบันก็คือ iPad mini, iPad Gen 8th, iPad Air 4 และ iPad Pro (ทั้งสองขนาด) ส่วนสเปคและข้อมูลต่างๆ ว่ารุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง เดี๋ยวเราจะมาบอกข้อมูลสเปคของแต่ละรุ่นแบบคร่าวๆ ให้รู้กันในเบื้องต้น เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการซื้ออยู่พอดี ตามไปดูกันเลยว่าสเปคไหนเหมาะกับใครบ้าง
iPad mini
มาเริ่มกันที่ iPad สําหรับนักศึกษาตัวแรกกันก่อนเลย ซึ่งแค่ชื่อก็พอจะเดาๆ กันได้แล้วว่าเหมาะกับใคร เพราะด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็ก พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก และไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมาก ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับคนที่อยากได้ไว้สำหรับพกพา และไม่ได้ต้องการสเปคที่สูงมากนัก อาจจะใช้งานแบบทั่วไปเพื่อเรียนออนไลน์ หรือบันทึกข้อมูลการประชุมก็ทำได้ดีแน่นอน การดีไซน์ของรุ่นนี้จะยังคงเป็นแบบโค้งมน ที่ตัวเครื่องนั้นหนาพอสมควร เนื่องจากยังคงมีปุ่ม Home เอาไว้เพื่อใช้งาน Touch ID อยู่ด้วย ส่วนหน้าจอนั้นจะเป็นแบบ Retina Display พาเนล IPS LCD ขนาด 7.9 นิ้วและมีคุณภาพสีระดับ DCI-P3 ที่ให้สีสันคมชัดสวยงาม มาพร้อมกับชิป Apple A12 Bionic ให้เครื่องนี้เล่นได้แบบลื่นๆ ส่วนกล้องหลังจะมีความละเอียด 8MP กับกล้องหน้าอีก 7MP ใช้งานแบบทั่วไปหรือเรียนออนไลน์ได้สบายๆ ที่สำคัญคือรุ่นนี้ยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 อยู่และยังใช้งานเป็นพอร์ต Lightning รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 แต่ไม่รองรับ Smart Keyboard นะ
iPad Gen 8th
iPad สําหรับนักศึกษารุ่นต่อมานี้ก็ยังคงถือว่าอยู่ในระดับการใช้งานเดียวกับ iPad mini อยู่ นั่นก็คือเหมาะสำหรับการใช้งานแบบทั่วไป ที่เอาไว้ประชุมหรือเรียนออนไลน์ ดูหนังฟังเพลงแบบทั่วไปได้ดีเยี่ยม แต่รุ่นนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมาอีก ทำให้ดูภาพและใช้งานได้เต็มตามากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือมีราคาที่ไม่แพงมากนัก อยู่ในระดับกลางๆ ที่เข้าถึงได้ง่าย การดีไซน์จะยังเป็นแบบโค้งมนคล้ายๆ กับตัว mini ที่ยังมีปุ่ม Home ด้านล่างสำหรับใช้งาน Touch ID อยู่ด้วย ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ Retina ขนาด 10.2 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS ให้สีหน้าคมชัดสมจริงแต่ยังไม่สุดเท่าตัวอื่นๆ พร้อมกับชิป Apple A12 Bionic ที่เล่นได้อย่างไหลลื่น กล้องหลังมีความละเอียด 8MP แต่กล้องหน้าจะเป็น FaceTime HD ที่ความละเอียด 1.2MP เท่านั้น แต่รุ่นนี้ก็ได้รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 และรองรับ Smart Keyboard แล้ว พร้อมกับมีอแดปเตอร์ชาร์จ 20W พร้อมพอร์ต Lightning อยู่ โดยรวมแล้วถือเป็นรุ่นราคาประหยัด ที่มีหน้าจอใหญ่พร้อมรองรับการใช้งานแบบทั่วไปได้เป็นอย่างดีเลย
iPad Air 4
มาต่อกันที่ iPad สําหรับนักศึกษารุ่นต่อมากันเลย ที่รุ่นนี้ได้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้มากขึ้น และเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานในระดับสูงเกือบจะเทียบรุ่น Pro ได้เลยทีเดียว ด้วยสเปคที่เร็วแรงและรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ประชุมหรือเรียนออนไลน์ ทำงานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ เรียกได้ว่าทำงานได้ครอบคลุมทุกอย่างเลย แถมยังทำออกมาให้มีขนาดที่เบาบาง เหมาะกับการพกพาได้สะดวกสบาย และเบาที่สุดในหมู่ iPad หน้าจอใหญ่แล้วด้วย
รุ่นนี้มาพร้อมกับขนาดหน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว พร้อมกับได้เทคโนโลยี IPS และมีหน้าจอเป็นแบบ Liquid Retina สีสวยงามสมจริงแน่นอนและมีปุ่ม Touch ID อยู่ด้านบนแทน ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น iPad Air 4 นี้ยังได้ชิป Apple A14 Bionic ที่มีความเร็วแรงมาก และยังช่วยประหยัดแบตให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีก ส่วนกล้องหลังจะมีความละเอียดถึง 12MP กับกล้องหน้า 7MP ใช้ถ่ายรูปหรือใช้เรียนออนไลน์ได้สบายหายห่วงไปเลย นอกจากนี้ยังรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) และ Magic Keyboard ได้ทั้งหมด รวมไปถึง Smart Keyboard Folio ด้วย และสามารถใช้งานพอร์ต USB-C ได้แล้ว ใครที่ต้องการใช้งานเทียบเท่าระดับเกือบโปร และอยากได้รุ่นที่มีน้ำหนักเบารุ่นนี้ตอบโจทย์มาก (ดูราคาพร้อมโปร iPad Air 4 แบบคุ้มๆ)
iPad Pro 2021
มาถึง iPad สําหรับนักศึกษารุ่นสุดท้ายที่มีความโปรมากขึ้น เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานสายกราฟิก สายวิดีโอตัดต่อ หรือว่าจะใช้งานแบบทั่วไปก็สามารถทำได้ทั้งหมด เรียกได้ว่าครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบแล้ว ซึ่งใครที่มองรุ่นนี้ไว้ ก็ต้องคำนึงถึงการใช้งานของตัวเองเป็นหลักเลย ถ้าจะใช้แบบสุดในรุ่นก็ต้องจัดตัวนี้แหละ การดีไซน์ภายนอกของตัวนี้จะเป็นแบบเหลี่ยมเหมือนกับรุ่น 2020 ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันมากนัก แต่สเปคภายในทำออกมาได้โหดมาก ทั้งชิป M1 บน Mac ที่นำมาลงอยู่ในเครื่องรุ่นนี้ ทำให้ความเร็วแรงและการใช้งานทำได้มีประสิทธิภาพสูงสุดแน่นอน พูดง่ายๆ ก็คือแรงกว่าทุกรุ่นและแรงกว่าคู่แข่งไปแล้ว แถมยังมีรุ่นที่ให้ RAM 16GB พร้อมกับความจุมีที่สูงสุดถึง 2TB ทำให้การเก็บข้อมูลนั้นทำได้เยอะมากขึ้นไปอีก
ส่วนหน้าจอในรุ่น 11 นิ้วจะมีหน้าเป็น Liquid Retina แต่ถ้ารุ่น 12.9 นิ้วจะได้หน้าจอเป็น Liquid Retina XDR ที่ให้สีสันคมชัด สมจริงทุกการใช้งาน และยังมีการติดตั้ง Mini LED ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม 120 เท่า และติดตั้งลงไปถึง 10,000 Mini LEDs เพื่อให้ได้ความสว่างอย่างเต็มที่ไปเลย สุดท้ายคือกล้องหลังที่มีมาให้สองตัวที่ความละเอียดกล้องไวด์ 12MP และกล้องอัลตร้าไวด์ 10MP พร้อมกับ LiDAR ที่โฟกัส และจับภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายแบบ HDR อัจฉริยะ 3 ได้ และมีฟีเจอร์ที่ทำงานร่วมกับ Green Screen หรือการใช้โปรแกรม 3D ที่วางวัตถุลงไปบนภาพจริงๆ ได้เลย กล้องหน้าก็มาเหนือเพราะเป็นกล้อง TrueDepth พร้อมเลนส์อัลตร้าไวด์ที่มีความละเอียดถึง 12MP พร้อมฟีเจอร์ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ทำให้การประชุมหรือเรียนออนไลน์นั้นจะโฟกัสมาที่ตัวเราเป็นหลักไปเลย รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานแบบโปร และการทำงานที่เหนือกว่าทุกรุ่นที่แท้จริง (อ่านต่อ.. เปรียบเทียบ iPad Pro กับทุกรุ่น)
แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาแบบจัดเซ็ทในงบไม่เกิน 15,000 บาท
สำหรับ iPad สําหรับนักศึกษาของการจัดเซ็ทในครั้งนี้ เราจะจัดเซ็ทจากราคาเครื่องเปล่าของรุ่นที่มีราคาเครื่อง พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมด้วยไม่เกิน 15,000 บาท อาจจะมีทั้งเซ็ทเคส หรือฟิล์ม พร้อมปากกาและคีย์บอร์ดต่างๆ แต่ทั้งหมดจะไม่เกินราคานี้ ส่วนราคาตัวเครื่องทั้งหมดนี้ จะเป็นราคานักศึกษาทั้งหมดเลย และเมื่อซื้อ iPad Air หรือ Pro จะได้รับ AirPods แถมมาให้เลยด้วยในตอนนี้ มีให้เลือกกันดังนี้
iPad สําหรับนักศึกษา \ ข้อมูล อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์เสริม ราคารวม iPad mini WiFi รุ่น 64GB (ราคา 13,200 บาท) เคส Smart Cover
(ราคา 1,590 บาท)– 14,790 บาท iPad mini WiFi รุ่น 64GB (ราคา 13,200 บาท) ฟิล์มกระดาษ Paper Like
(รุ่นปกติราคา 450 บาท
รุ่นถนอมสายตา 550 บาท)– 13,650-13,750 บาท iPad mini WiFi รุ่น 64GB (ราคา 13,200 บาท) ฟิล์มกระจกกันรอย
(แบบใสราคา 329 บาท
แบบด้านราคา 439 บาท)– 13,529-13,639 บาท iPad Gen 8 WiFi+Cellular รุ่น 32GB
(ราคา 14,700 บาท)– – 14,700 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 32GB
(ราคา 10,200 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)13,739-13,890 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 32GB
(ราคา 10,200 บาท)เคสพร้อมคีย์บอร์ด Logitech Rugged Keyboard Folio
(ราคา 4,290)– 14,490 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 32GB
(ราคา 10,200 บาท)Smart Keyboard
(ราคา 4,990 บาท)หรือ
เคสคีย์บอร์ด Logitech Combo Touch พร้อมแทร็คแพด
(ราคา 4,990 บาท)15,190 บาท* iPad Gen 8 WiFi รุ่น 32GB
(ราคา 10,200 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,590-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)12,229-13,780 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 128GB
(ราคา 13,200 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 13,639-13,790 บาท
แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาแบบจัดเซ็ทในงบไม่เกิน 20,000 บาท
เพิ่มงบขึ้นมาอีกเล็กน้อยกับ iPad สําหรับนักศึกษาที่ได้ทั้งเครื่องและอุปกรณ์ที่เยอะกว่า ก็ดูเหมือนว่าจะน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน โดยการจัดเซ็ทราคาไม่เกิน 20,000 บาทนี้ จะไม่ได้เอาราคาไม่เกิน 15,000 บาทมารวมด้วย เพราะมีให้เลือกด้านบนอยู่แล้ว แต่จะเป็นช่วงราคาตั้งแต่ 15,000-20,000 บาทเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะดูราคาไม่ค่อยห่างกันมากนัก แต่ก็ได้อะไรเพิ่มมาใช้งานอีกเยอะเลยด้วย ที่สำคัญก็อย่าลืมว่าซื้อ iPad Air หรือ Pro สำหรับนักศึกษาในตอนนี้ จะได้แถม AirPods มาใช้งานทันทีเลยด้วย ส่วนรายละเอียดแต่ละเซ็ทมีดังนี้
iPad สําหรับนักศึกษา \ ข้อมูล อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์เสริม ราคารวม iPad mini WiFi รุ่น 64GB (ราคา 13,200 บาท) เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,590-2,150 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 329-550)– 15,679-15,900 บาท iPad mini WiFi รุ่น 64GB (ราคา 13,200 บาท) Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 329-550)– 16,629-16,850 บาท iPad mini WiFi+Cellular รุ่น 64GB
(ราคา 17,700 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,590-1,690 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 329-550)– 19,619-19,719 บาท iPad mini WiFi รุ่น 128GB
(ราคา 18,200 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 329-550)– – 18,529-18,750 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 32GB
(ราคา 10,200 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)Smart Keyboard
(ราคา 4,990 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)18,729-18,880 บาท iPad Gen 8 WiFi+Cellular รุ่น 32GB
(ราคา 14,700 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 18,239-18,390 บาท iPad Gen 8 WiFi+Cellular รุ่น 32GB
(ราคา 14,700 บาท)Smart Keyboard
(ราคา 4,990 บาท)– – 19,690 บาท iPad Gen 8 WiFi+Cellular รุ่น 32GB
(ราคา 14,700 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,850-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 16,989-18,280 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 128GB
(ราคา 13,200 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 16,739-16,890 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 128GB
(ราคา 13,200 บาท)Smart Keyboard
(ราคา 4,990 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 18,629-18,780 บาท iPad Gen 8 WiFi+Cellular รุ่น 128GB
(ราคา 17,700 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,850-2,290)– – 19,550-19,990 บาท iPad Air 4 WiFi รุ่น 64GB
(ราคา 18,300 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– – 18,739-18,890 บาท
แนะนํา iPad สําหรับนักศึกษาแบบจัดเซ็ทในงบไม่เกิน 30,000 บาท
สำหรับการแนะนำ iPad สําหรับนักศึกษาหรือนักเรียนเซ็ทสุดท้ายนี้ ถือว่าเป็นเซ็ทที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อย แต่ก็แน่นอนว่าจะได้รุ่นที่ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่จัดเต็มแบบสุดๆ ไปเลยสำหรับ iPad mini และ iPad Gen 8 ส่วนรุ่นที่เหลือก็อาจจะได้แค่ตัวเครื่อง แต่ถ้าคิดว่าจะเอามาใช้งานแบบทั่วไป หรือใช้งานเพื่อการเรียนก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานมากแล้ว และก็ต้องย้ำกันอีกครั้งว่าถ้าซื้อ iPad Air หรือ Pro กับ Apple ในตอนนี้ที่ซื้อ iPad สําหรับนักศึกษาสำหรับนักศึกษาจะได้รับ AirPods เพิ่มด้วย มีเซ็ทที่ราคาไม่เกิน 30,000 บาทดังนี้
iPad สําหรับนักศึกษา \ ข้อมูล อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์เสริม ราคารวม iPad mini WiFi+Cellular รุ่น 64GB
(ราคา 17,700 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 329-550)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,590-2,150 บาท)– 22,940-23,500 บาท iPad mini WiFi รุ่น 128GB
(ราคา 18,200 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,590-2,150 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 329-550)– 23,219-24,000 บาท iPad mini WiFi+Cellular รุ่น 128GB
(ราคา 22,700 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,590-2,150 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 329-550)– 27,719-28,500 บาท iPad Gen 8 WiFi+Cellular รุ่น 32GB
(ราคา 14,700 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)Smart Keyboard
(ราคา 4,990 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,850-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)25,079-26,370 บาท iPad Gen 8 WiFi รุ่น 128GB
(ราคา 13,200 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)Smart Keyboard
(ราคา 4,990 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,850-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)23,579-24,870 บาท iPad Gen 8 WiFi+Cellular รุ่น 128GB
(ราคา 17,700 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
(ราคา 3,100 บาท)Smart Keyboard
(ราคา 4,990 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,850-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)28,079-29,370 บาท iPad Air 4 WiFi รุ่น 64GB
(ราคา 18,300 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
(ราคา 4,190 บาท)Smart Keyboard Folio
(ราคา 5,300 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 28,229-28,380 บาท iPad Air 4 WiFi รุ่น 64GB
(ราคา 18,300 บาท)Magic Keyboard
(ราคา 9,300 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– – 28,039-28,190 บาท iPad Air 4 WiFi รุ่น 64GB
(ราคา 18,300 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
(ราคา 4,190 บาท)หรือ
Smart Keyboard Folio
(ราคา 5,300 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,990-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)24,919-27,180 บาท iPad Air 4 WiFi+Cellular รุ่น 64GB
(ราคา 22,800 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
(ราคา 4,190 บาท)หรือ
Smart Keyboard Folio
(ราคา 5,300 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 27,429-28,690 บาท iPad Air 4 WiFi+Cellular รุ่น 64GB
(ราคา 22,800 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,990-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– – 25,229-26,380 บาท iPad Air 4 WiFi รุ่น 256GB
(ราคา 23,300 บาท)เคสทุกแบบที่ Apple
(ราคา 1,990-2,990)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– – 25,729-26,880 บาท iPad Air 4 WiFi รุ่น 256GB
(ราคา 23,300 บาท)Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
(ราคา 4,190 บาท)หรือ
Smart Keyboard Folio
(ราคา 5,300 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– 27,929-29,190 บาท iPad Air 4 WiFi+Cellular รุ่น 256GB
(ราคา 27,800 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– – – 28,239-28,390 บาท iPad Pro 2021 WiFi รุ่น 11 นิ้ว 128GB
(ราคา 26,200 บาท)ติดเพิ่มได้ทั้งฟิล์มกระจก
และฟิล์มกระดาษ
(ราคา 439-590)– – – 26,639-26,790 บาท iPad Pro 2021 WiFi รุ่น 11 นิ้ว 256GB
(ราคา 29,700 บาท)– – – – 29,700 บาท
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการแนะนำ iPad สําหรับนักศึกษาและนักเรียน ทั้งสเปคต่างๆ ของแต่ละรุ่น และการจัดเซ็ทของราคาตั้งแต่ 15,000 บาทไปจนถึงไม่เกิน 30,000 บาทที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการซื้อไปเรียนออนไลน์ หรือว่าใช้ในการประชุมต่างๆ ในการเรียน เพราะราคาทั้งหมดนี้เป็นราคานักศึกษาเท่านั้นนะ ไม่ใช้ราคาปกติทั่วไป ซึ่งในตอนนี้ก็มีการแถม AirPods ให้ด้วย สำหรับคนที่ซื้อ iPad สําหรับนักศึกษารุ่นที่ร่วมรายการ ใครที่มองหาก็ลองดูกันได้เลยว่าอยากได้รุ่นไหน และอยากได้อุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง ถ้าจะให้คุ้มต่อการใช้งานมากที่สุด ก็คงจะเป็นงบที่ไม่เกิน 30,000 บาท ที่จะได้สเปคและอุปกรณ์การใช้งานที่ค่อนข้างครบมาก แต่ถ้าใครที่งบไม่ถึงก็อาจจะดูเป็นเซ็ทอื่นๆ ร่วมก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าถ้าใช้แค่เพื่อการเรียน จะซื้อเพียงเครื่องเปล่ามาใช้งานก็ใช้ได้แล้วเหมือนกัน หรือว่าถ้าใครจะซื้อเคสจากร้านข้างนอกมาเสริมก็ได้เหมือนกันนะ เพราะราคาเคสอาจจะถูกกว่าของ Apple อยู่แล้ว และถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ