[Review] รีวิว Lenovo Vibe S1 มือถือกล้องหน้าคู่ แรม 3 GB ในราคา 10,900 บาท

Lenovo VIBE 9

Lenovo เป็นมือถืออีกหนึ่งแบรนด์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจ เนื่องจากราคาของตัวเครื่องนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ตัดสินใจได้ไม่ยากเท่าไรนัก สเปคของตัวเครื่องที่ได้นั้นยังเหมาะสมกับเงินที่ได้จ่ายไป และจะเห็นได้ว่าในหนึ่งปีนั้น Lenovo ได้มีมือถือรุ่นใหม่ๆออกมาให้เรานั้นได้เลือกซื้อกันเรื่อยๆ จุดเด่นของตัวเครื่องก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายตามสไตล์ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างเช่นซีรี่ย์ Vibe ที่ได้มีการพัฒนามากขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ และวันนี้มือถือที่ผมจะมารีวิวนั้นเป็นอีกหนึ่งรุ่นจากซีรี่ย์ Vibe นั่นคือ Lenovo Vibe S1 มือถือน้องใหม่ที่เพิ่งได้เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ในเรื่องของสเปคตัวเครื่องนั้นก็เรียกว่า พอเหมาะกับราคาของตัวเครื่องที่ 10,900 บาท และสเปคของ Lenovo Vibe S1 นั้นมีดังต่อไปนี้

สเปคของ Lenovo Vibe S1

  • OS : Android 5.1 Lollipop
  • หน้าจอ : IPS LCD ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD
  • CPU : MediaTek MT6752 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.7 GHz
  • GPU : Mali-T760MP2
  • RAM : 3 GB 
  • ROM : 32 GB รองรับการใช้งาน MicroSD 128 GB
  • กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า : 8 ล้านพิกเซล
  • การเชื่อมต่อ : Blutooth 4.0, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , NFC , Micro USB , GPS ,  A-GPS
  • แบตเตอรี่ : 2,420 mAh
  • ราคา : 10,900 บาท

เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบกับ Lenovo Vibe S1 โดดเด่นอยู่ภายใน อุปกรณ์ภายในกล่องนั้นจะประกอบด้วยเข็มจิ้มซิม,ฟิล์มกันรอยหน้าจอ,เคสกันรอยตัวเครื่องแบบใส,อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ และสายชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ กล่องของ Lenovo Vibe S1 นั้นเป็นกล่องทูโทนมีลักษณะเรียบง่ายตามสไตล์ยุคปัจจุบัน และมีโลโก้ Vibe พร้อมข้อความบอกว่ามีฟิล์มและเคสแถมมาให้ด้วยในกล่อง เอาหละครับเรามาเริ่มพูดถึงตัวเครื่องแบบเจาะลึกกันเลยดีกว่า ว่า Lenovo Vibe S1 นั้นจะน่าซื้อมาใช้งานขนาดไหน และจุดเด่นหรือจุดที่ต้องพัฒนาจะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย

จุดเด่น

– หน้าจอ Full HD ไร้กังวลเรื่องความคมชัด
– แรม 3 GB สามารถใช้งานแอพได้อย่างต่อเนื่อง
– ใช้งาน 3G/4G LTE ได้ทุกเครือข่าย
– ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา
– มีฟีเจอร์ดีๆ มาให้ได้ใช้งาน
– จัดการพลังงานได้ต่อนข้างดี

ข้อสังเกต

– มีแอพเด้งออกเป็นบางครั้ง
– การใช้งาน MicroSD นั้นทำได้จำกัด
– แบตเตอรี่มีความจุเพียง 2,420 mAh
-ไม่มีไฟ LED มาให้ในปุ่มควบคุมหลัก
– ในราคาใกล้เคียงยังมีรุ่นที่น่าสนใจอีกหลายรุ่นให้เลือก

บทสรุป

ในการใช้งานนั้น Lenovo Vibe S1 รุ่นนี้ถือว่าเป็นมือถือที่ใช้งานได้ดีเรื่องของการเล่นเกมนั้นสามารถเล่นได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ความลื่นไหลในเกมนั้นดีเกินตัว แทบไม่พบการกระตุกแต่อย่างใด รวมไปถึงการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นก็ทำได้อย่างเต็มความสามารถ การเล่นมัลติมีเดียก็สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ แบตเตอรี่ขนาด 2,420 mAh ที่ดูเหมือนจะน้อยแต่เมื่อได้ลองใช้งานแล้วพบว่าซีพียู MediaTek MT6752 นั้นกินพลังงานน้อยมากสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานต่อการชาร์จในแต่ละครั้ง เมื่อเทียบกับราคา 10,900 บาทแล้ว ถือว่ายังคุ้มถ้าจะซื้อรุ่นนี้เพราะอย่างน้อยก็ยังมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ มาเพิ่มเติมสีสันในการใช้งานให้ไม่น่าเบื่อและจำเจจนเกินไป
Editor : Nookies
82
BEST PRICE

Design

Lenovo VIBE-3

ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด

จับถือได้พอดีมือ

Lenovo VIBE-13
Lenovo VIBE 15

เริ่มกันที่ในด้านดีไซน์ของตัวเครื่องกันก่อนเลย Lenovo Vibe S1 เครื่องที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้เป็นรุ่นสีขาว ขนาดของตัวเครื่องกับหน้าจอขนาด 5 นิ้วนั้นเป็นขนาดที่พอเหมาะไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักเพียง 132 กรัมเท่านั้น ทำให้เรื่องของการจับถือนั้นทำได้ค่อนข้างดี ดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นออกแบบมาอย่างเรียบง่าย

ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้นจะประกอบด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้วความละเอียดแบบ IPS  Full HD  สีสันของหน้าจอจัดว่าสวยเลยเพราะหน้าจอของ Lenovo Vibe S1 มาพร้อมกับความหนาแน่นพิกเซลที่ 440 ppi ส่งผลให้ความคมชัดและสีสันของหน้าจอนั้นทำออกมาได้เต็มประสิทธิภาพของหน้าจอแบบ Full HD เรียกว่าเรื่องของความคมชัดและสีสันความสดนั้นผมให้ผ่านเลย

ด้านบนของหน้าจอนั้นจะประกอบไปด้วยกล้องถ่ายภาพถึง 2 ตัวด้วยกันกล้องตัวแรกมีความละเอียดขนาด 13 ล้านพิกเซลและกล้องตัวที่สองนั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซลโดยกล้องตัวที่ 2 นั้นจะช่วยเก็บรายละเอียดทำให้ภาพที่ออกมานั้นมีมิติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่ง Lenovo Vibe S1 นั้นเป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องหน้าคู่แบบนี้

ตรงกลางของด้านบนนั้นจะเป็นช่องลำโพงสนทนาโทรศัพท์ ใกล้กันจะเป็นเซนเซอร์สำหรับวัดแสงและระยะห่างที่จะช่วยปิดหน้าจอในขณะสนทนาเพื่อช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ และที่ด้านล่างของหน้าจอนั้นจะเป็นปุ่มควบคุมหลักทั้งสามปุ่ม ได้แก่ปุ่ม Home,Back และ Recent นั่นเองที่จะอยู่ในตำแหน่งมาตรฐานของมือถือทั่วไปที่จะวางปุ่มทั้งสามปุ่มที่ตำแหน่งนี้

แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง คือปุ่มควบคุมหลักของ Lenovo Vibe S1 นั้นไม่มีไฟ LED ใส่มาให้ด้วยทำให้การใช้งานในสถานที่ที่มีแสงน้อย ต้องอาศัยความเคยชินสักหน่อย เล่นไปซักพักก็น่าจะสามารถปรับตัวได้ ส่วนตัวผมถือว่าไม่ได้เป็นปัญหาที่ใหญ่อะไรมาก เพราะในการใช้งานจริงในทุกวันนี้ ก็อาศัยความเคยชินกันอยู่แล้ว และจะเห็นว่ายังมีมือถืออีกหลายรุ่นที่ผู้ผลิตไม่ได้ใส่ไฟ LED ในตำแหน่งของปุ่มควบคุมหลักมาให้ และผู้ใช้งานก็ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาจนมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อแต่อย่างใด

Lenovo VIBE-14

Lenovo VIBE-5
Lenovo VIBE-6

ด้านบนของตัวเครื่องนั้นจะเป็นช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.และไมค์ตัวที่สองที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกในขณะที่สนทนาโทรศัพท์ ด้านข้างของตัวเครื่องนั้นจะใช้โลหะทั้งสี่ด้านและขอบของตัวเครื่องนั้นจะเป็นแบบขอบมนที่ให้ความรู้สึกที่ดีเวลาสัมผัส ออกแบบตัวเครื่องได้สวยงาม และช่วยให้ตัวเครื่องนั้นดูมีความพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบไฮบริดที่เราสามารถเลือกว่าจะใส่ซิมหรือใช้งาน microSD เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะมือถือรุ่นนี้ไม่สามารถใช้งานแบบสองซิมไปพร้อมๆ กับใช้งาน MicroSD ส่งผลให้สิ่งนี้กลายเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ Lenovo Vibe S1 ที่อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อมาใช้งานได้

ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และที่ด้านล่างของตัวเครื่องที่สังเกตเห็นได้ชัดนั่นคือช่องลำโพงที่มาในดีไซน์แบบลำโพงคู่ แต่ลำโพงของ Lenovo Vibe S1 นั้นจะเป็นเพียงลำโพงตัวเดียว คือออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ เท่านั้น โดยส่วนตัวผมแอบชอบดีไซน์ของรุ่นนี้อยู่เหมือนกัน

ตรงกลางของด้านล่างเป็นช่อง microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และมาถึงด้านหลังของตัวเครื่องกันบ้าง เล็กน้อยดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่องของ Lenovo Vibe S1 นั้นจะมาในดีไซน์โค้งเล็กน้อยกำลังพองาม ด้านบนของด้านหลังจะเป็นกล้องขนาด 13 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ PDAF,BSI สำหรับการถ่ายภาพทั่วไป ด้านล่างของตัวกล้องจะเป็นแฟลชแบบ Dual Tone เพื่อการถ่ายภาพในที่แสงน้อยที่ดียิ่งขึ้น แสงแฟลชแบบ Dual Tone จะทำให้ผิวของแบบนั้นมีสีสันที่นุ่มนวลดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตาใต้ตำแหน่งของแฟลชนั้นจะเป็นโลโก้ Vibe ซึ่งเป็นชื่อตระกูลของรุ่นนี้นั่นเอง

Lenovo VIBE-4

ที่ด้านล่างจะเป็นโลโก้ของ Lenovo และ Lenovo Vibe S1 ที่ครอบทับด้วยกระจกแบบโค้งที่ด้านหลังตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องนั้นดูดีรอบด้านเลยทีเดียว ในแง่ของการพกพานั้นก็ทำได้อย่างง่ายดาย เพราะตัวเครื่องนั้นมีความหนาเพียง 7.8 มม. และมีน้ำหนักเพียง 132 กรัมเท่านั้น ดังนั้นเรื่องของการพกพานั้นทำได้ง่ายมากเลย ไม่เกะกะหรือเป็นภาระ สำหรับผู้ชายนั้นใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์เดินไปไหนมาไหนได้ถนัด ผู้หญิงก็ใส่กระเป๋าหิ้วไปตามที่ต่างๆ ได้เลยถือว่าเป็นมือถือที่พกพาง่ายมากรุ่นนึงเลยนะ ส่วนตัวผมใส่กางเกงยีนส์ยืดเวลานั่งขัดสมาธิแล้วมือถือหน้าจอประมาณ 5.5 นิ้วนั้นจะค้ำขาทำให้นั่งได้ไม่สะดวกมากเท่าที่ควรแต่เวลานำ Lenovo Vibe S1 ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์แล้วกลับพบว่าสามารถนั่งขัดสมาธิได้สบายๆ เลย

ส่วนหนึ่งมาจากการที่หน้าจอของ Lenovo Vibe S1 มีขนาดกำลังพอเหมาะที่ 5 นิ้วเท่านั้น ทำให้ในเรื่องของการพกพาหรือการใช้งานตามสไตล์ของผู้ใช้งานแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถใช้งานง่ายพกพาสะดวกประกอบกับมีเคสกันรอยตัวเครื่องมาให้ตั้งแต่แกะกล่องทำให้หมดกังวลเรื่องด้านหลังตัวเครื่องเป็นรอยไปได้เลย ทั้งๆ ที่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นเป็นกระจกอยู่แล้วแต่ยังแถมเคสและฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้ถือว่า Lenovo นั้นเอาใจใส่ลูกค้าได้ดีในระดับหนึ่งเลย พูดถึงเรื่องดีไซน์กันพอหอมปากหอมคอแล้ว มาพูดถึงเรื่องต่อไปนั่นคือเรื่องของซอฟท์แวร์กันบ้างดีกว่าครับ

Software

Lenovo VIBE 11

Lenovo Vibe S1 นั้นมาพร้อมกับ Android 5.0 ดังนั้นในเรื่องของซอฟท์แวร์ของตัวเครื่องนั้นมีมาตรฐานอย่างแน่นอนการดาวน์โหลดแอพต่างๆ บน Play Store นั้นก็ทำได้หายห่วงเพราะแอพใหม่ๆ นั้นยังรองรับ Android 5.0 อยู่ตามปกติ แอพที่ติดเครื่องมาอย่างเช่นแอพจาก Google นั้นก็มีมาให้ได้ใช้งานอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น Google , Gmail , Maps , YouTube , Google Drive , Play Music , Play Movies , Hangouts , Photo และ Google+

1-tile

หรือจะเป็นแอพอื่นๆ อย่างเช่น SHAREit,SYNCit,Guvara Music,UC Browser,Facebook,Twitter,Skype ซึ่งเป็นแอพพื้นฐานที่สำคัญในการใช้งาน Lenovo Vibe S1 ก็มีติดเครื่องมาให้เรียกว่าครบเลย และด้วยความจำตัวเครื่องนั้นมีถึง 32 GB ด้วยกัน ทำให้การดาวน์โหลดแอพนั้นทำได้อย่างเพลิดเพลินมากๆ และยังรองรับการใช้งาน MicroSD สูงสุดถึง 128 GB ดังนั้นเรื่องของพื้นที่ความจำนั้นเรียกว่าหายห่วงได้ในระดับนึงเลยล่ะครับ

ในเรื่องของ UI นั้นก็มีความสวยงาม ใช้งานง่าย ตามแบบฉบับของ Lenovo และ Android 5.0 ความยืดหยุ่นในการใช้งานนั้นก็อยู่ในระดับที่ไม่อึดอัด อย่างเช่น ธีมของตัวเครื่องที่ Lenovo นั้นใส่มาให้เลือกใช้งานนั้นก็มีอย่างหลากหลาย หากไม่ชอบหน้าตาเดิมๆ ที่ติดเครื่องมาก็ยังสามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ หรือหากไม่ชอบธีมที่มากับเครื่องก็ยังสามารถดาวน์โหลดธีมจาก Play Store

Feature

Lenovo VIBE-18

พูดถึงเรื่องของฟีเจอร์หรือลูกเล่นกันบ้างครับ  Lenovo Vibe S1 นั้นมาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่นและเป็นประโยชน์ในการใช้งานหลายฟีเจอร์ด้วยกัน แต่ผมจะขอพูดถึงฟีเจอร์ที่สำคัญๆ ที่เรานั้นจะได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน จะมีฟีเจอร์ไหนบ้างที่เป็นประโยชน์กับการใช้งานของเราไปติดตามได้เลยครับ

Screenshot_2015-12-22-21-05-00-253-horz

 

Quick Snap 

เป็นฟีเจอร์แรกที่ต้องพูดถึงเลย เพราะเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ในการใช้งาน เมื้อเปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้เราจะสามารถใช้งานกล้องถ่ายภาพได้อย่างทันใจ หลักการทำงานนนั่นคือการกดปุ่มเพิ่มเสียงหรือลดเสียง 2 ครั้งติดกัน กดปุ่มไหนก็ได้จะเพิ่มเสียงหรือลดเสียงก็แล้วแต่เราจากนั้น  Lenovo Vibe S1 จะทำการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ ที่น่าสนใจคือสามารถใช้ได้ในขณะที่ Lenovo Vibe S1 นั้นกำลังปิดหน้าจออยู่ แค่กดสองครั้งเท่านั้นก็จะถ่ายภาพได้ในทันที

ซึ่งเหมาะมากสำหรับเวลาที่เราต้องถ่ายรูปอะไรซักอย่างที่ต้องใช้ความเร็วสูงไม่มีเวลามานั่งปลดล็อคตัวเครื่องแล้วเลื่อนหาแอพกล้องถ่ายภาพ แต่ต้องขอบอกซักเล็กน้อยว่าเราไม่สามารถตั้งค่าอะไรได้เลย รวมไปถึงการโฟกัสขณะที่กล้องเปิดขึ้นมา เรียกว่าเปิดปุ๊บถ่ายปั๊บทันทีทำให้ในบางครั้งเราได้ภาพที่มืดเกินไปมาแทน แต่ก็แก้ไขง่ายๆ ด้วยการตั้งค่า ISO ไว้ล่วงหน้าซึ่งก็แล้วแต่สภาพแสงในแต่ละสถานที่ๆ เรานั้นถ่าย แต่ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ดังนั้นค่า Auto เดิมๆ ที่เครื่องตั้งค่ามาให้นั้นก็ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องปรับอะไรก็ได้หากพอใจกับภาพที่ Lenovo Vibe S1 นั้นถ่ายออกมา

Knock to light

เป็นฟีเจอร์ที่โดนใจกรรมการอย่างแน่นอน เพราะฟีเจอร์นี้นั้นจะเป็นการเปิดหน้าจอขึ้นมาด้วยการเคาะหรือสะกิดที่หน้าจอ 2 ครั้งเบาๆ  Lenovo Vibe S1 จะเปิดหน้าจอขึ้นมาให้เรานั้นได้ใช้งาน ข้อดีของฟีเจอร์นี้นั่นคือเราไม่ต้องใช้งานปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ในการปลุกหน้าจอขึ้นมาถือว่าเป็นการถนอมปุ่มกดไปในตัวอีกด้วยเพราะปุ่มเปิด/ปิดเครื่องนั้นถือว่ามีความสำคัญอันดับต้นๆ เลยเพราะหากปุ่มพังขึ้นมาเราก็ต้องวุ่นวายกับการซ่อมแซมตัวเครื่อง ทั้งเสียเวลาในการติดต่อศูนย์บริการ และอาจเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอีก ดังนั้นฟีเจอร์ Knock to light จะช่วยให้เรานั้นสามาถใช้งานปุ่มต่างๆ ไปได้อีกนานเลย

Screen Off Unlock

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรานั้นสามารถปลดล็อคตัวเครื่องได้ง่ายดายและรวดเร็วกว่าการปลดล็อคแบบปกติ เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เพียงแค่เรานั้นใช้นิ้วมือสไลด์บนหน้าจอจากด้านซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายตัวเครื่องของเรานั้นจะปลดล็อคให้เรานั้นได้ใช้งาน ซึ่งในกรณีนี้เราไม่ต้องกดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องเพื่อปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อนแล้วค่อยปลดล็อคตัวเครื่องเหมือนตามปกติ เรียกว่าเพิ่มความรวดเร็วในการปลดล็อคและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

Wide Touch

เป็นฟีเจอร์ที่คล้ายๆ กับ Assistive Touch บน iPhone ที่จะเรียกเมนูทางลัดขึ้นมาและจะมีเมนูย่อยอย่างเช่น เครื่องคิดเลข,กล้องถ่ายภาพ,ล็อคหน้าจอ และสามารถเปิดสวิตซ์ควบคุมการใช้งานตัวเครื่องเช่น Wi-Fi,Bluetooth,GPS และนอกจากนั้นเรายังสามารถตั้งค่าให้แตะปุ่มลัดนี้ค้างไว้เพื่อทำการปิดหน้าจอได้อีกด้วยทำให้เรานั้นไม่ต้องใช้งานปุ่มเปิด/ปิดเครื่องในการใช้งานเลย อีกทั้งเรานั้นยังสามารถตั้งค่าขนาดของปุ่มพิเศษนี้ได้ตามความต้องการอีกด้วย

Camera

Lenovo VIBE-10พูดถึงเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันบ้าง Lenovo Vibe S1 มาพร้อมกล้องขนาด 13 ล้านพิกเซลที่ด้านหลังของตัวเครื่อง เรื่องของความคมชัดนั้นเรียกว่าทำได้ดีทีเดียวครับ สีสันที่ออกมานั้นมีความสดใส คุณภาพของภาพนั้นจัดว่าโอเคเลยและยังมีระดับความฟรุ้งฟริ้งให้ปรับอีกถึง 7 ระดับแต่ทีเด็ดของ Lenovo Vibe S1 นั้นไม่ได้อยู่ที่กล้องหลังแต่อยู่ที่กล้องหน้าเพราะ Lenovo Vibe S1 นั้นมาพร้อมกับกล้องหน้าคู่ที่ทำขึ้นเพื่อมิติใหม่ในการถ่ายภาพแบบ Selfie ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือ Cut out ที่ช่วยตัดสิ่งที่ไม่ต้องการในภาพออกไปซึ่งเป็นลูกเล่นที่เจ๋งมากเลย และเรายังสามารถนำภาพที่เรานั้นตัดออกมาไปใส่ไว้ในภาพอื่นๆ ได้อีกด้วย หรือจะนำภาพที่ตัดออกมานั้นไปใช้งานใน Photoshop หรือโปรแกรมแต่งภาพอื่นๆ ก็แล้วแต่คุณเลย

Screenshot_2015-12-23-02-08-56-651-horzScreenshot 2015 12 23 02 09 57 434 horz1

จากภาพดังกล่าวจะเห็นเลยว่าฟีเจอร์กล้องหน้าของ Lenovo Vibe S1 นั้นเจ๋งขนาดไหน จากภาพนั้นผมปรับความฟรุ้งฟริ้งที่ระดับ 7 หน้าเลยออกมาเนียนอย่างที่เห็น เรียกว่าเนียนแบบไร้ริ้วรอย,สิว,ฝ้า,กระ แบบไม่ต้องไปพบแพทย์เลย โหมด Cut out ก็ทำให้ภาพถ่ายของเรานั้นมีสีสันขึ้นไปอีก ด้วยการตัดภาพของเราออกไปใส่ภาพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องถ่ายภาพหรือภาพที่เราดาวน์โหลดมาก็สามารถนำรูปที่เราตัดไปใส่ไว้ได้ นี่คือประโยชน์ของการมีกล้องหน้าสองตัวนั่นเองที่ทำให้ได้ถาพออกมาในลักษณะนี้ และนี่คือภาพตัวอย่างที่ถ่ายจากกล้องของ Lenovo Vibe S1

Performance

Lenovo VIBE-12

พูดถึงเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานกันบ้าง Lenovo Vibe S1 มาพร้อมกับซีพียู MediaTek MT6752 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.7 GHz ที่ถือว่าเป็นซีพียูระดับกลางๆ แต่จุดเด่นของซีพียู MediaTek นั่นคือเรื่องของการประหยัดพลังงานนั่นเอง ซึ่งจากการใช้งานก็พบว่าในเรื่องของการเล่นเกมนั้น Lenovo Vibe S1 ทำได้ในระดับพอใช้ซีพียูมีการประมวลผลผิดเพี้ยนในบางครั้ง แต่ก็ไม่ถึงขั้นร้ายแรงแต่อย่างใดแค่ออกเกมแล้วเข้าใหม่เท่านั้นเอง ในเรื่องของความลื่นไหลนั้นเรียกว่าซีพียู MediaTek MT6752 ที่ใช้ใน Lenovo Vibe S1 นั้นเล่นเกมได้ลื่นกว่าซีพียู Snapdragon 615 อย่างเห็นได้ชัดเจนเลย

และเมื่อทำการทดสอบด้วยแอพทดสอบประสิทธิภาพยอดฮิตอย่าง AnTuTu Benchmark Version 6.0 พบว่า Lenovo Vibe S1 สามารถทำคะแนนได้ที่ 49,994 คะแนน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ แรมที่ให้มาถึง 3 GB นั้นก็ทำให้สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อทำการทดสอบด้วยเกมอย่าง Modern Combat 5,Subway Surf,Sniper Fury และ Rayman Adventures พบว่าในบางครั้งนั้นมีการเด้งออกจากแอพและต้องเล่นใหม่หมด

Screenshot_2015-12-10-23-46-54-078-tile

และสิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณว่า Lenovo Vibe S1 นั้นอาจจะไม่เหมาะกับการเล่นเกมสักเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าในการเล่นเกมนั้น Lenovo Vibe S1 รุ่นนี้สามารถเล่นได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ความลื่นไหลในเกมนั้นดีเกินตัว แทบไม่พบการกระตุกแต่อย่างใด รวมไปถึงการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นก็ทำได้อย่างเต็มความสามารถ การเล่นมัลติมีเดียนั้นก็สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ แบตเตอรี่ขนาด 2,420 mAh ที่ดูเหมือนจะน้อยแต่เมื่อได้ลองใช้งานแล้วพบว่าซีพียู MediaTek MT6752 นั้นกินพลังงานน้อยมากสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานต่อการชาร์จในแต่ละครั้ง เมื่อเทียบกับราคา 10,900 บาทแล้ว ถือว่ายังคุ้มถ้าจะซื้อรุ่นนี้เพราะอย่างน้อยก็ยังมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ มาเพิ่มเติมสีสันในการใช้งานให้ไม่น่าเบื่อจนเกินไป ประกอบกับตัวเครื่องนั้นน้ำหนักเบาพกพาง่าย ทำให้มือถือเครื่องนี้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของใครหลายๆ คน  ;-)

Lenovo VIBE-20

Gallery

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก