
วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ ทั้งหมดทำยังไงบ้างแบบง่ายๆ ปี 2025
ใครเคยเจอปัญหาที่อยู่ดีๆ โดนตัดเงินจากบัญชี หรือโดนหักเงินจากแอพที่เคยสมัครไว้ ไม่ว่าจะเป็นแอพดูหนัง ฟังเพลง แอพแต่งรูป หรือแอพอะไรก็ตามที่สมัครแบบรายเดือนหรือรายปี บางทีสมัครช่วงทดลองฟรี 7 วันแล้วลืมกดยกเลิก กลายเป็นต้องเสียเงินโดยไม่รู้ตัว ยิ่งสมัครไว้หลายแอพ ยิ่งงงว่าต้องไปยกเลิกที่ไหนบ้าง วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำวิธียกเลิกแอพเสียเงินบน iOS และ Android แบบง่ายๆ ทำเองได้เลยไม่กี่ขั้นตอน ทั้งการเช็คก่อนว่ามีแอพ และบริการไหนที่สมัครไปบ้าง และวิธียกเลิก พร้อมเทคนิคป้องกันไม่ให้โดนหักเงินซ้ำซ้อนอีกด้วย ไปดูกันเลยว่าทำยังไงได้บ้าง
วิธีเช็คว่าสมัครบริการ หรือแอพเสียเงินแอพไหนบ้างทั้ง iOS และ Android

เช็คแอพเสียเงินที่สมัครไว้บน iOS (iPhone/iPad)
- เข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า)
- แตะที่ ชื่อ Apple ID ของตัวเอง (อยู่ด้านบนสุด)
- เลือกเมนู Subscriptions (การสมัครรับ)
- ในหน้านี้จะเห็นรายชื่อแอพและบริการต่าง ๆ ที่เคยสมัครแบบเสียเงิน ไม่ว่าจะเป็นรายเดือนหรือรายปี ทั้งที่ยังใช้งานอยู่ (Active) และที่หมดอายุแล้ว (Expired)
- สามารถแตะเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละแอพได้ เช่น วันที่จะถูกตัดเงินรอบถัดไป หรือวันหมดอายุ
นอกจากนี้ยังสามารถดูประวัติการซื้อได้ด้วย ในกรณีที่ถูกหักเงินค่าอะไรบางอย่างและหาสาเหตุไม่ได้ ให้เข้าไปที่ reportaproblem.apple.com เข้าสู่ระบบและดูประวัติการซื้อได้ด้วย

เช็คแอพเสียเงินที่สมัครไว้บน Android
- เปิดแอพ Google Play Store
- แตะที่ ไอคอนโปรไฟล์ มุมขวาบน
- เลือกเมนู Payment & Subscriptions (การชำระเงินและการสมัครใช้บริการ) และเลือก Subscriptions (การสมัครใช้บริการ)
- จะเห็นรายชื่อแอพและบริการที่สมัครแบบเสียเงินทั้งหมดในบัญชี Google ของเราเองนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละแอพได้ เช่น วันที่จะถูกตัดเงินรอบถัดไป หรือวันหมดอายุได้เช่นกัน
เพิ่มเติม: ถ้าไม่เจอแอพที่ต้องการในหน้า Subscriptions อาจเป็นเพราะสมัครผ่านช่องทางอื่น (เช่น สมัครผ่านเว็บหรือแอพโดยตรง ไม่ได้สมัครผ่าน Apple ID หรือ Google Play Store) ให้ลองเข้าไปเช็คในแอพหรือเว็บนั้นๆ โดยตรงอีกที
วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ


ยกเลิกแอพเสียเงินบน iOS (iPhone/iPad)
- เข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า) จากแตะที่ ชื่อ Apple ID ของตัวเอง (อยู่ด้านบนสุด) เช่นกัน
- เลือกเมนู Subscriptions (การสมัครสมาชิก) จะเห็นรายการแอพและบริการที่สมัครแบบเสียเงินอยู่
- เลือกแอพที่ต้องการยกเลิก
- เลือก Cancel Subscription (ยกเลิกการสมัครสมาชิก) หรือ “ยกเลิกบริการทั้งหมด” แล้วกดยืนยันได้เลย
หลังจากยกเลิกแล้ว ยังสามารถใช้แอพหรือบริการนั้นๆ ได้จนกว่าจะหมดรอบบิลที่จ่ายไปแล้ว และจะไม่ถูกตัดเงินรอบต่อไปอีกเลย
ยกเลิกแอพเสียเงินบน Android
- เปิดแอป Google Play Store กดไปที่ ไอคอนโปรไฟล์ ที่มุมขวาบน
- เลือก Payment & Subscriptions (การชำระเงินและการสมัครใช้บริการ) จากนั้นเลือก Subscriptions (การสมัครใช้บริการ)
- เลือกแอพหรือบริการที่ต้องการยกเลิก
- เลือก Cancel Subscription (ยกเลิกการสมัครใช้บริการ) แล้วเลือกเหตุผลและกดยืนยันเพื่อยกเลิกได้เลย
หลังจากยกเลิกแล้ว จะยังสามารถใช้บริการนั้นได้จนกว่าจะหมดรอบที่จ่ายไว้ และจะไม่ถูกตัดเงินรอบต่อไป
ข้อควรระวังที่ควรรู้เพิ่มเติม
- การลบแอพออกจากเครื่องไม่เท่ากับการยกเลิกแอพเสียเงิน ต้องกดยกเลิกในขั้นตอนตามด้านบนเท่านั้น
- ถ้าสมัครแบบทดลองใช้งานฟรี ควรยกเลิกก่อนหมดช่วงทดลองอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการถูกหักเงินอัตโนมัติ (ซึ่งหลายคนลืม ทำให้ถูกหักเงินได้นั่นเอง)
- ควรตรวจสอบการสมัครแอพเสียเงินเป็นประจำ จะได้ไม่เสียเงินกับบริการที่ไม่ได้ใช้งานจริง
ถ้าสมัครแอพเสียเงินไปแล้ว สามารถขอเงินคืนได้ไหม?
โดยปกติแล้วถ้าเผลอสมัคร หรือว่ากดทดลองใช้ฟรี 7 วัน และลืมกดยกเลิกในรอบบิลที่ยังไม่ครบ สามารถยกเลิกและขอเงินคืนได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและขั้นตอนที่แต่ละระบบกำหนดไว้
วิธีขอเงินคืนแอพเสียเงินบน iOS (iPhone/iPad)
- สามารถขอเงินคืนได้หากซื้อแอพ, สมัครสมาชิก, หรือซื้อไอเท็มในแอพแล้วเกิดปัญหา เช่น กดซื้อผิด ถูกตัดเงินแต่ไม่ได้รับของ หรือไม่ได้ตั้งใจสมัครต่ออายุอัตโนมัติ
- วิธีขอเงินคืน:
- เข้าไปที่ reportaproblem.apple.com แล้วลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID
- เลือก “ขอรับเงินคืน” (Request a refund)
- ระบุเหตุผลในการขอเงินคืน เช่น ซื้อผิด หรือไม่ได้รับบริการ
- เลือกรายการที่ต้องการขอเงินคืน แล้วส่งคำขอ
- หลังจากส่งคำขอแล้ว Apple จะพิจารณาและแจ้งผลทางอีเมลภายใน 24-48 ชั่วโมง ถ้าอนุมัติจะคืนเงินกลับเข้าวิธีชำระเงินเดิม เช่น บัตรเครดิต หรือบัญชี Apple ID
เพิ่มเติม: การคืนเงินจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ Apple เป็นหลัก และควรยกเลิกการสมัครสมาชิกก่อนขอเงินคืน
ขอเงินคืนแอพเสียเงินบน Android (Google Play Store)
- สามารถขอเงินคืนได้ในกรณีที่ซื้อแอพ หรือบริการไปไม่เกิน 48 ชั่วโมง และใช้งานแอพนั้นไม่เกิน 2 ชั่วโมง
- วิธีขอเงินคืน:
- เปิด Google Play Store
- ไปที่ “การชำระเงินและการสมัครใช้บริการ” -> “งบประมาณและประวัติการสั่งซื้อ”
- เลือกรายการที่ต้องการขอเงินคืน แล้วกด “ขอเงินคืน” (Request a refund)
- ระบุเหตุผลและส่งคำขอ
- ทาง Google จะพิจารณาคำขอและแจ้งผลทางอีเมล ถ้าอนุมัติจะคืนเงินเข้าช่องทางที่ใช้จ่าย เช่น บัตรเครดิต หรือ TrueMoney
เพิ่มเติม: ถ้าเลย 48 ชั่วโมงไปแล้ว หรือใช้งานแอพเกิน 2 ชั่วโมง โอกาสขอคืนเงินจะน้อยลงมาก และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ Google เป็นหลักเช่นกัน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- ยกเลิกแอพที่เสียเงินแล้ว แอพจะหายจากเครื่องไหม?
- ไม่หาย แอพยังอยู่ในเครื่องเหมือนเดิม แค่ใช้ต่อแบบฟรี
- ถ้าลบแอพออกจากเครื่อง จะถือว่ายกเลิกแอพที่เสียเงินอัตโนมัติหรือเปล่า?
- ยังไม่ยกเลิก ต้องเข้าไปยกเลิกการสมัครสมาชิกในเมนู Subscriptions ก่อนตามวิธีด้านบน
- สมัครแอพที่เสียเงินแบบทดลองฟรี ถ้าไม่อยากเสียเงินต้องทำอย่างไร?
- ต้องยกเลิกการสมัครก่อนหมดช่วงทดลองฟรีอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ยกเลิกแอพเสียเงินแล้ว จะขอคืนเงินได้ไหม?
- ถ้าเพิ่งสมัครหรือซื้อไปไม่นาน สามารถขอคืนเงินได้ตามเงื่อนไขของแต่ละบริการ
- เช็คแอพที่สมัครไว้ทั้งหมดในเครื่องได้ที่ไหน?
- สำหรับ iOS ให้ดูที่ Settings > Apple ID > Subscriptions
- สำหรับ Android ให้ดูที่ Google Play Store > โปรไฟล์ > การสมัครใช้บริการ
การยกเลิกแอพเสียเงินทั้งบน iOS และ Android ไม่ยากอย่างที่คิด แค่รู้วิธีเช็คและยกเลิกให้ถูกจุด ก็สามารถจัดการแอพที่ไม่ต้องการได้ทันที ไม่ต้องกลัวโดนตัดเงินโดยไม่รู้ตัวอีกต่อไป หากสมัครแอพเสียเงินผ่านช่องทางไหน ควรเช็คและยกเลิกตรงนั้นโดยตรง หรือเช็คกับเครือข่ายในกรณีที่ให้ตัดผ่านรายเดือน และอย่าลืมตรวจสอบการสมัครเป็นประจำ จะได้รู้ว่าเผลอสมัครอะไรไปหรือไม่ ใครที่เคยลืมหรือไม่แน่ใจ ลองดูวิธีเหล่านี้เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกหักเงินไปฟรีๆ
- วิธีแก้ไลน์ไม่แจ้งเตือน Android, iPhone ไลน์ไม่ดังต้องเข้าแอพทำยังไงได้บ้างในปี 2568
- ไลน์ส่งข้อความไม่ได้ รับส่งข้อความไลน์ไม่ได้ เกิดจากอะไร แก้ไขยังไงได้บ้างในปี 2568
- วิธีย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ทำยังไง ได้ครบทั้งรูปและข้อมูลต่างๆ แบบง่ายๆ ปี 2025
- วิธีย้ายข้อมูล Android ไป Android ปี 2025 โอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ ไม่ใช้สายทำยังไงบ้าง
- วิธีแก้โทรศัพท์ชาร์จแบตไม่เข้า ชาร์จแบตเข้าแต่ไม่ขึ้น แก้ยังไงได้บ้างทั้ง iPhone และ Android ปี 2025