ฝั่ง iOS นั้น เป็นอีกส่วนที่ Apple กำลังเร่งพัฒนาอยู่ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทันกับการเปิดตัว iPhone และอุปกรณ์ iOS อื่นๆ รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวตามๆ กันมาภายในปีนี้ ล่าสุดได้ปล่อย iOS 6 Beta 4 (Build 10A5376e) มาให้กับนักพัฒนาได้ทดลองใช้งานกันแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องมีการปรับปรุงฟีเจอร์ภายในไปพอสมควรทีเดียว ซึ่งไฮไลท์ของ iOS 6 Beta 4 ก็เช่น
แอพ YouTube หายไป
เรื่องนี้จัดว่าเป็นเรื่องใหญ่สุดของ iOS 6 Beta 4 แล้วครับ เนื่องด้วยแอพ YouTube ที่อยู่มาตั้งแต่เปิดตัว จนถึงบัดนี้มันได้หายไปแล้ว ซึ่งสาเหตุก็เนื่องมาจากสัญญาร่วมกันเรื่องการใช้งาน API จาก YouTube ระหว่าง Apple และ Google หมดลง ทำให้ฝั่ง Apple ไม่สามารถพัฒนาแอพ YouTube ที่ใช้งาน API จากอีกฝ่ายได้อีก อีกทั้งด้วยการพัฒนาของ iOS และเว็บเบราเซอร์ที่เพิ่มความสามารถมากขึ้นกว่าในอดีตมาก ทำให้ผู้ใช้สามารถดูวิดีโอ YouTube ได้จากในหน้าเว็บเลย ไม่จำเป็นต้องใช้งานแอพแยกอีกต่อไป Apple จึงจัดการนำแอพ YouTube ออกไปจาก iOS
แต่ทั้งนี้ ทาง Google ก็กำลังพัฒนาแอพ YouTube ขึ้นใหม่ และเตรียมจะส่งลง App Store ด้วยเช่นกัน ดังนั้นใครที่ต้องการใช้งานแอพ YouTube ก็คงต้องรอกันไปก่อนนะครับ (แต่มันยังมีผลแค่ใน iOS 6 Beta 4 เท่านั้น ใครที่ยังใช้ iOS 5.1.1 ตามปกติอยู่ก็ไม่มีปัญหาครับ สามารถใช้งานได้ตามปกติ)
เพิ่มฟีเจอร์ Bluetooth Sharing
เป็นอีกหนึ่งส่วนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน iOS 6 Beta 4 แต่ทั้งนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรได้บ้าง เนื่องด้วยคำบรรยายฟีเจอร์มีแต่เพียงว่าสามารถแชร์ข้อมูลของแอพกันได้ โดยมันไปซ่อนอยู่ในส่วนของ Settings > Privacy ครับ คาดว่าคงต้องรออีกซักระยะครับ น่าจะเห็นอะไรได้ชัดเจนกว่านี้
เพิ่มปุ่มเข้า App Store ใน Passbook
เพิ่ม Shared Calendar Alerts
เพิ่มข้อมูลลงในแผนที่ ปรับการเรนเดอร์ตัวอักษรใหม่
เพิ่มความสามารถของ Siri ให้แสดงข้อมูลล่าสุดได้ดียิ่งขึ้น
เพิ่มตัวเปิด/ปิดใหม่ที่ชื่อว่า Wi-Fi Plus Cellular
โดยมันจะเป็นตัวเปิด/ปิดการสลับไปใช้งานเครือข่าย cellular โดยอัตโนมัติเมื่อไม่สามารถใช้งาน Wi-Fi ได้ ซึ่งตามปกติ ถ้า iPhone ไม่สามารถใช้งาน Wi-Fi ได้ ระบบก็จะตัดไปโหลดจาก cellular แทนอัตโนมัติ ซึ่งตัวเลือกนี้ก็เหมาะกับคนที่ต้องการจำกัด data ครับ เรียกว่าเป็นการปิดเพื่อความชัวร์ก็ว่าได้
สุดท้ายก็ขอย้ำนะครับว่า iOS 6 Beta 4 นี้ ยังไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เพราะยังอาจจะมีบั๊กอยู่ ดังนั้นถ้าคิดจะใช้งานเครื่องทั่วไป และมีความจำเป็นต้องใช้เครื่อง ก็อย่าเพิ่งลงจะดีกว่าครับ
ที่มา : Mac Rumors, 9to5mac, Apple Insider