หลังจากมีข่าวมาอยู่นาน ในที่สุด Apple ก็ได้เปิดตัว iPad 5 ที่เปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า iPad Air เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย iPad Air มีจุดเด่นที่ตัวเครื่องมีขนาดบางลงกว่า iPad 4 ทั้งยังมีน้ำหนักที่ลดลงมาด้วย ด้านของสเปค iPad Air ก็ได้รับการอัพเกรดสเปคให้แรงขึ้น เร็วขึ้นตามปกติ
สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับ iPad Air
- iPad 5 ใช้ชื่อว่า iPad Air
- เครื่องบางลง เบาลงกว่าเดิม
- จอเป็น Retina Display เหมือนเดิม
- ใช้ชิป A7 เหมือน iPhone 5s
- ไม่มี TouchID ตามที่ลือ
- ไม่มีสีทองให้เลือก
- ราคาน่าจะเริ่มต้นที่ 16,500 บาท
สเปค iPad Air (iPad 5)
- ชิปประมวลผล Apple A7 รองรับ 64 บิตเหมือนใน iPhone 5s
- ภายในมีชิป M7 สำหรับช่วยประมวลผลด้านการเคลื่อนไหว (Motion) ด้วย
- หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว Retina Display ความละเอียด 2048 x 1536
- กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล
- มาพร้อม iOS 7
- ฝาหลังเป็นอะลูมิเนียมอะโนไดซ์แบบเดียวกับ iPad mini
- มีให้เลือก 4 ความจุคือ 16, 32, 64 และ 128 GB
- iPad Air หนัก 469 กรัม เบากว่า iPad 4 ที่หนักประมาณ 652 กรัม (รุ่น WiFi)
- iPad Air มีขนาดบางเหลือเพียง 7.5 มิลลิเมตร จากเดิมที่หนา 9.4 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานทั่วไปได้ 10 ชั่วโมง
- ไม่มี TouchID ตามข่าวลือ
- สเปค iPad Air WiFi
- สเปค iPad Air WiFi+Cellular
ราคา iPad Air (ราคาในสหรัฐฯ) *** ราคาแปลงเป็นเงินไทยแบบคร่าวๆ ***
รุ่น WiFi
- iPad Air 16 GB ราคา $499 ประมาณ 15,000 บาท
- iPad Air 32 GB ราคา $599 ประมาณ 18,000 บาท
- iPad Air 64 GB ราคา $699 ประมาณ 21,000 บาท
- iPad Air 128 GB ราคา $799 ประมาณ 24,000 บาท
รุ่น WiFi+Cellular
- iPad Air 16 GB ราคา $629 ประมาณ 19,000 บาท
- iPad Air 32 GB ราคา $729 ประมาณ 22,000 บาท
- iPad Air 64 GB ราคา $829 ประมาณ 25,000 บาท
- iPad Air 128 GB ราคา $929 ประมาณ 28,000 บาท
โดย iPad Air จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศแรก ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ส่วนในประเทศไทย อาจจะต้องรอไปอีกประมาณ 1 เดือนครับ
รูปร่างหน้าตา iPad Air