มือถือมือสองถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือในราคาไม่แพง เนื่องจากตอนนี้ข้าวของต่างๆ ก็แพงไปหมด การประหยัดเงินด้วยการซื้อมือถือมือสองจึงกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของตอนนี้เลย ซึ่งแน่นอนว่าการที่จะเลือกซื้อมือถือมือสองนั้นจำเป็นไม่ต้องไม่ลืมว่าเครื่องนี้ได้เคยผ่านการใช้งานมาก่อนในระดับหนึ่งแล้ว นั่นอาจจะทำให้อายุการใช้งานสั้นกว่าแบบมือ 1 พอสมควร แต่จะทำยังไงได้ ก็มันต้องประหยัดหนิเนอะ
สำหรับการจะซื้อมือถือมือสองจะมีขั้นตอนที่ต้องทำก่อนที่จะจ่ายเงินอยู่ ซึ่งทางเราได้เคยเขียนขั้นตอนเอาไว้แล้วสามารถเข้าไปดูได้ที่ Specphone.com ได้เลย ทีนี้เราจะมาแนะนำมือถือมือสองที่น่าซื้อในช่วงปลายปี 2023 นี้ให้แก่เพื่อนๆ กัน แน่นอนว่าทั้งหมดจะเป็นเครื่องที่ไม่ได้เก่าจนเกินไปด้วย แต่ๆ ราคาตัวเครื่องนั้นอยากให้ไปลองเช็คกับทางร้านหรือผู้ขายก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เนื่องจากราคาพวกนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ทำให้กำหนดแบบตายตัวไม่ได้ ดังนั้นในที่นี้เราจะไม่พูดถึงราคาแบบเจาะจงนะ
แนะนำมือถือมือสองน่าซื้อปลายปี 2023
1. iPhone 14 Series
ถ้าให้พูดแล้วสำหรับคนที่อยากได้ iPhone แต่งบไม่ถึง iPhone 15 Series ที่พึ่งจะเปิดตัวใหม่ไป iPhone 14 Series เองก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยตัวสเปคและดีไซน์ที่ยังไม่สามารถเรียกได้ว่าเก่า และราคามือสองที่ถูกลงมาเยอะเนื่องจากหลายๆ คนต้องการนำเงินไปใช้ซื้อ iPhone 15 Series ทำให้มีการกดราคาลงจากเดิมเล็กน้อยเพื่อให้ขายเครื่องออกได้ไวขึ้นนั่นเอง โดยราคาที่ดูตอนนี้ iPhone 14 Pro Max จะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 30,000 – 35,000 บาท | iPhone 14 Pro จะมีราคาอยู่ราวๆ 25,000 – 30,000 บาท | iPhone 14 Plus จะมีราคาอยู่แถว 25,000 บาท | iPhone 14 จะมีราคาอยู่แถวๆ 21,000 บาท
ซึ่งสำหรับ iPhone 14 Series นั้นเป็น iPhone ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วและเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้หัวชาร์จแบบ Lightning ด้วย ทำให้หลังจากนี้ราคาน่าจะร่วงหนักกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา ใครที่สามารถรอได แนะนำให้รอกันอีกสักหน่อย ซึ่งตรงนี้สามารถอ้างอิงได้จากราคาของ Macbook ที่เมื่อ Apple เปิดตัว Macbook ชิป Apple M1 ออกมาไม่กี่เดือน ราคาของ Macbook ที่ใช้ชิป Intel ก็วูบไประดับหนึ่งเลย
2. iPhone 13 Series
ก็ยังคงอยู่กับ iPhone ต่อกับ iPhone 13 Series ที่เปิดตัวมา 2 ปีแล้ว แต่ความนิยมเองก็ยังไม่ได้ตกลงไปเท่าไร เนื่องจากตัวชิปที่ยังใช้งานได้ดี แบตเตอรี่ที่อึด แต่ราคาเริ่มต้นตกลงมาในระดับ 20,000 – 30,000 บาทแล้ว บอกเลยใครที่กำลังอยากได้ iPhone ดีๆ สักเครื่อง iPhone 13 Series นี่แหละน่าจะคุ้มที่สุดแล้วตอนนี้
3. iPhone 12 Series
ปิดด้วย iPhone รุ่นแรกของ Apple ที่รองรับ 5G ได้อย่าง iPhone 12 Series ซึ่งตัวนี้ในด้านการใช้งานต่างๆ แล้วก็ยังสามารถใช้งานได้ดี แถมราคาก็อยู่ในเรทต่ำกว่า 20,000 – 25,000 บาทเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นเป็นราคาที่สามารถเก็บเงินซื้อได้ไม่อยากเท่ารุ่นอื่นๆ ใครที่งบน้อยๆ ลองมอง iPhone 12 ไว้ก็นับเป็นตัวเลือกที่ดี แถมยังมีเวลาใช้งานต่อได้อีกนานกว่าจะไม่ได้รับการอัปเดต iOS รุ่นใหม่
4. Samsung Galaxy S23 Series
มาที่ฝั่ง Android กันบ้าง ด้วยการเริ่มที่ Galaxy S23 Series มือถือรุ่นเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung ซึ่งถ้าถามว่าทำไมถึงมาอยู่ในลิสนี้ก็เนื่องจากตั้งแต่ที่ iPhone 15 Series ออกก็มีผู้ที่ทำการย้ายค่ายไปยัง iPhone หลายราย ซึ่งส่วนใหญ่คนเหล่านั้นก็ใช้ Samsung นี่แหละ ก็เลยทำให้ช่วงหลังเปิดตัว iPhone 15 Series จะสามารถหา Galaxy S23 Series ในราคาที่ถูกกว่าปกติได้ (แต่บางครั้งซื้อแบบมือ 1 ผ่าน Shopee หรือ Lazada อาจจะได้ราคาพอๆ กันหรือถูกกว่านะเออ)
5. Samsung Galaxy S22 Series
ต่อด้วยเรือธงรุ่นก่อนของ Samsung อย่าง Galaxy S22 Series ที่ตอนนี้ราคาวูบลงมาเหลือไม่ถึง 20,000 บาทกันแล้ว แต่ด้วยการที่ใช้ชิป Snapdragon ทุกรุ่นทำให้ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยังน่าซื้ออยู่ ถึงแม้จะมีชื่อเสียเรื่องที่ชิป Snapdragon 8 Gen 1 ในซีรี่ส์นี้มีปัญหาเรื่องความร้อนอยู่บ้าง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้งานต่างๆ แล้วก็นับว่ายังเหลือๆ (ทางผู้เขียนก็ยังใช้ Galaxy S22 Ultra อยู่และยังไม่คิดจะเปลี่นยนด้วย เพราะสเปคตอนนี้ก็เหลือแหล่แล้ว)
6. Samsung Galaxy S21 FE
ต่อกันด้วยรุ่นเรือธงราคาคุ้มค่าที่ทาง Samsung ยื้อขายมาได้นานมากๆ โดยไม่ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาเลย แต่ด้วยสเปคที่ให้มาก็นับว่ายังใช้ต่อได้อย่างน้อยๆ 1-2 ปี แถมราคามือสองตอนนี้ก็ร่วงหนักมากจนตอนนี้ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 10,000 บาทแล้ว เหมาะกับคนที่อยากได้มือถือสเปคระดับเรือธงแต่งบไม่เยอะเป็นอย่างดี ถึงล่าสุดจะเริ่มมีข่าวลือว่า Samsung จะเปิดตัว FE รุ่นใหม่ในเร็วๆ นี้แล้วจะทำให้ราคารุ่นนี้ตกลงไปอีกก้ตาม แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่เลวเลย
7. Samsung Galaxy A73 5G
มาที่ซีรี่ส์ A กันบ้างกับตัวท๊อปที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วอย่าง Galaxy A73 5G มือถือที่มีสเปคเกือบจะทับกับ Galaxy S22 5G ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของซีรี่ส์เรือธง ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 778G 5G ที่ยังคงมีการใช้งานอยู่จนทุกวันนี้ และกล้องหลังความละเอียดสูง 108MP ทำให้สเปคต่างๆ ยังไม่ค่อยแตกต่างจากมือถือที่เปิดตัวในปี 2023 เท่าไร แต่ราคาบอกเลยว่าถูกกว่าเยอะ เพราะราคามือสองตอนนี้ไม่ถึงหมื่น ใครที่กลัวชิป Exynos ใน Galaxy S21 FE สามารถเปลี่ยนใจมาที่ตัวนี้ได้เลย
8. Samsung Galaxy A53 5G
เมื่อพูดถึงตัวท๊อปก็ต้องพูดถึงตัวรองท๊อปอย่าง Galaxy A53 5G กันบ้าง ซึ่งถึงแม้เครื่องนี้จะใช้ชิป Exynos อย่าง Exynos 1280 อยู่ แต่ในเรื่องความแรงก็นับว่าสบายหายห่วง เพียงแต่ในเรื่องระยะเวลาใช้งานอาจจะต้องมาลุ้นกันหน่อย เพราะสมัยก่อนชิป Exynos พอใช้ไปราวๆ 3 ปีจะเริ่มมีอาการอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมา และตัวนี้ก็เปิดตัวมาปีกว่าเกือบจะ 2 ปีแล้ว ทำให้เวลาใช้งานต่ออาจจะสั้นหน่อย แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่อยู่ในเรท 6,000 – 7,000 บาทเท่านั้น อาจจะซื้อมาใช้เป็นเครื่องแก้ขัดไปก่อนก็ได้ หรือจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเครื่องจะไม่ไหวแล้วก็ยังได้
9. vivo V27 5G
จบจาก Samsung แล้วก็มาต่อที่ vivo ด้วยมือถือที่เปิดตัวเมื่อต้นปีอย่าง vivo V27 5G ที่มีจุดเด่นเรื่องการถ่ายแบบ Portrait ในที่แสงน้อย แต่ด้วยการที่ทาง vivo เปิดตัว vivo V29 5G ขึ้นมาเพิ่มในช่วงท้ายปีก็เลยทำให้สามารถหาซื้อแบบมือสองได้ในราคาที่ไม่ได้แพงจนเกินไป แต่ที่จะดีกว่าใครเขาก็คือตัวเครื่องจะยังคงมีประกันเครื่องเหลืออยู่นั่นเอง สำหรับราคาเท่าที่หาดูตอนนี้จะเริ่มอยู่แถวๆ 8,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถือว่าไม่ได้หนักหนาอะไรเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้มา
10. vivo V25 5G
อีกหนึ่งตัวเลือกของ vivo ที่หากมีงบไม่ถึง vivo V27 5G แล้ว vivo V25 5G ที่เป็นรุ่นก่อนหน้าไปอีกก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งด้วยราคาที่ถูกกว่าราวๆ 2,000 บาท ทำให้สามารถช่วยประหยัดเงินไปได้ในระดับหนึ่งเลยสำหรับคนที่ชื่นชอบการเซลฟี่ เพราะทั้งกล้องหน้าและฟีเจอร์ต่างๆ ก็ไม่ได้ต่างจากรุ่นใหม่มากนัก แต่ถ้าถามว่าจุดที่ทำให้อาจจะลังเลหน่อยก็คือเรื่องชิปประมวผลที่จะดรอปลงมาพอสมควรเลยเมื่อเทียบกับราคาที่หายไป จึงอยากให้พิจารณาก่อนว่าคุ้มไหมที่จะจ่ายส่วนต่าง 2,000 บาทเพื่อเพิ่มสเปคให้แรงขึ้น
11. vivo X80 Pro
ปิดมือถือ vivo ด้วยรุ่นเรือธงกล้องเทพอย่าง vivo X80 Pro มือถือกล้อง Leica ที่มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายภาพที่ไม่ได้แตกต่างไปจากกล้อง Leica จริงๆ เหมาะสำหรับคนที่เป็นสายถ่ายภาพด้วยมือถือที่ต้องการคุณภาพสูงๆ และจากที่ได้ลองไปหามาคร่าวๆ ราคาของรุ่นนี้จะอยู่ที่ไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มมากเมื่อเทียบกับราคากล้อง Leica แต่จุดที่น่าจะทำให้เหนื่อยหน่อยก็คือรุ่นนี้จะหาค่อนข้างยากหน่อยเนื่องจากไม่ได้เป็นที่นิยมเท่ารุ่นอื่นๆ แต่ถ้าชอบจริง และอยากประหยัดจริง ก็ไม่เกินความพยายามของคนเราหรอกเนอะ
12. OPPO Reno8 5G
มาที่ฝั่ง OPPO กับรุ่นที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วอย่าง Reno8 Series กันบ้าง โดยตัวที่แนะนำก็คือ Reno8 5G ที่เป็นรุ่นกลางเพราะจะได้ฟีเจอร์อะไรหลายๆ อย่างจากรุ่น Pro มาด้วย แต่ราคาตอนนี้แค่หมื่นต้นๆ เท่านั้น พอๆ กับรุ่นประหยัดเลยทีเดียว คนที่อยากได้มือถือสเปคใกล้ๆ เรือธงในราคาประหยัดนี่ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
13. OPPO Reno7 5G
ยังไม่จบกับ OPPO ด้วย Reno7 5G ที่เป็นรุ่นก่อนหน้าเครื่องที่แล้ว ถ้าพูดถึงกันในเรื่องสเปคแล้วแน่นอนว่าต้องด้อยกว่า Reno8 5G เพราะเปิดตัวมาก่อนตั้ง 1 ปี แต่สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจก็คือราคาที่ไม่ว่าจะที่ไหนก็ขายในราคาไม่ถึง 8,000 บาท ซึ่งเมื่อเอามาเทียบกับมือถือมือ 1 ในปี 2023 ในเรทราคาเท่านี้แล้วก็นับว่าให้อะไรหลายๆ อย่างมากมากกว่า มากพอจะเอาไปใช้ต่อได้อีกหลายปีเลยทีเดียว
14. realme GT Neo3
มากันที่แบรนด์ realme กันบ้างด้วยมือถือเล่นเกมอย่าง realme GT Neo3 ผู้ได้สเปคมาในระดับเท่าเรือธงแต่ขายในราคามิตรภาพ ไม่ว่าาจะเป็นจอ AMOLED 120Hz ชิป Dimensity 8100 และชาร์จเร็ว 80W บอกเลยว่าใครที่กำลังหามือถือไม่แพงเล่นเกมดีๆ ตัวนี้คือตัวเลือกที่น่าจะดีที่สุดแล้ว และด้วยราคามือสองที่อยู่แคืหมื่นต้นๆ บอกเลยคุ้มจัดๆ แน่นอน
15. realme GT Neo3T
แต่ถ้างบไม่ถึง GT Neo3 ก็สามารถหันมาซบ realme GT Neo3T ที่เป็นรุ่นตัดสเปคได้ด้วยราคาที่ต่ำกว่าหมื่นแล้วน่าจะเก็บเงินกันง่ายขึ้น ซึ่งราคาเท่าที่ลองหาดูจะอยู่ราวๆ 7,000 บาทเอง แต่สเปคที่ได้นับว่าไม่ธรรมดา ด้วยชิป Snapdragon 870 ที่แรงแต่ไม่ค่อยร้อน รวมถึงยังได้ชาร์จเร็ว 80W เหมือนรุ่นพี่ บอกได้เลยว่าคุ้มสุดแล้ว
ทั้ง 15 รุ่นที่กลางมาข้างต้นนี้คือรุ่นที่ทางผู้เขียนมองว่ายังเป็นรุ่นที่ให้สเปคมาได้คุ้มค่าคุ้มราคาสามารถใช้งานต่อได้อีกอย่างน้อยๆ 1-2 ปี เป็นอย่างต่ำ ซึ่งสามารถเอาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงตอนที่มีความคิดจะซื้อมือถือใหม่ได้ตามสะดวกเลย