สเปค Infinix Note 30 VIP สเปคเทพ หน้าจอ AMOLED 120Hz ชิป Dimensity 8050 ชาร์จไร้สาย 50W ในราคาเพียง 10,999 บาท
เปิดตัวกันไปเรียบร้อยกับ Infinix รุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Note 30 ที่ก่อนหน้านี้ก็มี Infinix Note 30, Note 30 5G และ Note 30 Pro (ดูสเปคทุกรุ่นที่นี่) ที่เปิดตัวออกมาก่อนแล้ว และก็ตามมาด้วยรุ่นสเปคเทพสุดของซีรีส์นั่นก็คือ Note 30 VIP ที่มีสเปคครบเครื่อง ไม่ว่าจะเอามาใช้งานทั่วไป เน้นเล่นเกมหรือถ่ายรูปก็ทำได้สบายๆ ในราคาเบาๆ แค่หมื่นต้นๆ เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นมือถือสเปคดีที่มีราคาคุ้ม และมาแรงในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งเราก็ได้รีวิวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถกดดูจากวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย สำหรับคนที่สนใจรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Infinix ที่มีสเปคคุ้มๆ รุ่นนี้ และอยากรู้ว่ามีสเปคอะไรตรงไหนเด็ดๆ บ้าง เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค Infinix Note 30 VIP มือถือสเปคเทพ ที่มีหน้าจอ AMOLED 120Hz พร้อมชิป Dimensity 8050 กล้อง 108MP และชาร์จไร้สายได้ไวถึง 50W ในราคาเพียง 10,999 บาทเท่านั้น
สเปค Infinix Note 30 VIP
เปรียบเทียบสเปค Infinix Note 30 VIP กับรุ่นอื่นในซีรีส์ของ Infinix Note 30
ดีไซน์สวย หน้าจอขอบบางไหลลื่น 120Hz
เริ่มต้นกันด้วยดีไซน์ตัวเครื่องของ Infinix Note 30 VIP กันก่อนเลย ที่มีกรอบตัวเครื่องแบบขอบแบน และมีโมดูลกล้องหลังที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย มีรูปแบบสี่เหลี่ยมพร้อมเลนส์ 3 ตัวและแฟลชอีก 1 ตัว ส่วนรูกล้องหน้าเป็นแบบเจาะรู (Punch-Hole) สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP53 ซึ่งขอบด้านบนนั้นมีการสลักชื่อลำโพง JBL ลงไปด้วยเพื่อตอกย้ำเรื่องเสียงที่กระหึ่ม มีให้เลือก 2 สีคือ Glacier White (สีขาว) และ Magic Black (สีดำ)
ในส่วนของหน้าจอของ Infinix Note 30 VIP นั้นมีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED 10-bit 1 พันล้านสีบนขอบเขตสี DCI-P3 ให้รายละเอียดคมชัดสีสันสดใส ความละเอียดระดับ FHD+ (1080×2400 พิกเซล) ดู Netflix HD ได้ กว้าง 6.67 นิ้วขนาดกำลังดีและมี Refresh Rate 120Hz แบบ LTPS ไม่ว่าจะเล่นเกม ไถหน้าโซเชียล หรือดูวิดีโอก็ทำได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังทำความสว่างได้สูงสุด 900nits กับการลดแสงแบบ PWM ได้ถึง 1920Hz มีโหดมถนอมสายตารองรับครบหมด ที่น่าสนใจก็คือรุ่นนี้มีขอบหน้าจอบางมากด้วยอัตราหน้าจอกับตัวเครื่อง 93% ความบางของขอบบนล่างมี 2.3 มม. และด้านข้างบางเพียง 1.4 มม. เท่านั้น เล่นเกมหรือดูวิดีโอดูหนังได้เต็มที่จุใจอย่างแน่นอน
ชิปใหม่ตัวแรง ใช้ 5G ได้เล่นเกมสบายพร้อม RAM 12GB
มาดูทางด้านของชิปประมวลผลของ Infinix Note 30 VIP กันบ้าง ที่รุ่นตัวท็อปนี้ก็ได้ใช้ชิปตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Dimensity 8050 (6nm) ที่มีหน่วยความจำ RAM 12GB ที่มี MemFusion สามารถขยายเพิ่มได้อีก 9GB ทำให้รุ่นนี้จะมี RAM ได้สูงสุดถึง 21GB เลยทีเดียว ส่วนความจุมีให้ถึง 256GB รองรับ microSD ได้ 2TB ใช้งานหลายๆ แอพพร้อมกันหรือว่าเล่นเกมปรับสุดได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมี HyperEngine 5.0 ที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพกับเทคโนโลยี UPS ที่ทำให้การเชื่อมต่อได้ดีขึ้นในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นตอนเล่นเกม สัญญาณอ่อน ในลิฟต์หรือสนามบินด้วย 5G, ซิมคู่ 5G, Clever 5G 2.0 ที่ทำให้การเชื่อมต่อไม่มีสะดุดในทุกๆ ที่
นอกจากนี้ก็ยังมีมอเตอร์ Z-AXIS เพื่อความสมจริงด้วย ส่วนการเชื่อมต่อใช้ได้ทั้ง 5G, WiFi6, NFC ช่องหูฟัง 3.5 มม. มาพร้อมลำโพงคู่ที่ทำร่วมกับ JBL ให้เสียงระดับมืออาชีพรองรับเสียง Hi-Res ดังกระหึ่ม กับการระบายความร้อนด้วย VC ขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 2890 ตร.ม. และมีตัวระบายความร้อนทั้งหมด 11 ชั้น เล่นเกมได้ไม่ต้องกลัวเครื่องร้อน โดยรุ่นนี้ทำงานบนระบบ XOS 13 บนพื้นฐาน Android 13
กล้องคมชัด 108MP
ในส่วนของกล้อง Infinix Note 30 VIP รุ่นนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย ด้วยกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดตัวหลัก 108MP (f/1.75) ที่มีเซนเซอร์ขนาด 1/1.67” กับมาโคร 2MP (f/2.4) และเลนส์ชัดลึก 2MP (f/2.4) ถ่ายทั่วไปได้ดี ถ่ายกลางก็มีโหมด Super Night รองรับ นอกจากนี้ก็ยังมีทั้งฟิลเตอร์ Street Photograph และฟีเจอร์ Sky Remap ที่เปลี่ยนท้องฟ้ามืดครึ้มให้กลับมาสดใส มาโครที่ถ่ายได้ใกล้ 4 ซม. ถ่ายวิดีโอได้ 4K@30FPS และถ่ายวิดีโอพร้อมกันทั้งหน้าและหลังได้ด้วย โดยตัวกล้องหน้าก็มีความละเอียดสูงถึง 32MP (f/2.45) ถ่ายกลางวันก็คมชัด ถ่ายกลางคืนก็ไม่มีปัญหาด้วยแฟลชด้านหน้าแบบ Dual Flash พร้อมถ่ายวิดีโอได้ 2K@30fps มีกันสั่น EIS ด้วย ตัวกล้องจากที่รีวิวไปแล้วนั้นถ่ายออกมาได้สวยเลย
แบตอึดรองรับการชาร์จไวทั้งมีสาย และไร้สายในราคาเบาๆ แค่หมื่นต้นๆ
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ที่ Infinix Note 30 VIP รุ่นนี้ก็ชูจุดเด่นมาให้ในเรื่องของการชาร์จ โดยรุ่นนี้มีความจุแบตอยู่ที่ 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานเต็มวันอยู่แล้ว อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไวแบบ All-Round FastCharge 68W สามารถชาร์จได้ 80% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น หรือถ้าชาร์จ 5 นาทีก็สแตนบายเครื่องได้ยาวนานถึง 5.6 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่น่าสนใจก็คือการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วถึง 50W รองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ และชาร์จกับอุปกรณ์ที่รองรับ PD 3.0 ทั้งหมดได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีการชาร์จแบบ Bypass ที่ทำให้ชาร์จไปด้วยเล่นไปด้วยเครื่องก็ยังคงมีความเย็นอยู่ รวมไปถึง E-IQ และความปลอดภัยในการชาร์จที่ชาร์จได้อุ่นใจอยู่เสมอ โดย Infinix Note 30 VIP เปิดตัวออกมาด้วยราคาน่าคบหาที่ 10,999 บาทเท่านั้น ดูรายละเอียดสเปคเพิ่มเติมได้ที่ Infinix
สรุปสเปค Infinix Note 30 VIP
- หน้าจอ: AMOLED (FHD+) กว้าง 6.67 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 900 นิต
- ชิปประมวลผล: Dimensity 8050 (6nm)
- RAM: 12GB (LPDDR4X)
- ROM: 256GB (UFS3.1)
- microSD: 2TB
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 108MP (ƒ/1.75) เซนเซอร์ 1/1.67”
- เลนส์ Depth 2MP (ƒ/2.4)
- เลนส์ Macro 2MP (ƒ/2.4)
- วิดีโอ 4K@30FPS
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.45) กันสั่น EIS วิดีโอ 2K@30fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi6, Bluetooth 5.1, NFC, 3.5 JACK
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ XOS 13
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh All-Round FastCharge 68W/ ชาร์จไร้สาย 50W
- ราคา: 10,999 บาท
เปรียบเทียบสเปค Infinix Note 30 VIP กับรุ่นอื่นในซีรีส์ของ Infinix Note 30
Infinix Note 30 VIP | Infinix Note 30 | Infinix Note 30 5G | Infinix Note 30 Pro | |
หน้าจอ | AMOLED, 120Hz 6.67 นิ้ว | IPS LCD, 120Hz 6.78 นิ้ว | IPS LCD, 120Hz 6.78 นิ้ว | AMOLED, 120Hz 6.78 นิ้ว |
ชิป | Dimensity 8050 | Helio G99 | Dimensity 6080 5G | Helio G99 |
กล้องหน้า | 32MP | 16MP | 16MP | 5,000 mAh, 45W |
กล้องหลัง | 108MP + 2MP + 2MP | 64MP + 2MP + AI | 108MP + 2MP + AI | 108MP + 2MP + AI |
RAM/ ROM | 12/256GB | 8/128-256GB | 8/128-256GB | 8/128-256GB |
แบต | 5,000 mAh, 68W | 5,000 mAh, 45W | 5,000 mAh, 45W | 5,000 mAh, 45W |
ราคา | 10,999 บาท | 5,999 บาท | 7,499 บาท | ไม่เกิน 10,000 บาท |
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสเปค Infinix Note 30 VIP ที่เราได้สรุปให้แบบจุดต่อจุดว่ามีจุดเด่นที่น่าสนใจตรงไหนบ้าง ซึ่งมือถือระดับกลางในราคาหมื่นต้นๆ แต่ได้สเปคเทพขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มมากๆ แล้ว ทั้งหน้าจอที่มีความคมชัด เล่นได้อย่างไหลลื่นถึง 120Hz ดูหนังเล่นเกมได้เต็มที่ ได้ชิปตัวแรงตัวใหม่พร้อมกับ RAM ที่ไปได้สูงถึง 21GB ทำให้การเล่นเกมหรือว่าใช้หลายๆ แอพไม่มีสะดุด แถมยังใช้ 5G ได้ด้วย เรื่องกล้องก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ใช้ถ่ายทั่วไปหรือว่าถ่ายกลางคืนได้คมชัดแน่นอน หรือใครจะเอามาถ่ายด้วยกล้องหน้าก็ยังชัด รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่มีความจุเยอะ และรองรับการชาร์จไวได้แบบเต็มที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบบมีสายหรือไร้สายก็ไว เล่นได้อย่างต่อเนื่องไม่ทำให้เครื่องร้อน ใครสนใจก็สามารถหาซื้อกันได้แล้วที่ Infinix เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลทั้งหมดจาก Infinix TH