รวมรายชื่อมือถือที่ได้รับ Smartphone Award 2021 จากทางทีมงาน Specphone โดยในปี 2021 นี้ทางผู้ผลิตมือถือแบรนด์ต่างๆ ได้มีการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ๆ ออกมาเยอะมากๆ ทั้งหลากหลายดีไซน์ หลากหลายจุดเด่น วันนี้เราจะมาแนะนำมือถือที่ได้รับ Smartphone Award 2021 ซึ่งทางทีมงานเห็นว่ายอดเยี่ยมในด้านต่างๆ ตามความเห็นของเหล่าทีมงาน Specphone ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคุ้มค่า, การดีไซน์, กล้อง, การเล่นเกม และอื่นๆ สำหรับในรายชื่อที่เราจะมาพูดถึงนั้นจะไม่ได้เรียงตามรางวัล แต่จะเรียงชื่อของมือถือตามตัวอักษรเลย โดยใน Smartphone Award 2021 นั้นจะมีมือถือรุ่นไหนบ้างนั้นเราไปชมกันได้เลย
รวมรายชื่อมือถือที่ได้รับ Smartphone Award 2021
1. Apple iPhone 13 Pro Max
มาเริ่มกันที่ตัวแรกอย่าง iPhone 13 Pro Max กันก่อนเลย โดยในรุ่นนี้ได้รางวัล Smartphone of The Year จากทางทีมงาน เพราะไม่ว่าจะเป็นในด้านความแรง, การถ่ายภาพ ความอึดของแบตเตอรี่ก็ทำออกมาได้อย่างดี ทำให้ทางทีมงานตัดสินใจให้รางวัลนี้กับ iPhone 13 Pro Max นอกจากนี้ด้วย Sensor-shift ที่ทาง Apple ใส่เข้ามาในเลนส์ รวมกับขนาดเลนส์ที่ใหญ่ขึ้น และ LiDAR Scanner นั้นทำให้ความสามารถในการบันทึกวิดีโอโดดเด่นขึ้นด้วย ทีงาน Specphone จึงได้ให้รางวัล Best Phone for Video Recording อันดับ 2 อีกด้วย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Super Retina XDR (OLED), ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2778 x 1274 พิกเซล, ProMotion 120Hz, HDR10, Dolby Vision, DCI-P3
- ชิปประมวลผล : Apple A15 Bionic
- แรม / ความจุ :
- 6GB / 128GB
- 6GB / 256GB
- 6GB / 512GB
6GB / 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 12 MP, f/1.5, dual pixel PDAF, sensor-shift stabilization (wide)
- ตัวที่ 2: 12 MP, f/2.8, OIS, 3x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 3: 12 MP, f/1.8, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 4: LiDAR scanner
- กล้องหน้า : 12 MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 4,352 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว PD ขนาด 27W
- ราคา :
- 128GB : 42,900 บาท
- 256GB : 46,900 บาท
- 512GB : 54,900 บาท
- 1TB : 62,900 บาท
2. Apple iPhone 13
มาต่อกันที่ iPhone ที่ได้รับความนิยมอีกรุ่นอย่าง iPhone 13 มือถือสุดคุ้มค่าที่หลายๆ คนเลือกซื้อ ไม่ว่าจะด้วยชิปประมวลผลสุดแรง ระบบปฏิบัติการที่เสถียร โมเด็ม 5G ที่จัดสรรพพลังงานได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงกล้องคุณภาพสูงที่สามารถใช้ถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์ ทำให้ทางทีมงานได้มอบรางวัล Best Value 5G Phone อันดับ 2 ให้กับ iPhone 13 เครื่องนี้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Super Retina XDR (OLED), ขนาด 6.1 นิ้ว, ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล, HDR10, Dolby Vision, DCI-P3
- ชิปประมวลผล : Apple A15 Bionic
- แรม / ความจุ :
- 4GB / 128GB
- 4GB / 256GB
- 4GB / 512GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 12 MP, f/1.6, dual pixel PDAF, sensor-shift stabilization (wide)
- ตัวที่ 3: 12 MP, f/2.4, 120˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 12 MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 3,240 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว PD ขนาด 23W
- ราคา :
- 128GB : 29,900 บาท
- 256GB : 33,900 บาท
- 512GB : 41,900 บาท
หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
3. ASUS ROG Phone 5s Pro
มากันที่มือถือจาก ASUS อย่าง ASUS ROG Phone 5s Pro กันบ้าง โดย ROG Phone 5s Pro นั้นเป็นมือถือที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมอย่างแท้จริง จัดเต็มสเปคแบบขั้นสุดเพื่อความลื่นไหลของเกมไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 144Hz ชิปประมวลผลระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 888+ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh และระบบชาร์จเร็วขนาด 65W แต่สิ่งที่ทำให้ ROG Phone น่าสนใจก็คือพัดลมระบายความร้อนที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามา ช่วยให้ตัวเคื่องไม่ร้อยจนเกินไปหากเล่นเป็นระยะเวลานาน ทางทีมงานจึงได้ให้รางวัล Best Gaming Phone อันดับ 1 กับ RROG Phone 5s Pro เครื่องนี้เลย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.78 นิ้ว, ความละเอียด 2448 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 144Hz, HDR10+
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888+
- แรม / ความจุ : 18GB / 512GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.8, 26mm (wide)
- ตัวที่ 2: 13 MP, f/2.4, 125˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 5 MP, f/2.0 (macro)
- กล้องหน้า : 24 MP, f/2.5
- แบตเตอรี่ : 6,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 65W
- ราคา : 39,990 บาท
4. Infinix Note 10 Pro
มากันที่มือถือ 4G สเปคดีราคาคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่เกือบ 7 นิ้วแถมยังมีอัตรารีเฟรชถึง 90Hz กล้องหลังที่มีความละเอียดสูงถึง 64 MP และระบบชาร์จเร็วขนาด 33W ในราคาค่าตัวเพียงแค่ 5,990 บาท นับว่าเป็นมือถือที่ให้สเปคมาได้เกินราคามากๆ จึงทำให้ทางทีมงาน Specphone ตัดสินใจให้รางวัล Best Value 4G Phone อันดับ 2 แก่ Infinix Note 10 Pro เครื่องนี้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : IPS LCD, ขนาด 6.95 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 90Hz
- ชิปประมวลผล : Mediatek Helio G90T
- แรม / ความจุ : 8GB / 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 64 MP (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4, (monochrome)
- ตัวที่ 4: 2 MP, f/2.4, (depth)
- กล้องหน้า : 16 MP
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 33W
- ราคา : 5,990 บาท
หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
5. Lenovo Legion Phone Duel 2
มาที่มือถือเกมมิ่งแบบจัดเต็มกันเครื่องที่ 2 อย่าง Lenovo Legion Phone Duel 2 กัน ซึ่งมือถือเครื่องนี้ทางทีมงาน Specphone ได้ให้รางวัล Best Gaming Phone อันดับ 2 แก่มือถือเครื่องนี้ การที่ให้เป็นรอง ASUS ROG Phone 5s Pro นั้นเนื่องด้วยชิปประมวลผลที่เป็น Snapdragon 888 มีแบตเตอรี่น้อยกว่าเล็กน้อย รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ยังปรับแต่งมาไม่ดีพอจนทำให้ไม่สามารถรีดประสิทธิภาพของตัวเครื่องอกอมาได้อย่างเต็มที่นัก แต่ถ้ามองในแง่ของการเล่นเกมแล้ว Legion Phone Duel 2 ก็เป็นรองแค่ ASUS ROG Phone 5s Pro เท่านั้นเอง
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.92 นิ้ว, ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 144Hz, HDR10+
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888
- แรม / ความจุ :
- 12GB / 256GB
- 16GB / 512GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 64 MP, f/1.9 (wide)
- ตัวที่ 2 : 16 MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 44 MP, f/2.0 (ป๊อปอัพ)
- แบตเตอรี่ : 5,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 90W
- ราคา :
- 12GB / 256GB : 24,990 บาท
- 16GB / 512GB : 29,990 บาท
6. OPPO Find X3 Pro 5G
มากันที่มือถือที่เปิดตัวมาด้วยความอลังการอย่าง OPPO Find X3 Pro ที่เป็นมือถือหน้าจอพันล้านสีเครื่องแรกของโลก มาพร้อมเลนส์แบบไมโคร หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อกล้องจุลทรรศน์ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ในมุมมองที่แตกต่างจากมือถือทั่วไปอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นมือถือที่รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ 10-bit แท้ด้วย ทางทีมงานจึงได้ให้รางวัล Best Innovation แก่ OPPO Find X3 Pro ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงเทรนด์มือถือในปี 2021 นี้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 3216 x 1440 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, HDR10+, แสดงผล 1.07 พันล้านสี
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888
- แรม / ความจุ : 12GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.7, Laser AF, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 13 MP, f/3.0, 129mm (periscope telephoto)
- ตัวที่ 3: 50 MP, f/2.2, (ultrawide)
- ตัวที่ 4: 3 MP, (micro)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.4
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 65W
- ราคา : 33,990 บาท
7. OPPO Reno6 5G
ยังอยู่กับมือถือ OPPO อย่าง OPPO Reno6 5G มือถือที่มาพร้อมดีไซน์ขอบแบนที่เรียกว่า Ultra Slim Retro Design ที่ช่วยให้จับถือสบายมือ บางเบา อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้รอยนิ้วมือไปติดบนเครื่องด้วย แต่ที๋โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้นการออกแบบสีสันตัวเครื่องของสี AURORA ที่เมื่อเปลี่ยนมุมมองตัวเครื่องก็จะได้สีสันที่แตกต่างกันหลากหลายสี ช่วยให้ตัวเครื่องมีความโดดเด่นและสวยงามไม่เหมือนใครสุดๆ ทางทีมงาน Specphone จึงได้ให้รางวัล Best Design อันดับ 2 แก่ OPPO Reno6 5G เครื่องนี้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.43 นิ้ว, ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 90Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 900 5G
- แรม / ความจุ : 8GB / 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.7 (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 119˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.4
- แบตเตอรี่ : 4,300 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 65W
- ราคา : 17,990 บาท
8. POCO X3 Pro
มากันที่สุดยอดมือถือ 4G ที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2021 อย่าง POCO X3 Pro มือถือที่มาพร้อมสเปคระดับเรือธงในราคาไม่เกิน 10,000 บาท จึงทำให้ได้รางวัล Best Value 4G Phone จากทางทีมงาน Specphone ไปครอง เพราะ POCO X3 Pro เครื่องนี้ให้ทั้งหน้าจอ 120Hz ชิปประมวลผลระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 860 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,160 mAh และระบบชาร์จเร็วขนาด 33W มาในราคาขายแพงสุดแค่ 8,999 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ด้วยการที่สามารถหาซื้อแบบออนไลน์ได้ง่ายทำให้สามาถรซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติ ส่งผลให้ตัวเครื่องสามารถเข้าถึงใครหลายๆ คนได้ง่ายกว่าแบรนด์อื่นๆ เยอะ
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 860
- แรม / ความจุ :
- 6GB / 128GB
- 8GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 48 MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 119˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- ตัวที่ 4: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 20 MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 5,160 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 33W
- ราคา :
- 6GB / 128GB : 7,999 บาท
- 8GB / 256GB : 8,999 บาท
9. realme GT 5G
มากันที่มือถือ 5G ที่ทางทีมงานมองว่าคุ้มค่าที่สุดจนให้รางวัล Best Value 5G Phone ไปเลยอย่าง realme GT 5G มือถือเสปคเรือธงที่มีราคาขายไม่ถึง 20,000 บาท แถมยังให้สเปคมาแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ให้สีสันสวยสดอย่างหน้าจอ Super AMOLED แถมยังมีอัตรารีเฟรขที่สูงถึง 120Hz ชิปประมวลผลเรือธงอย่าง Snapdragon 888 แรมความเร็วสูงแบบ LPDDR5 กล้องหลังความละเอียดสูง 64 MP และระบบชาร์จเร็วขนาด 65W ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 35 นาทีก็เต็ม แต่ที่ทำให้ realme GT 5G น่าสนใจก็คือระบบระบายความร้อน Stainless Steel Vapour Cooling ที่ช่วยให้ตัวเครื่องไม่ร้อนมากเวลาใช้งานหนักๆ และระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ที่ทำงานร่วมกับระบบสั่น Tactile Engine ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมหรือดูหนังได้อย่างดี
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Super AMOLED, ขนาด 6.43 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888
- แรม / ความจุ : 8GB / 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.8, 26mm (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.3, 119˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 16 MP, f/2.5
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 65W
- ราคา : 19,990 บาท
10. realme 8 4G
ยังอยู่กันที่มือถือ realme อย่าง realme 8 4G มือถือที่ทางทีมงานมองว่ามีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยืนยาวที่สุดในความเห็นของทีมงาน Specphone จนได้รับรางวัล Best Battery Life ไป ด้วยหน้าจอ Super AMOLED ที่หากปรับค่าดีๆ จะช่วยประหยัดพลังงานได้พอสมควร (เนื่องจากหน้าจอ OLED เวลาแสดงผลสีดำจะไม่มีการใช้พลังงานเลยนั่นเอง) ชิปประมวลผล MediaTek Helio G95 ที่ได้รับการปรับแต่งมาให้มีทั้งความแรงพอจะใช้เล่นเกมได้แทบทุกเกมและมีความสามารถในการจัดสรรพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ได้อย่างดีเยี่ยม และเมื่อรวมกับระบบปฏิบัติการที่ปรับแต่งมาอย่างดี ทำให้สามารถใช้งานได้เกินวันสบายๆ โดยไม่ต้องมาห่วงเรื่องแบตเตอรี่จะหมดเลย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Super AMOLED, ขนาด 6.4 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, HDR10
- ชิปประมวลผล : MediaTek Helio G95
- แรม / ความจุ : 8GB / 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.3 (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- ตัวที่ 4: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 16 MP, f/2.5
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 30W
- ราคา : 8,999 บาท
11. Redmi Note 10 Pro
มาที่มือถือแบตอึดอีกเครื่องอย่าง Redmi Note 10 Pro มือถือสเปคดีราคาไม่แพงมากจากทาง Xiaomi ที่ทางทีมงาน Specphone มองว่ามีแบตเตอรีที่อึดอีกเครื่องหนึ่ง จึงได้ให้รางวัล Best Battery Life อันดับ 2 กับทาง Redmi Note 10 Pro เนื่องด้วยมาจากหน้าจอที่ใช้เป็นหน้าจอ AMOLED แบบ 120Hz ชิปประมวลผล Snapdragon 732G กล้องหลังความละเอียดสูงถึง 108 MP แต่ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มา 5,020 mAh กลับสามารถใช้งานเกินวันได้อย่างสบายๆ นั่นเอง
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 732G
- แรม / ความจุ :
- 6GB / 128GB
- 8GB / 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 108 MP, f/1.9 (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2 (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 5 MP, f/2.4, AF (tele-macro)
- ตัวที่ 4: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 16 MP, f/2.5
- แบตเตอรี่ : 5,020 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 33W
- ราคา :
- 6GB / 128GB : 8,499 บาท
- 8GB / 128GB : 8,999 บาท
12. Samsung Galaxy S21 Ultra 5G
มากันที่มือถือกล้องเทพอีกตัวของโลกอย่าง Samsung Galaxy S21 Ultra 5G มือถือกล้อง 108 MP ของแท้ที่มาพร้อมความสามารถในการซูมถึง 100 เท่า แถมที่น่าสนใจก็คือทุกเลนส์ของ Galaxy S21 Ultra 5G นั้นมาพร้อมกันสั่นทุกเลนส์ ช่วยให้การถ่ายภาพหรือวิดีโอมีความง่ายขึ้นมาก อีกทั้งชิปประมวลผล Exynos 2100 ยังมีความแรงในระดับที่สามาถรประมวงลผลภาพได้อย่างรวดเร็วและมี AI ที่สามารถประมวลผลภาพให้ออกมาสวยได้อีกด้วย ช่วยให้การถ่ายภาพมีความสนุกขึ้นเยอะ ทางทีมงานเลยได้มอบรางวัล Best Camera ให้กับ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G นั่นเอง
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 3200 x 1440 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, HDR10+
- ชิปประมวลผล : Samsung Exynos 2100
- แรม / ความจุ :
- 12GB / 128GB
- 12GB / 256GB
- 16GB / 512GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 108 MP, f/1.8, Laser AF, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 10 MP, f/4.9, OIS, 10x optical zoom (periscope telephoto)
- ตัวที่ 3: 10 MP, f/2.4, OIS, 3x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 4: 12 MP, f/2.2, Super Steady video (ultrawide)
- กล้องหน้า : 40 MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 45W
- ราคา :
- 12GB / 128GB : 39,900 บาท
- 12GB / 256GB : 41,900 บาท
- 16GB / 512GB : 45,900 บาท
13. Samsung Galaxy Z Flip3 5G
มากันที่มือถือพับได้ของ Samsung กันต่ออย่าง Samsung Galaxy Z Flip3 5G มือถือที่นอกจากจะพับได้แล้วยังมีดีไซน์ที่น่าสนใจอีกด้วย โดยลักษณะการพับจะเป็นแบบ Clamshell ทำให้ตัวงเครื่องมีขนาดกระทัดรัด แต่สิ่งที่น่าสนใจของ Galaxy Z Flip3 5G ก็คือเคสที่สามารถเอาสติกเกอร์ต่างๆ มาติดเพื่อให้เป็นเคสในรูปแบบของตัวเองได้ ทำให้มีความแตกต่างและโดดเด่นในแบบของตัวผู้ใช้เอง เป็นผลให้ทางทีมงานได้มอบรางวัลถึง 2 รางวัลคือ Best Design และ Best Foldable Phone อันดับ 2 ให้กับทาง Samsung Galaxy Z Flip2 5G เครื่องนี้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ :
- ใน : Foldable Dynamic AMOLED, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2208 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, HDR10+
- นอก : Super AMOLED, ขนาด 1.9 นิ้ว, ความละเอียด 512 x 260 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888
- แรม / ความจุ :
- 8GB / 128GB
- 8GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 12 MP, f/1.8, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 12 MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 10 MP, f/2.4
- แบตเตอรี่ : 3,300 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W
- ราคา :
- 128GB : 34,900 บาท
- 256GB : 36,900 บาท
14. Samsung Galaxy Z Fold3 5G
มาที่มือถือพับได้ของ Samsung อีกรุ่นอย่าง Samsung Galaxy Z Fold3 5G กันบ้าง โดยเครื่องนี้ได้รับรางวัล Best Foldable Phone จากทางทีมงาน เนื่องมาจากความสามารถของตัวเครื่องที่ไม่ธรรมดาไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่เป็นพาแนล Dynamic AMOLED 2X แบบ 120Hz ทั้งจอนอกและจอใน ชิปประมวลผลระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 888 กล้องหลังที่มี OIS ทั้งกล้องหลักและกล้องซูม มาพร้อมมาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP68 อีกทั้งจอในที่เป็นหน้าจอพับได้ยังรองรับการใช้งานปากกา S Pen ด้วย เรรียกได้ว่าเป็นมือถือที่ให้ความรู้สึกครบเครื่องเหมือนใช้มือถือและแท็บเล็ตในเวลาเดียวกันเลย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ :
- ใน : Foldable Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 7.6 นิ้ว, ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, HDR10+
- นอก : Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 6.2 นิ้ว, ความละเอียด 2208 x 832 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888
- แรม / ความจุ :
- 12GB / 256GB
- 12GB / 512GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 12 MP, f/1.8, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 12 MP, f/2.4, OIS, 2x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 3: 12 MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า :
- ตัวที่ 1 (ใน) : 16 MP, f/1.8 (under display)
- ตัวที่ 2 (นอก) : 10 MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 4,400 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 25W
- ราคา :
- 256GB : 57,900 บาท
- 512GB : 61,900 บาท
15. vivo X70 Pro
มากันที่มือถือที่มีจุดเด่นเรื่องการบันทึกวิดีโอที่สุดอย่าง vivo X70 Pro โดยตัว vivo X70 Pro นี้มาพร้อมเลนส์จาก ZEISS และระบบกันสั่นแบบ Gimbal Stabilization ที่ช่วยให้มือถือนิ่งเหมือนใช้งานไม้กันสั่นเลย ซึ่งตัว Gimbal Stabilization, การเคลือบเลนส์ด้วยเทคโนโลยี ZEISS T* และชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 1200 ที่สามาถรประมวลผลได้อย่างรวดเร็วนี้ทำให้ทางทีมงานมอบรางวัล Best Phone for Video Recording ให้กับ vivo X70 pro เครื่องนี้ไป
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.56 นิ้ว, ความละเอียด 2376 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, HDR10+
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 1200
- แรม / ความจุ : 8GB / 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8, Laser AF, gimbal OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/3.4, OIS, 5x optical zoom (periscope telephoto)
- ตัวที่ 3: 12 MP, f/2.0, 2x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 4: 12 MP, f/2.2, 116˚ , AF (ultrawide)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.5
- แบตเตอรี่ : 4,450 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 44W
- ราคา : 27,999 บาท
16. Xiaomi Mi 11 Ultra 5G
มากันที่มือถือที่เป็นรุ่นท๊อปที่สุดของ Xiaomi ที่หาซื้อไม่ได้แล้วอย่าง Xiaomi Mi 11 Ultra 5G ที่มาพร้อมกับสเปคขั้นเทพไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED 120Hz ที่สามารถแสดงผลได้ถึงพันล้านสี ชิปประมวลผลระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 888 กล้องหลังที่มีความละเอียด 50 MP พร้อมกันสั่น OIS และ LaserAF และระบบชาร์จเร็วขนาด 67W ทำให้ Mi 11 Ultra 5G เหมาะสมกับคำว่าเรือธงที่สุด แต่ที่น่าสนใจคือภาพที่ได้จากการถ่ายด้วย Mi 11 Ultra 5G เครื่องนี้นั้นสวยจนทางทีมงานได้ตัดสินใจให้รางวัล Best Camera อันดับ 2 เลยทีเดียว ส่วนภาพที่ได้นั้นมันดีอย่างไรสามารถเข้าไปดูได้ในลิ้งรีวิวด้านล่างเลย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.81 นิ้ว, ความละเอียด 3200 x 1440 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, HDR10+, Dolby Vision, แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888
- แรม / ความจุ : 12GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/2.0, Laser AF, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 48 MP, f/4.1, OIS, 5x optical zoom (periscope telephoto)
- ตัวที่ 3: 48 MP, f/2.2, 128˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 20 MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 67W
- ราคา : 33,990 บาท
17. Xiaomi Mi 11
มากันที่มือถือเรือธงสเปคแรงราคาประหยัดของ Xiaomi อย่าง Xiaomi Mi 11 กันบ้าง โดย Mi 11 เครื่องนี้ทางทีมงานได้ให้รางวัล Editors’ Choice ไปเลย ด้วยราคาเพียง 2 หมื่นต้นๆ แต่ได้หน้าจอ 120Hz ที่มีความละเอียด 2K แถมยังแสดงผลสีได้ถึงพันล้านสี มีชิปประมวลผลระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 888 มาพร้อมกล้องความละเอียดสูงถึง 108 MP พร้อมกันสั่นแบบ OIS สามารถใช้กล้อง macro เป้นกล้องวูมได้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ทุกระยะ อีกทั้งยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็วขนาด 55W อีก เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่คุ้มค่าสุดๆ เลย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.81 นิ้ว, ความละเอียด 3200 x 1440 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, HDR10+, แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888
- แรม / ความจุ :
- 8GB / 128GB
- 8GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 108 MP, f/1.9, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 13 MP, f/2.4, 123˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 5 MP, f/2.4 (tele-macro)
- กล้องหน้า : 20 MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 4,600 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 55W
- ราคา :
- 128GB : 21,990 บาท
- 256GB : 23,990 บาท
18. Apple iPad Gen 9th
มากันที่แท็บเล็ตกันบ้าง โดนในนาทีนี้ไม่มีอะไรคุ้มค่าและดีไปกว่า ipad Gen 9th อีกแล้ว จึงทำให้ได้รางวัล Best Value Tablet จากทางทีมงานไปเลย ถึงในด้านแท็บเล็ตแล้ว iPad มักเป้นตัวเลือกแรกของใครหลายๆ คนเสมอ แต่ทว่า iPad Gen 9th นั้นคือ iPad ที่ทางทีมงานมองว่าคุ้มค่าต่อราคาที่สุด ถึงแม้ชิปประมวลผล Apple A13 Bionic จะไม่ใช้ชิปรุ่นใหม่ล่าสุด แต่ความแรงที่มีนั้นก็มากเกินพอที่จะเอาไปใช้งานได้ทุกรูปแบบ แถมตัวเครื่องยังรองรับ Apple Pencil ด้วย ทำให้สามารถเอาไปใช้งานได้หลากหลายจนเกินค่าตัวเริ่มต้นที่หมื่นต้นๆ เท่านั้นไปไกลเลย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Retina (IPS-LCD), ขนาด 10.2 นิ้ว, ความละเอียด 2160 x 1620 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Apple A13 Bionic
- แรม / ความจุ :
- 3GB / 64GB
- 3GB / 256GB
- กล้องหลัง : 8 MP, f/2.4, AF (wide)
- กล้องหน้า : 12 MP, f/2.4, 122˚ (ultrawide)
- แบตเตอรี่ : 8,557 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว PD ขนาด 20W
- ราคา :
- Wi-Fi 64GB : 11,400 บาท
- Wi-Fi 256GB : 16,400 บาท
- Wi-Fi + Cellular 64GB : 16,900 บาท
- Wi-Fi + Cellular 256GB : 21,900 บาท
หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
19. Samsung Galaxy Tab S7 FE
มาที่แท็บเล็ตอีกตัวที่ทางทีมงานมองว่าคุ้มค่าที่สุดอีกตัวกันบ้าง แต่คราวนี้เป็นแท็บเล็ต Android อย่าง Samsung Galaxy Tab S7 FE แท็บเล็ตจอใหญ่ที่ให้สเปคมาในระดับที่สามารถเอาไปใช้งานได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่ถึง 12.9 นิ้ว ชิปประมวลผล Snapdrragon 750G ที่แรงพอจะใช้งานได้ทุกรูปแบบ แถมยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มากๆ ถึง 10,090 mAh ที่ช่วยให้สามารถใช้งานตัวเครื่องได้อย่างยาวนานจนน่าตกใจ อีกทั้งตัวเครื่องยังมาพร้อมปากกา S Pen และยังรองรับ Smart Keyboard อีกด้วย ทำให้เป็นแท้บเล็ตที่สามารถเอาไปใช้เรียนหรือทำงานได้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยการที่มีความจุของพื้นที่เก็บข้อมุลเพียง 64GB เท่านั้น ทำให้ทางทีมงานจึงได้ให้รางวัล Best Value Tablet อันดับ 2 ไป
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : TFT-LCD, ขนาด 12.9 นิ้ว, ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 750G
- แรม / ความจุ : 4GB / 64GB
- กล้องหลัง : 8MP, f/1.9, AF (wide)
- กล้องหน้า : 5MP f/2.2
- แบตเตอรี่ : 10,090 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 45W
- ราคา : 19,900 บาท
Smartphone Award 2021 ทั้ง 19 เครื่องที่เราได้พูดถึงในบทความนี้เป็นมือถือและแท็บเล็ตที่ทางทีมงาน Specphone เห็นว่าเป็นที่สุดในปี 2021 นี้แล้ว ถึงแม้อาจจะมีเพื่อนๆ หลายคนมีความเห็นแตกต่างกันไปบ้างก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นทางทีมงานก็ได้คัดสรรเครื่องที่คิดว่าดีที่สุดมาแนะนำเพื่อนๆ แล้ว ก็หวังว่าบทความ Smartphone Award 2021 นี้จะพอช่วยเพื่อนๆ ในการเลือกซื้อได้ด้วย