เป็นข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีนักสำหรับผู้ที่กำลังใช้งาน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max เนื่องจากมีผู้ใช้หลายราย พบว่าหลังจากเครื่องหมดประกันในปีแรก ก็เจอปัญหาหน้าจอพัง ไม่ว่าจะเป็น ภาพล้มเปิดไม่ขึ้น, จอขึ้นติดเขียวติดแดง รวมไปถึงจอขึ้นเป็นเส้น ที่สำคัญคือปัญหานี้เริ่มพบกันในวงกว้าง และเป็นกันทั่วโลกด้วยครับ

เรื่องราวมันเริ่มจากการที่มีผู้โพสต์ลงในเว็บบอร์ดของ macrumors ว่า iPhone 13 Pro Max ของเขานั้นเกิดปัญหามีแสงสีแดงลอดบริเวณด้านข้างหน้าจอ หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าเจอปัญหาเกี่ยวกับหน้าจอของ iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max ที่ใช้อยู่เช่นกัน ซึ่งก็เจอปัญหาเกี่ยวกับหน้าจอที่แตกต่างกันไป แต่สรุปง่าย ๆ ก็คือเกิดอาการจอพังหลังประกันหมดนั่นล่ะครับ

ไม่ใช่แค่ผู้ใช้ในต่างประเทศที่พบปัญหาดังกล่าว แต่ยังรวมถึงในประเทศไทยก็พบปัญหา iPhone 13 Pro จอพังค่อนข้างถี่ ในระดับที่ว่าร้านรับซื้อโทรศัพท์มือสอง ประกาศงดรับซื้อ iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max ที่เครื่องหมดประกันศูนย์ชั่วคราว จนกว่าจะมีประกาศจากทาง Apple เสียก่อน เนื่องจากเจอปัญหาจอพังค่อนข้างบ่อยนั่นเอง

โดย iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max ที่พบปัญหาจอพัง ส่วนมากจะเป็นเครื่องที่มีล็อตการผลิตในช่วงเดือนกันยายน 2564 – ตุลาคม 2564 หรือว่ากันง่าย ๆ ก็คือเครื่องล็อตแรก ๆ นั่นเองครับ (ล็อตปี 2565 ก็พบปัญหาบ้าง แต่น้อยกว่า) แล้วก็ด้วยประกันตัวเครื่อง iPhone ที่มีการรับประกัน 1 ปี (เว้นแต่จะต่อ Apple Care+ เป็น 2 ปี) ทำให้บรรดาเครื่องล็อตแรกที่ประกันหมด แล้วจอพังขึ้นมา จะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมทันที
*วิธีการค้นหาล็อตการผลิต สามารถดูได้จากหลังกล่อง iPhone ตรงหัวข้อ วัน เดือน ปี ที่ผลิต

สำหรับค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหน้าจอแท้ของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max จะมีค่าใช้จ่ายสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 12,499 บาทเลยทีเดียว ถือเป็นจำนวนเงินที่สูงพอสมควร แต่กรณีที่เครื่องยังอยู่ในประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันปีแรก หรือซื้อ Apple Care+ เอาไว้ก็ตาม จะไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหน้าจอ

อย่างไรก็ตามก็ต้องมารอดูกันอีกทีว่า Apple จะมีออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ แต่โดยปกติแล้ว หากมีปัญหาเฉพาะรุ่น และมีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Apple แล้ว ก็มักจะเคลมได้โดยไม่มีเงื่อนไข แม้ประกันจะหมดแล้วก็ตาม คล้ายกับกรณีที่ MacBook บางรุ่น พบปัญหาเกี่ยวกับเมนบอร์ด แม้เครื่องจะหมดประกันไปนานแล้วก็ยังสามารถเคลมได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายครับ