Apple Care+ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ซื้อดีไหมสำหรับ iPhone, iPad และอื่นๆ เทียบกับ AIS Care+ อันไหนดีกว่าในปี 2024
หลายคนที่ใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ จาก Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Apple Watch หรืออีกหลายๆ อุปกรณ์ เมื่อซื้อมาแล้วสิ่งหนึ่งที่ติดมาด้วยก็คือการรับประกัน ซึ่งเป็นตัวช่วยให้เราอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะถ้าหากมีการเสียหาย หรือว่าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาแล้วยังอยู่ในความคุ้มครองก็จะสามารถส่งซ่อม หรือส่งเคลมเครื่องใหม่ได้เลยภายในเวลาที่ทางร้านคุ้มครอง โดยการคุ้มครองจาก Apple นั้นจะมีทั้ง AppleCare และ AppleCare+ ที่ยกระดับความคุ้มครองขึ้นไปอีกขั้น เพื่อให้ผู้ใช้งานอย่างเราได้อุ่นใจขึ้น หากว่าเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ สำหรับคนที่ยังไม่เคยซื้อ หรือว่าวางแผนที่จะซื้อความคุ้มครองแบบ AppleCare+ แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อดีหรือไม่ หรือคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาบอกให้ว่า Apple Care+ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ควรซื้อดีไหมสำหรับ iPhone, iPad และอื่นๆ พร้อมเทียบกับ AIS Care+ อันไหนดีกว่ากันในปี 2024
- Apple Care+ คืออะไร ต่างจาก Apple Care ปกติอย่างไร
- AIS Care+ และ AIS Care+ with AppleCare Services คืออะไร
- Apple Care+ ราคาเท่าไหร่ และคุ้มครองอะไรบ้างในแต่ละอุปกรณ์
- สรุปว่าควรซื้อ Apple Care+ ดีไหม
Apple Care+ คืออะไร ต่างจาก Apple Care ปกติอย่างไร
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า Apple Care+ นั้นคืออะไรและต่างจากตัวที่เป็น Apple Care ปกติอย่างไรบ้าง โดยแบบแผนการคุ้มครองจาก Apple Care นั้นจะติดเครื่องมาด้วยเลยตั้งแต่เราซื้ออุปกรณ์ของ Apple ซึ่งจะมีการคุ้มครอง และการรับประกันแบบจำกัดรวมไปถึงการคุ้มครองการซ่อมฮาร์ดแวร์ เป็นเวลา 1 ปี และบริการช่วยเหลือด้านเทคนิคโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นเวลาสูงสุด 90 วัน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)
แต่ว่าตัวของ Apple Care+ นั้นจะเพิ่มความคุ้มครองขึ้นไปอีกขั้นคือ จะขยายระยะเวลาคุ้มครองเป็น 2 ปี นับจากวันที่เราได้ทำการซื้อ AppleCare+ และเพิ่มความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ว่าจะมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ ตามแต่ละอุปกรณ์ที่กำหนด อย่างเช่น หน้าจอหรือกระจกด้านหลังตัวเครื่องของ iPhone หรือ Apple Pencil และคีย์บอร์ดของ iPad และของอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษในการติดต่อกับฝ่ายบริการช่วยเหลือด้านเทคนิค และความคุ้มครองการให้บริการด้านแบตเตอรี่อีกด้วย
AIS Care+ และ AIS Care+ with AppleCare Services คืออะไร
สำหรับตัว AIS Care+ นั้นเป็นบริการเสริม ที่ให้บริการดูแลเครื่องทั้งของ Android, Tablet และ iPad โดยมีบริการให้ทั้งการเปลี่ยนหน้าจอให้ฟรี 1 ครั้ง, จะเครื่องเก่าหรือใหม่ก็สมัครได้เหมือนกัน, รับเครื่องทดแทนได้ 2 ครั้ง, รับส่งตรงเวลาให้ถึงหน้าบ้าน และที่น่าสนใจก็คือการเปลี่ยนเครื่อง ที่ให้เราได้เลือกรุ่นสีเดิม เลือกเปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนแบรนด์เลยก็ยังได้ (ตามรุ่นที่นำเสนอ) ในกรณีนี้จะมีค่าใช้จ่าย 25% หรือถ้าหากจะขอเครื่องทดแทนก็จะมีค่าบริการ 42.5% หากไม่มีเครื่องเดิมมาเปลี่ยน
ราคาและค่าบริการของ AIS Care+ จะมีทั้งแยกเป็นรายเดือนที่มีราคาเริ่มต้น 49 บาท/เดือน หรือจะเลือกเป็นเหมาจ่ายรายปีก็จะมีส่วนลดลงไปอีก มีราคาเริ่มต้นที่ 539 บาท/ปี โดยราคาแพ็กเกจการดูแลทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับราคาเครื่องปกติ (ตามรูป) ซึ่งการสมัครการบริการนี้สามารถสมัครได้นานสูงสุดถึง 4 ปี และสมัครได้ทันทีหลังจากซื้อเครื่อง หรือภายใน 30 วันโดยไม่ต้องตรวจสภาพเครื่องอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
ส่วนทางด้านของ AIS Care+ with AppleCare Services นั้นเป็นแพ็กเกจที่รวมที่สุดของการดูแล iPhone จากทั้งผู้ให้บริการ AIS Care+ และ AppleCare Services เป็นครั้งแรกใน Southeast Asia สำหรับลูกค้าคนไทยเพื่อใช้บริการได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจอแตก, เครื่องหล่นตกเสียหาย, เครื่องเสีย, แบตเสื่อม (ต่ำกว่า 80%), ลำโพงหรือไมค์ไม่ได้ยิน พร้อมการเลือกบริการที่หลากหลาย และให้บริการถึงหน้าบ้านหรือส่งไปยังศูนย์บริการ Apple Stores และ Apple Authorized Services ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเป็นของแท้แน่นอน 100%
นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกจากการนำแพ็กเกจของ AIS Care+ เข้ามารวมกันทำให้สามารถขอเปลี่ยนเครื่องได้ 2 ครั้งคิดค่าบริการ 25% จากราคาปกติ หรือขอรับเครื่องทดแทนได้ 1 ครั้งคิดค่าบริการ 42.5% จากราคาปกติหากไม่มีเครื่องมาให้ ส่วนราคาของแพ็กเกจนั้นก็จะมีทั้งรายเดือนที่มีราคาเริ่มต้น 179 บาท/เดือน หรือรายปีแบบเหมาจ่ายเริ่มต้น 1,969 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับราคาเครื่องปกติของแต่ละรุ่น พร้อมการดูแลได้สูงสุด 4 ปี สมัครได้ทันทีหลังจากซื้อ iPhone หรือ ภายใน 30 วันโดยไม่ต้องตรวจสภาพเครื่อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
วิธีซื้อแผน AppleCare+ บนอุปกรณ์ต่างๆ
สำหรับการซื้อ AppleCare+ นั้นโดยปกติแล้วประเทศเราสามารถซื้อได้เลยทันทีตั้งแต่ซื้ออุปกรณ์อย่าง iPhone, iPad และอื่นๆ มาใช้ หรือว่าจะทำการซื้อย้อนหลังก็ได้ แต่จะต้องไม่เกิน 60 วันนับจากวันที่ซื้ออุปกรณ์มา ซึ่งการซื้อแบบแผน Apple Care+ ย้อนหลังนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่าน iPhone, iPad หรือ Mac ได้เลยด้วยตัวเอง
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ สามารถเข้าไปซื้อเพิ่มเติมจากช่องทาง ออนไลน์, Apple Store ทั้งสองสาขาเลยก็ได้เช่นกัน (ต้องนำหลักฐานการซื้อไปด้วยนะ) หรือโทร 1800 019 900 แล้วทำตามขั้นตอน
โดยการซื้อ AppleCare+ ย้อนหลังด้วยตัวเองสามารถเข้าไปเช็คว่า iPhone, iPad และ Mac เข้าเกณฑ์หรือไม่ มีวิธีการซื้อและเช็คได้ดังนี้
1. ใน iPhone, iPad ให้เข้าไปที่การตั้งค่า ส่วนใน Mac ให้เลือกเมนู Apple จากนั้นเลือกการตั้งค่าระบบ (ถ้าหาไม่เจอให้เข้าไปที่ เกี่ยวกับ Mac เครื่องนี้ -> บริการช่วยเหลือ และกดปุ่ม เพิ่ม)
2. หลังจากเข้ามาแล้วให้เลือกไปที่ ทั่วไป -> เกี่ยวกับ ก็จะมีช่อง “เพิ่มความคุ้มครอง AppleCare+” ขึ้นมาให้กด และให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อซื้อแบบแผนที่ต้องการ จากนั้นก็จ่ายเงินก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
**ทั้งนี้ถ้าหากเข้าไปแล้วไม่มีช่อง “เพิ่มความคุ้มครอง AppleCare+” ขึ้นมาให้กด ก็หมายถึง iPhone หรือ iPad เครื่องนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะซื้อ AppleCare+ แล้วเนื่องจากเกิน 60 วัน หรือว่าไม่เข้าเกณฑ์นั่นเอง หรือตรวจสอบได้ที่นี่**
ในอีกกรณีนึงที่สามารถซื้อเพิ่มได้หลังจากผ่านไปแล้ว 60 วัน สามารถซื้อกับทาง iCare ภายในระยะเวลา 365 วัน ตามระยะประกันเครื่อง โดยจะเพิ่มความคุ้มครองอีก 2 ปีเช่นกัน แต่ต้องนำเครื่องเข้ารับบริการที่หน้าสาขา iCare เพื่อตรวจสอบ และสินค้านั้นต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหัก หรือมีรอยขีดข่วนที่เป็นผลต่อการใช้งานเครื่องอีกด้วย
Apple Care+ ราคาเท่าไหร่ และคุ้มครองอะไรบ้างในแต่ละอุปกรณ์
มาดูที่ราคาของ Apple Care+ ว่ามีราคาเท่าไหร่กันบ้างตามแต่ละอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์อยู่ในตอนนี้ทั้ง iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, Apple Display, AirPods และ Apple TV พร้อมกับค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมของแต่ละแบบนั้นมีราคาเท่าไหร่ และมีการคุ้มครองอะไรเข้ามาบ้างทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และบริการช่วยเหลือด้านซอฟต์แวร์ ดังนี้
iPhone
รุ่น | ราคา |
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max | 7,790 บาท |
iPhone 15 Plus และ iPhone 14 Plus | 6,790 บาท |
iPhone 15, iPhone 14 และ iPhone 13 | 5,790 บาท |
iPhone SE (รุ่นที่ 3) | 2,990 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปี
- iPhone, แบตเตอรี่ และสายที่มาพร้อมกับเครื่อง
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ในกรณีที่แบตเตอรี่เก็บประจุได้ต่ำกว่า 80%
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 1,000 บาท สำหรับความเสียหายกับหน้าจอ หรือกระจกด้านหลังตัวเครื่อง และ 3,300 บาทสำหรับความเสียหายอื่นๆ จากอุบัติเหตุ
- ดูเพิ่มเติม iPhone
เปรียบเทียบแพ็กเกจ iPhone ของ Apple Care+ กับ AIS Care+ with AppleCare Services
สำหรับราคาแพ็กเกจของ AIS Care+ with AppleCare Services ที่ให้บริการดูแล iPhone ของเรานั้น จะมีราคาที่ขึ้นอยู่กับราคาปกติของ iPhone ไม่รวมราคาโปรโมชั่นต่างๆ หรือพูดง่ายๆ ก็คือราคาเครื่องเปล่านั่นแหละ ซึ่งจะต่างจากกดูแลของ Apple Care+ ตรงที่ของ Apple Care+ จะเป็นการจ่ายทีเดียวตามราคาแต่ละรุ่นตามตารางด้านบน และดูแลให้ตลอด 2 ปีเต็ม แต่ของ AIS Care+ with AppleCare Services นั้นจะขึ้นอยู่กับราคาเครื่องเปล่า และดูแลได้ตั้งแต่รายเดือนหรือเหมารายปีได้นานสุด 48 เดือน มีราคาดังนี้
ราคาเครื่อง (บาท) แบบรายเดือน (บาท) แบบเหมาจ่าย 12 เดือน (บาท) 10,001 – 20,000 179 1,969 จากปกติ 2,148 20,001 – 30,000 219 2,409 จากปกติ 2,628 30,001 – 40,000 249 2,739 จากปกติ 2,988 40,001 – 60,000 329 3,619 จากปกติ 3,948 60,001 – 80,000 339 3,999 จากปกติ 4,068
ทั้งนี้ก็มีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมคือ สำหรับลูกค้าสมัครแบบเหมาจ่าย 12 เดือน (1 ปี) จะได้รับฟรีอีก 1 เดือนในเดือนที่ 13 และจะมีการต่อแพ็กเกจอัตโนมัติเป็นแบบรายเดือน โดยจะเริ่มคิดค่าแพ็กเกจเดือนที่ 14 เป็นต้นไป จนกว่าเราจะแจ้งยกเลิกเอง
โดยทั้งสองแบบทั้ง Apple Care+ และ AIS Care+ with AppleCare Services จะมีราคาและความคุ้มที่แตกต่างกันตามราคาของรุ่น ถ้านับตามการคุ้มครองแบบ 2 ปีตามระยะของ Apple Care+ กับราคาเหมาจ่ายรายปี 2 ปีของ AIS Care+ with AppleCare Services
อย่างเช่นรุ่น iPhone 15 Pro Max ที่มีราคาสูงกว่า 40,001 บาทของ AIS Care+ with AppleCare Services จะมีความคุ้มมากกว่าเพราะต้องจ่ายเพียง 7,238 บาท ในขณะที่ Apple Care+ ต้องจ่าย 7,790 บาท แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ต่ำกว่านั้นอย่างเช่น iPhone 15, iPhone 14 และ iPhone 13 ที่ของ Apple Care+ มีราคาเพียง 5,790 บาท ก็จะคุ้มกว่า AIS Care+ with AppleCare Services ที่ต้องจ่าย 7,238 บาทนั่นเอง
ส่วนทางด้านการดูแลและการบริการนั้นของ AIS Care+ with AppleCare Services ก็จะให้บริการที่เหมือนกันกับ Apple Care+ เลยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ที่เป็นของแท้แน่นอนจาก Apple โดยตรง เพราะเป็นการรวมกันของแพ็กเกจอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือแพ็กเกจของ AIS Care+ ที่สามารถนำเครื่องเข้าไปเปลี่ยนได้ 2 ครั้งใน 12 เดือน โดยมีค่าบริการ 25% หรือถ้าจะขอรับเครื่องทดแทน 1 ครั้งก็ได้ โดยมีค่าบริการ 42.5% นอกจากนี้ก็ยังมีบริการอื่นๆ จาก AIS อีกทั้งรับ-ส่งเครื่องถึงมือเลย, มีการคืนเงินหากไม่ตรงตามนัด สำหรับบริการเปลี่ยนเครื่อง หรือรับเครื่องทดแทน ดังนั้นใครที่ซื้อ iPhone รุ่นใหม่ๆ ก็จะได้ความคุ้มทั้งราคาและการดูแลเลยสำหรับของ AIS Care+ with AppleCare Services
iPad
รุ่น | ราคา |
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว | 6,290 บาท |
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว | 5,190 บาท |
iPad Air (รุ่นที่ 5) | 2,990 บาท |
iPad และ iPad mini | 2,590 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปี
- iPad, แบตเตอรี่ และสาย USB และอะแดปเตอร์แปลงไฟที่มาพร้อมกับเครื่อง
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ในกรณีที่แบตเตอรี่เก็บประจุได้ต่ำกว่า 80%
- Apple Pencil, คีย์บอร์ด iPad ของ Apple
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 1,600 บาทสำหรับ iPad และ 1,000 บาทสำหรับ Apple Pencil หรือคีย์บอร์ด iPad ของ Apple
- ดูเพิ่มเติม iPad
Mac และ จอภาพ
รุ่น | ราคา |
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M2) | 6,500 บาท |
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M3) | 7,500 บาท |
MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว (ชิป M3) | 8,500 บาท |
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว | 10,900 บาท |
MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว | 14,900 บาท |
iMac | 6,500 บาท |
Mac mini | 3,200 บาท |
Mac Studio | 5,890 บาท |
Mac Pro | 17,900 บาท |
Apple Studio Display | 5,490 บาท |
Pro Display XDR | 17,900 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 3 ปี
- สำหรับ Mac
- Mac, แบตเตอรี่ และสาย USB และอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับเครื่อง
- หน่วยความจำ Apple (RAM), Apple USB SuperDrive
- สำหรับจอภาพ
- จอภาพ, สายไฟที่มีมาให้ และฐานตั้งจอภาพของ Apple หนึ่งตัว และตัวยึดของ Apple หนึ่งตัวที่ซื้อพร้อมกัน
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ในกรณีที่แบตเตอรี่เก็บประจุได้ต่ำกว่า 80%
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 3,300 บาทสำหรับความเสียหายกับหน้าจอหรือตัวเครื่องภายนอก และ 10,000 บาทสำหรับ ความเสียหายอื่นๆ จากอุบัติเหตุ
- ดูเพิ่มเติม Mac และ จอภาพ
Apple Watch
รุ่น | ราคา |
Apple Watch Ultra 2 | 3,790 บาท |
Apple Watch Series 9 | 2,990 บาท |
Apple Watch SE | 1,890 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปีสำหรับทุกรุ่น และ 3 ปีสำหรับ Apple Watch Hermès
- Apple Watch, แบตเตอรี่
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ในกรณีที่แบตเตอรี่เก็บประจุได้ต่ำกว่า 80%
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 2,300 บาทสำหรับ Apple Watch, Apple Watch Nike และ 2,600 บาทสำหรับ Apple Watch Edition, Apple Watch Hermès และ Apple Watch Ultra
- ดูเพิ่มเติม Apple Watch
AirPods และ หูฟัง
รุ่น | ราคา |
AirPods, AirPods Pro, Beats | 1,400 บาท |
AirPods Max | 2,600 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปี
- AirPods, หูฟัง Beats หรือเฮดโฟน Beats
- แบตเตอรี่ และสายชาร์จ USB ที่มาพร้อมเครื่อง
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 1,000 บาท
- ดูเพิ่มเติม AirPods
Apple TV และ HomePod
รุ่น | ราคา |
Apple TV | 990 บาท |
HomePod | 1,500 บาท |
HomePod mini | 600 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 3 ปี และ 2 ปีสำหรับ HomePod
- Apple TV, Apple TV Remote และสายไฟที่มีมาให้
- HomePod ของคุณ
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 490 บาทสำหรับ Apple TV
- และค่าธรรมเนี่ยมการให้บริการ 600 บาทสำหรับ HomePod mini หรือ 1,500 บาทสำหรับ HomePod
- ดูเพิ่มเติม Apple TV และ HomePod
สรุปว่าควรซื้อ Apple Care+ ดีไหม
สำหรับคนที่คิดว่าควรซื้อ Apple Care+ ดีไหม หรือว่าไม่ต้องซื้อและใช้งานไปโดยไม่ต้องมีความคุ้มครองเพิ่มเติมเลยดีกว่ากัน ตรงนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่ความสะดวกใจของแต่ละคนเลย แต่ถ้าถามเรื่องความคุ้มค่าและความอุ่นใจสำหรับ iPhone, iPad และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราซื้อมาใหม่ๆ ก็ต้องบอกว่าคุ้มมาก คิดง่ายๆ ได้ว่าถ้าสมมติเราซื้อมาใช้งานได้ 1 ปีขึ้นไป แล้วดันทำหน้าจอแตก แต่จะไปเปลี่ยนร้านนอกก็กลัวของปลอม ถ้าเข้าไปเปลี่ยนหน้าจอกับ Apple แต่ไม่มี Apple Care+ ของ iPhone 15 Pro Max ก็ 14,990 บาทเข้าไปแล้ว แต่ถ้าเราซื้อ Apple Care+ เอาไว้ก็จ่ายเพียงแค่ค่าบริการเพียง 1,000 บาทเท่านั้น รวมถึงค่าเปลี่ยนกระจกด้านหลังด้วย
หรือในอีกกรณีที่เราใช้งาน iPhone, iPad มาใช้งานเกิน 1 ปีแล้วแบตเก็บประจุได้น้อยกว่า 80% ถ้าหากเข้าไปเปลี่ยนกับ Apple จะต้องเสียค่าเปลี่ยนสำหรับ iPhone 15 Pro Max ถึง 3,690 บาท แต่ถ้าซื้อ Apple Care+ เอาไว้ก็เข้าไปเปลี่ยนได้เลยฟรี! หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุอื่นๆ ก็เสียเพิ่มเพียง 3,300 บาทเท่านั้น ถ้าใครที่อยากซ่อมอุปกรณ์ Apple ที่ใช้งานพร้อมกับคำแนะนำที่ดี รวมไปถึงอยากได้ของแท้จาก Apple เลยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนหลอก ก็แนะนำได้เลยว่าคุ้มและดีแน่นอน