vivo Y35 (2022) คือมือถืออัปเดตจาก vivo Y35 ตัวแรกที่เปิดตัวมาในปี 2015 ซึ่งในครั้งนี้ทาง vivo ได้อัดสเปคแบบจัดเต็มมาเพื่อเหล่าวัยรุ่นที่ต้องการมือถือดีๆ สักเครื่องที่มีสเปคแรงๆ ถ่ายรูปสวยๆ และยังชาร์จเร็วอีกด้วย โดยจุดเด่นของ vivo Y35 ในปี 2022 ก็คือดีไซน์ที่ทันสมัย สีสันที่สวยโดดเด่น ได้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว มีชิปประมวลผลที่ทั้งแรงและประหยัดพลังงานอย่าง Snapdragon 680 ได้กล้องหลังความละเอียดสูง 50MP พร้อมด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน และระบบชาร์จเร็วขนาด 44W ที่ช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ในเวลาราวๆ 30 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นมือถือซึ่งเหมาะกับวัยรุ่นสมัยใหม่ที่ต้องการมือถือดีๆ ถ่ายรุปสวยๆ ในราคาไม่แพงมากนักสุดๆ
สเปคของ vivo Y35 (2022)
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.58 นิ้ว, ความละเอียด 2404 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 90Hz, Touch Sampling Rate 180Hz, 96% NTSC, ความสว่างสูงสุด 550 nits
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680
- แรม : 8GB
- ความจุ : 128GB รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8, (wide)
- ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4, (macro)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4, (bokeh)
- กล้องหน้า : 16 MP, f/2.0
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับ 44W vivo FlashCharge
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
- การเชื่อมต่อ :
- 4G LTE
- Wi-Fi 5 Dual-band
- Bluetooth 5.0
- GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS
- USB Type-C 2.0, OTG
- เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint (ด้านข้างตัวเครื่อง)
- Accelerometer
- Ambient Light Sensor
- Proximity Sensor
- E-compass
- Gyroscope Sensor
- ขนาด : 164.3 x 76.1 x 8.3 มม.
- น้ำหนัก : 188 กรัม
- สี : Dawn Gold, Agate Black
- ราคา : 8,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
vivo Y35 (2022) นั้นมาพร้อมดีไซน์พื้นผิวด้านแบบเดียวกับที่เจอใน vivo V25 5G เลย ซึ่งด้วยการที่เป็นพื้นผิวแบบด้านจะช่วยให้สัมผัสที่นุ่มนวล ดูสวยงาม ทนต่อการขีดข่วนและรอยนิ้วมือ โดยจะมีสีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ Agate Black ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเปลี่ยนของแสงและเงา โดยอาศัยการหักเหแสงของโครงสร้างระดับไมครอนนับล้าน เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแสงและเงา ความลุ่มลึกและความแตกต่างของลายเส้นทำให้โทรศัพท์ดูซับซ้อนและมีชีวิตชีวาไปพร้อม ๆ กัน และ Dawn Gold ที่ได้แรงบันดาลใจจากแสงเรืองรองของพระอาทิตย์ยามเช้าที่สาดตามเกลียวคลื่น เปรียบเสมือนแสงที่สะท้อนกันอย่างนุ่มนวล ให้ความรู้สึกสบาย มาพร้อมนวัตกรรมการเคลือบพื้นผิวสองชั้น ซึ่งเป็นการผสมผสานสีใหม่ที่ลงตัว ให้คุณสัมผัสความแปลกใหม่อย่างคาดไม่ ซึ่งตัวที่ทาง Specphone ได้มารีวิวนั้นเป็นสี Dawn Gold ซึ่งสีนี้เมื่อมีการเปลี่ยนมุมกระทบของแสงก็จะมีการเปลี่ยนสีไปเล็กน้อยด้วย บอกเลยว่าสวยงามจริงๆ
ในส่วนของกล้่องหลังนั้นตัวโมดูลเองก็ออกแบบมาคล้ายกับ vivo V25 5G เป็นอย่างมาก เพียงแต่ภายในจะมีกล้องความละเอียด 50MP และกล้อง Macro กับ Bokeh ความละเอียด 2MP เท่านั้น ส่วนไฟแฟลชแบบ LED นั้นจะอยู่ข้างๆ กล้องหลัก พร้อมด้วยข้อความ 50MP AI CAMERA
ในส่วนของหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอแบบหยดน้ำซึ่งเป็นจอแบบ IPS-LCD มีขนาดใหญ่ถึง 6.58 นิ้ว มีความละเอียดในระดับ Full-HD+ มีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 90Hz และมีอัตราการตอบสนองที่สูงถึง 180Hz ด้วย ซึ่งหนึ่งในความใส่ใจของทาง vivo ก็คือหน้าจอแสดงผลจะมีการกรองแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายออกเพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้าของดวงตาอีกด้วย สำหรับภายในติ่งรูปหยดน้ำนั้นจะมีกล้องหน้าความละเอียด 16MP อยู่ และเมื่อมองถัดขึ้นไปเล็กน้อยจะมีลำโพงไว้ใช้สนทนาอยู่ตรงขอบ
สำหรับโดยรอบตัวเครื่องนั้นที่ด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมแบบ Triple-slot ที่สามารถใส่ซิม 2 ซิมและ MicroSD Card ได้พร้อมๆ กัน ที่ด้านข้างฝั่งซ้ายจะไม่มีอะไรอยู่เลย ส่วนปุ่มทั้งหมดไม่ว่าจะเป้ฯปุ่มปรับระดับเสียงหรือปุ่มเปิด-ปิดก็จะมารวมกันอยู่ที่ฝั่งขวาทั้งหมด โดยปุ่มเปิด-ปิดนี้จะเป็นที่สแกนลายนิ้วมือในตัวด้วย ส่วนที่ขอบด้านล่างนั้นจะมีลำโพงตัวเครื่อง, พอร์ต USB Type-C, รูไมโครโฟนสำหรับใช้สนทนา และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ vivo Y35 (2022) นั้นจะเป็น Funtouch OS 12 ที่พัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของ Android 12 ซึ่งในการออกแบบ UI นั้นทาง vivo เน้นความเรียบง่ายโดยการเอาแอปฯ ทั้งหมดมาไว้ที่บนหน้าจอ ทว่าก็ยังไม่ได้ตัด AppDrawer ทิ้งไป แต่สิ่งที่น่าสนใจของตัว Funtouch OS นี้อย่างหนึ่งก็คือการที่สามารถตั้งวอลเปเปอร์หน้าจอล็อคให้สุ่มรูปจากคลังหรือในระบบทุกครั้งที่เรียกหน้าจอขึ้นมาได้ ช่วเยพิ่มสีสันตอนเปิดหน้าจอขึ้นมาได้ทุกครั้ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ที่เรียกได้ว่าช่วยได้เยอะสำหรับคนใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็น Extended RAM 3.0 ที่ช่วยขยายพื้นที่แรมขึ้นอีกสูงสุดถึง 8GB, Multi-Turbo 5.5 ที่ช่วยจัดการการรประมวลผลเพื่อลดอาการค้างของตัวเครื่องลง, Ultra Game Mode ที่ช่วยเสริมให้การเล่นเกมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ iManager ที่จะช่วยตรวจสอบความปลอดภัยและจัดการข้อมูลต่างๆ ในมือถือเพื่มเพิ่มความสะดวกในการจัดการให้แก่ผู้ใช้ได้อีกด้วย
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องของการใช้งานทั่วๆ ไปทั้งการเล่นโซเชียลหรือการดูหนังนั้นเรียกได้ว่าทำออกมาได้ค่อนข้างลื่นไหลเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อมีการไถหน้าจอเร็วๆ ภาพที่แสดงออกมาบนหน้าจอจะมีความลื่นไหลเนียนตา ทำให้เมื่อดูนานๆ แล้วไม่ค่อยปวดตา อีกทั้งด้วยอัตราการตอบสนองที่สูงถึง 180Hz ทำให้ไม่ต้องใช้แรงสัมผัสเยอะก็ปัดไปแล้ว ทว่าสิ่งที่โดยส่วนตัวอาจจะมองว่าน่าเสียดายนิดหน่อยก็คือฟิล์มที่ทาง vivo ติดมาให้นั้นให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างฝืดไปหน่อย ใครที่ใส่ใจเรื่องความลื่นของหน้าจอก็อาจจะต้องเปลี่ยนฟิล์มใหม่เพื่อเพิ่มความลื่นไหล แต่ถ้าไม่ได้แคร์อะไรมากนักก็นับว่าช่วยประหยัดเงินไปได้หลายบาทเลยทีเดียว ในส่วนของการดูหนังนั้น vivo Y35 รองรับ Widevine ระดับ L1 ทำให้สามารรถดูหนังแบบสตรีมมิ่งได้อย่างเต็มความละเอียด (Full-HD) ซึ่งถึงแม้หน้าจอจะเป็น IPS แต่ก็ให้สีสันที่ค่อนข้างสวยเลยทีเดียว แถมยังเป็นจอแบบที่อึดถึกทนอีกด้วย ข้อเสียของจอ IPS หลักๆ ก็จะมีแค่เรื่องที่สู้แดดไม่ได้เท่านั้น
ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่องให้มาทั้งหมด 5,000 mAh ซึ่งเมื่อพูดถึงระยะเวลารวมในการใช้งานนั้นถ้าไมไ่ด้เปิดเกมบ่อย หรือเล่นครั้งละไม่นาน แบตเตอรี่สามารถเหลือถึงบ้านได้สบายเลยทีเดียว เนื่องด้วยชิป Snapdragon 680 นั้นสามารถจัดการพลังงานได้ดี แถมหน้าจอ IPS ยังกินพลังงานน้อยด้วย เลยช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นนั่นเอง ในส่วนของการชาร์จนั้นมาพร้อมระบบชาร์จเร็ว 44W FlashCharge ซึ่งตอนทดสอบนั้นเริ่มชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 2% ในช่วง 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรี่เพิ่มมาเป็น 17% และเมื่อแบตเตอรี่ถึง 50% นั้นใช้เวลาราวๆ 32 นาที ซึ่งเรียกได้ว่าค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว ส่วนเวลารวมเมื่อทำการชาร์จจาก 2% – 100% จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 74 นาที ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลาเฉลี่ยของมือถือที่มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh เลย (ช่วงใกล้เต็มจะชาร์จช้าเพื่อถนอมแบตเตอรี่นะ ถึงได้ใช้เวลารวมขนาดนั้นทั้งๆ ที่มีกำลังชาร์จสูง)
การเล่นเกม
ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 680 นั้นเรียกได้ว่าสามารถเล่นได้ทุกเกม แม้กระทั่ง Genshin Impact ก็ยังเล่นได้ แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถปรับกราฟิกสูงๆ ได้ทุกเกม เนื่องจากบางเกมยังไม่ได้รับการปรับแต่งให้สามารถใช้งานตัวชิปได้อย่างเต็มที่ (ในอนาคตน่าจะมีการอัพเดตเพิ่มมาให้) นอกจากนี้ยังมี Ultra Game Mode มาช่วยเพิ่มความลื่นไหลของการเล่นเกมและยังมีฟีเจอร์จัดการการแจ้งเตือนเพื่อช่วยให้สามารถเล่นได้ต่อเนื่องอีกด้วย ซึ่งที่ได้ลองเล่นนั้นจะมี Genshin Impact, ROV, PUBG Mobile และ PUBG New State ซึ่งทาง ROV นั้นถึงจะเปิดทุกอย่างก็ยังลื่น ส่วน PUBG และ New State นั้นไม่สามารถปรับแบบสุดตัวได้ ทว่า New State จะสามารถปรับกราฟิกระดับอัลตร้าได้ ในขณะที่ PUBG Mobile ปรับกราฟิกได้แค่ระดับสมดุลเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ดูจะเป็นเรื่องปกติของกราฟิกเกมที่ทาง PUBG Mobile ไม่สามารถดึงประสิทธิภาพสูงสุดของตัวชิปออกมาได้ สำหรับ Genshin Impact นั้นเอาจริงๆ ก็สามารถเปิดสุดแบบ 60fps ได้เลย ทว่าถ้าตั้งใจจะเล่นแบบยาวๆ ก็ควรจะปรับกราฟิกลงมาเป็นต่ำหรือต่ำสุดแทนจะดีกว่า แล้วเปิด 60fps เพื่อความลื่น
การถ่ายภาพ
ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวเป็นกล้องหลักความละเอียด 50MP ส่วนอีก 2 เลนส์ที่เหลือจะเป็นกล้องมาโครและกล้องโบเก้ ซึ่งจะมีความละเอียด 2MP เท่าๆ กัน ส่วนกล้องหน้านั้นจะเป็นกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16MP และที่น่าสนใจก็คือตัวกล้องมาพร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืน Super Night Mode ที่ช่วยลด Noise เวลาถ่ายภาพกลางคืนลงเพื่อเพิ่มคุณภาพของรูปถ่ายกลางคืนให้มีความสวยงามยิ่งขึ้นด้วย และสำหรับสายถ่าย Portrait เองก็ไม่ต้องห่วงเพราะมีฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ที่จะทำงานร่วมกับ เทคโนโลยี AI Brightening ช่วยให้การถ่ายภาพแบบ Portrait สวยในทุกสภาพแสงเลย ซึ่งจากที่ได้ลองไปถ่ายภาพมาในหลายๆ สภาพแสงและหลายๆ สถานที่นั้น ต้องบอกเลยว่ากล้อง 50MP ของ vivo Y35 (2022) นั้นไม่ธรรมดา เพราะไม่ว่าจะเป็นรายละเอียด สีสัน การตัดขอบ ก็ทำออกมาได้ดีในทุกสภาพแสง ทว่าก็อาจจะมีบางครั้งที่ AI ปรับสีออกมาเพี้ยนเกินจริงไปนิด แต่ก็สามารถไปปรับแต่งเพิ่มเติมทีหลังได้เช่นกัน
ในส่วนของวิดีโอนั้นตัวเครื่องมาพร้อมกับเทคโนโลยีกันสั่นแบบ EIS ซึ่งถ้าเป็นการถ่ายตอนที่มีแสงมากๆ แล้วก็นับว่าใช้ได้ทีเดียว แต่ถ้าไปถ่ายในที่แสงน้อยก็อาจจะเกิดภาพไหวนิดๆ ได้เช่นกัน แต่ที่น่าสนใจของการถ่ายวิดีโอก็คือ Video Face Beauty ใครที่เป็นสายเซลฟี่หรือสาย VLOG ก็ไม่ควรมองข้ามฟีเจอร์นี้เลย เนื่องจากตัวฟีเจอร์นี้จะช่วยปรับปรุงทุกๆ มิติบนใบหน้าของคุณ ตั้งแต่โทนสีผิว ความเรียบเนียนผิว ไปจนถึงโครงสร้างใบหน้าของคุณ ยกระดับคุณภาพเซลฟี่ไปสู่อีกระดับด้วยการทำให้ภาพถ่ายของคุณดูมีมิติ และเป็นธรรมชาติ ให้รูปโปรไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับรายละเอียดต่างๆ ด้วยตนเอง เพื่อให้คุณดูเป็นตัวของตัวเอง ที่โดดเด่นมากขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว vivo Y35 (2022)
สรุปการรีวิว vivo Y35 (2022) จากการที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นเครื่องที่เหมาะมากๆ สำหรับวัยรุ่นที่ต้องการมือถือดีๆ เล่นเกมได้ ถ่ายรูป/วิดีโอสวยๆ และมีชาร์จเร็วในราคาที่จับต้องได้ เพราะทาง vivo ได้ทำการยัดสเปคและฟีเจอร์ทุกอย่างที่วัยรุ่นยุค 2022 ต้องการมาไว้ในเครื่องนี้แล้ว เรื่องที่อาจจะมองว่าน่าเสียดายนิดๆ สำหรับเครื่องนี้ก็คือการที่มีลำโพงแค่ตัวเดียว เลยอาจจะทำให้อรรถรสในการดูหนังหรือฟังเพลงแบบไม่ใส่หูฟังลดลงไปบ้างเล็กน้อย แต่ถ้ามองว่าราคาตัวเครื่องที่ไม่ถึง 10,000 บาทให้สเปคและฟีเจอร์มาระดับนี้ก็นับว่าคุ้มแล้วจริงๆ ซึ่งใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ vivo.com/th โดยจะเปิดให้ทำการ Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 21 – 27 ตุลาคม 2565 และจะวางจำหน่ายที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
จุดเด่น
- มีดีไซน์และสีสันที่เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่เหมือนใคร ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนรุ่นราคาเกินหมื่นของ vivo เลยทีเดียว
- ให้หน้าจอที่มี Refresh Rate 90Hz และ Touch Sampling Rate 180Hz
- มีการติดฟิล์มกันรอยมาให้จากโรงงานเลย
- ได้ชิป Snapdragon 680 ที่เรียกได้ว่าทั้งแรงและจัดการพลังงานได้ดี
- มาพร้อมฟีเจอร์ Extended RAM ที่สามารถเพิ่มได้แรมได้อีก 8GB เลยทีเดียว
- มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 50MP ที่มีฟีเจอร์ช่วยถ่ายภาพ/วิดีโอ ที่เรียกได้ว่าครบสำหรับวัยรุ่นโซเชียลเลย
- มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้พ้นวันแบบสบายๆ แถมยังได้ระบบชาร์จเร็ว 44W มาอีกด้วย
- ยังให้ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. มาอยู่
ข้อสังเกต
- หน้าจอ IPS ซึ่งมีความสว่างเพียง 550 nits อาจไม่เหมาะกับการใช้กลางแดด
- ฟิล์มจากโรงงานที่ vivo ติดมาให้นั้นค่อนข้างฝืดหน่อยๆ
- เกม PUBG Mobile เหมือนยังไม่ได้รับการอัพเดตให้สามารถดึงประสิทธิภาพของ Snapdragon 680 ออกมาได้อย่างเต็มที่
- ด้วยความที่มีลำโพงตัวเดียวทำให้แยกทิศทางเสียงตอนเล่นเกมลำบากหน่อย