Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»5 มือถือไรเดอร์วิ่งงานราคาไม่แพง ซิ่งได้ไม่ต้องกลัวกล้องพัง
    Editorial

    5 มือถือไรเดอร์วิ่งงานราคาไม่แพง ซิ่งได้ไม่ต้องกลัวกล้องพัง

    ZeroSystemBy ZeroSystem23 กรกฎาคม 2025
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    มือถือไรเดอร์ วิ่งงาน

    ด้วยความที่การจราจรหลายจุดใน กทม. จัดว่าอยู่ในระดับที่ติดขัด รวมถึงการหาที่จอดรถยนต์ก็อาจจะลำบาก โดยเฉพาะกับร้าน สำนักงานต่าง ๆ ที่อยู่ติดถนนเส้นหลัก ทำให้มอเตอร์ไซค์กลายเป็นหนึ่งในพาหนะส่วนตัวที่ได้รับความนิยม ทั้งยังสามารถใช้เป็นรถขี่ออกทริปได้ และที่สำคัญสุดคือเป็นพาหนะหลักสำหรับกลุ่มไรเดอร์ที่วิ่งงาน รับส่งของ ส่งอาหาร ซึ่งอุปกรณ์เสริมที่เป็นสิ่งจำเป็นก็คือมือถือเพื่อใช้ในการรับออเดอร์ เปิดแผนที่ ในบทความนี้จะมาแนะนำมือถือไรเดอร์ไว้ใช้สำหรับติดตั้งเพื่อใช้งานขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์กัน 5 รุ่น

    โดยปัจจัยหลักในการเลือกก็จะมี 3 ประเด็น ดังนี้

    1. กันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง

    แน่นอนว่าตัวเครื่องจะต้องมีความสามารถในการป้องกันความเสียหายจากน้ำและฝุ่นได้ ผ่านการรับรอง IP rating ที่อย่างต่ำต้องสามารถใช้กันละอองฝนได้ เพื่อให้สามารถติดตั้งกับแท่นจับมือถือเพื่อใช้งานกลางแจ้งได้แบบไม่ต้องกังวล

    2. กล้องหลังไม่มีระบบกันสั่นแบบ OIS

    หนึ่งในอาการเสียหายที่พบกันมากในมือถือที่นำไปใช้งานกับแท่นจับเพื่อติดตั้งเข้ากับมอเตอร์ไซค์ ก็คืออาการกล้องสั่น กล้องเป็นคลื่น โดยเฉพาะกับกล้องหลัก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่กล้องหลักมีโมดูลชดเชยการสั่นแบบ OIS ที่จะคอยขยับเลนส์หรือเซ็นเซอร์รับภาพอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ภาพออกมานิ่งที่สุด ทีนี้เวลาขับขี่มอเตอร์ไซค์ แน่นอนว่าตัวรถจะรับแรงสะเทือนจากผิวถนนที่มากกว่าการใช้ในรถยนต์ ซึ่งถ้าสะสมอาการไปนาน ๆ ก็อาจทำให้ชุดโมดูลกันสั่นเกิดความเสียหาย ส่งผลให้กล้องสั่นเป็นคลื่นเวลาใช้ถ่ายภาพได้ และแม้ว่าจะเลือกแท่นจับมือถือที่มีลูกยางช่วยลดอาการสั่นแล้วก็ตาม แม้จะช่วยลดลงไปบ้าง แต่แน่นอนว่าแรงสะเทือนก็ยังส่งมายังมือถือได้อยู่ดี เนื่องจากผิวถนนในประเทศไทยที่หลายจุดค่อนข้างมีปัญหา มีหลุม มีบ่อ ผิวถนนเรียบไม่เท่ากัน

    ดังนั้นในบทความนี้ ทางเราก็เลยจะแนะนำเฉพาะมือถือที่กล้องหลักไม่มี OIS ให้ ถ้าจะมีระบบกันสั่นก็จะมีแต่เพียงแบบ EIS ที่เป็นการทำงานของซอฟต์แวร์ล้วน ๆ เพื่อให้อย่างน้อยก็ได้ลดความเสี่ยงจากอาการกล้องสั่นเป็นคลื่นลง เมื่อใช้งานเครื่องในระยะยาว

    3. ประสิทธิภาพดีพอตัว

    หลัก ๆ เลยก็คือต้องรองรับการใช้งานแอปพื้นฐานได้ดี ใช้ GPS ได้คล่อง ซึ่งมือถือรุ่นปี 2025 แม้จะราคาไม่เกินหมื่น ก็มักจะตอบโจทย์ในด้านนี้ได้ดีพอตัวอยู่แล้ว จากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมากว่าเมื่อก่อนมาก จะมีแตกต่างกันบ้างก็คือเรื่องการเชื่อมต่อ 5G ที่บางรุ่นอาจจะยังไม่รองรับ สามารถใช้งานได้มากสุดที่ระดับ 4G เนื่องด้วยข้อจำกัดทางเทคนิคของชิปเซ็ตที่ใช้ แต่สำหรับการใช้งานในปัจจุบัน 4G ก็ยังทำงานได้ดีอยู่ แล้วในบางจุดจะทำได้ดีกว่า 5G ด้วยซ้ำไป

    ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ก็จะต้องให้มาไม่น้อยกว่า 5000 mAh ซึ่งสำหรับมือถือ Android ก็จะเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถใช้งานได้ตลอดวัน หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ แต่ถ้ารถใครมีช่อง USB หรือมีช่องเสียบที่จุดบุหรี่ก็สามารถหาซื้อสายหรือตัวแปลงเป็น USB มาใช้ชาร์จมือถือระหว่างวันได้สบาย ๆ

    ด้านสเปคและฟีเจอร์อื่น ๆ ของตัวเครื่อง สำหรับช่วงมือถือราคาไม่เกินหมื่นก็มักจะได้อยู่ในระดับใกล้ ๆ กันอยู่แล้ว หน้าจอขนาดใกล้เคียงกัน ความจุอยู่ในระดับ 128 และ 256GB แต่อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันไปบ้าง

    1) Infinix HOT 60 Pro ราคา 5,499.-

    เปิดมาด้วยมือถือรุ่นที่เพิ่งวางขายในไทยแบบสด ๆ ร้อน ๆ ใหม่จนในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ ก็ยังไม่มีข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ Infinix ประเทศไทยอย่างเป็นทางการเลย แต่สามารถหาซื้อได้ตามร้านตัวแทนจำหน่ายแล้ว รวมถึงผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Infinix HOT 60 Pro มาแรงก็คือราคาเครื่องเพียง 5,499 บาท หรืออาจแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละร้าน แต่ได้แรม 8GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB หน้าจอ 6.78″ ความละเอียดระดับ 1.5K 144Hz AMOLED แบบมี Always-On Display (AOD) ด้วย กระจก Gorilla Glass 7i กล้องหลัง 50MP ไม่มี OIS มี AI ช่วยในการถ่ายภาพ รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดระดับ 2K 30fps แบตเตอรี่ 5160 mAh รองรับชาร์จไว 45W เรียกได้ว่าสามารถเติมพลังระหว่างวันได้สบาย ด้านข้างมีปุ่ม Adaptive One-Tap ที่สามารถตั้งค่าให้ใช้ในการเปิดแอปที่ต้องการขึ้นมาได้ทันที ทั้งหมดนี้มาในตัวเครื่องบางเพียง 6.6 มม. และน้ำหนักเพียง 170 กรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าบางและเบามากสำหรับมือถือไซซ์จอ 6.78″

    ตัวเครื่องรองรับการกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP64 ซึ่งหากตัวเครื่องมีสภาพยังสมบูรณ์ดี จะสามารถกันละอองน้ำปกติได้ ส่วนถ้าเจอฝนตกก็อาจจะพอไหว แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในการลุยฝนตกหนักมากนัก อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจและอาจจะมองข้ามก็คือตัวเครื่องจะมีช่อง 3.5 มม. สำหรับเสียบหูฟังแบบมีสายได้ด้วย ซึ่งไรเดอร์หลาย ๆ ท่านอาจจะจำเป็นต้องใช้ขณะขับขี่ มอเตอร์ไซค์ แถมมือถือในปัจจุบันหลาย ๆ รุ่นก็ตัดพอร์ตนี้กันไปเยอะทีเดียว จะมีติดนิดนึงก็คือชิปเซ็ตที่ใช้เป็น MediaTek Helio G200 ที่ประสิทธิภาพอาจจะยังไม่แรงเท่ากับชิปตระกูล Dimensity ของ MediaTek เอง หรือชิป Snapdragon หลาย ๆ รุ่น แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้งานทั่วไปได้ดี ใช้ GPS ในสภาพอากาศปกติได้ ส่วนการเล่นเกมก็ได้พอประมาณ

    ข้อมูลสเปคจากเว็บไซต์ต่างประเทศ

    2) vivo Y29 ราคา 5,999.-

    ส่วนถ้าอยากได้มือถือไรเดอร์ที่ใช้ชิป Snapdragon ก็จะมีรุ่นที่น่าสนใจคือ vivo Y29 ซึ่งยังคงเป็นมือถือรุ่นที่ไม่มี OIS ที่กล้องหลังเช่นกัน โดยจะได้ชิป Snapdragon 685 ที่ในแง่สมรรถนะโดยรวมก็จะสูสีกันกับ MediaTek Helio G99 หน้าจอขนาด 6.68″ ความละเอียดระดับ HD+ ที่แม้อาจจะดูไม่ละเอียดเท่าพวกรุ่นที่ใช้จอระดับ Full HD+ ก็ตาม แต่ในแง่หนึ่ง จอ HD+ จะได้เปรียบในด้านของการใช้พลังงานที่ต่ำกว่า และจะช่วยให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าด้วย ประกอบกับด้านของแบตเตอรี่เองก็เป็นแบบ BlueVolt ความจุสูงถึง 6500mAh ที่ก็สูงอยู่แล้ว และยังได้ระบบชาร์จเร็ว FlashCharge สูงสุดถึง 44W อีก จึงมั่นใจว่าจะสามารถใช้วิ่งงาน ใช้ติดรถมอเตอร์ไซค์ได้ตลอดวันแน่นอน

    ตัวเครื่องได้แรม 8GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ใส่ microSD เพิ่มได้สูงสุด 2TB ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบมาด้วย FunTouch OS 15 ซึ่งถือว่าเป็นเวอร์ชันล่าสุดในขณะนี้ รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี กล้องหลัง 50MP พร้อมเลนส์ bokeh 2MP มาพร้อมลำโพงคู่ ให้เสียงดังชัดเจน มี AI ช่วยในการทำงาน แต่งรูป แปลภาษา ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีความทนทานในระดับโครงสร้าง รวมถึงยังกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP64 ที่กันละอองน้ำได้ กันฝนได้ระดับหนึ่ง ใช้งานขณะมือเปียกได้ ในภาพรวมก็น่าจะเหมาะกับการใช้เป็นมือถือไรเดอร์ที่ต้องการแบตอึด ใช้งานได้ตลอดวัน ไม่ได้ใช้เล่นเกมมากนัก เสียดายที่ไม่มีช่อง 3.5 มม. ทำให้อาจจะต้องใช้หูฟัง Bluetooth หรือชุดคอมติดหมวก ส่วนถ้าต้องการใช้หูฟังแบบมีสาย ก็อาจจะต้องหาสายแปลง USB-C เป็น 3.5 มม. มาใช้งานแทน

    ข้อมูลเพิ่มเติม

    3) Samsung Galaxy A16 5G (แรม 8GB) ราคา 6,999.-

    สำหรับผู้ที่ต้องการมือถือ Samsung เนื่องจากความครอบคลุมของศูนย์บริการที่มากกว่า หาร้านซ่อมง่ายและมีการสนับสนุนที่ยาวนาน แต่ก็ยังต้องการรุ่นที่กล้องไม่มีกันสั่น OIS ในช่วงนี้รุ่นที่น่าสนใจก็คือ Samsung Galaxy A16 5G ที่ต้องเน้นนิดนึงว่าควรเลือกรุ่นแรม 8GB รอม 256GB ที่อาจจะหาตามร้านทั่วไปหรือในออนไลน์ยากนิดนึง แต่สามารถสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์ Samsung ได้ ส่วนสาเหตุที่แนะนำรุ่นแรม 8GB ก็เนื่องจากอีกรุ่นที่ราคาเบากว่า จะได้แรมแค่ 4GB เท่านั้น ซึ่งอาจจะน้อยไปในกรณีที่ต้องเปิดใช้งานหลายแอปสลับกัน เช่นอาจต้องเปิดแอปของแพลตฟอร์มรับงาน สลับกับแอปแผนที่ แอปการเงิน แอปกล้องถ่ายรูป ที่ถ้าหากมีแรมเยอะ ๆ ก็จะช่วยให้สลับแอปได้ง่ายและเร็วกว่า

    ส่วนสเปคอื่นก็จะได้เป็นชิป Exynos 1380 ที่มี 8 คอร์ หน้าจอ 6.7″ AMOLED ความละเอียดระดับ Full HD+ รีเฟรชเรต 90Hz ใช้งานได้ดีตามสไตล์มือถือ Samsung กล้องหลังได้มา 3 เลนส์คือกล้องหลัก 50MP เลนส์อัลตร้าไวด์ 5MP และกล้องมาโคร 2MP ซึ่งถือว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะมือถือในช่วงราคานี้มักจะไม่ค่อยใส่เลนส์อัลตร้าไวด์มาให้เท่าไหร่ ส่วนกล้องหน้าก็ความละเอียด 13MP ตามมาตรฐาน รองรับการเชื่อมต่อ 5G, Bluetooth 5.3 และ Wi-Fi AC แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 25W ส่วนไฮไลท์เด็ดคือรองรับการอัปเดต OS ในอนาคตจาก Samsung ถึง 6 รุ่นและแพตช์ความปลอดภัย 6 ปีเต็ม ซึ่งถือว่ายาวนานมาก ๆ สำหรับกลุ่มมือถือราคาย่อมเยา

    ด้านความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นจะอยู่ที่ระดับ IP54 ซึ่งการกันน้ำก็จะอยู่ในระดับที่สามารถกันละอองน้ำได้ ลุยฝนเบา ๆ ได้

    ข้อมูลเพิ่มเติม / รีวิว Samsung Galaxy A16 5G

    4) OPPO A5 Pro 5G ราคา 7,499.-

    หากอยากได้มือถือไรเดอร์ที่กันน้ำกันฝุ่นขั้นสุด พร้อมกับเป็นไปตาม 3 ปัจจัยหลักข้างต้น OPPO A5 Pro 5G น่าจะเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุดมาก ๆ เพราะมาพร้อมการออกแบบให้กันน้ำกันฝุ่นได้ถึงระดับ IP69 เรียกว่าสามารถลุยฝน ลงน้ำจืดได้สบาย ทั้งยังมีโครงสร้างที่แข็งแรง ผ่านการทดสอบมาตรฐานระดับกองทัพอีก สามารถปกป้องความเสียหายจากการตกกระแทกได้ จึงเหมาะมากสำหรับการใช้เป็นมือถือไรเดอร์ที่อาจต้องเจอสภาวะต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงอาจเจออุบัติเหตุที่ทำให้เครื่องตกจากแท่นจับ หลุดจากมือได้ (แต่ก็แนะนำว่าควรใส่เคสอยู่ดี)

    ชิปเซ็ตที่ใช้ก็จะเป็น MediaTek Dimensity 6300 ซึ่งเป็นชิประดับกลางเน้นการประหยัดพลังงาน รองรับการเชื่อมต่อ 5G มาพร้อมโครงสร้างเสาอากาศรอบตัว ทำให้สามารถรับสัญญาณมือถือได้ดี และยังมีเทคโนโลยี AI LinkBoost มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อเสาสัญญาณขึ้นไปอีก ทำงานร่วมกับแรม 6GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB หน้าจอขนาด 6.67″ ความละเอียดระดับ HD+ รีเฟรชเรต 120Hz สี 100% sRGB ซึ่งจะเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงานไปพอสมควร กระจก Gorilla Glass 7i ความสว่างสูงสุด 1000nits สามารถใช้งานกลางแจ้งได้สบาย แบตเตอรี่ 5800 mAh รองรับการชาร์จไว SUPERVOOC สูงสุด 45W กล้องหลัง 50MP พร้อมเลนส์โบเก้ 2MP รองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080p 60fps

    รวม ๆ แล้ว OPPO A5 Pro 5G ก็จะเหมาะกับไรเดอร์ที่ต้องการเน้นเรื่องการเชื่อมต่อเน็ตมือถือเป็นหลัก พร้อมด้วยความทนทานต่อสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะแดด ฝน ลม ฝุ่นได้ดี โดยราคาของรุ่น 6/128GB จะอยู่ที่ 7,499 บาท และรุ่น 8/256GB จะอยู่ที่ 8,999 บาท

    ข้อมูลเพิ่มเติม

    5) HONOR 400 Lite ราคา 8,999.-

    มือถือไรเดอร์รุ่นสุดท้ายของบทความนี้ก็คือ HONOR 400 Lite ที่ก็เป็นมือถือจากซีรีส์ล่าสุดของแบรนด์ HONOR ที่ก็จะเน้นความสามารถด้านกล้องเช่นเดียวกับ 400 และ 400 Pro แต่สำหรับรุ่น Lite จะให้สเปคที่ลดหย่อนลงมาเล็กน้อย และไม่มีกันสั่น OIS มาให้ จึงสามารถใช้ติดกับแท่นจับมือถือของมอเตอร์ไซค์ได้สบาย โดยกล้องหลังจะได้กล้องหลัก 108MP และเลนส์อัลตร้าไวด์ 5MP มี AI ช่วยในการถ่ายภาพ รวมถึงยังมีปุ่มพิเศษด้านข้างเครื่องเพื่อใช้งานกล้องอีกด้วย ทำให้น่าจะเหมาะกับการใช้เป็นมือถือเครื่องหลักได้สบาย ในกรณีที่ไม่ได้เน้นการถ่ายรูปกลางคืน หรือถ่ายรูปในที่มีแสงน้อยบ่อย ๆ เนื่องจากการไม่มีกันสั่น OIS

    อีกหนึ่งจุดเด่นที่เรียกได้ว่าน่าสนใจมากของ HONOR 400 Lite ก็คือหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7″ FHD+ 120Hz ที่มีค่าขอบเขตสีถึงระดับ 100% DCI-P3 และมีค่าความสว่างสูงสุดถึง 3500 nits ทำให้สามารถสู้แสงกลางวันได้แบบไม่มีปัญหา ตัวเครื่องมีความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นได้ระดับ IP65 และสามารถกันการตกกระแทกได้ในระดับหนึ่ง ชิปเซ็ตใช้เป็น MediaTek Dimensity 7025-Ultra รองรับการเชื่อมต่อ 5G แรม 12GB รอม 256GB ระบบปฏิบัติการ Android 15 (MagicOS 9.0) สามารถลงแอปที่ใช้งานทั่วไปผ่าน Play Store ได้ตามปกติ แบตเตอรี่ 5230 mAh รองรับการชาร์จเร็ว HONOR SuperCharge 35W ส่วนราคาจะอยู่ที่ 8,999 บาท

    ในภาพรวม HONOR 400 Lite ก็จะเหมาะสำหรับการใช้เป็นมือถือไรเดอร์ที่เน้นเรื่องกล้องและความสวยงามของจอขึ้นมากว่ารุ่นอื่น ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามราคา รวมถึงประสิทธิภาพโดยทั่วไปทำได้ดีตามแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ HONOR ด้วย

    ข้อมูลเพิ่มเติม

    Honor Infinix OPPO Samsung Vivo
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    แนะนำ 10 มือถือจอใหญ่ปี 2025 ราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนดี หน้าจอกว้าง แบตอึด ใช้งานทั่วไปได้สบาย

    23 กรกฎาคม 2025

    [Editor’s Pick] HUAWEI Pura80 Ultra ที่หนึ่งด้านนวัตกรรมกล้อง — เปิดตัว Dual Tele Lens ครั้งแรกของโลก สะเทือนวงการสมาร์ทโฟน!

    23 กรกฎาคม 2025

    ผลทดสอบเผยจอ Samsung Galaxy Z Fold7 ทนกว่า Fold6 ถึง 2.5 เท่า

    23 กรกฎาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    แนะนำ 10 มือถือจอใหญ่ปี 2025 ราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นไหนดี หน้าจอกว้าง แบตอึด ใช้งานทั่วไปได้สบาย

    23 กรกฎาคม 2025

    [Editor’s Pick] HUAWEI Pura80 Ultra ที่หนึ่งด้านนวัตกรรมกล้อง — เปิดตัว Dual Tele Lens ครั้งแรกของโลก สะเทือนวงการสมาร์ทโฟน!

    23 กรกฎาคม 2025

    หลุดสเปค iQOO Neo 11 และ iQOO Neo 11 Pro หน้าจอ 6.8 นิ้ว 2K พร้อมชาร์จเร็ว 100W

    23 กรกฎาคม 2025

    iPhone ในช่วงปี 2026-2027 อาจมีให้เลือกถึง 6 รุ่นใหม่ รวมถึง iPhone พับได้รุ่นแรกด้วย

    23 กรกฎาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X