Lenovo เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ออกมาอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหรือเดสก์ท๊อป พีซี รวมไปถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่นับวันจะยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเสมอ และถ้าพูดถึงแท็บเล็ตในปัจจุบันนี้หลายคนอาจจะนึกถึงแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android เป็นส่วนใหญ่ และอาจทำให้ลืมคิดไปว่าแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows นั้น Lenovo ก็ยังมีให้เลือกหลายตัวเลือกเช่นกัน ทั้งตัวเลือกด้านสเปค และด้านราคา
ซึ่งราคาของตัวเครื่องนั้นก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายเหมือนเช่นเคย และวันนี้ผมก็มีแท็บเล็ตสุดคุ้มจาก Lenovo ที่เป็นน้องใหม่ล่าสุดที่นอกจะพกพาความคุ้มค่ามาด้วยแล้วในเรื่องของราคาวางจำหน่ายนั้นยังน่าสนใจอีกด้วย และแท็บเล็ตที่ผมกล่าวถึงและจะนำมารีวิวให้ได้ติดตามกันนั่นคือ Lenovo MIIX 300 นั่นเอง ซึ่งสเปคของตัวเครื่องจะมีสเปคดังนี้
สเปค Lenovo MIIX 300
- หน้าจอ IPS ขนาด 10.1 นิ้วความละเอียดแบบ WXGA
- ซีพียู Intel Atom Z3735F ความเร็ว 1.3 GHz
- แรม 2 GB DDR3L
- หน่วยความจำภายใน 64GB
- กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งาน Micro SD ,Micro-HDMI และ Micro USB
- รองรับการเชื่อมต่อ Docking Keyboard
- มีพอร์ท USB 2.0 ให้ 2 พอร์ทเมื่อเชื่อมต่อผ่าน Dock
- แบตเตอรี่ความจุ 6,500 mAh
- ราคา 8,990 บาท
- สเปคเต็มๆ Lenovo MIIX 300
จุดเด่น
– เชื่อมต่อ Docking Keyboard ได้
– มีพอร์ท USB แบบ Full Size 2 พอร์ท
– รองรับการใช้งาน USB OTG
– มาพร้อม Windows 10 ของแท้
– รองรับการใช้งาน Micro SD
– รองรับการใช้งาน Mini HDMI
ข้อสังเกต
– น้ำหนักเมื่อเสียบ Dock จะอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม
– มีอาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้ในบางครั้ง
บทสรุป
BEST PRICE
Design
Lenovo MIIX 300 มาพร้อมดีไซน์สวยงามตามแบบฉบับโน้ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งสาเหตุที่ต้องดีไซน์แบบ Notebook นั่นก็เพราะว่า Lenovo 300 นั้นรองรับ Docking Keyboard หรือคีย์บอร์ดแยกนั่นเอง ซึ่งผมจะกล่าวถึงในภายหลัง สีของตัวเครื่องจะเป็นสีดำที่ให้ความเรียบหรู ผิวสำผัสของตัวเครื่องจะเป็นแบบ Soft Touch ที่ให้ความรู้สึกลื่นมือเวลาสัมผัส แต่ข้อเสียของผิวสัมผัสแบบนี้คือเมื่อใช้ไปนานๆแล้วอาจเกิดการเสื่อมสภาพขึ้นได้ตามเวลาการใช้งาน แต่ข้อดีของผิวสัมผัสแบบนี้คือ สามารถทนรอยขีดข่วนได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่งถ้าเกิดรอยขูดขีดขึ้นก็เพียงใช้นิ้วมือถูในบริเวณที่เป็นรอย รอยต่างๆก็จะค่อยๆ หายไปเองได้อย่างง่ายดาย
ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้นจะเป็นหน้าจอ Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้วบนความละเอียดแบบ WXGA ที่สามารถดูวีดีโอระดับ Full HD ได้สบายๆและที่หน้าจอนั้นจะมีขอบจอตามสไตล์ Notebook ช่วยให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวกในโหมด Tablet และที่ขอบของหน้าจอจะเป็นวัสดุคล้ายโลหะ ที่ด้านหน้าของหน้าจอจะมีกล้องขนาด 2 ล้านพิกเซลอยู่ที่ด้านบนของหน้าจอ จะว่าไปแล้วดีไซน์ของ Lenovo MIIX 300 หากเชื่อมต่อ Docking Keyboard แล้วเหมือนจะเป็น Notebook มากกว่าเป็นแท็บเล็ตเมื่อดูจากภาพรวมของตัวเครื่อง
ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีโลโก้ของ Lenovo เด่นชัดอยู่ที่ด้านบน นอกจากนี้ยังมีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิเซลอยู่ที่ตรงกลางของด้านบน และถัดไปจะเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ซึ่งปุ่มควบคุมทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านบนทั้งหมด และด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.,ช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่,ช่อง Micro USB และช่อง Micro-HDMI สำหรับต่อจอแยก และถัดไปจะเป็นช่องสำหรับใส่ MicroSD เพื่อใช้เป็นหน่วยความจำสำรอง ในกรณีที่ความจำหลักของตัวเครื่องนั้นไม่พอต่อการใช้งานก็สามารถใส่เพิ่มได้
ด้านข้างของตัวเครื่องนอกจากจะช่วยเพิ่มความบางให้กับตัวเครื่องและยังเพื่อให้ได้ดีไซน์ที่สวยงามมากยิ่งขึ้นอีกด้วยและที่ด้านล่างนั่นจะมีโลโก้ Windows และ Intel ติดอยู่ อีกทั้งยังมีลำโพงคู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง เสียงที่ออกมาจากลำโพงนั้นไม่ดังมากจนเกินไปและไม่เบาจนเกินไปเสียงมีความพอดี และเมื่อเปิดที่ความดังสูงสุดก็ไม่พบปัญหาเสียงแตกแต่อย่างใด
และที่ใต้ของตัวเครื่องนั้นจะเป็นช่องสำหรับใช้เชื่อมต่อ Docking Keyboard หรือคีย์บอร์ดแยกที่เรียกว่าเป็นส่วนที่สองของตัวเครื่อง และเราสามารถเปิดใช้งานโหมดแท็บเล็ตแบบอัตโนมัติได้จากการตั้งค่า ซึ่งเมื่อถอดคีย์บอร์ดออกจากตัวเครื่องแล้ว Lenovo MIIX 300 จะเข้าสู่โหมดแท็บเล็ตโดยจะแสดงหน้าจอ Live Tiles เหมืนที่มีอยู่ใน Windows 8 ให้เรานั้นได้ใช้งาน และเมื่อเชื่อมต่อ Docking Keyboard กับตัวเครื่อง Lenovo MIIX 300 ก็จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเหมือนกับ Notebook ให้เราได้ใช้งานในทันที ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
โดยคีย์บอร์ดนั้นจะเป็นคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ทั่วไปแต่คีย์บอร์ดนั้นจะมาในรูปแบบของ Accutype Keyboard ที่จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการพิมพ์ให้มากยิ่งขึ้นพิมพ์งานหรือเอกสารต่างๆได้อย่างเพลิดเพลิน และที่ด้านข้างทั้งสองด้านของคีย์บอร์ดจะเป็นพอร์ต USB แบบ Full Size 2 พอร์ตด้วยกันซึ่งสามารถใช้เชื่อมต่อกับฮาร์ดดิสก์ภายนอกได้ หรือจะใช้เชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดแบบ USB และเมาส์ Wireless ก็จะได้ประสบการณ์แบบเดียวกับการใช้ Notebook และที่สำคัญคือมี Touchpad ให้ได้ใช้งานเหมือน Notebook ทั่วไป ด้านบนของคีย์บอร์ดนั้นจะมีปุ่มกดเพื่อทำการปลดล็อคตัวเครื่องออกจากคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ต ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มตัวเลือกในการใช้งานให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นข้อดีของรุ่นนี้
แต่ที่น่าสังเกตคือเมื่อเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด จะทำให้ตัวเครื่องโดยรวมนั้นมีน้ำหนักรวมกันถึง 1.5 กิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งพอๆกับ Notebook แบบ Ultrabook ขนาดปกติ แต่เมื่อถอดแยกออกจากคีย์บอร์ดแล้วถือว่าน้ำหนักของตัวเครื่องนั่นรู้สึกได้ว่าไม่หนักมากเท่าไรนัก ในแง่ของการใช้งานเป็นแท็บเล็ตในบ้าน หรือพกพาก็ถือว่า Lenovo MIIX 300 ยังตอบโจทย์ตรงนี้อยู่ครับ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าในด้านการพกพานั้น Lenovo MIIX 300 ถือว่าทำได้ค่อนข้างสะดวก แม้ว่าเมื่อนำตัวเครื่องมาเชื่อมต่อเข้ากับคีย์บอร์ดแล้วจะทำให้มีน้ำหนักรวมถึง 1.5 กิโลกรัมก็ตาม เพราะเนื่องจากหน้าจอนั้นมีขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้วจึงทำให้เรื่องน้ำหนักของตัวเครื่องนั้นพอที่จะมองข้ามไปได้ ตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัตสามารถถือไปได้ทั้งตัวเครื่องและคีย์บอร์ด หรือจะถอดคีย์บอร์ดออกแล้วถือไปแต่ตัวเครื่องก็ยิ่งง่ายขึ้นไปอีก เพราะแค่ตัวเครื่องเพียงอย่างเดียวนั้นมีน้ำหนักไม่มากเท่าไรนัก เพราะว่าในความเป็นจริงแล้วตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ใช้งานเป็นแบบแท็บเล็ตนั่นเอง
แต่เชื่อว่าน้อยคนที่จะถือไปด้วยมือเปล่าเพราะฉะนั้นเรื่องใส่กระเป๋าพกพาไปตามที่ต่างๆนั้นหมดห่วงไปได้เลยครับ พกพาได้สะดวกมากๆ แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กน้อยตรงที่ผิวผัสแบบ Soft Touch ของตัวเครื่องนั้นถ้าไม่ได้ใช้ไปนานๆจะมีการเสื่อมสภาพทำให้เกิดความเหนียวขึ้นที่พื้นผิว อาจถึงขั้นเหนียวติดมือเลยล่ะครับ แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานทุกวันอยู่แล้วนั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ สรุปว่าดีไซน์โดยรวมของตัวเครื่องนั้นสวยมากผิวสัมผัสของตัวเครื่องนั้นก็ดีมากอีกเช่นกัน
Software
มาที่เรื่องของซอฟท์แวร์กันบ้างครับ Lenovo MIIX 300 นั้นมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 ของแท้แบบ 32-bit พูดอีกอย่างก็คือเหมือน Windows ที่เราใช้กันตามปกติ แต่ในรุ่นนี้นั้นจะเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ก็สามารถพิมพ์ภาษาไทยได้ตามปกติ แค่เราจะเปลี่ยนเมนูของตัวเครื่องเป็นภาษาอื่นไม่ได้เท่านั้น ส่วนการใช้งานโปรแกรมต่างๆ นั้นสามารถใช้งานได้เหมือน Notebook ทั่วไป ลงโปรแกรมที่นามสกุล .exe ได้เหมือน Desktop PC และ Notebook หรือจะใช้แอปพลิเคชันบน Windows Store ก็ได้เช่นกัน ทำให้ Lenovo MIIX 300 มีการใช้งานที่ยืดหยุ่นกว่า แท็บเล็ตทั่วไป
Lenovo MIIX 300 จะมาพร้อมกับโปรแกรม Microsoft Office Mobile ให้เรานั้นได้ใช้กันอย่างฟรีๆ เรียกว่าสำหรับ Microsoft Office Mobile นั้นมีฟังก์ชั่นพื้นฐานครบครัน และหากต้องการใช้งานขั้นสูง Lenovo MIIX 300 นั้นมาพร้อม Office 365 มาให้ใช้งานกันฟรีๆถึงหนึ่งเดือนอีกด้วย ซึ่งการใช้งานทั่วไปนั้นก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดีตามสไตล์ของ Windows ที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงนั่นเอง โดย Microsoft Office ที่อยู่บน Lenovo MIIX 300 สามารถเปิดใช้งานแก้ไขเอกสารได้เช่นเดียวกับที่ใช้ใน Notebook ทั่วไป อีกทั้งยังสามารถลง Font เพิ่มเติมได้ตามความต้องการ
Performance
มาพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพของตัวเครื่องกันบ้างครับLenovo MIIX 300 มาพร้อมซีพียู Intel Atom Z3735F ความเร็ว 1.83GHz เรื่องความร้อนในการใช้งานนั้น Lenovo MIIX 300 ที่มาพร้อมกับ Windows 10 ที่สามารถจัดการพลังงานได้ดีกว่า Windows เวอร์ชั่นก่อนๆ อีกทั้งยังสามารถรีดประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้อย่างสูงสุด เพื่อประสบการณ์ในการใช้งาน
ในด้านกราฟฟิกนั้น Lenovo MIIX 300 จะใช้ Intel HD Graphics ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้นั้นถือว่า Lenovo MIIX 300 นั้นทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ใช้งานในระดับปานกลางได้เป็นอย่างดี การใช้งานอย่างเช่น เว็บบราวเซอร์นั้นก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล สามารถเข้าเว็บไซต์ต่างๆได้อย่างราบรื่นเหมือน Notebook ปกติทั่วๆไป
และจากการเล่นเกมจาก Windows Store ก็พบว่าสามารถเล่นได้ตามปกติแต่ด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตที่เน้นใช้ในงานทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นการเล่นเกมหรือการใช้งานโปรแกรมที่มีการประมวลผลสูงๆอาจตจะเกิดปัญหาการใช้งาน อย่างเช่น ปัญหาการกระตุก หรือเครื่องหน่วงช้า ตามมาบ้างเป็นบางครั้ง แต่โดยรวมแล้วสามารถใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี
แต่หากจะเล่นเกมที่นิยมเล่นกันบนพีซี โน้ตบุค ปกติแล้ว Lenovo MIIX 300 อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในส่วนนั้นได้ เพราะด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตนั่นเองอาจจะด้วยเหตุผลทางด้านราคาของตัวเครื่องจึงทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องนั้นทำงานได้ในระดับปานกลางเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่มากมายนัก เพราะเพียงเท่านี้ก็คุ้มค่ามากๆ แล้ว
Lenovo MIIX 300 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 6,500 mAh ที่เรียกว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างเพียงพอ เมื่อเทียบกับ Notebook อื่นๆที่อาจให้แบตเตอรี่มาเพียงแค่ 4000-5000 mAh เท่านั้น โดยแบตเตอรี่ของ Lenovo MIIX 300 นั้นสามารถใช้งานได้ราว 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง ซึ่งในการใช้งานจริงอาจจะต้องเสียบสายชาร์จระหว่างการใช้งานอยู่บ้าง และสายชาร์จของ Lenovo MIIX 300 นั้นจะเป็นสายชาร์จแบบ USB แต่จะมีหัวเสียบแบบที่ใช้ใน Notebook ขนาดปกติทั่วไป และสิ่งที่พิเศษมากๆในรุ่นนี้คือมาพร้อม Windows 10 ของแท้จาก Microsoft มาอยู่ในแท็บเล็ตคุ้มค่าราคา 8,990 บาท