สรุปเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold 5/ Galaxy Z Flip 5 สเปคมีอะไรใหม่ ราคาเท่าไหร่บ้าง จองได้แล้ววันนี้พร้อมวางขาย 11 ส.ค. 23
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับงาน Galaxy Unpacked 2023 ที่จัดขึ้นในกรุงโซล ประเทศเกาหลีวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 ในเวลา 18.00-20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งงานนี้ทาง Samsung Thailand ก็ได้ยกทัพไปเปิดตัวกันถึงที่ centralwOrld อย่างยิ่งใหญ่พร้อมศิลปินมาร่วมเปิดตัวกันด้วย ซึ่งงานนี้ทางทีมงาน Specphone ก็ไม่พลาดที่จะไปเก็บบรรยากาศในงาน พร้อมกับจับถือเล่นเครื่องจริงของมือถือรุ่นใหม่ ที่เปิดตัวออกมาอย่าง Samsung Galaxy Fold 5 และ Z Flip 5 พร้อมกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ตามมาด้วยทั้ง Watch 6, Tab S9 Series, Buds 3 ส่วนสเปคของ Z Fold 5 และ Z Flip 5 ก็เป็นไปตามที่คาดกันมาตั้งแต่ก่อนเปิดตัวแล้ว เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปงานเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold 5/ Galaxy Z Flip 5 ว่ามีสเปคอะไรใหม่บ้าง และมีราคาเท่าไหร่ในแต่ละรุ่น จองได้แล้ววันนี้พร้อมวางขาย 11 ส.ค. 23
- สเปค Samsung Galaxy Z Fold 5
- สเปค Samsung Galaxy Z Flip 5
- ราคาและโปรโมชั่นการจอง Samsung Galaxy Z Fold 5/ Z Flip 5
Samsung Galaxy Z Fold 5
เริ่มกันด้วยรุ่นใหญ่รุ่นแรกกันก่อนเลยกับ Galaxy Z Fold 5 ที่เป็นไปตามคาดกันเลยนั่นแหละ ทั้งดีไซน์ตัวเครื่องที่มีความคล้ายกับรุ่นก่อนหน้าในเรื่องของการพับ และขนาดตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม แต่ว่ารุ่นนี้จะมีความเบาบางลงหน่อย อีกทั้งยังสามารถพับหน้าจอได้แนบสนิทกว่าเดิมด้วยบานพับใหม่ ที่เรียกว่า Flex Hinge หรือแบบหยดน้ำ ซึ่งการพับแบบนี้จะช่วยให้พับได้สนิทมากขึ้น ตัวเครื่องบางลง และยังช่วยให้หน้าจอเกิดรอยพับน้อยลง รวมไปถึงการกันน้ำที่ระดับ IPX8 ได้เหมือนเดิม อีกหนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือตัวโมดูลกล้องหลัง ที่ได้ขยับแฟลชมาอยู่ข้างๆ ตัวเลนส์กล้องแทน และมีสีให้เลือกคือสีดำ, สีครีม, สีฟ้าอ่อน และซื้อออนไลน์จาก Samsung มีสีน้ำเงิน และสีเทา
หน้าจอของรุ่นใหม่นี้ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เพราะว่ายังเป็นหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ทั้งด้านนอกและด้านใน มาพร้อมความกว้างจอด้านนอก 6.2 นิ้วความละเอียด HD+ และด้านในเมื่อกางออกกว้าง 7.6 นิ้วความละเอียด QXGA+ ใหญ่มากที่มี Refresh Rate 120Hz และมีการฝังกล้อง UDC ได้เนียนมากขึ้น และยังมีความสว่างได้มากถึง 1,750nits ทำงานแบบ Mutitask ได้ เพิ่มอีก 4 Recent Apps ใต้จอ นอกจากนี้ก็ยังมีการรองรับ S Pen ได้เหมือนเดิมแต่ยังเก็บปากกาในตัวเครื่องไม่ได้ แต่ก็มีเคสที่เอาไว้ใส่ S Pen ได้ ซึ่งตัวหลักที่เปลี่ยนแปลงในส่วนของหน้าจอ ก็อยู่ที่การพับแบบหยดน้ำแบบใหม่ที่สนิทและบางมากขึ้นนั่นเอง
แน่นอนว่าชิปประมวลผลของรุ่นนี้ก็ต้องได้ชิปที่ใหม่และเร็วแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ปรับปรุงสำหรับ Samsung Galaxy โดยเฉพาะ ในเรื่องของความไหลลื่นและความแรงอันนี้ยังทำได้ดีเยี่ยมเหมือนเดิม โดยรุ่นนี้มี RAM 12GB กับความจุ ROM 256GB/512GB และ 1TB มีการระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ที่ใหญ่มากกว่าเดิม เชื่อมต่อ 5G, WiFi 6E บนระบบ Android 13 ครอบด้วย OneUI 5.1 ที่มีฟีเจอร์พร้อมลูกเล่นใหม่ๆ เพียบ ส่วนแบตมีความจุ 4,400 mAh ชาร์จไวได้ 25W เท่าเดิม
ในส่วนของกล้องหลังก็มีการเปลี่ยนแปลงและอัพเกรดขึ้นมาหน่อย โดยมีกล้องหลังตัวหลัก 50MP ซูมแบบ Space Zoom 30 เท่า และมีกันสั่น OIS คุณภาพพอกับ S23 Series ส่วนที่เหลือคือเลนส์อัลตร้าไวด์ 12MP และ Telephoto 12MP ที่ซูมแบบออพติคอลได้ 3 เท่า มาพร้อมกล้องหน้าสเปคเดิมคือ 10MP และ 4MP ซึ่งตรงนี้ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ด้วยชิปใหม่และตัวระบบใหม่ก็ทำให้ภาพนั้นออกมาดีและมีคุณภาพมากขึ้น มีความคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน และฟีเจอร์รองรับการใช้งานสำหรับการถ่ายรูปอีกเพียบ
สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Fold 5
- หน้าจอ: Dynamic AMOLED 2X ด้านนอกกว้าง 6.2 นิ้วจอในกว้าง 7.6 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 1,750nits/ รองรับ S Pen
- ชิปประมวลผล: Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy
- RAM: 12GB
- ROM: 256GB/ 512GB/ 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP กันสั่น OIS/ Space Zoom 30x
- เลนส์ Ultra-Wide 12MP
- เลนส์ Telephoto 10MP กันสั่น OIS/ Optical Zoom 3x/ Digital Zoom 30x
- กล้องหน้าความละเอียด: ด้านนอก 10MP/ ด้านใน 4MP
- กันน้ำ: IPX8
- การเชื่อมต่อ: 5G, WiFi 6E
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ One UI 5.1
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,400mAh ชาร์จไว 25W/ ไร้สาย 15W
- ราคา: รุ่นเริ่มต้น 59,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip 5
สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy Z Flip 5 รุ่นใหม่นี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะทีเดียว เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานสำหรับการพกพา และมีหน้าตาที่ดูน่าใช้งานขึ้นเยอะมากๆ อย่างแรกก็คือการดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นนี้ ที่ขนาดตัวเครื่องยังมีความใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้าเหมือนกัน ซึ่งจุดที่ทำให้แตกต่างออกไปก็คือการพับแบบใหม่ ที่เป็นแบบ Flex Hinge หรือแบบหยดน้ำ ทำให้พับได้สนิทมากขึ้น มีความบางลงเล็กน้อยและไม่ทำให้เกิดรอยยับตอนพับด้วย ที่สำคัญก็คือสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IPX8 นอกจากนี้ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนโมดูลกล้องเป็นแนวนอนฝังไปกับเครื่อง เพื่อให้เข้ากับหน้าจอด้านนอกแบบใหม่นั่นเอง มีสีให้เลือกคือ Mint, Graphite, Cream, Lavender และถ้าซื้อออนไลน์กับ Samsung จะมีสี Gray, Blue, Green และ Yellow
ในส่วนของหน้าจอจุดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลย ก็คือหน้าจอด้านนอกเวลาพับ จากเดิมที่เป็นหน้าจอเล็กๆ เอาไว้ดูการแจ้งเตือนต่างๆ แต่รุ่นใหม่นี้ก็ขยายให้ใหญ่ขึ้น มีรูปแบบเต็มเครื่องตอนพับ เว้นแต่ส่วนกล้องไว้เล็กน้อย สามารถใช้งานร่วมกับหลายๆ แอพอย่าง ถ่ายรูป แชท เปิดเพลง รับสาย และอื่นๆ ได้เลยทันทีไม่ต้องกางออก โดยตัวหน้าจอนั้นเป็นแบบ Super AMOLED กว้าง 3.4 นิ้ว (HD+) สว่างได้ 1,600nits ส่วนด้านในเมื่อกางออกเป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.7 นิ้วความละเอียด FHD+ สว่างได้ 1,750nits พร้อม Refresh Rate 120Hz ปรับได้อัตโนมัติ 1-120Hz รวมไปถึงการตั้งภาพเป็น GIF แบบเต็มจอนอกและ Widget พร้อมเข้ากับเคสได้ด้วย
แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็ได้ชิปตัวเดียวกับรุ่นใหญ่เลยนั่นก็คือ Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ปรับปรุงสำหรับ Sumsung Galaxy เป็นแบบเดียวกับ S23 Series เหมือนกัน มาพร้อมกับ RAM 8GB และความจุ ROM 256/512GB เท่ากับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งการใช้งานนั้นก็ยังคงมีความเร็วแรงด้วยประสิทธิภาพของชิป รองรับทั้ง 5G/ WiFi 6E และทำงานบนระบบ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1 มีฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ๆ เพียบเช่นกัน โดยรุ่นนี้มีแบตความจุ 3,700 mAh ชาร์จไวได้ 25W และแบบไร้สายได้ 15W เหมือนเดิม
ปิดท้ายด้วยเรื่องของกล้องที่ยังคงเป็นแบบเดิมคือกล้องคู่ ความละเอียดตัวหลัก 12MP มีกันสั่น OIS และอัลตร้าไวด์ 12MP โปรเซสเซอร์เดียวกับ S23 Series กับกล้องหน้า (ด้านในตอนกางออก) เท่าเดิมที่ 10MP เหมือนกัน ซึ่งเรื่องกล้องนี้ก็มีสเปคเท่าเดิมเลย แต่ว่ามีการอัพเกรดซอฟท์แวร์ใหม่จากทั้งตัวระบบ และชิปประมวลผลที่ทำให้การถ่ายรูปนั้นดีขึ้น มีลูกเล่นมากขึ้นอีกด้วย ทั้งการเซลฟี่ด้วยจอด้านนอกขณะพับ ซูมเข้าออกได้จากจอเล็กเลย รวมไปถึงการพับครึ่งถ่ายวิดีโอ และเชื่อมต่อกับ Samsung Watch เพื่อถ่ายรูปหรือวิด๊โอได้เลยด้วย
สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Flip 5
- หน้าจอ: ด้านนอก Super AMOLED กว้าง 3.4 นิ้ว ด้านใน Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.7 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล: Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy
- RAM: 8GB
- ROM: 256GB/ 512GB
- กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 12MP (f/1.8)
- เลนส์ Ultra-Wide 12MP (f/2.2)
- กล้องหน้าความละเอียด: 10MP (f/2.4)
- กันน้ำ: IPX8
- การเชื่อมต่อ: 5G, WiFi 6E
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ One UI 5.1
- แบตเตอรี่ความจุ: 3,700 mAh ชาร์จไว 25W/ ไร้สาย 15W
- ราคา: รุ่นเริ่มต้น 39,900 บาท
ราคาและโปรโมชั่นการจอง Samsung Galaxy Z Fold 5/ Z Flip 5
สำหรับราคาของแต่ละรุ่นทั้ง Samsung Galaxy Z Fold 5 และ Galaxy Z Flip 5 นั้นมีราคาแตกต่างกันตามความจุของแต่ละรุ่นดังนี้
Samsung Galaxy Z Fold 5
- รุ่น RAM 12GB/ ROM 256GB: ราคา 59,900 บาท
- รุ่น RAM 12GB/ ROM 512GB: ราคา 65,900 บาท
- รุ่น RAM 12GB/ ROM 1TB: ราคา 75,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip 5
- รุ่น RAM 8GB/ ROM 256GB: ราคา 39,900 บาท
- รุ่น RAM 8GB/ ROM 512GB: ราคา 45,900 บาท
โดยทาง Samsung นั้นเปิดให้จอง Samsung Galaxy Z Fold 5/ Z Flip 5 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ พร้อมวางขาย 11 ส.ค. 2023 นี้ มาพร้อมโปรโมชั่นมากมายทั้งอัพเกรดความจุ 2 เท่าทันที พร้อมรับฟรี Samsung Care+ 2 ปี และ Clear Gadget Case Galaxy Z Fold5/ Clear Gadget Case Galaxy Z Flip 5 สำหรับผู้ที่กรอกโค้ดลงทะเบียนแสดงความสนใจล่วงหน้าพร้อมสิทธิ์รับเครื่องกลุ่มแรกตั้งแต่ 7 ส.ค. 2023 นอกจากนี้ก็ยังมีโปรเก่าแลกใหม่รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 6,500.- และลูกค้าใหม่ที่สั่งซื้อครั้งแรกรับส่วนลด 1,000.- เมื่อใส่โค้ด NEWMEM
จองได้ที่ Samsung Galaxy Z Fold 5/ Samsung Galaxy Z Flip 5
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสรุปงานเปิดตัว Galaxy Unpacked 2023 สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy Z Fold 5 และ Galaxy Z Flip 5 ที่เราได้นำมาฝากพร้อมกับรูปภาพตัวเครื่องจริงๆ และบรรยากาศภายในงานเปิดตัวที่ไทยบางส่วนที่ทีมงาน Specphone ได้ไปร่วมนี้กับเขาด้วยเหมือนกัน โดยสเปคหลักๆ ของ Galaxy Z Fold 5 ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือการพับแบบ Waterdrop Hinge หรือแบบหยดน้ำที่ทำให้พับได้สนิทมากขึ้น ลดรอยพับลงไปได้เยอะ มีกล้องที่อัพเกรดขึ้นมาหน่อย กันน้ำกันฝุ่นได้ รวมไปถึงรุ่น Galaxy Z Flip 5 ที่มีรูปแบบการพับเหมือนกัน แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือหน้าจอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานตอนพับได้ดีขึ้น และดูน่าใช้งานมากขึ้นไปอีก ใครที่สนใจรุ่นไหนก็สามารถจองกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้พร้อมวางขาย 11 ส.ค. 23 ที่ Samsung