จากมาหากาพย์การฟ้องร้องระหว่าง Apple เเละ Samsung ตั้งเเต่ต้นปีมาก็เห็นว่าก็มีทั้งเเพ้เเละชนะไปตามเเต่ละประเทศ คราวนี้มาถึงประเทศสหรัฐที่เป็นตลาดที่ใหญ่เเละมีผลกระทบกับทั้งสองบริษัทเเน่นอน ถือเป็นสนามตัดสินที่สำคัญสนามหนึ่งเลยทีเดียวกับทั้งคู่เกี่ยวกับปัญหาเรื่องการออกเเบบของสินค้าตระกูล Galaxy ที่ Apple บอกว่ามีหน้าตาคล้ายกับ iPhone เเละ iPad มากจนเหมือนกับก็อปดีไซน์ไปเลยทีเดียว
ในศาลนั้น Samsung ได้เสนอว่า Apple พยายามครอบคลุมถึงองค์ประกอบการดีไซน์ในการใช้งานที่เป็นไปไม่ได้ที่จะออกเเบบสมาร์ทโฟนหรือเเท็บเล็ตในเเบบอื่นๆ ในโลกของความเป็นจริงสำหรับอุปกรณ์อย่าง Galaxy S หรือ Galaxy Tab 10.1 ที่ต้องใช้งานเเต่ทาง Apple ก็ได้เเย้งกลับว่า Samsung มีทางเลือกในการออกเเบบอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องละเมิดสิทธิบัตรของ Apple เลยทั้งในเเง่ดีไซน์ของอุปกรณ์เเละประสบการณ์ใช้งานที่เหมือนกับบน iPhone เเละ iPad โดยเเนะนำเเนวทางอื่นๆ ในการออกเเบบของอุปกรณ์ เช่น
- ด้านหน้าของเครื่องไม่จำเป็นต้องมีสีดำ
- รูปทรงไม่จำเป็นต้องเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉาก หรือไม่จำเป็นต้องมีขอบมน
- หน้าจอไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงกลางของเครื่องหรือมีขอบด้านข้าง
- ออกเเบบให้ช่องลำโพงเป็นเเนวตั้ง
- ด้านหน้าของเครื่องมีการตกเเต่งมากกว่านี้
- ด้านหน้าเป็นจอเเสดงผลล้วนๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีกรอบ หรือมีขอบจอที่มีขนาดกว้างขึ้น
- จอไม่จำเป็นต้องเเบนราบทั้งตัวเครื่อง
- ออกเเบบให้หนากว่านี้ได้
- อินเตอร์เฟซมีความซับซ้อนมากกว่าเดิมได้
ถุ้าฟังดูจากคำกล่าวหาของ Apple ก็จะเห็นว่ามีสมาร์ทโฟนที่มีการออกเเบบตามที่ Apple กล่าวมาเหมือนกัน อย่าง Motorola DROID RAZR ที่มีมุมตัดทั้งสี่มุม หรือ Nokia N9 จะเป็นกระจกเเบบโค้งก็ให้ความรู้สึกเวลาจับไปบนจออีกเเบบ
หลังจากฟังคำให้การของทั้งสองฝ่ายเเล้ว ศาลสหรัฐได้ปฏิเสธคำขอห้ามขายสินค้าตระกูล Galaxy ของ Samsung ที่ Apple เสนอมา นั่นหมายความว่าสินค้าอย่าง Galaxy S II หรือ Galaxy Tab 10.1 นั้นสามารถขายต่อไปได้ในสหรัฐ? เพราะ Apple ไม่ได้พิสูจน์ว่าสินค้าของ Samsung ที่วางตลาดไปนั้นจะสร้างความเสียหายใดๆ เเก่ Apple ได้อย่างมีนัยยะสำคัญในตลาด
เเต่ผู้พิพากษาได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า Apple นั้นเสนอหลักฐานออกมาได้ชัดเจนว่าสินค้าตระกูล Galaxy นั้นมีการออกเเบบที่คล้ายกับ iPhone, iPad จริงเเละมีทางเลือกเเบบอื่นๆ ในการดีไซน์สินค้าออกมา ถ้า Apple ชนะคดีนั้น Samsung จะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับ Apple ตามจำนวนสินค้าที่ขายไปในระยะเวลาที่กำหนด
ที่มา : The Verge