vivo Y36 สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ของ vivo ในตระกูล Y ที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาจาก vivo Y35 (2022) โดยนอกจากดีไซน์ใหม่แล้วยังมีการเพิ่มขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น และยังมีการเพิ่มความจุให้อีกเท่าตัวด้วย เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ “เครื่องที่ใช่สเปกที่ชอบ” อีกด้วย ซึ่งหลังจากที่เราได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งเราจะมาเล่าให้อ่านกันว่าตัวเครื่องนั้นเป็นอย่างไร
สเปคของ vivo Y36
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.64 นิ้ว, ความละเอียด 2388 × 1080 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 90Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680
- แรม : 8GB รองรับ Extended RAM สูงสุด 8GB
- หน่วยความจำ : 256GB รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2 : 2MP, f/2.4 (bokeh)
- กล้องหน้า : 16MP, f/2.45
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
- ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13
- การเชื่อมต่อ :
- 4G LTE
- Wi-Fi 5 Dual-band
- Bluetooth 5.1
- GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS
- NFC
- ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
- USB type-C
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Ambient light sensor
- Proximity Sensor
- E-compass
- Fingerprint (ด้านข้าง)
- Gyroscope
- ขนาด : 164.06 × 76.17 × 8.07 มม.
- น้ำหนัก : 202 กรัม
- สี : Glitter Aqua, Meteor Black
- ราคา : 7,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่องนั้นจะมีการเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอจากแบบหยดน้ำกลายมาเป็นแบบเจาะรูแทน ซึ่งนั่นทำให้ขอบจอมีความบางลงด้วยเช่นกัน และนั่นส่งผลให้ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อยด้วยที่ 6.64 นิ้ว สำหรับสเปคอื่น ๆ ในส่วนของหน้าจอนั้นก็ยังคงเดิมไม่ว่าจะเป็นพาแนลจอที่เป็น IPS ความละเอียดหน้าจอที่ FHD+ และอัตรารีเฟรชที่ 90Hz นอกจากนี้กล้องหน้าเซลฟี่ยังมีความละเอียดเท่าเดิมที่ 16MP อีกด้วย แต่จะมีรูรับแสงที่ต่างกันเล็กน้อย แน่นอนว่าด้วยการที่ขอบจอนั้นบางทำให้พวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ถูกนำไปไว้ที่ขอบจอด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีลำโพงที่ไว้ใช้สนทนาอยู่ตรงขอบด้วยเช่นกัน
ในส่วนดีไซน์หลังเครื่องนั้นทาง vivo กล่าวว่าได้ใช้การผลิตแบบ Golden Ripple & Crystal Glass ซึ่งใช้วัสดุกระจกฟลูออไรต์ AG ที่มีลักษณะพิเศษคล้ายคริสตัลบนแก้ว พร้อมกรอบสีรุ้งช่วยเพิ่มความสดใสให้กับเลนส์กล้อง พ่วงด้วยขอบโค้ง 2.5D มอบสัมผัสนุ่มนวลที่แตกต่างด้วยการลดขอบมุม และการจัดวางเส้นโค้งอย่างเหมาะสม โดย Y36 ที่ขายในไทยนั้นจะมีด้วยกัน 2 สีคือ Glitter Aqua และ Meteor Black (ทีมงานเราได้สี Glitter Aqua มานะ) ซึ่งสีทั้ง 2 นี้ทาง vivo ให้คำนิยามดังนี้
- สี Glitter Aqua
- ดีไซน์สีเขียวบนแก้วคริสตัลที่มอบเอฟเฟกต์กลิตเตอร์สวยงามเมื่อสะท้อนกับแสง ได้รับแรงบันดาลใจจากระลอกคลื่นของทะเลสาบที่ส่องแสงระยิบระยับ
- สี Meteor Black
- สีดำที่ให้ความรู้สึกลึกลับและเย้ายวนใจประหนึ่งดาวเคราะห์ส่องแสง บนฝาหลังกระจกฟลูออไรต์ AG
สำหรับรอบตัวเครื่องนั้น Y36 จะมาด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยมตามพิมพ์นิยม โดยที่ตัวขอบจะมีวัสดุโลหะที่มีพื้นผิวแบบด้าน ช่วยเพิ่มความเรียบหรูได้อย่างดี สำหรับรอบ ๆ เครื่องนั้นที่ด้านบนจะมีรูไมโครโฟนสำหรับใช้ตัดเสียงรบกวนและช่องใส่ซิมอยู่ โดยช่องซิมนี้จะเป็นแบบ Triple-slot ส่วนข้างล่างจะมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวเครื่องอยู่ ส่วนปุ่มทั้งหมดนั้นจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวาไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงหรือปุ่มเปิด-ปิดก็ตาม ซึ่งตัวปุ่มเปิด-ปิดนี้เองจะทำหน้าที่เป็นแท่นสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย
ระบบปฏิบัติการ
สำหรับระบบปฏิบัติการนั้น Y36 จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Android 13 ซึ่งในด้านดีไซน์นั้นจะเน้นความเรียบง่ายเป็นหลักจากการที่รวมเอาแอปฯ ทั้งหมดมาไว้ที่บนหน้าจอ Home แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้ทิ้ง AppDrawer ไป ยังมีการใส่มาให้อยู่เช่นเดิมแต่ก็ไม่ค่อยได้ถูกใช้บ่อย ๆ แล้ว ในส่วนของการปรับแต่งนั้นเราสามารถปรับแต่ง UI ตัวเครื่องได้เลยไม่ว่าจะเป็น ธีม, วอลเปเปอร์, ฟอนต์ ฯลฯ อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ Extended RAM 3.0 ที่สามารถเพิ่มขนาดแรงได้สูงสุดอีก 8GB ด้วย
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องของการใช้งานนั้นต้องบอกเลยว่าเอาเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโซเชียลผ่านแอปฯ ต่าง ๆ หรือจะเป็นการดูหนังหรือดูคลิปต่าง ๆ ก็อาจจะมีจุดที่น่าเสียดายบ้างเล็กน้อยคือ Y36 เครื่องนี้มาด้วยลำโพงตัวเดียว ทำให้เสียงที่ออกมาจากเครื่องไม่ได้ดังมากนัก นอกจากนั้นก็สามารถทำได้ดี เล่นได้แบบลื่น ๆ ทั้งหมด และด้วยชิป Snapdragon 680 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการจัดสรรพลังงานได้ดี ก็ช่วยให้สามารถเล่นได้แบบลื่น ๆ ทั้งวันสบาย ๆ นอกจากนี้หากเปิดฟีเจอร์ Extended RAM จะทำให้ตัวเครื่องมีแรมมากถึง 16GB ทำให้สามารถเปิดแอปฯ ซ้อนกันได้มากกว่าปกติ
ในเรื่องของแบตเตอรี่และระยะเวลาในการใช้งานนั้นตัวเครื่องจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh และยังรองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็ว 44W FlashCharge ด้วย ซึ่งตอนที่เอาไปใช้งานมานั้นก็ต้องยอมรับเลยว่าแบตเตอรี่นั้นค่อนข้างอึดทีเดียว หากไม่ได้เล่นเกมเยอะ แบตเตอรี่สามารถอยู่จนค่ำได้แบบสบาย ๆ
สำหรับการชาร์จนั้นเราได้เริ่มทำการชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 1% ซึ่งใน 10 นาทีแรกนั้นจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 20% และถึง 50% ในเวลา 28 นาที ส่วนเวลารวมจากการชาร์จ 0% – 100% จะใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 7 นาที ซึ่งในระหว่างชาร์จจะเกิดความร้อนสะสมทั้งที่ตัวเครื่องและอะแดปเตอร์ชาร์จเลย
การเล่นเกม
ในเรื่องของการเล่นเกม ชิป Snapdragon 680 ที่อยู่ใน Y36 เครื่องนี้นั้น มีความแรงพอที่จะเอามาใช้เล่นเกมได้แทบทุกเกม แต่ไม่แนะนำให้เอาไปเล่นเกมกินสเปคอย่าง Genshin Impact โดยที่เราได้ลองเล่นนั้นจะมี RoV, PUBG Mobile และ Genshin Impact ซึ่งตัวเกม Genshin ถึงจะเป็นการปรับค่าต่ำสุดก็ยังมีอาการกระตุกให้เห็นเป็นระยะ ๆ ส่วน PUBG Mobile นั้นถึงชิป Snapdragon 680 จะแรงแค่ไหนแต่ก็สามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดแค่ “สมดุล” เฟรมเรท “ปานกลาง” เท่านั้น และถึงจะปรับกราฟิกลงมาเป็น “ดี” แต่ก็ทำเฟรมเรทได้แค่ที่ “สูง” เท่านั้น ส่วน RoV นั้นลื่น ๆ เล่นได้แบบเต็มที่
ซึ่งในเรื่องของความร้อนนั้นหากปรับโหมดเป็น Boost เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้วถึงจะเป็น RoV ที่กินสเปคไม่เยอะก็จะเกิดความร้อนสะสมเร็วพอสมควร (ถ้าเกมไม่กินสเปคแนะนำให้ใช้แค่โหมดสมดุลก็พอ จะได้เล่นนาน ๆ โดยไม่ร้อน) แนะนำให้เปิดโหมด Boost เฉพาะเกมที่กินสเปคก็พอ (ก็ยังไม่แนะนำให้เล่น Genshin อยู่ดี ถึงจะเปิดโหมด Boost ก็ตาม)
การถ่ายภาพ
ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้น Y36 จะมีกล้องหลังด้วยกันทั้งหมด 2 เลนส์คือเลนส์หลักความละเอียด 50MP และเลนส์โบเก้ความละเอียด 2MP พร้อมด้วยกล้องหน้าความละเอียด 16MP ซึ่งตัวเครื่องจะมาพร้อมฟีเจอร์กล้องที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีความสวยงามและสนุกขึ้น ได้แก่ Portrait Light Effect, Portrait Bokeh, Bokeh Flare Portrait, Multiple Exposure, Two Exposures และ Light Effect โดยจากที่ได้เอาไปลองมานั้นบอกเลยว่าสวยใช้ได้ในทุกสภาพแสงเลย ถึงจะมีบางจังหวะที่มีการโฟกัสวืดบ้างเวลาถ่ายในที่แสงน้อย ซึ่งต้องรอระยะสั้น ๆ เพื่อให้เครื่องโฟกัสได้ หรือไม่ก็กดโฟกัสด้วยตัวเองแทนก็จะสามารถถ่ายได้แล้ว
สำหรับโหมดมืดนั้นเรียกได้ว่าน่าสนใจเพราะจากที่ได้ลองถ่ายตอนที่แสงน้อยมาก ๆ แล้ว ตัวกล้องก็สามารถถ่ายออกมาได้สว่างเหมือนมีไฟส่องเลยทีเดียว แต่จุดสังเกตหนึ่งเวลาถ่ายด้วยโหมดมืดคือเวลากดถ่ายจะต้องรอเป็นระยะสั้น ๆ เพื่อจับภาพ โดยจากที่เห็นสั้นที่สุดจะใช้เวลาราว ๆ 1 วินาที และยิ่งมืดระยะเวลาก็จะยิ่งเพิ่มตาม ซึ่งอาจจะต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยแล้ว
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว vivo Y36
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกเลยว่า vivo Y36 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ๆ ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่สวยงาม หรือสเปคที่ให้มาในระดับที่ใช้งานได้ทุกรูปแบบ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งถ้าถามว่าเครื่องนี้เหมาะกับใครก็ต้องตอบเลยว่าเหมาะกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ต้องการเครื่องแรง ๆ แต่ต้องการเครื่องที่แบตอึด ๆ และใช้งานแบบทุกรูปแบบมากกว่าจะเอาไปใช้เล่นเกมเป็นหลัก
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
- ขนาดตัวเครื่องกำลังพอดีมือ ทำให้ถือได้ถนัดมือพอสมควร
- มาพร้อมหน้าจอแบบ Punch hole ทำให้ขอบจอบาง
- ชิป Snapdragon 680 ที่จัดการพลังงานได้ดี ทำให้แบตเตอรี่อึดมาก
- ให้ความจุมามากถึง 256GB แถมยังสามารถเพิ่ม MicroSD ได้อีกถึง 1TB
- กล้องที่มีฟีเจอร์ถ่ายภาพให้เล่นเยอะ
- ระบบชาร์จเร็ว 44W FlashCharge ที่ใช้เวลา 50% ได้ในเวลาไม่ถึง 30 นาที
ข้อสังเกต
- เวลาชาร์จจะมีความร้อนสะสมที่ตัวเครื่องพอสมควร
- เกม PUBG Mobile ไม่สามารถปรับสูงได้ทั้ง ๆ ที่สเปคชิปแรงพอ (ปัญหาที่ตัวชิปเอง)
- กล้องมีจังหวะโฟกัสวืดบ่อย ทำให้ต้องใช้เวลาเล็กน้อยกว่าจะกดถ่ายได้
สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดตัวเครื่องได้ที่ vivo.com/th โดย vivo Y36 จะมีราคาขายอยู่ที่ 7,999 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ vivo Brandshop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ vivo Official Store และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ทั้ง BaNANA, IT CITY, CSC, Jaymart, TG FONE, KINGKONG, BKK, Big C, Advice, STAMP, MAXLINK, Powerbuy, Lotus, แม่วังสื่อสาร, Power Mall และ Telewiz และหากซื้อภายในวันที่ 10 มิถุนายน – 8 สิงหาคม 2566 จะได้รับของแถมมูลค่ารวม 599 บาท ดังนี้
- ฟิล์มกระจก (High Definition Film) จำนวน 1 ชิ้น
- ฟิล์มไฮโดรเจลใส (Hydrogel Proof Film) จำนวน 1 ชิ้น