
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย – วันนี้ Apple เปิดตัว iPad Air พร้อมชิป M3 ที่เร็วขึ้นและทรงพลังยิ่งขึ้น ทั้งยังสร้างมาเพื่อ Apple Intelligence โดย iPad Air พร้อมชิป M3 นำสถาปัตยกรรมกราฟิกสุดล้ำของ Apple มาไว้บน iPad Air เป็นครั้งแรก พร้อมยกระดับประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและความสะดวกในการพกพาที่ผสานกันอย่างลงตัวไปอีกขั้น ซึ่ง iPad Air พร้อมชิป M3 เร็วกว่า iPad Air พร้อมชิป M1 เกือบ 2 เท่า1 และเร็วกว่า iPad Air พร้อมชิป A14 Bionic สูงสุด 3.5 เท่า2 ผู้ใช้จึงสัมผัสความเร็วของชิป M3 ได้ในทุกอย่างที่ทำ ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจได้รวดเร็วกว่าที่เคย จนถึงการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ โดยมาใน 4 สีสันสวยงามที่ผู้ใช้จะต้องหลงรักและมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ที่พกไปไหนมาไหนได้สะดวกสุดๆ และรุ่น 13 นิ้ว ที่มาพร้อมจอภาพที่ใหญ่ยิ่งกว่าเพื่อให้มีพื้นที่ในการสร้างสรรค์และทำงานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Magic Keyboard ใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับ iPad Air ที่จะช่วยยกระดับความอเนกประสงค์และขยายขีดความสามารถมากขึ้นไปอีกขั้น และด้วย iPadOS 18, การรองรับ Apple Intelligence, กล้องสุดล้ำ, การเชื่อมต่อกับ 5G แบบไร้สายที่รวดเร็ว แถมยังใช้งานร่วมกับ Apple Pencil Pro และ Apple Pencil (USB-C) ได้ บอกเลยว่า iPad Air ใหม่นั้นจะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยากจะหาใครเทียบ
iPad Air ใหม่มาในราคาสุดคุ้มโดยเริ่มต้นในราคาเพียง 21,900 บาท สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 28,900 บาท สำหรับรุ่น 13 นิ้ว ส่วนราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว เริ่มต้นเพียง 20,100 บาท และสำหรับรุ่น 13 นิ้ว เริ่มต้นเพียง 27,100 บาท
“iPad Air ได้รับความนิยมมากเพราะมีความลงตัวที่ยากจะหาใครเทียบระหว่างประสิทธิภาพ ความสะดวกในการพกพา และการรองรับอุปกรณ์เสริมสุดล้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้มาในราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ” Bob Borchers รองประธานฝ่าย Worldwide Product Marketing ของ Apple กล่าว “ตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัยที่จดโน้ตด้วย Apple Pencil Pro จนถึงนักเดินทางและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการอุปกรณ์ทรงพลังที่ทำงานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ทำทั้งหมดนี้ได้ด้วย iPad Air พร้อมชิป M3, Apple Intelligence และ Magic Keyboard ใหม่ที่ยกระดับทั้งความอเนกประสงค์และความคุ้มค่าไปอีกขั้น”

ประสิทธิภาพที่อัดฉีดพลังแรงโดยชิป M3
iPad Air พร้อมชิป M3 สามารถเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้ทำงานและสร้างสรรค์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ตั้งแต่ครีเอทีฟไฟแรงที่ทำงานกับไฟล์ขนาดใหญ่และใช้แอปที่ต้องประมวลผลหนักๆ จนถึงนักเดินทางที่ตัดต่อคอนเทนต์ขณะอยู่นอกสถานที่ นั่นเป็นเพราะว่าชิป M3 อันทรงพลังได้รับการปรับปรุงในหลายๆ ด้านให้เหนือกว่าชิป M1 และรุ่นก่อนหน้า โดยชิป M3 มาพร้อม CPU แบบ 8-core ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ทำให้เวิร์กโฟลว์ CPU แบบหลายเธรดเร็วขี้นสูงสุด 35% เมื่อเทียบกับ iPad Air พร้อมชิป M1 ขณะที่ GPU แบบ 9-core ในชิป M3 ก็มอบประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เร็วกว่าชิป M1 สูงสุด 40% ยิ่งไปกว่านั้น ชิป M3 ยังนำสถาปัตยกรรมกราฟิกสุดล้ำของ Apple มาไว้บน iPad Air เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งรองรับ Dynamic Caching รวมไปถึงการให้แสงเงาแบบเมชและเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งสำหรับเวิร์กโฟลว์การเรนเดอร์ที่เน้นกราฟิกหนักๆ ก็ต้องบอกว่า iPad Air พร้อมชิป M3 มีประสิทธิภาพเร็วกว่า iPad Air พร้อมชิป M1 สูงสุด 4 เท่า จึงทำให้แสงเงาและภาพสะท้อนนั้นถูกต้องแม่นยำขึ้น แถมยังมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สวยงามสมจริงแบบสุดๆ3
Neural Engine ที่เร็วขึ้นในชิป M3 ทำให้ผู้ใช้ iPad Air สัมผัสความสามารถด้าน AI ที่มากยิ่งขึ้นใน iPadOS โดย Neural Engine ในชิป M3 นั้นเร็วขึ้นสูงสุด 60% สำหรับเวิร์กโหลดด้าน AI เมื่อเทียบกับชิป M1 นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านอื่นๆ ที่ดีขึ้นกว่า iPad รุ่นที่ใช้ชิปตระกูล A ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ Apple Intelligence หรือขนาดที่มีให้เลือกทั้ง 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว รวมถึงการรองรับอุปกรณ์เสริมสุดล้ำอย่าง Magic Keyboard ใหม่ และ Apple Pencil Pro
iPad Air: สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence
iPad Air สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่จะนำเสนอสิ่งดีๆ ที่ชาญฉลาดและมีประโยชน์4 อย่างเครื่องมือ “ลบออก” ในแอปรูปภาพที่ช่วยลบสิ่งรบกวนสายตาในภาพได้ง่ายๆ หรือการค้นหาด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ค้นหารูปภาพหรือวิดีโอได้แทบทั้งหมด เพียงแค่อธิบายสิ่งที่ต้องการค้นหา ส่วนไม้เสกภาพในแอปโน้ตก็จะช่วยให้ผู้ใช้ตกแต่งโน้ตด้วยภาพได้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าวๆ เป็นภาพที่สวยงาม เพียงแค่วาดวงกลมล้อมรอบภาพสเก็ตช์ด้วย Apple Pencil หรือวาดวงกลมรอบพื้นที่ว่างๆ ภายในโน้ต แล้วไม้เสกภาพก็จะรวบรวมบริบทจากบริเวณรอบๆ เพื่อเนรมิตรูปภาพที่เข้ากันและทำให้โน้ตมีภาพที่สวยงามยิ่งขึ้น


Apple Intelligence ช่วยให้ผู้ใช้ได้ลองใช้วิธีใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ในการถ่ายทอดความเป็นตัวเองด้วยภาพโดยใช้ Image Playground แล้วสร้างอิโมจิในแบบที่ถูกใจด้วย Genmoji หรือปรับการเขียนให้มีความลื่นไหลมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นด้วยเครื่องมือการเขียน และวันนี้ผู้ใช้ยังสามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ได้ ในขณะที่ Siri เองก็มีความสามารถในการสนทนาที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และจับใจความได้ถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกัก นอกจากนี้ Siri ยังสามารถรักษาบริบทของบทสนทนาแล้วนำไปปรับใช้กับบทสนทนาถัดไปได้ อีกทั้งยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยให้ Siri สามารถตอบคำถามหลายพันคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและการตั้งค่าของผลิตภัณฑ์ Apple ผู้ใช้จึงสามารถเรียนรู้วิธีทำสิ่งต่างๆ อย่างการบันทึกวิดีโอหน้าจอได้


ผู้ใช้สามารถนำความเชี่ยวชาญของ ChatGPT มาใช้โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแอปพลิเคชัน เพราะ ChatGPT จะผสานรวมเข้ากับเครื่องมือการเขียนและ Siri แบบไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ เสร็จได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึง ChatGPT ได้ฟรีโดยไม่ต้องสร้างบัญชี และมั่นใจได้ว่าจะได้รับการปกป้องความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ทั้งการอำพรางที่อยู่ IP และการที่ OpenAI ไม่จัดเก็บข้อมูลคำขอ ทั้งยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะเปิดใช้การผสานรวมกับ ChatGPT หรือไม่ และควบคุมได้เต็มที่ว่าจะใช้เมื่อใด และแชร์ข้อมูลอะไรบ้างกับ ChatGPT
Apple Intelligence ออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในทุกขั้นตอนโดยใช้การประมวลผลบนอุปกรณ์ ซึ่งหมายความว่าโมเดลหลายๆ ตัวที่ขับเคลื่อน Apple Intelligence ต่างทำงานทั้งหมดบนอุปกรณ์ และสำหรับคำขอที่ต้องเข้าถึงโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นก็มี Private Cloud Compute หรือการประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว ซึ่งจะขยายขอบเขตความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ iPad ไปยังระบบคลาวด์เพื่อปลดล็อคความอัจฉริยะที่มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเมื่อใช้การประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว จะไม่มีการจัดเก็บหรือแชร์ข้อมูลของผู้ใช้กับ Apple อย่างเด็ดขาด และจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อทำตามคำขอเท่านั้น
Magic Keyboard แบบใหม่หมดสำหรับ iPad Air
Magic Keyboard แบบใหม่หมดสำหรับ iPad Air ให้ผู้ใช้ทำอะไรๆ ได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีแทร็คแพดในตัวที่ใหญ่ขึ้นเพื่อช่วยให้จัดการกับงานที่ต้องใช้ความละเอียดได้แม่นยำยิ่งกว่าเดิม และแถวปุ่มฟังก์ชั่น 14 ปุ่มใหม่ก็ช่วยให้เข้าถึงคุณสมบัติต่างๆ อย่างความสว่างหน้าจอและการควบคุมระดับเสียงได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ Magic Keyboard ใหม่ยังติดเข้ากับตัวเครื่องด้วยแม่เหล็กโดยมี Smart Connector ที่จะเชื่อมต่อเพื่อจ่ายไฟและรับส่งข้อมูลในทันทีโดยไม่ต้องใช้ Bluetooth ส่วนบานพับอะลูมิเนียมที่ตัดแต่งด้วยเครื่องจักรก็มาพร้อมช่องต่อ USB-C สำหรับชาร์จ โดย Magic Keyboard ใหม่สำหรับ iPad Air มาในสีขาวพร้อมดีไซน์มหัศจรรย์แบบยกลอยที่ลูกค้าชื่นชอบ ในราคาเริ่มต้นเพียง 9,990 บาท สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 10,990 บาท สำหรับรุ่น 13 นิ้ว


iPad ได้รับการอัปเดตใหม่ให้มาพร้อมชิป A16 และเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นขึ้นสองเท่า
วันนี้ Apple ยังได้อัปเดต iPad ให้มาพร้อมชิป A16 และเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นขึ้นสองเท่า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยชิป A16 มอบประสิทธิภาพที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดดสำหรับการทำงานและการใช้งานทั่วไปใน iPadOS ขณะที่แบตเตอรี่ก็ยังคงใช้งานได้ตลอดวัน ซึ่ง iPad ที่อัปเดตใหม่พร้อมชิป A16 นั้นเร็วขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า5 และมีประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับ iPad พร้อมชิป A13 Bionic5 ยิ่งกว่านั้น ชิป A16 ยังทำให้ iPad ที่อัปเดตใหม่นี้เร็วกว่าสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับแท็บเล็ต Android ที่ขายดีที่สุด6

คุณสมบัติอันทรงพลังและชาญฉลาดที่มาพร้อม iPadOS 18
iPadOS 18 มาพร้อมคุณสมบัติอันทรงพลังที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPad ให้มีความอเนกประสงค์และชาญฉลาดขึ้นไปอีกขั้น7
- แอปเครื่องคิดเลขได้รับการออกแบบมาเพื่อความสามารถที่ไม่เหมือนใครของ iPad จึงมอบวิธีแบบใหม่หมดในการใช้ Apple Pencil เพื่อหาคำตอบของนิพจน์ นอกจากนี้ยังมี Math Notes หรือโน้ตคณิตศาสตร์ ซึ่งให้ผู้ใช้พิมพ์หรือเขียนนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ แล้วดูคำตอบที่จะแสดงในลายมือของตัวเองทันที หรือจะกำหนดและใช้ค่าตัวแปร แล้วเขียนสมการเพื่อใส่กราฟก็ได้ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงโน้ตคณิตศาสตร์จากในแอปโน้ต และใช้ฟังก์ชั่นทางคณิตศาสตร์ทั้งหมดในโน้ตใดก็ได้
- ในแอปโน้ต โน้ตที่เขียนด้วยลายมือจะมีความลื่นไหลและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น โดยสคริปต์อัจฉริยะจะเพิ่มความสามารถใหม่ๆ อันทรงพลังสำหรับผู้ใช้ที่แก้ไขข้อความที่เขียนด้วยลายมือ ช่วยให้ผู้ใช้เว้นวรรคหรือวางข้อความตัวพิมพ์ที่จะเปลี่ยนเป็นลายมือของตัวเองได้ง่ายๆ และเมื่อใช้ Apple Pencil เขียนข้อความ ลายมือก็จะได้รับการปรับให้เรียบร้อยขึ้น เป็นแนวตรงขึ้น และอ่านได้ง่ายขึ้นโดยอัตโนมัติในแบบเรียลไทม์
- ด้วยคุณสมบัติใหม่อย่างการบันทึกเสียง และการถอดเสียง iPad สามารถบันทึกเสียงเลกเชอร์หรือการสนทนา และยังซิงค์ข้อความที่ถอดเสียงมาตรงกับเสียงได้ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาช่วงที่ต้องการในเสียงที่บันทึกไว้ได้อย่างแม่นยำ
- วันนี้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้นในการบ่งบอกความเป็นตัวเองผ่านหน้าจอโฮม นอกจากนี้ไอคอนแอปและวิดเจ็ตยังมาในลุคใหม่ในโทนสีเข้มหรือย้อมสี และสามารถปรับขนาดไอคอนให้ใหญ่ขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะสมลงตัวสำหรับแต่ละคน ส่วนศูนย์ควบคุมที่ออกแบบมาใหม่ก็ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงหลายสิ่งที่ใช้เป็นประจำได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีตัวเลือกในการจัดระเบียบตัวควบคุมใหม่ๆ จากแอปของบริษัทอื่น
ดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
iPad Air ใหม่และ iPad ที่อัปเดตนั้นได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และ Apple กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานหมุนเวียนในการผลิตเป็นหลัก อีกทั้งยังลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทั่วโลกเพื่อช่วยชดเชยพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมด รวมถึง iPad Air และ iPad ใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมาย Apple 2030 อันมุ่งมั่นในการทำให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ทั้งหมดของบริษัทมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้ และในวันนี้โรงงานของ Apple ทั้งหมดใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ซึ่งรวมถึงศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อน Apple Intelligence ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Apple 2030 บริษัทยังออกแบบผลิตภัณฑ์โดยใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนมากขึ้น ซึ่งช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ให้ต่ำยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น iPad Air หรือ iPad ใหม่ต่างก็ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 30% โดยตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% และแม่เหล็กทุกชิ้นก็ใช้แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังมีโคบอลต์รีไซเคิล 100% และเป็นครั้งแรกสำหรับ iPad ที่มีการใช้ลิเทียมรีไซเคิลมากกว่า 95% ทั้ง iPad Air และ iPad ใหม่ยังได้มาตรฐานระดับสูงของ Apple ด้านการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังปลอดสารปรอท สารหน่วงการติดไฟกลุ่มโบรมีน และ PVC ในขณะที่บรรจุภัณฑ์ใช้เยื่อไม้ทั้งหมด ซึ่งช่วยให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ภายในสิ้นปีนี้มากขึ้น8
ราคาและการวางจำหน่าย
- iPad Air พร้อมชิป M3 รุ่น 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว จะมีให้เลือกในสีฟ้า สีม่วง สีสตาร์ไลท์ และสีเทาสเปซเกรย์ในรุ่นความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
- iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 21,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 27,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วน iPad Air รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 28,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 34,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular
- ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ iPad Air รุ่น 11 นิ้วใหม่ เริ่มต้นที่ 20,100 บาท และสำหรับรุ่น 13 นิ้ว เริ่มต้นที่ 27,100 บาท ราคาส่งเสริมการศึกษาสามารถใช้ได้กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือเพิ่งเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและผู้ปกครอง รวมถึงอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้สอนแบบโฮมสคูลในทุกระดับ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th-edu/shop
- Magic Keyboard ใหม่ซึ่งมีให้เลือกในสีขาวสามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว และ 13 นิ้วได้ โดย Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้ว มีจำหน่ายในราคา 9,990 บาท ส่วน Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้ว มีจำหน่ายในราคา 10,990 บาท ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้วอยู่ที่ 9,200 บาท และสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้วอยู่ที่ 10,300 บาท
- iPad ใหม่มาพร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นที่ 128GB ทั้งยังมีให้เลือกในรุ่นความจุ 256GB และรุ่นความจุขนาดใหม่อย่าง 512GB โดย iPad ใหม่มาในสีฟ้า สีชมพู สีเหลือง และสีเงิน ในราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 18,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ iPad ใหม่ เริ่มต้นที่ 12,200 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 18,100 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular
- Magic Keyboard Folio สำหรับ iPad มีจำหน่ายในราคา 8,990 บาท โดยมาในสีขาว ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ Magic Keyboard Folio อยู่ที่ 8,190 บาท
- Apple Pencil Pro และ Apple Pencil (USB-C) สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air ใหม่ ขณะที่ Apple Pencil (USB-C) และ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) สามารถใช้งานร่วมกับ iPad ใหม่ สำหรับ Apple Pencil Pro มีจำหน่ายในราคา 4,490 บาท และในราคาส่งเสริมการศึกษาที่ 4,090 บาท ส่วน Apple Pencil (USB-C) มีจำหน่ายในราคา 2,990 บาท และในราคาส่งเสริมการศึกษาที่ 2,590 บาท
- Apple มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยประหยัดเงินกับ iPad รุ่นล่าสุด ลูกค้าสามารถนำ iPad เครื่องปัจจุบันมาแลกรับเป็นเครดิตสำหรับใช้ซื้อเครื่องใหม่โดยไปที่ Apple Store Online, แอป Apple Store หรือที่ Apple Store หากต้องการตรวจสอบมูลค่าของอุปกรณ์ รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไข ลูกค้าสามารถไปที่ apple.com/th/shop/trade-in
เกี่ยวกับ Apple Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัว Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 วันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, AirPods, Apple Watch และ Apple Vision Pro แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้ง 6 แพลตฟอร์มของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS, visionOS และ tvOS มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ทั้งหมด พร้อมเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนด้วยบริการที่ก้าวล้ำอย่าง App Store, Apple Music, Apple Pay, iCloud และ Apple TV+ และพนักงานของ Apple มากกว่า 150,000 คน ต่างก็ทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก และทำให้โลกใบนี้ดียิ่งขึ้นในทุกวัน
- Apple ทำการทดสอบในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/ipad-air
- Apple ทำการทดสอบในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2025 โดยใช้เครื่อง iPad Air 11 นิ้ว (ชิป M3) และ iPad Air 13 นิ้ว (ชิป M3) รุ่นก่อนการผลิตจริง รวมถึงเครื่อง iPad Air (รุ่นที่ 4) รุ่นผลิตจริง ทดสอบด้วย Procreate Dreams v1.0.14 โดยการส่งออกโปรเจ็กต์ความยาว 29 วินาที การทดสอบประสิทธิภาพดำเนินการโดยใช้เครื่อง iPad สำหรับการทดสอบโดยเฉพาะ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอย่างคร่าวๆ ของ iPad Air
- Apple ทำการทดสอบในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2025 โดยใช้เครื่อง iPad Air 11 นิ้ว (ชิป M3) และ iPad Air 13 นิ้ว (ชิป M3) รุ่นก่อนการผลิตจริง รวมถึงเครื่อง iPad Air (รุ่นที่ 5) รุ่นผลิตจริง Octane X 2024.1.01 สำหรับ iPad ได้รับการทดสอบโดยใช้ฉากที่มีเมช 770,000 รายการและรูปทรงพื้นฐานที่ไม่ซ้ำกัน 8 ล้านรายการ โดยใช้ประโยชน์จากเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์บนระบบที่ใช้ชิป M3 และเรย์เทรซซิ่งที่ใช้ซอฟต์แวร์บนเครื่องอื่นๆ การทดสอบประสิทธิภาพดำเนินการโดยใช้เครื่อง iPad สำหรับการทดสอบโดยเฉพาะ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอย่างคร่าวๆ ของ iPad Air
- Apple Intelligence พร้อมให้ใช้งานบน iPad mini (ชิป A17 Pro) และ iPad รุ่นที่ใช้ชิป M1 และใหม่กว่า ในภาษาอังกฤษสำหรับออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ส่วนภาษาอื่นๆ รวมถึงภาษาฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, จีน (ตัวย่อ), อังกฤษ (สิงคโปร์) และอังกฤษ (อินเดีย) จะพร้อมให้ใช้งานในเดือนเมษายน และจะตามมาด้วยภาษาอื่นๆ ภายในรอบปี รวมถึงภาษาเวียดนาม คุณสมบัติ แอปพลิเคชัน และบริการบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา
- Apple ทำการทดสอบในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2025 โดยใช้เครื่อง iPad (ชิป A16) รุ่นก่อนการผลิตจริง รวมถึงเครื่อง iPad (รุ่นที่ 10) รุ่นผลิตจริง ทดสอบด้วยงานที่คัดเลือกมาโดยใช้ Microsoft Excel สำหรับ iPad v2.93 การทดสอบประสิทธิภาพดำเนินการโดยใช้เครื่อง iPad สำหรับการทดสอบโดยเฉพาะ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอย่างคร่าวๆ ของ iPad
- Apple ทำการทดสอบในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2025 โดยใช้เครื่อง iPad (ชิป A16) พร้อมชิป Apple A16 รุ่นก่อนการผลิตจริง รวมถึงเครื่องแท็บเล็ต Android รุ่นผลิตจริงที่มี Qualcomm SM6375 พร้อม Android 14 เวอร์ชั่นล่าสุดที่พร้อมใช้งานในช่วงเวลาที่ทำการทดสอบ แท็บเล็ต Android ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอ้างอิงจากข้อมูลการจำหน่ายซึ่งเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทดสอบด้วยงานทั่วไปในแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์และระบบวัดที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมหลายระบบ ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ การใช้งาน สภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง การทดสอบประสิทธิภาพดำเนินการโดยใช้ระบบสำหรับการทดสอบโดยเฉพาะ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอย่างคร่าวๆ ของ iPad
- คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางประเทศหรือบางพื้นที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPadOS 18 ที่ apple.com/th/ipados/ipados-18
- อ้างอิงจากบรรจุภัณฑ์สำหรับการจำหน่ายปลีกที่จัดส่งโดย Apple การแจกแจงรายละเอียดของบรรจุภัณฑ์สำหรับการจำหน่ายปลีกในสหรัฐอเมริกาตามน้ำหนัก ในขณะที่กาว หมึก และสารเคลือบผิวไม่ได้นำมารวมในการคำนวณวัสดุที่เป็นพลาสติกและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์