HUAWEI Freebuds 5i หูฟังไร้สายตัวใหม่จาก HUAWEI ที่ต่อยอดมาจาก HUAWEI Freebuds 4i ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2021 โดยครั้งนี้ได้มีการอัปเกรดสเปคตัวหูฟังให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังขายราคาเท่าเดิมที่ 2,799 บาทอยู่ ซึ่งการอัปเกรดครั้งนี้นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่งเลยทีเดียว แต่ที่เรียกว่าน่าดึงดูดที่สุดคือระบบเสียงระดับ Hi-Res ที่รองรับ LDAC และระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ANC ซึ่งปกติไม่น่าหาได้ในหูฟังไร้สายราคาต่ำกว่า 3,000 บาท ในส่วนของการใช้งานนั้นจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันได้เลย
สเปคของ HUAWEI Freebuds 5i
- ขนาดหูฟัง : 30.9 x 21.7 x 3.9 มม.
- น้ำหนักหูฟังต่อข้าง : 4.9 กรัม
- แบตเตอรี่ในหูฟังต่อข้าง : 55 mAh
- ขนาดเคสชาร์จ : 48.2 x 61.8 x 26.9 มม.
- น้ำหนักเคสชาร์จ : 33.9 กรัม
- แบตเตอรี่ในเคสชาร์จ : 410 mAh
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
- ไดร์เวอร์ : ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม
- เซนเซอร์ : Hall Sensor, Cap Sensor
- การควบคุม : กด, สัมผัส และ ปัด
- ระบบตัดเสียง : Active Noise Cancellation
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP54
- สี : Nebula Black, Isle Blue, Ceramic White
ดีไซน์ของหูฟังและเคส
ในส่วนของดีไซน์นั้น HUAWEI Freebuds 5i มาพร้อมหูฟังรูปทรงแบบ In-Ear ที่มีไดรเวอร์ขนาด 10 มม. อยู่ภายใน พร้อมด้วยไมโครโฟน 2 ตัวอยู่ที่ก้าน โดยก้านของ Freebuds 5i นั้นจะมีความสั้นมากกว่า Freebuds 4i ที่เป็นรุ่นก่อนหน้าราวๆ 7 มม. ซึ่งพอสวมใส่แล้วค่อนข้างคล่องตัวกว่ารุ่นก่อนเยอะ จะใส่หรือถอดหน้ากากก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องคอยระวังสายไปเกี่ยวหูฟังหลุดอีกด้วย โดยจากที่ได้เอาไปลองใส่ต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลารวม 5 ชั่วโมง ต้องบอกเลยว่าเป็นการใส่ที่สบายหูมาก ไม่มีอาการปวดหรือเจ็บแต่อย่างใด
ตัวเคสนั้นมีการออกแบบเป็นเส้นโค้งที่ทาง HUAWEI บอกว่าได้รับแรงบันดาลใจจากหินภูเขาไฟที่ราบเรียบที่พบได้บนชายหาดสีดําของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเกิดจากการลดลงและการไหลของคลื่นเมื่อเวลาผ่านไป ถ้าให้เรียบแบบง่ายๆ ก็คือทรงหินกรวดตามหาดที่มีรูปร่างโค้งมน โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ น้ำเงิน Isle Blue, ดำ Nebula Black และ ขาว Ceramic White ซึ่งทางทีมงานเราได้สีดำ Nebula Black มารีวิว สำหรับพื้นผิวนั้นจะเป็นพื้นผิวแบบด้านที่ช่วยให้ไม่เกิดรอบนิ้วมือเวลาจับ และไม่ลื่นหลุดมือเวลาถืออีกด้วย
ในเรื่องของการพกพาก็เรียกได้ว่าน่าสนใจ เนื่องจากตัวหูฟังแต่ละข้างจะมีน้ำหนักเพียง 4.9 กรัม และตัวเคสมีน้ำหนักเพียง 33.9 กรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่เรียกได้ว่าเบาหวิวอย่างยิ่ง แถมด้วยการชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C ทำให้ไม่ต้องพกสายไปเยอะ พกแค่เส้นเดียว ใช้ชาร์จได้ทั้งมือถือและหูฟังเลย
สำหรับในกล่องนั้นนอกจากตัวหูฟังแล้ว ยังมีการให้จุกหูฟังหลายขนาดสำหรับใช้เปลี่ยนให้พอดีกับรูหูและสายชาร์จแบบ USB-A to USB-C มาด้วย
การเชื่อมต่อหูฟัง
ในส่วนของการเชื่อมต่อหูฟังกับมือถือนั้นเราสามารถทำได้ 2 แบบคือเชื่อมต่อแบบปกติและเชื่อมต่อผ่านแอปฯ HUAWEI AI Life โดยไม่ว่าจะเชื่อมต่อแบบไหนก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน แต่ถ้ามีแอปฯ HUAWEI AI Life จะช่วยให้เราสามารถปรับตั้งค่าหูฟังได้ละเอียดยิ่งขึ้น และยังช่วยให้สามารถจัดการกับเครื่องที่เชื่อมต่อกับหูฟังอยู่ได้ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย สำหรับวิธีการเชื่อมต่อสามารถทำได้ดังนี้
หลังจากที่ติดตั้งแอปฯ AI Life แล้ว ให้กดเข้าแอปฯ ไป แล้วกดไปที่เครื่องหมาย + ที่อยู่มุมบนขวา จากนั้นเลือกไปที่ เพิ่มอุปกรณ์ ในขณะที่ตัวแอปฯ กำลังสแกนหาหูฟังอยู่ ให้ทำการเปิดฝาเคสเอาไว้ด้วย แต่ยังไม่ต้องดึงหูฟังออก หากจะทำการจับคู่กับอุปกรณ์ตั้งแต่เครื่องที่ 2 ไป ให้ทำการกดปุ่มบนเคสค้างไว้จนกว่าไฟ LED จะเปลี่ยนเป็นสีขาวก่อน ตัวแอปฯ ถึงจะสามารถหาเจอได้ (ถ้าเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ก็ใช้วิธีเชื่อมต่อแบบปกติได้เลย)
หลังจากที่เพิ่มอุปกรณ์เสร็จแล้ว ให้เราทำการกดไปที่ตัวหูฟังที่แสดงอยู่บนแอปฯ โดยการแตะครั้งแรกจะทำการโหลดซอร์ฟแวร์เสริมมาติดตั้งเพิ่ม ซึ่งการดาวน์โหลดนี้จะช่วยให้ตัวแอปฯ สามารถแสดงสถานะแบตเตอรี่ของตัวหุฟังและเคสได้
หลังจากที่ดาวน์โหลดซอร์ฟแวร์เพิ่มเติมเสร็จ ให้ทำการกดเข้าไปอีกครั้ง ทีนี้จะสามารถเข้าไปตั้งค่าหูฟังได้ตามที่ต้องการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตัดเสียง, คุณภาพของเสียง, การตั้งค่าคำสั่ง, การตามหาหูฟัง และยังสามารถใช้อัปเดตซอร์ฟแวร์ของหูฟังได้อีกด้วย
อนึ่งหูฟัง HUAWEI Freebuds 5i นั้นรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พร้อมๆ กันทีเดียวหลายๆ เครื่อง ซึ่งจากที่ได้ลองนั้นน่าสนใจตรงที่ว่าถึงจะมีการเชื่อมต่อพร้อมกัน แต่เราก็สามาถรกำหนดได้ว่าจะฟังเสียงจากอุปกรณ์ไหน รวมถึงจะมีการสลับไปใช้อุปกรณือื่นทันทีที่มีการหยุดเล่นเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่ง หรือไม่ก็มีสายเรียกเข้า
การสั่งการหูฟัง
ในการสั้งการหูฟังนั้นสามารถทำได้ 2 รูปแบบคือการสัมผัสไปที่ก้านหูฟังในจุดที่กำหนด หรือไม่ก็เป็นการลากนิ้วบนก้านหูฟัง โดยคำสั่งเริ่มต้นที่มีให้จะเป็นดังนี้
- กดสองครั้ง : เล่น/หยุดเสียงชั่วคราว หรือรับสาย/วางสาย
- การตั้งค่าเสริม : เล่นเพลงก่อนหน้าหรือเพลงถัดไป ปลุกผู้ช่วยเสียง
- กดค้าง : สลับระหว่างเปิด ANC / ปิด ANC / โหมดการรับรู้
- ปัดขึ้น/ลง : ปัดขึ้นเพื่อเพิ่มระดับเสียง หรือปัดลงเพื่อลดระดับเสียง
เสียงและแบตเตอรี่
ในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ได้จากตัวหูฟังนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่เกินคาดมาก เพราะเสียงที่ได้ยินนั้นให้คุณภาพเหมือนหูฟังที่ราคาแพงกว่านี้มา ทั้งเสียงร้อง เสียงกลาง หรือเสียงเบสก็ชัด แถมยังไม่ค่อยหน่วงอีกด้วย สมกับที่ทาง HUAWEI ชูจุดเด่นเรื่องเสียง Hi-Res และความหน่วงต่ำ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ง EQ ได้ด้วยว่าจะเน้นเสียงเบสหรือเสียงแหลมมากกว่ากัน ทำให้สามารถเข้ากับรสนิยมการฟังเพลงของหลายๆ คนมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในจุดเด่นของ Freebuds 5i ก็คือระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ANC หรือ Active Noise Cancellation ที่ทาง HUAWEI เคลมว่าสามารถตัดเสียงรบกวนออกไปได้มากถึง 42db แถมยังสามารถปรับได้ด้วยว่าจะตัดเสียงระดับไหน หรือจะรับเสียงจากภายนอกเข้ามา ซึ่งจากที่ได้ลองนั้นบอกเลยว่าการตัดเสียงนั้นถือว่าน่าสนใจ เพราะการตัดเสียงใน Freebuds 5i นั้นไม่ได้เป็นการตัดเสียงภายนอกอย่างสมบูรณ์ ทำให้ยังพอมีเสียงเล็ดรอดเข้ามาได้ โดยเฉพาะเสียงพูดในระยะไกล หรือเสียงรถริมถนนที่ดังในระดับหนึ่ง สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อยากตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกแล้วระบบตัดเสียงของ Freebuds 5i อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก แต่ถ้าจะเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน ใส่ระหว่างเดินทาง ใส่ตอนทำงานหรืออยู่บ้าน ก็นับว่าเป็นระบบตัดเสียงที่ค่อนข้างโอเคเลย
ในส่วนของแบตเตอรี่นัน้ตัวหูฟังแต่ละข้างจะมีแบตเตอรี่ขนาด 55 mAh และมีแบตเตอรี่ในเคส 410 mAh ซึ่งทาง HUAWEI เคลมว่าเมื่อมีการชาร์จจนเต็มและใช้งานพร้อมเปิด ANC เอาไว้จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 7.5 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 28 ชั่วโมง และสามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 15 นาทีเท่านั้น โดยจากที่ได้เอาไปลองใช้นั้นเราได้ทำการเปิดฟังเพลงสลับกับดูคลิปต่อเนื่องเป็นเวลารวมๆ 5 ชั่วโมงเต็มๆ แบตเตอรี่นั้นแสดงในแอปฯ ว่าเหลือราวๆ 10% และยังสามารถใช้งานต่อได้แบบสบายๆ ซึ่งสำหรับหูฟังไร้สายที่มีระบบ ANC และราคาไม่เกิน 3,000 บาทแล้ว นับว่าเป็นระยะเวลาใช้งานที่ยาวนานมากๆ เลยทีเดียว
สรุปการรีวิว HUAWEI Freebuds 5i
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นบอกเลยว่า HUAWEI Freebuds 5i นั้นเป็นหูฟังไร้สายตัวหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะสวมใส่สบายและให้เสียงที่ดีเกินราคาแล้ว ยังได้ดีไซน์ที่สวยไม่เหมือนใครและแบตเตอรี่ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างอึดเลยทีเดียว และด้วยราคาค่าตัวที่ 2,799 บาทนั้นถือว่าเป็นราคาที่ไม่ได้แพงเลยเมื่อดูจากความสามารถที่ให้มา แต่สิ่งที่เรียกว่าน่าจะเป็นปัญหาเล็กน้อยสำหรับคนใช้ก็คือต้องทำการโหลดแอปฯ AI Life มาเพิ่ม เพียงแต่ตัวแอปฯ AI Life นั้นสำหรับชาว Android อาจจะต้องไปโหลดแบบไฟล์ APK มาติดตั้ง หรือไม่ก็ต้องโหลด HUAWEI AppGallery มาติดตั้งเพิ่มด้วย (ใน iOS นั้นมีแอปฯ ให้โหลดได้เลย)
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา
- สวมใส่สบาย แม้สวมเป็นเวลานาน
- คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res
- มีระบบตัดเสียง ANC
- แบตเตอรี่ใช้ได้นานถึง 7.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- สามารถเชื่อมต่อกับหลายอุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ
- ได้มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP54
ข้อสังเกต
- ตัวหูฟังค่อนข้างลื่น ทำให้อาจหล่นหายได้
- ระบบตัดเสียง ANC ไม่สามารถตัดเสียงจนเงียบสนิทได้
- แอปฯ AI Life ใน Android ไม่มีให้โหลดใน Google Play
สำหรับคนที่สนใจ HUAWEI Freebuds 5i นั้นสามารถเข้าไปดูรายละเอียดและฟีเจอร์ได้ที่ huawei.com/th และสามารถสั่งซื้อได้ที่ huawei.com ได้เลย โดยตอนนี้มีโปรโมชั่นเปิดตัวดังนี้
HUAWEI FreeBuds 5i ลดราคาเหลือเพียง 1,418 บาท จากราคาปกติ 2,799 บาท สำหรับลูกค้าท่านแรกที่สั่งซื้อที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada รับฟรี HUAWEI Band 4 มูลค่า 999 บาท พร้อมทั้งรับกระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท และ Stainless Steel Thermos มูลค่า 590 บาท รวมมูลค่า 2,379 บาท และสำหรับลูกค้าลำดับที่ 100 ท่านแรก รับฟรี กระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท และ Stainless Steel Thermos มูลค่า 590 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 ถึง 19 มีนาคม 2566
สั่งซื้อได้ที่ Lazada: https://bit.ly/3ItycRe