ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน เวลา 5:00 น. ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 mini จะเปิดให้ลูกค้าสั่งซื้อล่วงหน้าผ่าน apple.com แอพ Apple Store รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์หลายราย ทั้ง 2 รุ่นรองรับย่านความถี่ 5G มากที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟน รวมถึงมีการประกาศอย่างเป็นทางการด้วยว่า iPhone 12 Pro Max วางจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่?
โดย iPhone 12 Pro Max มีระบบกล้องระดับโปรที่ล้ำหน้าที่สุดและจอภาพที่ใหญ่ที่สุดบนiPhone ขณะที่ iPhone 12 mini เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เล็กและบางเบาที่สุดในโลก ซึ่งมาพร้อมกับจอภาพแบบขอบจรดขอบ เรียกได้ว่าขนาดกะทัดรัดแต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำหน้าของ iPhone 12 และ iPhone 12 รุ่นต่างๆ ยังมาพร้อมกับ MagSafe ซึ่งทำให้ชาร์จแบบไร้สายได้ อีกทั้งยังมีระบบนิเวศของอุปกรณ์เสริมแบบใหม่ที่ยึดติดกับ iPhone ได้อย่างง่ายดาย
iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 mini จะเปิดตัวในกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคในวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน
iPhone 12 Pro Max
iPhone 12 Pro Max ยกระดับนวัตกรรมไปอีกขั้นสำหรับผู้ที่ต้องการประโยชน์สูงสุดจาก iPhone จอภาพ Super Retina XDR display มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.7 นิ้ว แต่ยังคงขนาดเกือบจะเท่ากับ iPhone 11 Pro Max นับว่าเป็นจอภาพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone อีกทั้งยังมีความละเอียดสูงสุดที่เกือบ 3.5 ล้านพิกเซล iPhone 12 Pro Max มีดีไซน์ใหม่แบบขอบแบนพร้อมด้วยแถบสแตนเลสสตีลอันสวยงามเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม เข้าคู่กับด้านหลังแบบกระจกผิวด้านที่ตัดแต่งรูปทรงมาอย่างแม่นยำ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีคือ สีกราไฟต์, สีเงิน, สีทอง และสีแปซิฟิกบลู iPhone 12 Pro Max มาพร้อมกับมาตรฐาน IP68 ชั้นแนวหน้าของวงการจึงสามารถทนน้ำที่ระดับความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที3 อีกทั้งยังมีหน้าจอแบบ Ceramic Shield ที่สามารถทนต่อการตกกระแทกได้มากกว่าเดิม 4 เท่า นับว่ามีความคงทนเพิ่มขึ้นจาก iPhone รุ่นอื่นแบบก้าวกระโดด
iPhone 12 Pro Max แบบใหม่หมดมีระบบกล้องที่ดีที่สุดใน iPhone รวมถึงมีกล้องอัลตร้าไวด์ที่มีมุมมองภาพ 120 องศาและกล้องเทเลโฟโต้ที่มีทางยาวโฟกัส 65 มม. ซึ่งเพิ่มช่วงการซูมแบบออปติคัลจาก 4 เท่าเป็น 5 เท่า กล้องไวด์ใหม่มาพร้อมกับระบบ OIS ที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์เป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟน เพื่อให้มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ดีขึ้นและด้วยรูรับแสงขนาด ƒ/1.6, เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม 47 เปอร์เซ็นต์ และ พิกเซล 1.7μm ที่ใหญ่ขึ้นช่วยให้ถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดีกว่าเดิม 87 เปอร์เซ็นต์ นับว่าเป็นข้อดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone และเมื่อใช้ร่วมกับ A14 Bionic, iPhone 12 Pro Max ก็ขับเคลื่อนคุณสมบัติด้านการประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์อันน่าทึ่งอย่างโหมดกลางคืน, Deep Fusion, HDR อัจฉริยะ 3, วิดีโอ HDR ที่ถ่ายในแบบ Dolby Vision และ Apple ProRAW แบบใหม่หมด เพื่อให้สามารถควบคุมสีสัน, รายละเอียด และช่วงไดนามิกได้อย่างสร้างสรรค์ และสแกนเนอร์ LiDAR ใหม่ก็ช่วยให้ออโต้โฟกัสได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 6 เท่าในสภาวะแสงน้อย สามารถถ่ายภาพบุคคลในโหมดกลางคืนได้ และมอบประสบการณ์ความจริงเสริม (AR) ที่สมจริงกว่าเดิม
iPhone12 mini
iPhone 12 mini ขนาด 5.4 นิ้ว ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เล็ก บาง และเบาที่สุดในโลก มาพร้อมดีไซน์ใหม่อันสวยงามที่อัดแน่นไปด้วยความสามารถใหม่ๆ ที่ล้ำหน้า iPhone 12 mini มีวางจำหน่ายในห้าสีสันสดใส ได้แก่ น้ำเงิน เขียว ดำ ขาว และ(PRODUCT)RED8 และนำเทคโนโลยีทั้งหมดที่มีอยู่ใน iPhone 12 มาไว้ในดีไซน์ขนาดกะทัดรัดเกินคาดและและจอภาพSuper Retina XDR แบบขอบจรดขอบที่สวยงาม นอกจากนี้ iPhone 12 mini ยังมีหน้าจอแบบ Ceramic Shield ใหม่ ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน พร้อมความสามารถในการทนน้ำระดับ IP68 ชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม
iPhone 12 mini มาพร้อมระบบกล้องคู่ใหม่อันทรงพลัง รวมถึงกล้องอัลตร้าไวด์กว้างพิเศษ และกล้องไวด์เจ็ดชิ้นเลนส์ใหม่ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.6 ซึ่งกว้างที่สุดใน iPhone ทั้งหมด จึงรับแสงได้ดีขึ้น 27% สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอในสภาพแสงน้อย A14 Bionic ซึ่งเป็นชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟนช่วยมอบคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพเชิงคำนวณอันทรงพลังแบบใหม่บน iPhone 12 mini ซึ่งรวมถึง HDR อัจฉริยะ 3, โหมดกลางคืน และ Deep Fusion บนกล้องทุกตัว และอีกมากมายขณะเดียวกันแบตเตอรี่ก็ยังคงมีระยะเวลาการใช้งานที่ดีเยี่ยม iPhone 12 mini บันทึกวิดีโอที่มีคุณภาพสูงสุดในสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังรองรับการบันทึกวิดีโอ HDR ด้วย Dolby Vision ที่ 4K ในความเร็วสูงสุด 30 fps
ช็อปได้หลายวิธี
สามารถซื้อได้ที่สาขาต่างๆ ของ Apple Store และ Apple Store Online ลูกค้าที่ซื้อ iPhone 12 Pro Max, และ iPhone 12 mini จะมีทางเลือกเพิ่มเติมในการรับผลิตภัณฑ์ใหม่โดยตรงจาก Apple อย่างปลอดภัย ทางเลือกในการซื้อที่ออกแบบมาเป็นพิเศษนี้ให้บริการทางออนไลน์ หรือในร้านค้า ซึ่งรวมถึงการแชทกับ Apple Specialist ที่จะเริ่มทางออนไลน์และสิ้นสุดด้วยบริการจัดส่งที่รวดเร็วและไม่มีค่าใช้จ่าย การไปที่ร้าน Apple Store สาขาต่างๆ เพื่อรับเซสชั่นตัวต่อตัวกับ Specialist รวมทั้งยังมีทางเลือกในการรับสินค้าที่ร้าน
iPhone 12 mini และ iPhone 12 Pro Max วางจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่?
iPhone
- iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max วางจำหน่ายในไทย ในวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน
- ลูกค้าในออสเตรเลีย, จีน, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 40 ประเทศและภูมิภาคจะสามารถสั่งซื้อ iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 mini ล่วงหน้าได้ในวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 5:00 น. ตามเวลาแปซิฟิก และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน ลูกค้าในโคลอมเบียและมาเลเซีย จะสามารถสั่งซื้อ iPhone 12 ทุกรุ่น ได้แก่ iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ในวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน
- iPhone 12 mini และ iPhone 12 Pro Max จะวางจำหน่ายในบราซิล, เกาหลีใต้ และอีกกว่า 25 ประเทศและภูมิภาคในวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน
- ลูกค้าสามารถใช้สาย USB-A เป็น Lightning ที่มีอยู่เดิม และอะแดปเตอร์แปลงไฟเพื่อชาร์จ iPhone 12 ได้ทุกรุ่นการชาร์จเร็วสามารถทำได้ด้วยสาย USB-C เป็น Lightning ที่มีมาให้แล้วในกล่อง ซึ่งใช้กับอะแดปเตอร์แปลงไฟUSB-C ที่มีอยู่เดิม และพอร์ตของคอมพิวเตอร์ได้
ร้านค้าปลีก
- ลูกค้าสามารถรับบริการด้านการเลือกซื้อสินค้าและความช่วยเหลือต่างๆ ในแบบเดียวกันได้ที่ apple.com/th/shop, ในแอพ Apple Store และที่ Apple Store สาขาต่างๆ ลูกค้าสามารถพูดคุยกับ Apple Specialist เพื่อรับความช่วยเหลือในการซื้อสินค้า รับบริการสนับสนุน หรือเลือกรับสินค้าที่ Apple Store และขอแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th/retail เกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยรวมทั้งบริการที่มีให้ในแต่ละสาขาที่ลูกค้าสะดวก
- ลูกค้าสามารถจองเซสชั่นแบบตัวต่อตัวกับ Specialist ที่ Apple Store เพื่อรับความช่วยเหลือในการเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่ แผนของผู้ให้บริการเครือข่าย หรือบริการด้านการเงินที่เหมาะสำหรับลูกค้าแต่ละราย หลังจากที่ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์ Apple ใหม่แล้ว เซสชั่นส่วนบุคคลแบบออนไลน์จะช่วยให้ลูกค้าสามารถนัดหมายเซสชั่นกับ Specialist ฟรีเพื่อรับคำแนะนำว่าอุปกรณ์ใหม่นั้นทำอะไรได้บ้าง ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานไปจนถึงเคล็ดลับสำคัญในหัวข้อที่ลูกค้าต้องการ