รวม 12 โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นที่มีขายในตอนนี้ รุ่นไหนดีในปี 2023 สเปคดีเล่นเกมได้ หน้าจอใหญ่ในราคาสุดคุ้ม
ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมามือถือ Infinix ก็ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ออกมารัวๆ ไม่ว่าจะเป็น HOT 30 Series หรือ Note 30 Series/ VIP และรุ่นอื่นๆ ที่ตอนนี้ก็ยังมีรุ่น GT 10 Pro จ่อเปิดตัวในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2023 นี้ด้วย ซึ่งมือถือของ Infinix ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่การเล่นเกม มีหน้าจอใหญ่ สเปคดี เล่นไหลลื่น และที่สำคัญก็คือเรื่องของราคา ที่มีราคาเบาๆ สุดคุ้มในทุกๆ รุ่น เรียกได้ว่าใครที่ซื้อมาเล่นเกมเป็นหลักถูกใจแน่นอน ส่วนในด้านอื่นๆ ก็ถือว่าทำได้ดีทั้งการถ่ายรูป การใช้งานทั่วไปอันนี้ทำได้ดีแน่นอน โดยทางเว็บเราก็ได้รีวิวรุ่นใหม่ๆ ไปแล้วพอสมควรทั้ง ZERO 2023, Note 30/ 30 VIP, HOT 30 และรุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นตัว HOT 30 5G ด้วย สำหรับใครที่สนใจและอยากรู้ว่าตอนนี้ Infinix มีรุ่นใหม่รุ่นไหนวางขายบ้างในตอนนี้ เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมารวม 12 โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นที่มีขายในตอนนี้ รุ่นไหนดีในปี 2023 ที่มีสเปคดีเล่นเกมได้ พร้อมหน้าจอใหญ่ในราคาสุดคุ้ม
12 โทรศัพท์ Infinix รุ่นไหนดีในปี 2023
- Infinix SMART 7
- Infinix NOTE 12 (G88)
- Infinix NOTE 12 (G96)
- Infinix NOTE 12 Pro
- Infinix NOTE 12 Pro 5G
- Infinix HOT 20
- Infinix HOT 30
- Infinix HOT 30i
- Infinix HOT 30 5G
- Infinix NOTE 30 (4G)
- Infinix NOTE 30 5G
- Infinix NOTE 30 VIP
ตารางเปรียบเทียบสเปค 12 โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่น รุ่นไหนดีในปี 2023
12 โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นที่มีขายในตอนนี้ รุ่นไหนดีในปี 2023
สำหรับโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นที่วางขายที่เราได้รวบรวมมาฝากกันในวันนี้ จะอ้างอิงจากหน้าเว็บและร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Infinix เป็นหลัก รวมไปถึงรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวออกมาขายด้วย โดยบางรุ่นอาจจะเปิดตัวออกมาใหม่แต่ขายออกไปหมดแล้ว เราก็จะรวมมาให้ด้วยเลย เผื่อว่าในอนาคตจะมีมาเพิ่มเติมพร้อมวางขายอีกครั้ง แต่ถ้าหมดแล้วหมดเลยก็ต้องขออภัยด้วย เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าว่าตอนนี้มีรุ่นไหนวางขายอยู่ และแต่ละรุ่นมีสเปคพร้อมราคาเท่าไหร่บ้าง
1. Infinix SMART 7: ราคา 2,899 บาท
เริ่มต้นโทรศัพท์ Infinix กันด้วยรุ่น SMART 7 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่เปิดตัวออกมาในปีนี้เลย โดยรุ่นนี้เป็นมือถือรุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆ ใช้งานแบบทั่วไป สแกนจ่ายได้ปกติ ตัวเครื่องนั้นเป็นแบบขอบแบนกับฝาหลัง 3D ลายคลื่นน้ำที่จับได้ถนัดมือและไม่ลื่น หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ กว้าง 6.6 นิ้วความสว่างสูงสุด 500nits ที่ปรับความสว่างได้ถึง 4096 ระดับ มาพร้อมชิป Helio A22 ที่มี RAM 4GB กับ ROM 64GB ขยายแรมเพิ่มได้อีก 3GB และมีเทคโนโลยี Storage Streamlizing ที่ช่วยให้มีพื้นที่มากขึ้น เพิ่มด้วย microSD ได้สูงสุด 2TB รุ่นนี้มีกล้องหลังตัวหลัก 13MP กับกล้อง AI ถ่ายทั่วไปได้ กล้องหน้ามี 5MP พร้อม Flashlight กับแบตอึดๆ อีก 5,000 mAh ดูสเปคและซื้อได้ที่นี่
2. Infinix NOTE 12 (G88): ราคา 3,999 บาท
ต่อกันด้วยโทรศัพท์ Infinix รุ่นที่ได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัวออกมาใน 2022 ปีที่แล้ว แต่ในปีนี้ก็ยังคงมีการวางขายอยู่เหมือนเดิม โดยมีทั้งรุ่นปกติที่ใช้ชิปคนละตัวและรุ่นโปรอีกด้วย แต่ว่ารุ่นนี้เป็นตัวเริ่มต้นที่เน้นเล่นเกมได้เลย ตัวเครื่องนั้นมีขอบแบนและบางเพียง 7.9 มม. กับหน้าจอที่เป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ True Color กว้าง 6.7 นิ้วกับอัตราส่วน 92% ขนาดใหญ่เต็มที่สว่างได้ถึง 1000nits มาพร้อมชิปเกมมิ่ง Helio G88 ที่มี RAM 6GB/ ROM 128GB ขยายเพิ่มได้อีก 5GB เล่นเกมได้สบายด้วยฟีเจอร์สำหรับคอเกมโดยเฉพาะ ส่วนกล้องหลังมี 3 ตัวความละเอียดหลัก 50MP ชัดลึก 2MP และ QVGA อีกหนึ่งตัว มีโหมดกลางคืนรองรับ กับกล้องหน้า 16MP ถ่ายคมชัด รุ่นนี้มีแบตความจุ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ถึง 33W ดูสเปคและซื้อที่นี่
3. Infinix NOTE 12 (G96): ราคา 4,999 บาท
สำหรับโทรศัพท์ Infinix รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นในซีรีส์ Note 12 ที่ได้อัพเกรดชิปให้แรงขึ้นและมีรายละเอียดอื่นๆ ที่แตกต่างจากรุ่น G88 ด้วย อย่างแรกเลยก็คือตัวเครื่องที่รุ่นนี้บางกว่าที่ด้วยความบางเพียง 7.8 มม. และมีรูปแบบโมดูลกล้องที่ต่างกัน ส่วนหน้าจอนั้นเหมือนกันที่เป็น AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.7 นิ้วเท่ากันหมด แน่นอนว่าชิปตัวนี้ก็เป็นตัวเกมมิ่งเหมือนกันที่กับชิป Helio G96 ที่มี RAM 8GB/ ROM 128GB สามารถขยายแรมเพิ่มได้อีก 5GB พร้อมฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมทั้ง Linear Motor และระบบทำความเย็นที่ดีเช่นกัน ส่วนกล้องหลังมีเท่ากันที่ 50MP ชัดลึก 2MP และ QVGA กับกล้องหน้า 16MP และแบต 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 33W เหมือนกัน ดูสเปคและซื้อที่นี่
4. Infinix NOTE 12 Pro: ราคา 5,999 บาท
โทรศัพท์ Infinix รุ่นต่อมาเป็นรุ่นโปรของซีรีส์ Note 12 ที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ยังมีการวางขายอยู่เช่นกัน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่น 4G ระดับกลางๆ ราคาไม่สูงมาก มีฝาหลังผิวด้านและโมดูลกล้องวงกลมใหญ่ๆ ที่ด้านหลัง ส่วนหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ True Color กว้าง 6.7 นิ้วตรงนี้ก็มีความคล้ายกับรุ่นปกติเหมือนกัน มาพร้อมกับชิป Helio G99 ที่มี RAM 8GB/ ROM 128GB ขยายเพิ่มได้อีก 5GB และมีระบบระบายความร้อนกับลำโพงคู่ DTS สำหรับเล่นเกมด้วย ที่น่าสนใจคือกล้องหลังความละเอียดหลัก 108MP ชัดลึก 2MP และ QVGA ที่ถ่ายได้คมชัดมากขึ้น ส่วนกล้องหน้ามี 16MP และมีแบตเท่ากันที่ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 33W ดูสเปคและซื้อที่นี่
5. Infinix NOTE 12 Pro 5G: ราคา 6,599 บาท
โทรศัพท์ Infinix ตัวตึงรุ่นสุดท้ายของ Note 12 Series นั่นก็คือรุ่น 5G ที่รุ่นนี้ก็มีสเปคและหน้าตาต่างจากรุ่นปกติไปเลย มีตัวเครื่องขอแบนที่บางเพียง 7.9 มม. กับโมดูลกล้องสี่เหลี่ยม และมีหน้าจอเป็น AMOLED ระดับ FHD+ True Color กว้าง 6.7 นิ้ว มาพร้อมชิปตัวแรงอย่าง Dimensity 810 ที่มี RAM 8GB/ ROM 128GB ขยายเพิ่มได้อีก 5GB เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีการระบายความร้อนและลำโพงคู่ DTS ที่เอาไว้เล่นเกมหรือดูหนังได้สบายๆ ทีเด็ดอีกอย่างนึงก็คือตัวกล้องหลังที่ความละเอียดหลัก 108MP ชัดลึก 2MP และ Micro 2MP ถ่ายได้ความละเอียดสูง ถ่ายกลางคืนได้ด้วย Ultra Night หรือถ่ายบุคคลก็ทำได้อย่างมืออาชีพ ส่วนกล้องหน้ามี 16MP และมีแบตเหมือนกันที่ความจุ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 33W ดูสเปคและซื้อที่นี่
6. Infinix HOT 20: ราคา 3,499-3,699 บาท
ต่อเนื่องด้วยโทรศัพท์ Infinix รุ่นที่เปิดตัวมาช่วงปลายปี 2022 วางขายอยู่ 2 รุ่น โดยตัวนี้เป็นมือถือเล่นเกมในราคาประหยัด ตัวเครื่องเป็นขอบแบนกับโมดูลกล้องวงแหวนคู่ และมีหน้าจอเป็น IPS LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.82 นิ้วและมี Refresh Rate 90Hz หน้าจอใหญ่จัดเล่นได้ไหลลื่นขึ้น และยังได้ชิปเกมมิ่ง Helio G85 ที่มี RAM 4/6GB กับ ROM 128GB มี Extended RAM ขยายแรมได้อีก 5GB มีให้เลือกสองรุ่นราคาต่างกันเล็กน้อย ตัวสเปคสูงราคาถูกกว่าด้วย พร้อมฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ กล้องหลังมีตัวหลัก 50MP + AI ถ่ายกลางคืนได้ กล้องหน้ามี 8MP และมีแบต 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 18W ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่ 4/128GB, 6/128GB
7. Infinix HOT 30: ราคา 4,599-4,999 บาท
โทรศัพท์ Infinix รุ่นที่เปิดตัวออกมาในช่วงต้นปี 2023 ทำออกมาเป็นมือถือสเปคคุ้ม ใช้งานได้หลากหลาย เล่นเกมได้ในราคาเบาๆ ตัวเครื่องเป็นผิวสะท้อนแสงพร้อมเส้นลวดลายแนวยาวที่ฝาหลัง หน้าจอเป็น IPS LCD แบบ LTPS ระดับ FHD+ กว้าง 6.78 นิ้วและมี Refresh Rate 90Hz สว่างได้สูงสุด 600nits เล่นกลางแจ้งหายห่วง มาพร้อมชิป Helio G88 ที่มี RAM 8GB/ ROM 128-256GB ขยายแรมเพิ่มได้อีก 8GB เล่นเกมได้ไหลลื่น มีให้เลือกสองรุ่นความจุในราคาต่างกัน 500 บาทเท่านั้น ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 50MP + AI และมีกล้องหน้า 8MP มีโหมดและฟีเจอร์การถ่ายรูปให้เล่นเยอะ โดยรุ่นนี้มีแบตความจุ 5,000 mAh ชาร์จไว 33W ดูสเปคและซื้อที่นี่ 8/128GB, 8/256GB
8. Infinix HOT 30i: ราคา 3,599- 3,929 บาท
โทรศัพท์ Infinix รุ่นสเปครองของซีรีส์ HOT 30 ที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป สแกนจ่ายได้ เล่นเกมเบาๆ พอไหว โดยฝาหลังจะมีลวดลายแบบเหลี่ยมและมีโมดูลกล้องคล้ายกับตัว HOT 30 รุ่นปกติ มีหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.6 นิ้วกับ Refresh Rate 90Hz เล่นได้ไหลลื่นเหมือนกัน ส่วนชิปนั้นใช้เป็นตัว Unisoc T606 ที่มี RAM 4/8GB และ ROM 128GB มีให้เลือกสองรุ่นอีกเช่นกัน อย่างที่บอกไปว่าเอาไว้ใชเงานทั่วไปหรือเล่นเกมพอได้เลย ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดหลัก 13MP + AI และกล้องหน้า 8MP ที่มีแฟลชคู่ ถ่ายทั่วไปหรือสแกนจ่ายได้ปกติ รุ่นนี้มีแบตความจุ 5,000 mAh ชาร์จไว 18W ดูสเปคและซื้อที่นี่ 4/128GB, 8/128GB
9. Infinix HOT 30 5G: ราคา 6,499 บาท
โทรศัพท์ Infinix รุ่นล่าสุดจากทั้งหมดนี้แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีออกวางขายบนช่องทางออนไลน์ของ BaNANA และเราก็ได้พรีวิวกันไปแล้วด้วย (ดูที่นี่) โดยรุ่นนี้มีฝาหลังแบบเรียบๆ มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ระดับ FHD+ กว้าง 6.78 นิ้วกับ Refresh Rate 120Hz เล่นได้ลื่นกว่าทุกรุ่นในซีรีส์ และยังได้ชิป Dimensity 6020 ที่ใช้ 5G ได้ มีความจุ RAM 8GB/ ROM 128GB เล่นเกมได้สบายๆ มีกล้องหลังตัวหลักที่ 50MP + AI ถ่ายกลางคืนหรือถ่ายคนได้คมชัด กล้องหน้ามี 8MP เซลฟี่ได้ปกติ ส่วนแบตมีความจุอึดๆ ที่ 6,000 mAh ชาร์จไว 18W ดูสเปคและซื้อที่นี่
10. Infinix NOTE 30 (4G): ราคา 5,499- 6,399 บาท
มาดูที่โทรศัพท์ Infinix ในซีรีส์ NOTE 30 รุ่นเริ่มต้นนี้กันบ้าง ซึ่งซีรีส์นี้ก็กำลังเป็นที่พูดถึงในเรื่องของความคุ้มค่ากับสเปคแบบมากๆ โดยตัวนี้มีขอบแบนและดีไซน์แบบเรียบหรู ส่วนหน้าจอเป็น IPS LCD แบบ LTPS ระดับ FHD+ กว้าง 6.78 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 580nits เล่นลื่นสบายตายแน่นอน มาพร้อมชิปเกมมิ่ง Helio G99 ที่มี RAM 8GB และ ROM 128/256GB มีให้เลือกซื้อสองรุ่นความจุ เล่นเกมได้เร็วแรงทั้งคู่ มีลำโพง JBL แต่ถ้าเน้นถ่ายรูปก็ตัวท็อปไปเลย เพราะกล้องหลังรุ่นนี้มี 64MP ชัดลึก 2MP + AI ถ่ายกลางคืนหรือถ่ายคนคมชัด กล้องหน้ามี 16MP ถ่ายวิดีโอหน้าหลังพร้อมกันได้ ส่วนแบตมีความจุ 5,000 mAh ชาร์จไว 45W ดูสเปคและซื้อที่นี่
11. Infinix NOTE 30 5G: ราคา 6,999- 7,499 บาท
โทรศัพท์ Infinix ของซีรีส์ NOTE 30 ที่เป็นรุ่น 5G ซึ่งรุ่นนี้ก็มีดีไซน์ตัวเครื่องที่คล้ายๆ กับรุ่น 4G เลย แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าตัวแฟลชของรุ่นนี้จะอยู่ด้านบนสลับกับตัวปกติที่อยู่ด้านล่าง ส่วนหน้าจอเป็น IPS LCD แบบ LTPS ระดับ FHD+ กว้าง 6.78 นิ้วและ Refresh Rate 120Hz กับความสว่างสูงสุด 580nits เหมือนกันเป๊ะ แต่ว่าได้ชิปตัว Dimensity 6080 ใช้งาน 5G ได้ เล่นเกมได้แน่นอน มาพร้อม RAM 8GB กับ ROM 128/256GB มีให้เลือกสองรุ่นเหมือนกัน มีลำโพง JBL ด้วย ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดหลัก 108MP ชัดลึก 2MP + AI กับกล้องหน้า 16MP แน่นอนว่ารุ่นนี้ถ่ายได้คมชัดกว่ารุ่นปกติหน่อย แต่ก็มีฟีเจอร์การถ่ายคล้ายกัน และมีแบต 5,000 mAh ชาร์จไว 45W เท่ากันด้วย ดูสเปคและซื้อที่นี่
12. Infinix NOTE 30 VIP: ราคา 10,999 บาท
ปิดท้ายด้วยโทรศัพท์ Infinix รุ่นที่เปิดตัวออกมาให้จองแล้วก็วางขายไม่นานก็เครื่องหมดไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีมาเพิ่มเติมหรือไม่ เลยขอใส่มาให้ด้วยเพราะสเปคน่าสนใจและน่าใช้งานมากจริงๆ ดีไซน์ตัวเครื่องเรียบหรูเหมือนกัน มีหน้าจอเป็น AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz สว่างได้ถึง 900nits กับขอบจอบางมาก และได้ชิปตัวล่าสุดคือ Dimensity 8050 ที่มี RAM 12GB/ ROM 256GB ขยายแรมได้สูงสุดรวมกันถึง 21GB เล่นเกมสบายไม่มีสะดุด มีระบบกันสัญญาณขาดหายด้วย ส่วนกล้องหลังมี 108MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายคนหรือถ่ายวิว และตอนกลางคืนได้สวยเลย กล้องหน้ามีความละเอียด 32MP เซลฟี่ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนแบตมีความจุ 5,000 mAh ชาร์จไว 68W ไร้สายได้ 50W ดูสเปคเพิ่มเติมที่นี่
ตารางเปรียบเทียบสเปค 12 โทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่น รุ่นไหนดีในปี 2023
รุ่น\ สเปค | หน้าจอ | ชิป | กล้องหน้า | กล้องหลัง | RAM/ ROM | แบต | ราคา |
Infinix SMART 7 | IPS LCD 6.6 นิ้ว | Helio A22 | 5MP | 13MP + AI | 4/64GB | 5,000 mAh | 2,899 บาท |
Infinix NOTE 12 (G88) | AMOLED 6.7 นิ้ว | Helio G88 | 16MP | 50MP + 2MP + Q | 6/128GB | 5,000 mAh, 33W | 3,999 บาท |
Infinix NOTE 12 (G96) | AMOLED 6.7 นิ้ว | Helio G96 | 16MP | 50MP + 2MP + Q | 8/128GB | 5,000 mAh, 33W | 4,999 บาท |
Infinix NOTE 12 Pro | AMOLED 6.7 นิ้ว | Helio G99 | 16MP | 108MP + 2MP + Q | 8/128GB | 5,000 mAh, 33W | 5,999 บาท |
Infinix NOTE 12 Pro 5G | AMOLED 6.7 นิ้ว | Dimensity 810 | 16MP | 108MP + 2MP + 2MP | 8/128GB | 5,000 mAh, 33W | 6,599 บาท |
Infinix HOT 20 | IPS LCD, 90Hz 6.82 นิ้ว | Helio G85 | 8MP | 50MP + AI | 4-6/128GB | 5,000 mAh, 18W | 3,499 บาท |
Infinix HOT 30 | IPS LCD, 90Hz 6.78 นิ้ว | Helio G88 | 8MP | 50MP + AI | 8/128-256GB | 5,000 mAh, 33W | 4,599 บาท |
Infinix HOT 30i | IPS LCD, 90Hz 6.6 นิ้ว | Unisoc T606 | 8MP | 13MP + AI | 4-8/128GB | 5,000 mAh, 18W | 3,599 บาท |
Infinix HOT 30 5G | IPS LCD, 120Hz 6.78 นิ้ว | Dimensity 6020 | 8MP | 50MP + AI | 8/128GB | 6,000 mAh, 18W | 6,499 บาท |
Infinix NOTE 30 (4G) | IPS LCD, 120Hz 6.78 นิ้ว | Helio G99 | 16MP | 64MP + 2MP + AI | 8/128-256GB | 5,000 mAh, 45W | 5,499 บาท |
Infinix NOTE 30 5G | IPS LCD, 120Hz 6.78 นิ้ว | Dimensity 6080 | 16MP | 108MP + 2MP + AI | 8/128-256GB | 5,000 mAh, 45W | 6,999 บาท |
Infinix NOTE 30 VIP | AMOLED, 120Hz 6.67 นิ้ว | Dimensity 8050 | 32MP | 108MP + 2MP + 2MP | 12/256GB | 5,000 mAh, 68W | 10,999 บาท |
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคและรวมโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นที่มีขายในตอนนี้ว่ามีรุ่นไหนบ้าง และจะซื้อรุ่นไหนดีในปี 2023 ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง โดยแต่ละรุ่นทั้ง 12 รุ่นที่เอามาแนะนำกันในวันนี้ ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การเล่นเกมที่เล่นได้อย่างไหลลื่น มีหน้าจอที่ใหญ่รองรับการเล่น หรือว่าดูหนังได้เต็มที่ หรือว่าถ้าใครอยากได้รุ่นที่ใช้งานทั่วไป สแกนจ่ายได้ก็มีให้เลือกเหมือนกันในราคาเบาๆ ไม่เกิน 5,000 บาท แต่ถ้าอยากจัดเต็ม ก็แนะนำว่าให้ซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกมาในปีนี้ไปเลยจะคุ้มกว่า เพราะมีชิปที่ใหม่กว่า ความจำและความจุที่ดีกว่า ที่สำคัญคือราคาไม่ได้ห่างกันมากเกินไป ยังพอรับได้กับราคาที่ออกมา ใครสนใจรุ่นไหนก็ลองเลือกดูสเปคกันได้เลย
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลทั้งหมดจาก Infinix TH