สรุปฟีเจอร์ใหม่บน iOS 26 และ iPadOS 26 มีอะไรใหม่เด็ดๆ เพิ่มเข้ามาบ้างในงาน WWDC25
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับ iOS และ iPadOS ใหม่ที่ข้ามจาก iOS 18 มาเป็นเวอร์ชั่น 26 โดยให้เหตุผลตามปีที่เป็นปี 2026 ซึ่งระบบอื่นๆ เองก็ใช้ชื่อ ..OS 26 ทั้งหมดเลยด้วย จากงาน WWDC25 ที่ผ่านมาในคืนวันที่ 10 มิถุนายน 2025 ที่ปล่อยของใหม่มาเพียบ นอกจากชื่อที่เปลี่ยนใหม่ก็มีการดีไซน์ และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึง AI ที่ทำได้ดีมากกว่าเดิม สำหรับใครที่อยากรู้ว่ามีอะไรอัพเดทบ้างเราจะมาสรุปให้ว่า iOS 26 และ iPadOS 26 มีอะไรใหม่บ้าง ทั้ง Apple Intelligence และแอพอื่นๆ ที่อัพเกรดใหม่ไปดูกันเลย
สรุปฟีเจอร์ใหม่บน iOS 26 มีอะไรใหม่
1. ดีไซน์ใหม่: แบบ Liquid Glass
สิ่งแรกที่อัพเกรดมาใหม่เลยก็คือดีไซน์ ที่ปรับเปลี่ยนมาใช้แบบ Liquid Glass ใหม่ทั้งระบบ โดยทั้ง iOS 26 และ iPadOS 26 มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมดจดที่ Apple เรียกว่า Liquid Glass แบบโปร่งแสงคล้ายๆ แก้วที่นูนขึ้นมาเหมือนแว่นขยาย ทำให้หน้าตาแอพ ไอคอน วิดเจ็ต และหน้าตาการควบคุมต่างๆ ดูสวยงามทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความคุ้นเคยแบบ iOS เดิม
- หน้าจอ Home และ Lock Screen – ปรับแต่งได้มากขึ้น ไอคอนและวิดเจ็ตมีเอฟเฟกต์ใสและเคลื่อนไหวได้
- Lock Screen – ตัวเลขเวลาเปลี่ยนตำแหน่งอัตโนมัติตามพื้นที่ว่างในภาพ วอลเปเปอร์มีเอฟเฟกต์ 3D ขยับตามการเคลื่อนไหวเครื่อง (แบบไลฟ์ขยับตามการหันของ iPhone)
- Camera และ Photos – ดีไซน์ใหม่ ใช้งานง่ายกว่าเดิม โฟกัสกับสิ่งที่กำลังถ่ายได้เต็มที่มากขึ้น ตัวอัลบัมหารูปได้ง่ายขึ้น และตั้งเป็นพื้นหลังแบบไลฟ์ได้ด้วย
- Safari, Apple Music, News, Podcasts – แถบเมนูลอยเหนือคอนเทนต์ ย่อขยายอัตโนมัติเมื่อเลื่อนหน้าจอ
ดีไซน์นี้ยังขยายไปถึง iPadOS 26, macOS Tahoe 26, watchOS 26 และ tvOS 26 เพื่อให้ทุกอุปกรณ์ Apple มีความกลมกลืนและทันสมัยเหมือนกันหมดทุกแบบ
2. Apple Intelligence: AI อัพเกรดใหม่ให้ฉลาดขึ้น
สิ่งสำคัญที่เด่นๆ มาอีกอย่างก็คือตัว AI หรือว่า Apple Intelligence ที่ยกระดับให้ iPhone และ iPad ทำงานได้พร้อมกันเข้าไปในทุกส่วนของระบบ ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น ฉลาดขึ้น และเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้แก่
- Live Translation – แปลข้อความและเสียงแบบเรียลไทม์ใน Messages, FaceTime, และ Phone สนทนาข้ามภาษาได้ทันทีที่พูดคุยกันเลย
- Visual Intelligence – ค้นหาข้อมูลหรือสั่งการจากสิ่งที่เห็นบนหน้าจอ เช่น ถ้าเห็นอีเวนต์ในแอพไหน ก็ใส่เพิ่มลงปฏิทินได้เลย หรือค้นหารูปสินค้าคล้ายกันใน Google, Etsy ฯลฯ เพียงแค่แตะที่วัตถุเหล่านั้นก็หาได้เลย
- Genmoji & Image Playground – สร้างอีโมจิและภาพใหม่ๆ ได้เอง สร้างอีโมจิที่ชอบ หรือใส่คำบรรยายให้ AI สร้างภาพตามที่ต้องการ
- Shortcuts อัจฉริยะ – สร้างช็อตคัตใหม่ๆ ด้วย AI เช่น สรุปอีเมล สร้างภาพ หรือแนะนำทางลัดที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ได้ด้วย
- สรุปการสั่งซื้อออนไลน์ – ให้ AI ดึงข้อมูลติดตามพัสดุจากอีเมลร้านค้าและขนส่ง สรุปสถานะให้ดูง่ายในที่เดียว แม้ไม่ได้จ่ายผ่าน Apple Pay ก็ตาม
3. ฟีเจอร์ใหม่ใน Phone และ Messages: ตัดสิ่งรบกวนและใช้งานได้ง่ายขึ้น
อีกหนึ่งจุดที่มีการอัพเกรดใหม่และน่าสนใจก็คือการโทรและข้อความ ที่ช่วยคัดกรองสายที่ไม่ต้องการรับ หรือว่าเช็คดูก่อนได้ว่าธุระอะไรหรือไม่ นอกจากนี้ยังปรับแต่งข้อความให้ดูน่าสนใจได้มากกว่าเดิมด้วย สิ่งเด่นๆ ที่ได้รับการอัพเกรดมาเลยก็คือ
- Phone App ใหม่
- Unified Layout – รวม Favorites, Recents, Voicemails ไว้ในหน้าจอเดียว ดูได้ง่ายขึ้น
- Call Screening – คัดกรองสายแปลกหน้า ถามข้อมูลจากคนที่โทรมาก่อน แล้วแจ้งให้ตัดสินใจรับหรือไม่รับสายได้ (ขึ้นมาเป็นข้อความ)
- Hold Assist – เวลาที่เราติดสายอยู่ หรือตอนถือสายรอ ก็จะมีการบอกให้รู้ว่ามีธุระอะไร หรือว่าว่างตอนไหนได้เหมือนกัน
- เพิ่มเติม: Call Screening และ Hold Assist ยังไม่รองรับภาษาไทยนะ
- Messages App ใหม่
- Screen Messages – แยกข้อความจากเบอร์แปลกไว้ในโฟลเดอร์เฉพาะ เลือกได้ว่าจะรับหรือบล็อก
- Custom Backgrounds & Polls – ตั้งภาพพื้นหลังแชทได้เอง สร้างโพลล์ในกลุ่มแชท (สร้างการโหวตได้)
- Typing Indicators – เมื่อมีคนพิมพ์ในกลุ่ม เห็นได้ว่าใครกำลังพิมพ์ในกลุ่มแชท
- Apple Cash – ส่ง-รับเงินในแชทได้ทันที
4. CarPlay, Apple Music, Maps, Wallet: อัพเกรดใหม่เพิ่มเติม
- CarPlay – ดีไซน์ใหม่ สวยงาม ใช้งานง่ายขึ้น มีวิดเจ็ตและกิจกรรมสด ให้สามารถติดตามเรื่องต่างๆ ได้โดยไม่เสียสมาธิตอนขับรถ รวมถึง CarPlay Ultra ด้วย
- Compact Call View – ดูสายเรียกเข้าได้โดยไม่บังแผนที่ หรือข้อมูลสำคัญๆ
- Tapbacks, Pinned Conversations, Widgets, Live Activities – สามารถใช้งานแชทและติดตามกิจกรรมได้ขณะขับรถเลย
- Apple Music
- Lyrics Translation – แปลเนื้อเพลงเป็นภาษาต่างๆ
- Lyrics Pronunciation – ช่วยออกเสียงเนื้อเพลงให้ร้องตามได้ถูกต้อง
- AutoMix – มี AI ผสมเพลงต่อเนื่องแบบดีเจให้ฟังง่ายๆ
- Apple Maps
- Visited Places – บันทึกสถานที่ที่เคยไป ดูย้อนหลังได้ มีความเป็นส่วนตัวสูงมากขึ้น
- Daily Route Intelligence – แนะนำเส้นทางที่ชอบ แจ้งเตือนเหตุการณ์บนเส้นทาง และแนะนำทางเลือก หรือเลือกเส้นทางที่เร็วที่สุดตามที่ต้องการได้เลย
- Wallet
- Boarding Pass ใหม่ – แสดงสถานะเที่ยวบินแบบ Live Activities พร้อมแผนที่สนามบิน ค้นหากระเป๋าหาย ฯลฯ
- จ่ายเงินแบบผ่อน/ใช้แต้ม – เลือกได้ตอนจ่ายด้วย Apple Pay
5. อัพเกรดแอพอื่นๆ เพิ่มเติม
- Apple Games – ศูนย์รวมเกมใหม่บน iPhone และ iPad มีบริการสมัครสมาชิกเกมของ Apple มีการจัดอันดับแต่ละเกม ที่ได้รับรางวัลและได้รับคะแนนสูงมากกว่า 200 เกม
- AirPods
- Studio-Quality Audio Recording – อัดเสียงคุณภาพสูงผ่าน AirPods ได้ทั้งบน iPhone, iPad, Mac
- Camera Remote – กดที่ก้าน AirPods เพื่อถ่ายรูปหรือเริ่ม/หยุดวิดีโอบน iPhone หรือ iPad
- Parental Controls และ Accessibility – ดูแลการใช้งานของเด็กได้ง่ายขึ้น สร้าง/ย้ายบัญชีเด็กได้ง่ายขึ้น พร้อม parental controls ที่ละเอียดกว่าเดิม
- Communication Safety – เบลอคอนเทนต์ไม่เหมาะสมใน FaceTime และ Shared Albums
- Accessibility Reader – โหมดอ่านหนังสือใหม่สำหรับผู้มีปัญหาการมองเห็น
- Braille Access – อินเทอร์เฟซใหม่สำหรับผู้ใช้จอ Braille
- Safari และความเป็นส่วนตัว
- Advanced Fingerprinting Protection – ป้องกันการตามรอยขณะท่องเว็บแบบอัตโนมัติ
- Accessibility Features – อัพเกรด Live Listen, Background Sounds, Personal Voice ฯลฯ ให้ใช้งานได้ทั่วทั้งระบบ
สรุปฟีเจอร์ใหม่บน iOS 26 มีอะไรใหม่
สำหรับ iPadOS 26 ก็มีการอัพเดทเพิ่มเติมจากตัวหลักบน iOS26 เพิ่มเติมอีกด้วย ในส่วนที่เหมือนกันเราจะนับรวมไปกับของ iOS26 เลยเพื่อความเข้าใจง่าย ส่วนอื่นๆ ที่แตกต่างกันก็จะเพิ่มให้ว่ามีอะไรใหม่เข้ามาอีกบ้าง สรุปฟีเจอร์ใหม่บน iPadOS 26 ที่น่าสนใจ มีดังนี้
1. ดีไซน์ใหม่ Liquid Glass แบบเดียวกับ iOS 26
2. ระบบจัดการหน้าต่างใหม่ (Windowing System) แบบเดียวกับ Mac
- Menu Bar – มีเมนูบาร์ใหม่เรียกคำสั่งต่างๆ ได้ด้วยการปาดนิ้วหรือเลื่อนเมาส์ขึ้นบนสุด ค้นหาคำสั่งหรือ Tips ในแต่ละแอพได้ทันที
- ปรับขนาด ย้ายตำแหน่ง – เปิดแอพหลายหน้าต่างพร้อมกันได้อิสระ เหมือนใช้งานบน Mac
- Window Tiling – ปิด/ย่อ/ขยาย/จัดเรียงหน้าต่างได้ง่ายๆ ด้วยนิ้วเดียว
- Exposé – มองเห็นหน้าต่างทั้งหมดที่เปิดอยู่ สลับแอพได้รวดเร็ว
- สามารถทำงานร่วมกับ Stage Manager และต่อจอแยกได้เต็มประสิทธิภาพ
3. Apple Intelligence (AI) ใหม่ ฉลาดมากขึ้น ทำงานได้เหมือนกับ iOS 26
4. แอพใหม่ และแอพอื่นๆ ที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติม
- Files App – ใหม่จัดการไฟล์แบบมืออาชีพ ดูรายละเอียดไฟล์แบบ List View ปรับขนาดคอลัมน์และโฟลเดอร์ได้ ซ่อน/แสดงโฟลเดอร์ย่อยได้
- ปรับแต่งสี ไอคอน และอีโมจิโฟลเดอร์ได้เอง ซิงก์ข้ามอุปกรณ์
- ลากโฟลเดอร์จาก Files ลง Dock ได้เลย
- ตั้งแอพเริ่มต้นสำหรับเปิดไฟล์แต่ละประเภทได้
- Preview App ครั้งแรกบน iPad – ดู แก้ไข มาร์กบนไฟล์ PDF และรูปภาพได้ครบจบในแอพเดียว ใช้ Apple Pencil เขียน/วาด/เติมฟอร์ม PDF ได้ทันที หรือจะสร้างหน้าเปล่าใหม่ใน PDF เพื่อจดหรือวาดรูปก็ได้
- ฟีเจอร์ใหม่สำหรับงานสร้างสรรค์และเสียง
- Background Tasks – ทำงานเบื้องหลังหนักๆ ได้ เช่น ตัดต่อวิดีโอหรือเรนเดอร์ภาพ พร้อมแสดงสถานะใน Live Activities
- Audio Input Selection – เลือกไมค์แยกแต่ละแอพหรือเว็บไซต์ได้
- Voice Isolation – ตัดเสียงรบกวนระหว่างอัดเสียงหรือวิดีโอคอล
- Local Capture – อัดเสียงและวิดีโอคุณภาพสูงจาก iPad ได้ทันที พร้อมแชร์ไฟล์หลังจบสาย พร้อมรองรับ Studio-quality audio recording กับ AirPods รุ่นใหม่
- Journal – บันทึกไดอารี่ด้วย Apple Pencil หรือพิมพ์ ใส่รูป วิดีโอ เสียง สถานที่ อารมณ์ และอื่นๆ พร้อมแผนที่แสดงตำแหน่งบันทึก
- Apple Games – ศูนย์รวมเกมใหม่บน iPad พร้อม Game Overlay ดูอีเวนต์/อัปเดตเกม ปรับตั้งค่า เชิญเพื่อนระหว่างเล่นได้
- Messages – ตั้งพื้นหลังแชทได้, สร้างโพลล์ในกลุ่ม, ดูรายละเอียดไฟล์ที่แชร์, เห็นคนกำลังพิมพ์ในกลุ่ม, ส่ง/รับเงิน Apple Cash ในแชท
- Phone App – โทรศัพท์จาก iPad ได้โดยตรง พร้อมฟีเจอร์ Hold Assist และ Call Screening
- Accessibility Reader – โหมดอ่านหนังสือใหม่สำหรับผู้มีปัญหาการมองเห็น
- Braille Access – อินเทอร์เฟซใหม่สำหรับจอ Braille
- Share Accessibility Settings – แชร์การตั้งค่าการช่วยเหลือชั่วคราวไปยังอุปกรณ์อื่น
- Communication Safety – เบลอคอนเทนต์ไม่เหมาะสมใน FaceTime และ Shared Albums
- Reed Pen – ปากกาคัดลายมือแบบใหม่ใน Notes, Preview, Freeform, Journal และแอrอื่นที่รองรับ PencilKit
- Calculator – รองรับ Math Notes สร้างกราฟ 3D จากสมการสามตัวแปรได้
- Notes – นำเข้า/ส่งออกโน้ตเป็นไฟล์ markdown ได้ บันทึกเสียงพร้อมถอดข้อความอัตโนมัติ
iPhone และ iPad ที่รองรับการอัพเดทได้
- iOS 26 รองรับ iPhone 11 ขึ้นไป
- iPadOS รองรับ
- iPad Pro (M4)
- iPad Pro 12.9″ (Gen 3 ขึ้นไป)
- iPad Pro 11″ (Gen 1 ขึ้นไป)
- iPad Air (M2 ขึ้นไป)
- iPad Air (Gen 3 ขึ้นไป)
- iPad (A16)
- iPad (Gen 8 ขึ้นไป)
- iPad mini (A17 Pro)
- iPad mini (Gen 5 ขึ้นไป)
- Apple Intelligence ใช้ได้กับ iPhone 16 ทุกรุ่น, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max, iPad mini (A17 Pro), iPad/Mac ชิป M1 ขึ้นไป (ต้องตั้ง Siri และภาษาระบบให้ตรงกับภาษาที่รองรับ)
การอัพเดตฟีเจอร์ใหม่บน iOS 26 และ iPadOS 26 ในปี 2025 นี้ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของ Apple ที่เปลี่ยนทั้งดีไซน์และการใช้งานให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ไฮไลต์สำคัญคือดีไซน์ Liquid Glass แบบโปร่งใสที่ทั้งสวยงามและตอบสนองกับการใช้งานได้ง่ายขึ้น มีระบบ AI “Apple Intelligence” ที่ถูกผสานเข้ากับทุกฟีเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ การสร้างอีโมจิหรือภาพด้วย Genmoji และ Image Playground รวมถึงช็อตคัตอัจฉริยะที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีอื่นๆ ที่อัพเดทใหม่เข้ามาเพื่อการใช้งานที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย รออัพเดทกันได้เลยคาดว่ามาช่วงปลายปีนี้พร้อมกับ iPhone 17
