ใกล้การเปิดตัวของ iPhone 6 เข้าไปทุกที เชื่อว่าคงมีไม่น้อยที่วางแผนไว้ว่าจะขาย iPhone 5s หรือ iPhone เครื่องที่ใช้อยู่ปัจจุบันไปซื้อ iPhone 6 ตัวใหม่ ซึ่งก่อนที่จะขายนั้น ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ดีใช้เสร็จ ก็ไปวางขายได้เลยนะครับ เพราะถ้าอยากจะได้ราคาดี ก็ต้องมาสร้างราคาให้มันซักหน่อย เรามาดูกันดีกว่าครับว่ามีวิธีใดบ้างที่จะช่วยเพิ่มราคาค่าตัวให้กับ iPhone ของท่าน ก่อนจะขายเป็นเครื่องมือสอง
ทำความสะอาดเครื่องให้เอี่ยมอ่อง
ไม่ว่าใครต่อใคร เวลาจะซื้อมือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือสอง ก็ย่อมอยากได้เครื่องที่สะอาด ไม่มีริ้วรอยกันทั้งนั้น ทำให้ผู้ขายต้องจัดการเครื่องของตนให้ดีๆ เริ่มจากขั้นแรกก่อนคือทำความสะอาดซอฟต์แวร์ภายในเครื่องก่อนครับ ทางที่ดีก็คือ restore ให้เหมือนเป็นเครื่องใหม่ซะก่อน ล้างโปรแกรมออกให้หมดจด ไม่ต้องติดตั้งแอพเผื่อให้กับผู้ใช้นะครับ เพราะการติดตั้งแอพจะต้องใช้ Apple ID ของเราในการติดตั้งด้วย แล้วทีนี้เวลาผู้ใช้คนใหม่นำไปใช้ เขาก็จะไม่สามารถอัพเดตแอพได้ ทำให้ต้องลบแอพเก่าเพื่อลงแอพใหม่ไว้ใช้งาน สร้างความลำบากให้กับผู้ใช้คนใหม่ซะอีกต่างหาก ทางที่ดีคือ restore เสร็จแล้วก็ให้ไปเป็นเครื่องเปล่าๆ นี่ล่ะครับ ชัวร์สุด และที่สำคัญคือ?ปิดฟีเจอร์ Find my iPhone ด้วย
ส่วนของตัวเครื่องภายนอกนั้น ก็ควรจะขัดทำความสะอาดดีๆ เครื่องไหนที่ติดฟิล์มป้องกันหน้า-หลังอยู่แล้วก็สบายใจขึ้นมานิดนึง เพราะอย่างน้อยก็มีฟิล์มป้องกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าสปอร์ตหน่อยก็หาซื้อฟิล์มใหม่ติดให้ว่าที่ลูกค้าไปเลยก็ได้ครับ เพราะฟิล์มสมัยนี้ก็ไม่แพงมากเท่าไหร่แล้ว โดยเฉพาะเครื่องที่ฟิล์มเป็นรอย ฟิล์มเก่าแล้วอะไรแบบนี้ รบกวนว่าเปลี่ยนฟิล์มหน่อยก็ดีครับ เครื่องจะได้ดูใหม่ขึ้นมาหน่อย ส่วนขอบด้านข้างนั้น ถ้าพบว่ามีรอยขีดข่วนก็คงจะแก้ไขลำบากแล้วละครับ คงต้องทำใจกันซักหน่อยว่าคงโดนหักราคาตรงนี้แน่ๆ ตัวพอร์ตเชื่อมต่อก็ควรทำความสะอาดให้ดูดี ไม่มีคราบหรือฝุ่นเกาะติดอยู่ครับ อย่างน้อยก็จะทำให้เครื่องดูดีขึ้นมาซักหน่อย
แต่ทางที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันตั้งแต่ตอนที่เราใช้งานเครื่องครับ หลักๆ ก็เช่นติดฟิล์มกันรอยถ้าไม่มั่นใจว่าจะไปข่วนอะไรหรือไม่ ใส่เคสป้องกันที่มีคุณภาพดีหน่อย มีการป้องกันตัวเครื่องได้ดี โดยเฉพาะเคส ถ้าจะเลือกแบบหุ้มทั้งเครื่องแล้ว ก็ควรเลือกแบบที่มีขอบงุ้มมาปิดขอบเครื่องด้านหน้าจอด้วย ซึ่งขอบที่งุ้มมาแบบนี้จะช่วยป้องกันจอไม่ให้สัมผัสกับพื้นเต็มๆ ในเวลาที่เครื่องตก หรือจะวางด้านจอนาบลงไปกับพื้นก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจอจะกระทบพื้นโดยตรง เพราะมีขอบป้องกันให้ แต่เคสชนิดนี้อาจจะใส่ลำบากหน่อย และอาจมีปัญหาใส่ไม่ได้ ถ้าฟิล์มติดเครื่องหนาเกินไป
เตรียมอุปกรณ์ให้ครบครัน
ข้อนี้ ใครที่ยังเก็บกล่องและอุปกรณ์ติดกล่องอยู่ครบก็จะได้เปรียบครับ ทั้งพลาสติกรอง dock, สาย connector, adapter, หูฟัง หรือจะเป็นพวกคู่มือต่างๆ สติ๊กเกอร์ ถ้ามีอยู่ครบก็จะดีมากครับ เพราะอย่างน้อยเวลาโฆษณาขายก็จะบอกได้ว่าอุปกรณ์ครบกล่อง เพิ่มภาษีให้กับ iPhone ของเราให้มีราคาดีขึ้นมาอีกหน่อยได้เลย
โฆษณาตามจริง จุดไหนไม่ดีก็บอกว่าไม่ดี
ลูกค้าทุกคนย่อมอยากได้สินค้าที่ตรงตามการโฆษณากันทั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของคนขายว่าจะโฆษณาอย่างไรบ้าง โดยทางที่ดีการประกาศขาย เราก็ควรประกาศลักษณะเครื่องตามความเป็นจริง ตีราคาตามความเหมาะสมครับ เพราะถ้าเกิดเราบอกลักษณะเครื่องดีเกินกว่าความเป็นจริง เวลาลูกค้านัดดูของ ถ้าเกิดลูกค้าตาดีไปเจอจุดมีตำหนิเข้า รับรองว่าโดนกดราคาแน่นอนครับ เผลอๆ ลูกค้าจะไม่ซื้อเอาซะอีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีๆ ประกาศกันตรงๆ ไปเลยครับ เชื่อว่าน่าจะมีลูกค้าที่รับได้กับเรื่องของตำหนิอยู่แล้ว (ถ้าไม่เยอะหรือเครื่องเยินเกินไปนะ)
ควรเลือกนัดสถานที่ขายที่ดี มีเน็ตให้ลอง
ในกรณีที่เลือกวางขายเองตามอินเตอร์เน็ต แล้วนัดเจอเพื่อซื้อขายกันนะครับ โดยการเลือกสถานที่นัดพบกัน ถ้าเป็นไปได้ ก็เลือกสถานที่ที่สะดวกต่อการเดินทางของผู้ซื้อก็จะดีมาก อย่างน้อยก็จะไม่โดนต่อราคาเรื่องการเดินทางไกลหรือเดินทางลำบากด้วย เช่น ถ้าใน กทม. ด้วยกัน ก็ควรจะเป็นตามเส้นรถไฟฟ้า หรือห้างใหญ่ๆ ถ้าจะให้ดีก็ควรมีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งลอง รวมไปถึงถ้ามี WiFi ก็จะดีมาก เพราะจะช่วยให้ลูกค้าได้ลองเครื่องอย่างเต็มที่แทบจะทุกฟังก์ชัน เพราะทุกวันนี้มีหลายๆ ฟังก์ชันที่ต้องอาศัยอินเตอร์เน็ตด้วย แน่นอนว่าลูกค้าก็ต้องอยากทดสอบก่อนซื้อ ดังนั้นถ้าหาสถานที่ที่มีบริการดังกล่าวด้วยก็จะดีมากทีเดียว
มีของแถม ก็ช่วยได้อีกนิด
ถ้ามีของแถมนิดๆ หน่อยๆ เช่นฟิล์มกันรอยที่เหลืออยู่ เคส ผ้าเช็คเครื่อง ของเล็กๆ หน่อยๆ พวกนี้จะแถมไปซักหน่อยก็ได้ครับ อย่างน้อยก็ได้แบบว่า เออนะมีของแถมให้นิดนึง ถ้าบังเอิญของแถมตรงใจผู้ซื้อ รับรองว่าคงไม่โดนกดราคาแน่ครับ
มีช่องทางเป็นหลักเป็นแหล่งให้ลูกค้าติดต่อได้
ข้อนี้เสมือนเป็นบริการหลังการขายก็ว่าได้ครับ โดยต้องมีมาตั้งแต่ตอนประกาศขายเลย เพื่อผู้ซื้อจะได้เชื่อใจว่าทำการซื้อขายกับผู้ที่มีตัวตน มีหลักแหล่งอยู่จริง เช่น อาจจะเป็นการลงเบอร์โทรศัพท์ไว้ ลงอีเมล หรือถ้าทันสมัยหน่อยก็ Whatsapp หรือ Line กันไปเลย เวลานัดซื้อขาย หรือถ้าเครื่องมีปัญหาหลังซื้อทันทีจะได้สามารถติดต่อกลับไปหาผู้ขายได้ จะได้ช่วยหาทางแก้ไขกันไปตามกรณี
ก็น่าจะครบถ้วนแล้วนะครับ สำหรับวิธีที่จะช่วยให้ขาย iPhone ได้ราคาดี โดยหลักสำคัญที่สุดก็อยู่ที่ข้อแรกเลย คือเรื่องสภาพและการป้องกัน iPhone จากริ้วรอยต่างๆ เพราะเป็นส่วนหลักในการตีราคาเลยทีเดียว ถ้าใครคิดว่าเตรียมขาย iPhone เครื่องปัจจุบันแน่นอน ก็รีบหาวิธีป้องกันซะตั้งแต่วันนี้เลยครับ เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ราคาดี ^^