แนะนำ 8 มือถือเรือธงตกรุ่นในปี 2025 รุ่นไหนดีที่ยังน่าซื้อมาใช้งาน ได้สเปคแรงระดับตัวท็อปในราคาที่ประหยัดลง
สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือสเปคแรงแต่ไม่อยากจ่ายแพงเกินไป มือถือเรือธงตกรุ่นนั้นถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ในตอนนี้ เพราะนอกจากจะได้สเปคระดับท็อปแล้ว ราคายังถูกลงกว่าตอนเปิดตัวเยอะเลย นอกจากนี้เรื่องสเปคและการใช้งานต่างๆ ก็ยังคงทำได้ดีเยี่ยมเหมือนกัน เพียงแต่ว่าตกรุ่นไปนิดหน่อยตามปีเท่านั้น วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำ 8 มือถือเรือธงตกรุ่นที่ยังน่าซื้อมาใช้งานในปี 2025 ช่วงต้นปีนี้มาฝากกัน ทั้งรุ่นที่เพิ่งตกรุ่นใหม่ๆ และรุ่นที่วางจำหน่ายมาสักพักแล้ว แต่ยังคงมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม คุ้มค่ากับราคาที่ลดลงมาแบบจัดเต็ม
แนะนำ 10 มือถือเรือธงตกรุ่นน่าซื้อช่วงต้นปี 2025
1. Samsung Galaxy S24 Ultra: ราคา 38,900 บาท
เริ่มต้นกันด้วยมือถือเรือธงตกรุ่นตัวแรก นั้นก็คือรุ่นเรือธงตัวท็อปจาก Samsung ที่เพิ่งตกรุ่นหมาดๆ หลังจากที่รุ่นใหม่ได้เปิดตัวออกมาไม่นานนี้ ซึ่งรุ่นนี้ก็มาพร้อมสเปคระดับเทพ ทั้งชิป Snapdragon 8 Gen 3 กล้องความละเอียดสูงถึง 200MP และฟีเจอร์ Galaxy AI ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีฟีเจอร์เดิมที่รุ่นใหม่ได้ตัดออกไปแล้วบางอย่างด้วย ซึ่งตอนนี้ราคาก็ลดลงมาจากตอนเปิดตัวเยอะทีเดียว ซื้อได้ที่ Samsung
- หน้าจอ: Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.8 นิ้ว, 120Hz
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen 3
- RAM: 12GB | ROM: 256/512GB/1TB
- กล้องหน้า: 12MP
- กล้องหลัง: 200MP + 12MP + 50MP + 10MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh/ 45W
2. iPhone 15 Pro Max: ราคาเริ่มต้น 39,500 บาท
มือถือเรือธงที่ตกรุ่นมาหลังจากรุ่นใหม่เปิดตัวไปปลายยปีที่แล้ว และถูกปลดออกจาก Apple Store ไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถหาซื้อได้จากร้านตัวแทนจำหน่ายและร้านค้า IT ชั้นนำ ในราคาที่ถูกกว่าตอนเปิดตัวมาก โดยรุ่นนี้มาพร้อมวัสดุไทเทเนียม มีกล้องที่ถ่ายภาพได้สวยงามในทุกสภาพแสง และชิป A17 Pro ที่ทรงพลังเล่นเกมสบายๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่ครบเครื่องทั้งด้านการใช้งานและดีไซน์ สั่งซื้อที่ BaNANA
- หน้าจอ: Super Retina XDR แบบ OLED กว้าง 6.7 นิ้ว, 120Hz
- ชิปเซ็ต: A17 Pro
- RAM: 8GB | ROM: 256/512GB/1TB
- กล้องหน้า: TrueDepth 12MP
- กล้องหลัง: 48MP + 12MP + 12MP
- แบตเตอรี่: 4441mAh/ 20-25W
3. iQOO 12: ราคา 25,990 บาท
มือถือเรือธงตกรุ่นหมาดๆ อีกหนึ่งรุ่นหลังจากที่ iQOO 13 ได้เปิดตัวออกมาล่าสุด ทำให้รุ่นก่อนหน้าก็มีการลดราคาลงตามไปด้วยแล้ว โดยรุ่นนี้เป็นมือถือแบรนด์ลูกของ vivo ที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ที่มาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 3 ตัวแรกในไทย โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพระดับท็อป หน้าจอคุณภาพสูงให้ความคมชัดและเล่นลื่น 144Hz รวมถึงระบบกล้องคุณภาพสูงด้วย สั่งซื้อที่ iQOO
- หน้าจอ: AMOLED LTPO กว้าง 6.78 นิ้ว, 144Hz
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen 3
- RAM: 16GB | ROM: 512GB
- กล้องหน้า: 16MP
- กล้องหลัง: 50MP + 50MP + 64MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh/ 120W
4. Xiaomi 13T Pro: ราคา 14,990 บาท
มือถือรุ่นน้องๆ เรือธงจนแทบจะเป็นเรือธงได้เต็มตัวจาก Xiaomi ที่รุ่นนี้ยังคงมีขายอยู่หลังจากรุ่นล่าสุดได้เปิดตัวออกมา และมีราคาที่น่าซื้อมากๆ ในตอนนี้เพราะลงมาเหลือเพียงหมื่นกลางๆ เท่านั้น โดยสเปคของรุ่นนี้มีจุดเด่นหลักในเรื่องของกล้อง ที่มาพร้อมกล้องพัฒนาร่วมกับ Leica และสเปคระดับท็อปจากชิปตัวแรงในราคาที่คุ้มค่า และหน้าจอที่ไหลลื่นขั้นสุด สั่งซื้อที่ Xiaomi
- หน้าจอ: AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว, 144Hz
- ชิปเซ็ต: Dimensity 9200+
- RAM: 12GB | ROM: 512GB
- กล้องหน้า: 20MP
- กล้องหลัง: 50MP + 12MP + 50MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh/ 120W
5. vivo X100 Pro: ราคามือสองประมาณ 20,000 บาท
สำหรับมือถือเรือธงตกรุ่นจาก vivo รุ่นนี้อาจจะหาซื้อมือ 1 เลยยากสักหน่อย เท่าที่เห็นก็จะมีคนนำมาขายต่อมือสองในราคาที่ประหยัดลงไปอีก แต่ได้สภาพนางฟ้าเลยทีเดียว โดยมีจุดเด่นในเรื่องของกล้องที่ทำร่วมกับ ZEISS ความละเอียดและคุณภาพสูง นอกจากนี้ก็ยังมีชิปตัวแรงที่ยังใช้งานได้อีกยาวๆ เล่นเกมได้ไหลลื่นพร้อม Ray Tracing ที่สมจริง
- หน้าจอ: AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว, 120Hz
- ชิปเซ็ต: Dimensity 9300
- RAM: 16GB | ROM: 512GB
- กล้องหน้า: 32MP
- กล้องหลัง: 50MP + 50MP + 50MP
- แบตเตอรี่: 5,400mAh/ 100W
6. HONOR Magic6 Pro 5G: ราคา 26,990 บาท
มือถือเรือธงตกรุ่นจาก HONOR ที่มีรุ่นใหม่เปิดตัวมาช่วงต้นปีนี้ และรุ่นก่อนหน้าก็ได้มีการลดราคาลงไปจากตอนเปิดตัวเกือบหมื่นแล้วในตอนนี้ ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มมากๆ ถ้าเทียบกับสเปคที่ได้มา จุดเด่นหลักๆ ของรุ่นนี้ก็คือเรื่องของกล้อง ที่ถ่ายและซูมได้อย่างคมชัด นอกจากนี้ยังมีทั้งชิปที่ทรงพลัง เล่นเกมได้หายห่วงยาวๆ และแบตที่อึดมากๆ สั่งซื้อที่ BaNANA
- หน้าจอ: LTPO OLED กว้าง 6.8 นิ้ว, 120Hz
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen 3
- RAM: 12GB | ROM: 512GB
- กล้องหน้า: 50MP
- กล้องหลัง: 50MP + 108MP + 50MP
- แบตเตอรี่: 5,600mAh/ 80W
7. realme GT 6: ราคา 24,999 บาท
มือถือเรือธงตกรุ่นที่ตอนนี้มีรุ่นใหม่อย่าง GT7 Pro ออกมาวางจำหน่ายแล้ว ซึ่งรุ่นนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่รุ่นโปร แต่ด้วยสเปคระดับเรือธงและการใช้งานที่ยังคงทำได้ดีอยู่ จึงเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วแรงที่ใช้เล่นเกมได้สบายๆ หน้าจอสว่างได้มากถึง 6000nits และกล้องหลังที่ถ่ายรูปได้สวยๆ ในทุกสภาพแสงไม่แพ้รุ่นอื่นๆ เลยด้วย
- หน้าจอ: LTPO AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว, 120Hz
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8s Gen 3
- RAM: 16GB | ROM: 512GB
- กล้องหน้า: 32MP
- กล้องหลัง: 50MP + 50MP + 8MP
- แบตเตอรี่: 5,500mAh/ 120W
8. ROG Phone 8 Pro: ราคา 37,990 บาท
มือถือเรือธงที่กำลังจะตกรุ่นเพราะว่ามีการเปิดตัว ROG Phone 9 Series ออกมาพร้อมให้จองกันแล้วล่าสุดในตอนนี้ ส่วนรุ่นก่อนหน้ารุ่นนี้ก็ยังคงเป็นมือถือเล่นเกมที่มีสเปคเทพเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการปรับลดราคาลงมา แต่คาดว่าน่าจะปรับลงอีกเร็วๆ นี้ ใครที่มองหามือถือเรือธงไว้เล่นเกมเป็นหลัก จอลื่นๆ และถ่ายรูปได้ด้วย ห้ามพลาดเลยสำหรับรุ่นนี้ สั่งซื้อที่ ROG
- หน้าจอ: LTPO AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว, 165Hz
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Gen 3
- RAM: 16GB | ROM: 512GB
- กล้องหน้า: 32MP
- กล้องหลัง: 50MP + 32MP + 13MP
- แบตเตอรี่: 5,500mAh/ 65W
ข้อดีและข้อเสียในการซื้อมือถือเรือธงตกรุ่น
ข้อดี
- ราคาถูกลงมากกว่าตอนเปิดตัว โดยบางรุ่นก็ลดลงมาหลายพันบาทเลยทีเดียว
- สเปคยังคงแรงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือเล่นเกม และการถ่ายภาพ
- ปัญหาบั๊กต่างๆ ได้รับการแก้ไขแล้วจากการอัพเดทระบบ
- มีข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริงมากมายให้เลือกดู และเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ
ข้อเสีย
- อาจได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์ไม่นานเท่ารุ่นใหม่ เพราะบางรุ่นอาจได้อัพเดทระบบไปไกลกว่า
- อาจมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ ในกรณีที่หาซื้อมือ 1 ไม่ได้และต้องไปซื้อเครื่องมือสอง
- บางรุ่นอาจหาอะไหล่ยาก ในกรณีที่เป็นรุ่นเก่าหรือว่าไม่ได้มีการวางขายแล้ว
- ไม่ได้ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด (เฉพาะบางรุ่น)
ซื้อมือถือเรือธงตกรุ่น หรือว่ามือถือเรือธงรุ่นใหม่ดีกว่ากัน
สำหรับมือถือเรือธงที่ตกรุ่นนั้นจะเหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการสเปคระดับสูง ต้องการความคุ้มค่า และอาจไม่ได้จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ล่าสุดอยู่ตลอด เพราะถึงแม้จะตกรุ่นแต่ก็ยังใช้งานทั่วไป เล่นเกม ถ่ายรูป โซเชียลได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีราคาถูกลงกว่าเดิมเยอะเลยในบางรุ่น ส่วนมือถือเรือธงรุ่นใหม่จะเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ล่าสุดและการอัพเดตที่ยาวนานกว่า เน้นประสิทธิภาพสูงสุดและการรับประกันเต็มรูปแบบ และมีฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดให้ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญคือไม่ได้จำกัดเรื่องราคา
การเลือกซื้อมือถือเรือธงตกรุ่นในปี 2025 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่ต้องการมือถือประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า แนะนำให้เลือกรุ่นที่เพิ่งตกรุ่นไม่นานอย่าง Samsung Galaxy S24 Ultra, iPhone 15 Pro Max หรือ iQOO 12 ที่ยังมีสเปคแรงและได้รับการอัปเดตอีกนาน หรือรุ่นอื่นๆ ที่มีการเปิดตัวก่อนหน้าตามที่ได้แนะนำไป ส่วนสายเกมเมอร์ ROG Phone 8 Pro ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อควรพิจารณาการใช้งาน งบประมาณ และระยะเวลาที่ต้องการใช้งานของเราเองด้วย เพื่อให้ได้รุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
คำถามที่คนมักค้นหา (FAQ)
Q: มือถือเรือธงที่ตกรุ่นใช้งานได้นานแค่ไหน?
A: โดยทั่วไปสามารถใช้งานได้อีก 2-3 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการอัปเดตซอฟต์แวร์ของแต่ละรุ่น
Q: ควรซื้อมือถือเรือธงที่ตกรุ่นจากที่ไหน?
A: ควรซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ หรือศูนย์การค้าที่มีการรับประกันชัดเจน ถ้าเป็นมือสองก็ควรดูสภาพให้แน่ใจก่อนการซื้อ
Q: มือถือเรือธงที่ตกรุ่นยังคุ้มค่าในปี 2025 หรือไม่?
A: ยังคุ้มค่า โดยเฉพาะรุ่นที่เพิ่งตกรุ่นไม่นาน เพราะสเปคยังแรงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรือการถ่ายรูป
Q: ควรรอให้ราคาลดลงอีกหรือไม่?
A: โดยส่วนใหญแล้วราคามักจะลดลงมากที่สุดในช่วง 3-6 เดือนหลังเปิดตัวรุ่นใหม่ หลังจากนั้นราคาจะค่อนข้างคงที่ หรืออาจหาซื้อมือหนึ่งไม่ได้แล้ว
Q: มือถือเรือธงตกรุ่นยังได้รับการอัปเดตความปลอดภัยหรือไม่?
A: ส่วนใหญ่ยังได้รับการอัปเดตความปลอดภัยอย่างน้อย 1-2 ปีหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแบรนด์ด้วย