เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา OPPO ได้จัดงานเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ OPPO N3 มือถือกล้องหมุนได้รุ่นอัพเกรดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นกล้องที่หมุนด้วยมอเตอร์ Schneider Electric , ชิ้นเลนส์จาก?Schneider Kreuznach,?เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือสารพัดประโยชน์ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ส่วนอีกรุ่นก็คือ OPPO R5 เจ้าของสถิติมือถือบาง (เกือบ) ที่สุดในโลกเพียง 4.85 มิลลิเมตร มาพร้อมกับสเปคที่อัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง OPPO R1 ไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอความละเอียด Full HD, วัสดุที่เป็นอลูมิเนียม และสเปคที่แรงกว่าเดิมเยอะเลยครับ
อ้อ เกือบลืมบอกราคาไปเลย OPPO N3 จะวางขายที่ราคา 19,990 บาท ส่วน OPPO R5 จะวางขายที่ราคา 15,990 บาทครับ
OPPO N3 ราคา 19,990 บาท
ขอพูดถึงตัวท็อปสุดอย่าง OPPO N3 กันก่อนก็แล้วกันครับ เพราะงานนี้เอาจริงๆ เหมือนต้องการดันเจ้า OPPO N3 แบบเต็มที่ เพราะทาง OPPO ได้จัดโซนให้เราได้ไปทดลองจับ ทดลองเล่นทั้ง OPPO N3 และ OPPO R5 แต่เหมือนหลายๆ โซนจะเน้นที่ฟีเจอร์ของ OPPO N3 มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นโซน?Auto Panorama, Remote Selfie,?Motorized Rotating Camera ก็ล้วนแต่เป็นฟีเจอร์เด่นของ OPPO N3 ทั้งนั้นเลย
สเปค OPPO N3
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 801 2.3GHz quad-core
- Color OS 2.0 บน Android 4.4 KitKat
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล (403 ppi)
- หน่วยประมวลผลกราฟิค Adreno 330
- หน่วยความจำภายใน 32GB (รองรับ microSD เพิ่มได้สูงสุด 128GB)
- Ram 2GB
- กล้องความละเอียด 16MP f/2.2 แฟลช Dual-mode LED หมุนได้ 206 องศา (ใช้มอเตอร์)
- รองรับ 3G ทุกเครือข่าย
- รองรับ 4G?LTE ในไทย
- แบตเตอรี่ 3,000 มิลลิแอมป์ รองรับระบบชาร์จเร็ว VOOC
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม (ต้องเลือกว่าจะใช้งาน 2 ซิมหรือใช้งาน microSD)
- สเปคเต็มๆ OPPO N3
- ราคา 19,990 บาท
มาถึงหน้าตาของ OPPO N3 กันบ้าง สำหรับภาพรวมจะคล้ายกับ OPPO N1 Mini ครับ ถึงแม้ว่า OPPO N3 จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า OPPO N1 Mini แต่ขนาดตัวเครื่องก็ไม่ได้ใหญ่กว่ากันมา เนื่องจาก OPPO N3 มีขอบจอที่ค่อนข้างบาง รวมถึงตัวเครื่องก็มีความหนาน้อยกว่า OPPO N1 Mini อีกต่างหาก
จุดเด่นของ OPPO N3 ก็คงไม่พ้นกล้องหมุนได้ ที่มีการอัพเกรดไปจากตัว OPPO N1 หรือ OPPO N1 Mini ไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการหมุนของกล้องที่ควบคุมด้วยมอเตอร์ เวลาเราจะหมุนกล้องก็ไม่ต้องใช้มือหมุนอีกต่อไปครับ แค่ปาดหน้าจอลง-ปาดหน้าจอขึ้นในหน้าแอพกล้องก็จะเป็นการหมุนกล้อง จะหมุนช้าหมุนเร็วอันนี้ก็แล้วแต่เราเลยครับ
กล้องของ OPPO N3 ใช้เลนส์จาก Schneider Kreuznach ผู้ผลิตเลนส์กล้องชื่อดังจากเยอรมัน มาพร้อมกับแฟลชคู่ LED ช่วยให้การยิงแฟลชทำได้เนียน และไม่ทำร้ายคนถ่าย และนอกจากจะหมุนกล้องด้วยการแตะที่หน้าจอแล้ว ยังสามารถใช้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังช่วยในการหมุนกล้องได้ด้วย
แต่ถ้าจะเซลฟี่ OPPO ก็มีอุปกรณ์เสริมช่วยในการถ่ายรูป ซึ่งก็คือ OPPO?Remote O-Click รุ่นปรับปรุงจากตอน OPPO N1 Mini เพราะรอบนี้ตัวรีโมทย์ก็สามารถใช้หมุนกล้องได้เช่นกัน
การที่กล้องหมุนด้วยมอเตอร์ทำให้ OPPO N3 เป็นมือถือที่ใช้งานได้ยืดหยุ่นมากครับ อย่างการถ่ายพาโนรามานี่เราก็ไม่ต้องหมุนตัวกันอีกต่อไป เพราะกล้องของ OPPO N3 จะหมุนให้เราเอง หมดปัญหาหมุนเร็วไป หรือหมุนช้าเกินไปในโหมดพาโนรามา และมันสะดวกมากๆ เลยหล่ะครับ
การถ่ายเซลฟี่ก็ยังเป็นหนึ่งในจุดเด่นมากๆ ของ OPPO N3 ครับ ซอฟท์แวร์กล้องก็มาพร้อมกับความฟรุ้งฟริ้งด้วยโหมด Beauty อันเลื่องชื่อของ OPPO ที่ใครถ่ายก็สวย และตอนนี้โหมด Beauty ล้ำไปอีกระดับด้วยโปรไฟล์หน้าสวย จะสวยแบบธรรมชาติ สวยแบบสาวญี่ปุ่นก็แค่เลือกโปรไฟล์ตามต้องการเลยครับ
OPPO N3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS เวอร์ชัน 2.0 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 4.4.4 Kitkat เรื่องความลื่นนี่ไม่ต้องห่วงครับ ส่วน Gesture เจ๋งๆ และ Theme ฟรุ้งฟริ้งๆ ก็มีให้เห็นเหมือนเดิมตามสไตล์ของ ColorOS
OPPO R5 ราคา 15,990 บาท
มาต่อกันอีกรุ่นที่เปิดตัวในงาน ซึ่งก็คือ OPPO R5 มือถือสุดบางเฉียบ เรียกว่าบางที่สุดในโลกก็ได้ ถ้าไม่มี Vivo X5 Max ที่ออกมาทีหลังแล้วดันบางกว่า OPPO R5 อยู่ 0.1 มิลลิเมตร แต่ยังไง OPPO R5 ก็ยังถือว่าบางมากกกก อยู่ดีครับ ที่สำคัญคือมันไม่ได้มีดีแค่บางนะ มันทั้งบาง แล้วก็ทนทานเลยหล่ะ
สเปค OPPO R5
- หน้าจอ 5.2 นิ้ว AMOLED ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล
- Color OS 2.0 บน Android 4.4 KitKat
- ชิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615 ความเร็ว 1.5GHz Octa Core แบบ 64-bit
- หน่วยประมวลผลกราฟิค Adreno 405
- หน่วยความจำภายใน 16GB
- Ram 2GB
- กล้องหลังความละเอียด 13MP f/2.0 เซนเซอร์ Sony Exmor IMX214
- กล้องหน้าความละเอียด 5MP f/2.0 มุมกว้าง 83 องศา
- แบตเตอรี่ 2,000 มิลลิแอมป์ รองรับระบบชาร์จเร็ว VOOC
- รองรับ 3G ทุกเครือข่าย
- รองรับ 4G?LTE
- สเปคเต็มๆ OPPO R5
- ราคา 15,990 บาท
ที่ผมบอกว่า OPPO R5 ทนทานก็เพราะวัสดุที่ OPPO เลือกใช้ครับ วัสดุของ OPPO R5 ใช้เป็นสแตนเลสสตีล ที่มีความทนทานมาก ผมกล้าพูดเลยว่าต่อให้มันบางเพียง 4.85 มิลลิเมตร แต่ก็ไม่ได้งอกันง่ายๆ เหมือน iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus หรอกครับ ในทางกลับกัน OPPO R5 ตอนจับถือนี่ให้ความรู้สึกว่ามันโคตรแข็งแรงเลย เป็นมือถือที่งานประกอบเนี๊ยบมาก
แต่ด้วยความที่ OPPO R5 มีขนาดตัวเครื่องที่บางมาก ก็ทำให้ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรหายไปครับ (แว่วๆ ว่าในกล่องก็แถมหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรมานะ) โดย OPPO R5 คงต้องใช้สายแปลงจากพอร์ต Micro USB หรือไม่ก็ใช้บลูทูธเอาครับ
กล้องหลังของ OPPO R5 ใช้เซนเซอร์ของ Sony ครับ มาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีแฟลช LED ให้ 1 ดวง กล้องหน้าก็ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีโหมดหน้าฟรุ้งฟริ้งหรือโหมด Beauty เช่นเคย
ซอฟท์แวร์ของ OPPO R5 ใช้เป็น ColorOS เวอร์ชัน 2.0 เช่นเดียวกับ OPPO N3 แต่ผมว่า UI ของ OPPO R5 ดูสวยกว่าแหะ สีดำมันดูแตกต่างไปจากเดิมอ่ะครับ
พวก Gesture เช่นการเคาะหน้าจอ, เปิดโหมดกล้องด้วยการขยุ้มนิ้ว หรือวาดหน้าจอขณะที่ปิดจออยู่ OPPO R5 ก็ยังทำได้เหมือนเดิม เป็นมือถือที่ใช้งานสนุกเครื่องนึงเลยหล่ะ
เท่าที่ลองเล่นดูถือว่าใช้ได้เลยสำหรับ OPPO R5 ทั้งลื่น ทั้งสวย แล้วยังทนทานอีกต่างหาก เป็นมือถือที่น่าสนใจในช่วงราคาหมื่นขึ้นไปไม่เกิน 20,000 บาทหล่ะครับ
ปิดท้ายด้วยรูปโชว์ความบางของ OPPO R5 แหม่ มันช่างบางเฉียบซะเหลือเกิน แล้วเห็นบางๆ แบบนี้ไม่ใช่ว่าขอบเครื่องจะคมเหมือน iPhone 5 นะครับ ผมว่า OPPO R5 มีการเก็บขอบได้ดีทีเดียว แม้ตัวเครื่องจะบางก็ยังถือเข้าอุ้งมือได้อยู่
อย่างที่รู้กันว่า OPPO N3 และ OPPO R5 มาพร้อมกับระบบชาร์จไฟเร็ว VOOC ที่เคยสร้างชื่อไว้ตอน OPPO Find 7 แต่ในตอนนี้หัวชาร์จ VOOC ได้รับการอัพเกรดให้สามารถถอดสาย USB ได้แล้ว และอแดปเตอร์ก็มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมด้วย มีชื่อเก๋ๆ ว่า VOOC Mini Charger
และสำหรับใครที่มีปัญหาแบตเตอรี่หมดตอนที่อยู่นอกบ้าน ก็คงจะต้องพึ่ง Power Bank กันใช่ไหมครับ ทีนี้ปัญหาคือ OPPO N3 และ OPPO R5 เนี่ย พอใช้งาน Power Bank ก็จะไม่สามารถชาร์จเร็วด้วย VOOC ได้ ทาง OPPO จึงได้ผลิต Power Bank ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี VOOC ในตัวซะเลย ทีนี้ก็ชาร์จไวเหมือนเสียบปลั๊กหล่ะครับ สนนราคาของ Power Bank VOOC ความจุ 6,000 mAh ก็อยู่ที่ 1,990 บาท
ตัว Power Bank VOOC ตอนชาร์จไฟนี่เท่มาก มีไฟสีเขียวขึ้นด้วย และข้อดีอีกอย่างคือมันไม่ต้องพกสายครับ เพราะเจ้า VOOC Power Bank มีสายในตัว และปล่อยไฟได้แรงพอๆ กับชาร์จผ่าน VOOC Mini Charger เลย
สำหรับการพรีวิว OPPO N3 และ OPPO R5 ก็คงต้องขอจบไว้เท่านี้ก่อนครับ สำหรับรีวิว OPPO R5 ตัวเต็มสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ SpecPhone ได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนรีวิว OPPO N3 อาจจะต้องรอทาง OPPO ส่งเครื่องมาให้เราเทสก่อนนะครับ เชื่อว่าอีกไม่นานคงได้เห็นกัน
ขอบคุณสำหรับการรับชมครับ 🙂
ปิดท้ายจริงๆ ด้วย Gallery ตัวเครื่อง OPPO N3, OPPO R5 และบรรยากาศในงานเปิดตัวครับ