OPPO Reno 10x Zoom (เท็นไทม์ซูม) เป็นสมาร์ทโฟนซีรี่ส์ใหม่ล่าสุดของทาง OPPO โดยจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ความสามารถในการซูมได้ 10 เท่าแบบไม่เสียรายละเอียด ส่วนการซูมแบบดิจิทัล สามารถซูมได้ถึง 60 เท่า คือถ้าวัดเฉพาะตัวคูณเรื่องระยะการซูม OPPO Reno 10x Zoom ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ซูมได้ไกลที่สุดในตอนนี้เลยล่ะครับ
ก่อนจะเข้าสู่การรีวิว OPPO Reno 10x Zoom อยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน Reno Series กันก่อน เท่าที่ผมสอบถามจากทีมงาน OPPO ประเทศไทย Reno Series จะอยู่สูงกว่า R Series และเป็นรองก็แค่ Find Series เท่านั้น ส่วนตัวผมมองว่าตระกูลนี้คือเน้นความพรีเมียม ทั้งในด้านการดีไซน์, สเปค, ฟีเจอร์ เรียกว่าเทียบชั้นสมาร์ทโฟนเรือธงแบรนด์อื่น ๆ ได้สบาย
สเปค OPPO Reno 10x Zoom
- ชิปประมวลผล Snapdragon 855 พร้อมชิปกราฟิก Adreno 640
- แรม 8 GB LPDDR4
- พื้นที่เก็บข้อมูล 256 GB UFS 2.1
- หน้าจอ 6.6″ FHD+ (2340 x 1080) AMOLED ขอบเขตสีระดับ DCI-P3 หน้าจอไร้ติ่งแบบ Panoramic Full Screen
- กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 6
- กล้องหลัง 3 ตัว รองรับรองรับการซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุดที่ 60 เท่า ระบบกันสั่น Double OIS และมีโหมด Ultra Night Mode 2.0 สำหรับถ่ายภาพในที่มีแสงน้อย
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 f/1.7
- กล้อง Telephoto มาพร้อมเทคโนโลยีแบบ periscope 13 ล้านพิกเซล f/3.0
- กล้อง Ultra Wide Angle 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0 Pivot Rising Camera
- ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 60 fps
- Hidden Fingerprint 2.0 เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และมีระบบสแกนใบหน้า
- Android 9.0 ครอบด้วย ColorOS 6
- ลำโพงคู่พร้อมระบบเสียงแบบสเตอริโอ Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 4065 mAh รองรับการชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0
- ราคา 28,990 บาท
ความพิเศษของ OPPO Reno 10x Zoom เริ่มตั้งแต่กล่องเลยก็ว่าได้ครับ รุ่นนี้ดีไซน์กล่องจะมีความยาวมากกว่ากล่องสมาร์ทโฟนปกติ แล้วก็ให้ความรู้สึกพรีเมียมตั้งแต่ตัวกล่อง ส่วนอุปกรณ์เสริมข้างในก็ให้มาอย่างครบครัน
- ตัวเครื่อง OPPO Reno 10x Zoom
- เคส Reno 10x Zoom
- อะแดปเตอร์ VOOC Flash Charge 3.0 ขาปลั๊ก US
- สายชาร์จ USB-C to USB-A รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
- หูฟัง In-Ear แบบพอร์ต USB-C
Design – การออกแบบ
ตัวเครื่อง Reno 10x Zoom มีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Jet Black และสี Ocean Green โดยเครื่องรีวิว OPPO Reno 10x Zoom ที่ผมได้รับมาเป็นสีดำ Jet Black พื้นผิวมีความมันเงา แตกต่างจากสีเขียว Ocean Green ที่จะเป็นพื้นผิวแบบด้าน
ไฮไลท์ของ OPPO Reno 10x Zoom ในด้านการดีไซน์ จะอยู่ที่การใส่หลายเทคโนโลยีเข้าไปในสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ เพื่อให้หน้าจอ Panoramic screen ของ Reno 10x Zoom ไร้ติ่ง ไร้รอยบาก และมีขอบจอบางที่สุด โดยหน้าจอของ Reno 10x Zoom มีขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 พาแนลแบบ AMOLED ให้สีสันที่สดมากกว่าหน้าจอปกติทั่วไป ขอบเขตสีแบบ DCI-P3 ส่วนกระจกหน้าจอใช้เป็น Gorilla Glass 6
นอกจากหน้าจอ Panoramic screen จะแสดงผลได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว Reno 10x Zoom ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยในการลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา เมื่อเปิดฟังก์ชันดังกล่าว สามารถบล็อกแสงสีฟ้าได้ถึง 50% อีกทั้งได้รับมาตรฐานจาก TÜV Rheinland
โครงสร้างแบบ Pivot-Rising ถูกใช้เพื่อทำให้หน้าจอของ Reno 10x Zoom เต็มจอ ไร้ติ่ง ไร้รอยบาก เพราะกล้องหน้า, แฟลชหลัง รวมถึงเซ็นเซอร์ต่าง ๆ จะถูกใส่ไว้ใน Pivot Rising Camera เมื่อเรียกใช้งานกล้องหน้าหรือแฟลชกล้องหลัง กลไกล Pivot-Rising จะเลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 0.8 วินาที
ด้านความทนทานของ Pivot Rising Camera จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของทาง OPPO สามารถเลื่อนขึ้นได้มากกว่า 200,000 ครั้ง และมาพร้อมกับฟีเจอร์ในการตรวจจับสถานะของโทรศัพท์ หากตัวเครื่องหล่นขณะที่ Pivot Rising Camera ทำงานอยู่ ตัวกล้องจะเลื่อนกลับเข้าข้างในโดยอัตโนมัติ
เมื่อพลิกมายังด้านหลังของ Reno 10x Zoom จะพบกับตัวเครื่องที่ออกแบบมาได้อย่างไร้รอยต่อ มีความโค้งมนให้จับถือได้อย่างสะดวก และเป็นการออกแบบที่อิงกับหลักความสมมาตร ตัวกล้องถูกจัดวางบริเวณกึ่งกลาง และมีการวางข้อความ Design by OPPO บริเวณแกนกลาง หากสังเกตที่กล้องหลัง 3 ตัวของ OPPO Reno 10x Zoom จะพบว่ากล้องหลังแนบเนียนไปกับกระจก ไม่นูนขึ้นมาเหมือนสมาร์ทโฟนหลายรุ่นในท้องตลาด ส่วนจุดเขียว ๆ ตรงด้านล่างกล้อง มีชื่อว่า O-Dot ทำหน้าที่ยกโทรศัพท์ให้สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อวางตัวเครื่องบนพื้น เพื่อไม่ให้กล้องหลังสัมผัสกับพื้นโดยตรง
Camera – กล้องถ่ายภาพ
OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 f/1.7, กล้อง Telephoto มาพร้อมเทคโนโลยีแบบ periscope 13 ล้านพิกเซล f/3.0 และกล้อง Ultra Wide Angle 8 ล้านพิกเซล f/2.2 สำหรับระยะโดยรวมของกล้อง Reno 10x Zoom จะเทียบเท่ากับเลนส์ 16 – 160 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าครอบคลุมในการใช้งานได้เป็นอย่างดี มีระบบกันสั่น Dual OIS ติดตั้งในกล้องหลักและกล้อง Telephoto ส่วนระบบโฟกัสของ OPPO Reno 10x Zoom ประกอบไปด้วยการ Laser Auto Focus, Contrast Focus และ PDAF ทำให้การโฟกัสรวดเร็ว แม่นยำทั้งในที่แสงมากและแสงน้อย
กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซลของ OPPO Reno 10x Zoom ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้ว รูรับแสงขนาด f/1.7 หลักการทำงานของ IMX586 จะเป็นแบบ Quad Bayer Sensor ที่รวม 4 พิกเซลเข้าเป็น 1 เมื่อรวมกับรูรับแสงที่กว้าง ผลก็คือได้ภาพที่สว่าง คมชัดในที่แสงน้อย รวมถึงการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
กล้องตัวที่ 2 เป็นเลนส์มุมกว้าง wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX319 ขนาด 1/3.13 นิ้ว รูรับแสง f/2.2 ขนาดมุมกว้างสุดที่ 120 องศา หรือเทียบเท่าเลนส์ระยะ 16 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับการเก็บภาพในมุมกว้าง ภูเขา, ทะเล หรือจะเก็บตัวแบบพร้อมกับฉากหลังก็ได้เช่นกัน ส่วนกล้องตัวสุดท้ายของ Reno 10x Zoom เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0 ออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพระยะไกล โดยระยะไกลสุดในการซูมแบบ Hybrid อยู่ที่ 10 เท่าแบบไม่เสียรายละเอียด
โหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจใน OPPO Reno 10x Zoom
Ultra Night Mode 2.0: โหมดถ่ายภาพที่ออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย โดยใช้ AI เข้ามาช่วยประมวลผลภาพถ่าย ในการถ่ายภาพไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง สามารถถือด้วยมือเปล่าถ่ายได้เลย ภาพที่ได้จะสว่าง คมชัด ใช้เวลาในการเก็บภาพประมาณ 2 – 3 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ในการถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืน Reno 10x Zoom จะแยกใบหน้าคนออกจากการประมวลผลฉากหลัง ทำให้ผิวของตัวแบบไม่ซีดจนเกินไป ในขณะที่ฉากหลังก็ยังคงสว่าง คมชัดเหมือนเดิม
ซ้าย: Ultra Night Mode 2.0 | ขวา: Auto
Dazzle Color Mode 2.0: เป็นโหมดที่ใช้ AI ในการเร่งสีภาพให้ดูสดใส และเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้ถ่ายภาพในสภาพแสงสลัว หรือในร้านอาหารที่ตกแต่งร้านด้วยแสงสีเหลือง เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง OPPO Reno 10x Zoom
สำหรับกล้องหน้าของ OPPO Reno 10x Zoom มีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ถูกซ่อนไว้ในกลไก Pivot Rising ที่จะเลื่อนขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้งาน มาพร้อมกับ AI Beauty ที่สามารถตรวจจับรายละเอียดใบหน้า และปรับแต่งให้สวยงามตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ HDR ช่วยในการถ่ายเซลฟี่แบบย้อนแสง พร้อมแฟลช LED แบบ Soft Light เพื่อใช้เซลฟี่ในที่แสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า OPPO Reno 10x Zoom
Performance – ประสิทธิภาพ
OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมกับสเปคในระดับท็อปสุด ด้วยชิปเซ็ตตัวแรง Qualcomm Snapdragon 855 พร้อม Ram 8 GB LPDDR4X และหน่วยความจำแบบ UFS 2.1 ความจุ 256 GB ทดสอบความเร็วในการอ่านเขียนด้วย AndroBench ได้ผลที่การอ่าน 791 MB/s ส่วนการเขียนอยู่ที่ 250 MB/s ซึ่งถือว่าเร็วมาก ส่งผลให้การใช้งานลื่นไหลไม่มีสะดุด สมกับที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อป
นอกจากฮาร์ดแวร์ที่ให้มาในระดับท็อปแล้ว Reno 10x Zoom ยังมีระบบการจัดการทรัพยากรในตัวเครื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็น HyperBoost 2.0 ที่ประกอบไปด้วย FrameBoost และ TouchBoost ทำให้การเล่นเกมลื่นไหล ทำเฟรมเรทได้สูง และไม่พบปัญหาเฟรมเรทตก อีกทั้งการสัมผัสหน้าจอที่ตอบสนองได้เป็นอย่างดี มั่นใจได้ว่าเล่นเกมแล้วไม่มีหัวร้อนแน่นอน
เรื่องปัญหาความร้อนขึ้นสูงเมื่อเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ ก็ไม่พบใน OPPO Reno 10x Zoom เช่นกันครับ ผมทดสอบเล่น ROV ในโหมด 10 vs 10 ต่อเนื่อง 5 เกม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ยังคงทำเฟรมเรทได้ 59 – 60 fps ความร้อนที่ออกมาจากตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนมาก ด้วยระบบระบายความร้อน 3 วิธี ได้แก่ กราไฟท์, ท่อทองแดง, เจลระบายความร้อน และยังมี Game Assistant อีกตัวช่วยที่จะป้องกันอาการหัวร้อนจากสายโทรเข้า, การแจ้งเตือนต่าง ๆ ทำให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องไม่ถูกขัดจังหวะ
Software – ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6 AI
ColorOS 6 เป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานมาจาก Android 9.0 Pie ไม่เพียงแต่มีหน้าตาที่สวยงาม แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และยังเป็น OS ที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนไร้ขอบ ไร้ติ่งอย่าง OPPO Reno 10x Zoom โดยเฉพาะ มีการทำงานร่วมกับ Cloud Services ของทาง OPPO เพื่อสำรองข้อมูล, รูปภาพ, วีดีโอ, รายชื่อผู้ติดต่อ ไปจนถึงรหัสผ่าน Wi-Fi หากใช้สมาร์ทโฟน OPPO มาก่อน แล้วเปลี่ยนมาใช้ Reno 10x Zoom เพียงล็อกอินก็จะสามารถเรียกข้อมูลกลับมาได้ทันที
Battery – แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน
Reno 10x Zoom มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 4,065 mAh การใช้งานสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง จากที่ได้ทดสอบตัวเครื่องรีวิว OPPO Reno 10x Zoom โดยเฉลี่ยผมจะชาร์จไฟวันละครั้ง และเท่าที่ได้ทดสอบตัวเครื่องแบบจริงจังมาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็แทบไม่ต้องชาร์จไฟระหว่างวันเลย หากไม่ได้ใช้งานหนัก ๆ ขนาดที่ว่าเล่นเกมต่อเนื่อง 2 – 3 ชั่วโมง ส่วนเรื่องการชาร์จไฟ Reno 10x Zoom มาพร้อมกับ VOOC Flash Charge 3.0 ที่ชาร์จไฟได้รวดเร็วกว่าเดิม ด้วยอัลกอริธึม VFC แบบใหม่ เรื่องความปลอดภัยก็ไว้ใจได้ตามมาตรฐานของทาง OPPO ครับ
Overall
ภาพรวมสำหรับ OPPO Reno 10x Zoom ส่วนตัวผมมองว่าสมกับความที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อป ด้วยสเปคที่ให้มาแบบจัดเต็ม ชิปเซ็ตระดับท็อป ดีไซน์ที่พรีเมียม และที่สำคัญคือกล้อง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของ Reno 10x Zoom ก็ว่าได้ เป็นกล้องที่รองรับการใช้งานหลากหลาย ระยะครอบคลุมตั้งแต่ Ultra-wide ไปจนถึง Telephoto เทียบระยะได้ 16 – 160 มิลลิเมตร เพียงพอต่อการเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว เที่ยวทั่วโลกเลยล่ะครับ จะถ่ายไกล ถ่ายใกล้ได้หมด แล้วก็ให้ภาพถ่ายที่คุณภาพดีทีเดียว
จุดเด่น
- กล้อง 3 ตัว ระยะ 16 – 160 มิลลิเมตร ถ่ายไกล ถ่ายใกล้ได้หมด
- ระยะซูมหวังผลที่ 10x Hybrid เพียงพอสำหรับการถ่ายไกล เป็นระยะที่กำลังดี
- สเปคแรง Snapdragon 855 + Ram 8 GB ใช้งานลื่นไหล เล่นเกมไม่สะดุด
- หน้าจอ AMOLED Panoramic Screen ไร้ติ่ง ขอบจอบาง รับชมคอนเทนต์ได้เต็มตา สีสันสดใส
- แบตเตอรี่อึด พร้อม VOOC Flash Charge 3.0 ชาร์จเร็วทันใจ
- ดีไซน์สวยงาม วัสดุพรีเมียม กล้องไม่นูนจากฝาหลัง
ข้อสังเกต
- ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่น
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักพอสมควร
- ถาดซิมเป็นแบบ Hybrid Slot