แนะนำ 7 ปากกา iPad ราคาถูก เขียนได้ไหลลื่นพร้อมวางมือได้ ใช้แทน Apple Pencil ได้เลยในปี 2022
สำหรับใครที่ซื้อ iPad มาใช้งาน ก็ย่อมรู้กันดีอยู่แล้วว่าการจะขีดเขียน หรือจดบันทึกการทำงานต่างๆ รวมไปถึงการวาดรูป หรือออกแบบผลงานก็จำเป็นที่จะต้องใช้ Apple Pencil หรือว่าปากกาสำหรับ iPad (Stylus) ที่ทาง Apple นั้นขายแยกมาด้วย เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว และใช้ขีดเขียนลงไปบนหน้าจอ iPad ได้เป็นอย่างดี แต่ก็แน่นอนว่าอุปกรณ์ของ Apple นั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะมีราคาที่สูงพอสมควร ถ้าซื้อมาแล้วทำหาย หรือว่าใช้จนพังจนหมดประกัน จะให้ซื้อใหม่ในราคาสูงๆ บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องซื้อในราคาแพงขนาดนั้น ถ้าไม่ติดว่าจะต้องใช้งาน Apple Pencil เท่านั้น ก็ยังมีปากกาสำหรับ iPad ที่ใช้งานได้ดี เขียนได้แบบไหลลื่นไม่มีสะดุด แถมบางยี่ห้อบางรุ่นยังสามารถวางมือเขียนได้แบบสบายๆ ในราคาไม่เกิน 1,000 บาทด้วยซ้ำ ใครที่กำลังมองหาปากกาไว้ใช้ iPad ในราคาถูก และสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 7 ปากกา iPad ราคาถูก ที่เขียนได้ไหลลื่นพร้อมวางมือได้ด้วย ซื้อมาใช้แทน Apple Pencil ได้เลยในปี 2022
7 ปากกา iPad ยี่ห้อไหนดีราคาถูกในปี 2022
สำหรับปากกา iPad ทั้ง 10 ยี่ห้อและรุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ จะเป็นตัวยอดนิยม และสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee หรือ Lazada ได้เลย เว้นแต่ว่าบางยี่ห้อที่มีหน้าเว็บเป็นของตัวเอง ส่วนปากกาสำหรับ iPad ในรูปแบบต่างๆ นั้น จะมีทั้งรุ่นที่สามารถใช้งานได้กับ iPad ทุกรุ่นที่รองรับ กับบางรุ่นที่สามารถใช้ได้ขึ้นอยู่กับว่าปากกาอันนั้น รองรับการใช้งานรุ่นไหนบ้าง ส่วนราคาของตัวปากกา เราจะพยายามหารุ่นที่มีราคาไม่สูงมากนัก จะมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไม่เกิน 1,000 บาทไปจนถึงหลักพันต้นๆ แต่ไม่เกิน 3,000 บาทแน่นอน เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเงินเยอะ เพื่อซื้อ Apple Pencil จะมีปากกาสำหรับ iPad รุ่นไหนยี่ห้อไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย (ดูปากกาเขียนโทรศัพท์ได้ที่นี่)
1. Jamjake (รุ่นใหม่ 2022): ราคา 499-619 บาท
เริ่มต้นกันด้วยปากกาสำหรับ iPad ตัวที่ได้รับความนิยมสูงมากทีเดียว แต่ในชื่อรายการขายมักจะไม่ได้ใส่ชื่อยี่ห้อลงไปด้วย โดยปากกาของ Jamjake ตัวนี้ได้ทำออกมาอยู่หลายรุ่น และรุ่นใหม่ในปี 2022 นี้ก็ยังทำออกมาได้ดีมาก และยังมีราคาที่ถูกอีกด้วย โดยปากกาตัวนี้สามารถตรวจจับการเอียงของปากกาได้เลย ยิ่งเอียงมากเส้นก็ยิ่งหนาตาม (ตอนวาดรูป) และยังสามารถวางมือเพื่อขีดเขียนได้แบบสบายๆ หายห่วงไปเลย ส่วนหัวของปากกานั้นก็สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย ซึ่งจะใช้วัสดุแบบเดียวกับ Apple Pencil ด้วย ที่น่าสนใจก็คือปากกาตัวนี้มีแม่เหล็กที่สามารถดูดติดกับตัว iPad (ที่รองรับ) ได้เลย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ นั้นก็สามารถปิดได้เองเมื่อไม่ใช้งาน และมีไฟบอกสถานะอยู่ตลอด การเปิดปิดก็เพียงแค่แตะตรงปลายปากกาเท่านั้นเลยง่ายๆ ชาร์จด้วยพอร์ต USB C ประมาณ 2-3 ชม. ก็ใช้ได้ยาวๆ 15-18 ชม. แล้ว สั่งซื้อได้ที่นี่
- iPad รุ่นที่รองรับ: iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018/2019/2020/2021
2. GOOJODOQ 12th Gen Pencil: ราคา 640 บาท
มาต่อกันที่ปากกา iPad ของ GOOJODOQ กันบ้างที่ปากกาของยี่ห้อนี้ก็มีหลายรุ่น ที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนโทรศัพท์และใช้งานสำหรับ iPad โดยเฉพาะอยู่เหมือนกัน โดยในรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ทำออกมาเน้นความเรียวบาง สามารถถือได้ถนัดมือ และมีความแม่นยำสูงในการใช้งาน ทั้งการเอียงมุมต่างๆ และไม่ว่าจะขีดเขียนเส้นเล็กๆ หรือในพื้นที่เล็กๆ ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือสามารถวางมือเพื่อเขียนได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงมือให้ลำบาก ส่วนการใช้งานนั้นก็เพียงแค่แตะสองครั้ง เพื่อเปิดหรือปิด และก็สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth เลย ส่วนเรื่องแบตรุ่นนี้จะปิดให้อัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งานภายใน 5 นาที พร้อมกับไฟบอกสถานะ และถ้าชาร์จเต็มก็สามารถใช้ได้ต่อเนื่องมากถึง 20 ชม. เลยทีเดียว แถมรุ่นนี้ก็มีแม่เหล็กเอาไว้ติดข้าง iPad (รุ่นที่รองรับ) ได้ด้วย เรียกได้ว่าใช้แทน Apple Pencil ได้ไม่มีปัญหาเลย สั่งซื้อได้ที่นี่
- iPad รุ่นที่รองรับ: iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018/2019/2020 (รุ่นหลังจากนี้สอบถามร้านได้เลย)
3. OEMDIY Limited Pen NEU-01: ราคา 890 บาท
ปากกา iPad ราคาถูกแต่สเปคครบ สามารถใช้งานได้ดีเยี่ยมไม่แพ้กับ Apple Pencil หรือว่ายี่ห้ออื่นๆ เลย โดยปากกาตัวนี้จะมีอยู่หลาย Gen แต่ว่ารุ่นใหม่ล่าสุดคือ Gen 15th และรุ่น Limited Pen NEU-01 ซึ่งปากกาตัวนี้ทางร้านที่ขายก็ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบฟังก์ชั่นต่างๆ เองด้วย และมีจุดสังเกตตรงที่มีการบอกแบตเป็นเปอร์เซนต์ ช่วยให้เรารู้สถานะแบตได้ง่ายขึ้น ตัวปากกาสามารถแรงเงาได้ปกติ ทั้งเส้นบางและเส้นหนาตามการเอียง รวมไปถึงการขีดเขียนวาดรูปหรือจดบันทึก ก็สามารถเขียนได้แบบลื่นๆ ไม่มีหน่วง วางมือเขียนได้เลย พร้อมกับหัวปากกาที่เปลี่ยนได้ (ใช้กับ Apple Pencil 2 ได้ด้วย) และรุ่นนี้นอกจากจะมีการบอกสถานะแล้ว ยังสามารถใช้งานได้นานกว่ารุ่นปกติก่อนหน้านี้ด้วย รวมไปถึงจุดเด่นในการใช้งานคือ สามารถย้อนกลับไปหน้าเดิม กลับไปหน้า Home หรือแคปหน้าจอได้โดยใช้แค่ปากกาเท่านั้น พร้อมกับแม่เหล็กติด iPad ได้อีก ดีงามสุดๆ แล้ว สั่งซื้อที่นี่
- iPad รุ่นที่รองรับ: iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018/2019/2020/2021/2022
4. Active Stylus Pen รุ่น SUPERfine: ราคา 890 บาท
ต่อเนื่องกันด้วยปากกา iPad ราคาเบาๆ ที่สเปคไม่เบาเลยทีเดียว โดยปากการุ่นนี้เป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้แบบลื่นๆ พร้อมกับหัวขนาด 1.2 มม. เขียนได้ง่ายเหมือนเขียนบนกระดาษ ไม่ว่าจะเป็นการแรงเงา เขียนเส้นเล็กๆ หรือตัวหนังสือขนาดเล็กก็ตาม ตัวปากกจะทำมาจากอลูมิเนียมและมีสีเป็นแบบด้าน จับได้ถนัดมือไม่ลื่น เปิดปิดได้จากด้านปลายปากกา และยังมีไฟบอกสถานะ 3 รูปแบบพร้อมชาร์จด้วย USB C เพียง 1 ชม. ก็ใช้งานได้ยาวนานมากถึง 20 ชม. แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะแบตหมดไวเมื่อไม่ใช้งาน เพราะตัวปากกาสามารถปิดเองได้อัตโนมัติใน 5 นาทีเมื่อไม่ได้ใช้งาน และรุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Bluetooth เพียงแค่เปิดก็ใช้งานได้เลย และยังสามารถวางมือเขียนได้ด้วย ส่วนฟังก์ชันที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ปากกาตัวนี้สามารถกดแคปหน้าจอได้เหมือน Apple Pencil และสามารถใช้ Markup เพื่อแก้ไขรูปได้ทันทีอีกด้วย ถือว่าเป็นปากกาสำหรับ iPad ที่ไม่ธรรมดาในราคาเลยเหมือนกัน สั่งซื้อได้ที่นี่
- iPad รุ่นที่รองรับ: iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018/2019/2020/2021
5. ADONIT รุ่น NOTE: ราคา 2,290 บาท
มาที่ปากกา iPad ที่มีราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย โดยปากกาของ ADONIT นั้นขึ้นชื่อในเรื่องการใช้งานที่ดี เขียนได้แบบไหลลื่นมากอยู่แล้ว ซึ่งตัวนี้ก็ได้ดีไซน์ตัวปากกาออกมาให้เหมือนกับเราใช้ปากกาจริงๆ เลย มีตัวเหน็บกระเป๋าเสื้อพกพาได้สะดวกในการทำงาน และยังสามารถเปิดเครื่องเพื่อใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Bluetooth ก่อน และถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูเป็นปากกา แต่ก็สามารถวางมือเขียนได้ปกติ ให้อารมณ์เหมือนกับเขียนบนกระดาษ เพราะหัวปากกามีขนาดเล็ก จะวาดรูปหรือว่าจดบันทึกทำงานต่างๆ ก็ทำได้เป็นอย่างดี ส่วนการชาร์จแบตนั้นจะใช้เป็น Micro USB ชาร์จ 45 นาทีสามารถใช้ได้ต่อเนื่อง 12 ชม. ใครที่ชอบทรงปากกาแบบคลาสสิคห้ามพลาดเลย สั่งซื้อได้ที่นี่
- iPad รุ่นที่รองรับ: iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018/2019/2020 (สอบถามร้านก่อน)
6. Baseus Capacitive Stylus Pen: ราคา 980 บาท
มาต่อกันที่ยี่ห้อดังอีกหนึ่งตัวสำหรับปากกา iPad ของ Baseus รุ่นนี้ที่มีราคากลางๆ ไม่ได้แพงมากนัก แต่ฟีเจอร์การใช้งานคือจัดเต็มมาให้เลย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการใช้งานที่คล้ายกับ Apple Pencil 2 สามารถติดกับ iPad (รุ่นที่รองรับ) เพื่อชาร์จแบตได้เลย โดยจะมีปุ่มการใช้งานมาให้สองปุ่ม พร้อมไฟบอกสถานะ จะวาดเขียนและจดบันทึก ก็วางมือเขียนได้แบบสะดวกสบาย รวมไปถึงการแรเงาและเอียงปากกาก็ทำได้ปกติ แถมยังเชื่อมต่อได้ง่ายๆ แค่เปิดเครื่องก็ใช้งานได้ทันที ส่วนเรื่องแบตเตอรี่รุ่นนี้สามารถชาร์จเต็มใน 1 ชม. และใช้งานต่อเนื่องยาวนานถึง 8.30 ชม. หรือถ้าไม่ได้ใช้งานก็จะปิดเองอัตโนมัติใน 5 นาที ส่วนหัวสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยอันสำรอง โดยรวมแล้วเป็นปากกาที่มีฟีเจอร์ครบทีเดียวในราคาที่ไม่เกิน 1,000 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่
- iPad รุ่นที่รองรับ: iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018/2019/2020/2021
7. Logitech Crayon for iPad: ราคา 2,490 บาท
ปิดท้ายกันด้วยปากกา iPad ราคาดีงามพร้อมฟังก์ชันการใช้งานดีๆ อีกหนึ่งยี่ห้อจาก Logitech ที่ตัวนี้ทาง Apple ได้วางขายไว้บนหน้าเว็บด้วย โดยปากกาตัวนี้สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะมีความแม่นยำสูงระดับพิกเซล ทำให้การขีดเขียนลงไปนั้นเหมือนกับเขียนบนกระดาษเลยทีเดียว ส่วนการวาดเขียนก็สามารถวางมือเขียนได้ปกติ หรือลากเส้นยาวๆ ก็ไม่ทำให้เส้นขาด แถมยังสามารถปรับน้ำหนักเส้นได้ตามแรงของเราด้วย แน่นอนว่าปากกาตัวนี้สามารถเปิดและเชื่อมต่อได้ทันที โดยไม่ต้องทำการเชื่อมต่อใหม่ให้ยุ่งยาก ตัวปากกนี้จะออกแบบมาในลักษณะแบน ทำให้ไม่กลิ้งหล่นง่ายๆ วางไว้เฉยๆ ก็ไม่ร่วง และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชม. ต่อการชาร์จแบตหนึ่งครั้ง อีกอย่างก็คือสีสันกับการออกแบบนั้นสวยงามมากจริงๆ ใครที่มองหาปากกาดีๆ มาใช้กับ iPad ปากกาอันนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้ตัวอื่นเลย สั่งซื้อได้ที่นี่
- iPad รุ่นที่รองรับ: iPad ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018/2019/2020/2021
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นปากกา iPad ที่มีราคาไม่สูงมากนักทั้งหมด 7 รูปแบบที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ส่วนใหญ่ก็มีราคาไม่เกิน 1,000 บาทด้วยซ้ำ ซึ่งความจริงแล้วก็ยังมีปากกาที่สามารถใช้งานกับ iPad ได้อีกเยอะมากๆ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นรุ่นซ้ำๆ กันบนร้านค้าออนไลน์ แต่ว่าใช้ชื่อร้านแตกต่างกันออกไป ทำให้การเลือกซื้อตามยี่ห้อนั้นเป็นไปได้ยาก ที่สำคัญก็คือรุ่นที่มีราคาถูกกว่านี้ ก็จะเป็นแบบที่วาดเขียนไปได้ดื้อๆ โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออะไรเลย แต่ก็คือเขียนได้ปกติ วางมือไม่ได้ ต้องวาดเขียนแบบมือลอยๆ ซึ่งยากต่อการใช้งาน iPad พอสมควรเลย ตัวที่เราเลือกมาให้จึงเป็นปากกาที่สามารถวางมือได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้แบบสะดวกมากขึ้น ใครที่กำลังมองหาปากกาสำหรับ iPad ในราคาที่ไม่แพงมากมาใช้งานสักอัน ก็ลองเลือกดูตามที่เราแนะนำไปได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ